ฮั่วเทียนหลันถึงกับอึ้ง เขารู้ว่าป้าdingจะพูดอะไรออกมา
เขาตอบกลับไปว่า “อันหรันทำพฤติกรรมอะไรไม่ดีอีกแล้วหรอ?”
เมื่อป้าdingได้ยินคำพูดนี้ เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
ถึงแม้ว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ แต่ป้าdingก็รู้ว่าคุณนายรู้สึกอย่างไร นายน้อยพูดออกอะไรออกมา อะไรคือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม?
เธอตอบกลับมาว่า “วันนี้คุณนายเอาแต่ขังตัวเองไว้ในห้อง ป้าเรียกยังไงเธอก็ไม่ยอมออกมา!”
“แค่อย่าตายในห้องก็พอแล้ว!”
พูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็ไม่สนใจว่าป้าdingจะคิดอย่างไร เขาวางสายลงทันที
ผู้หญิงคนนี้ ชอบทำให้เขาหงุดหงิดเสียจริง
อันหรันได้รับจดหมายเชิญมาจากฟู่ฮั่นหยูหนึ่งฉบับ
เขามีเพื่อนคนหนึ่งที่เพิ่งจะมาถึงเมืองz และอยากเจออันหรันมาก
ตอนนี้ในสมองของอันหรันคิดอยู่แค่เรื่องที่เธอไปทำร้ายฮั่วเทียนหลัน เธอยังไม่ได้ทันไตร่ตรอง ก็ปฏิเสธคำเชิญนั้นไปแล้ว
ฟู่ฮั่นหยูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูต่อหน้าจางรัน พร้อมพูดออกมาว่า “นายดู ไม่ใช่ฉันไม่อยากช่วยนาย แต่เธอปฏิเสธคำเชิญของฉัน”
จางรันมองมาที่โทรศัพท์ และถามออกมาว่า “เธอสบายดีไหม?”
“ถ้าไม่ดีนายจะไปช่วยเธอยังไง?” ฟู่ฮั่นหยูตอบออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร
จางรันคว้านิตยสารแฟชั่นขึ้นมาหนึ่งเล่ม คนบนปกมีใบหน้าเหมือนกับเขาทุกอย่าง
“สถานะของฉันในตอนนี้ น่าจะยังไม่ใครรู้ใช่ไหม?”
ฟู่ฮั่นหยูมองไปที่จางรันแล้วพูดว่า “ถ้านายยังใช่ชีวิตปกติอยู่แบบนี้ ถ้าหากคนที่คุ้นเคยกับนายมาเห็นเข้า พวกเขาก็คงรู้ว่าเป็นนาย นายเคยบอกว่านายตายไปแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงออกมาได้เสียหละ?”
จางรันพลิกดูนิตยสารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วางมันลงพร้อมพูดขึ้นว่า “ถ้าหากฉันไม่บอกว่าฉันตายไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นครอบครัวอันคงจับฉันไปเป็นตัวประกัน และนั่นจะไม่เป็นผลเสียต่ออันหรันหรอ?”
“มันก็จริง....” ฟู่ฮั่นหยูพยักหน้าและพูดต่ออีกว่า “ยี่เฉียวถงคนนั้น ช่างเป็นคนที่จิตใจอำมหิตเสียจริง”
“นายคิดยังไงกับเรื่องงานหมั้น?” ฟู่ฮั่นหยูถาม
จางรันขมวดคิ้ว เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าตัวเองที่ไปทำศัลยกรรมหน้าถึงต่างประเทศ และเพิ่งกลับประเทศมาได้ไม่นาน ก็ถูกจับหมั้นกับลูกสาวของตระกูลหยู่แล้ว
เขาเคยเห็นหน้าของหยู่อิ๋งอิ๋งในรูป และเคยได้ยินมาว่าเธอเป็นแฟนกับนายน้อยของตระกูลตง
แต่ใครจะไปรู้ว่านั่นมันก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น ในความเป็นจริงหยู่อิ๋งอิ๋งกับตงหยงซี่เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน
ตอนนี้หยู่อิ๋งอิ๋งจับตาดูจางรันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจางรันจะไปที่ไหน หยู่อิ๋งอิ๋งก็จะตามไปที่นั่น
เสียงของฟู่ฮั่นหยูเงียบลง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
จากนั้นสาวที่มีใบหน้าที่บอบบางก็ปรากฏขึ้น เธอมองมาทางจางรันและรีบเดินเข้ามาพร้อมกับพูดว่า “พี่รัน ฉันรู้ว่าพี่อยู่ที่นี่!”
จางรันเอามือลูบไปที่หัวของเขา แล้วก็พูดออกมาอย่างไม่มีอารมณ์ “เธอมาที่นี่ได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจของจางรัน หยู่อิ๋งอิ๋งก็แสดงสีหน้าที่น้อยใจออกมา เธอพูดออกมาเบาๆว่า “ฉัน ฉัน ฉันก็แค่คิดถึงพี่ พี่อย่าไล่ฉันไปเลยนะ ขอให้ฉันได้อยู่ข้างๆพี่ก็พอแล้ว”
หยู่อิ๋งอิ๋งพูดออกมาแบบนี้ ก็เพื่อที่จะทำให้จิตใจที่แข็งกระด้างของจางรันอ่อนโยนลงมาบ้าง
ฟู่ฮั่นหยูยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เขารู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่
จิตใจของจางรันแข็งกระด้างเกินไป เขาจึงไม่รู้สึกถึงคำพูดของหยู่อิ๋งอิ๋ง
เนื่องจากหยู่อิ๋งอิ๋งเข้ามา เรื่องเดิมที่พวกเขาต้องคุยกัน ตอนนี้ก็ไม่สามารถคุยกันต่อได้
พวกเขาทั้งสามคนทานอาหารด้วยกันด้วยบรรยากาศที่น่าเบื่อ ไม่สิ น่าจะเป็นสองคนมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง