เมื่อจางรันมองไปที่ภาพแรก เขาก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เขาหยิบภาพที่เหลือเข้ามาดูอย่างรวดเร็ว และหลังจากที่ดูไปสิบกว่าภาพ มือของเขาก็ค่อยๆขยำภาพเหล่านั้นอย่างช้าๆพร้อมพูดออกมาว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน”
พี่มันมองไปที่จางรันแล้วพูดออกมาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เดี๋ยวตอนที่นายได้เป็นลุงแล้วก็รู้เอง!”
อันหรันขังตัวเองไว้แต่ในห้องนอนตอนนี้ก็สามสิบชั่วโมงแล้ว ป้าdingเข้ามาเคาะประตูหลายครั้ง เพราะอยากให้เธอทานอะไรสักหน่อย
แต่อันหรันก็ตอบปฏิเสธมาโดยตลอด เธอบอกให้ป้าdingไม่ต้องมาเป็นห่วงเธอ
เธอกำกำไลหยกไว้ในมือ และเธอก็ไม่คิดจะใส่มันอีก
เนื่องจากในใจเธอรู้ดี ถ้าหากเธอยังฝืนใส่ต่อไป ก็มีแต่ต้องทะเลาะกับฮั่วเทียนหลันอีก
แต่เวลาที่เขาไม่ได้ใส่ ใจของเธอก็รู้สึกหวิวๆ และความละอายใจก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ป้าdingมาเคาะประตูห้องอีกครั้งพร้อมพูดว่า “คุณนาย คุณออกมาทานอะไรสักหน่อย นี่ก็จะเที่ยงของอีกวันแล้ว”
อันหรันตอบกลับมาเบาๆ “ป้าding ป้าไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ถ้าฉันหิวฉันจะออกไปทานเอง”
“คุณต้องดูแลตัวเองดีๆนะ!” ป้าdingพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง
นี่ก็ผ่านมา 36 ชั่วโมงแล้ว อันหรันยังไม่ได้ทานอะไรเลย ร่างกายของคนธรรมดาจะทนไหวได้อย่างไรกัน
หลังจากรออยู่เป็นเวลานาน อันหรันก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกมา
ป้าdingก็ไม่รู้จะทำยังได้แต่ส่ายหัว และลงไปที่ชั้นล่าง
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คิดอยู่หลายครั้งว่าจะต้องรายงานให้หลี่รูยารู้หรือไม่
สองคนนี้ทะเลาะกันจนถึงขั้นต้องทำร้ายร่างกายกัน นี่มันอาจจะเป็นเรื่องร้ายแรงมากก็ได้
อันหรันออกมานั่งที่ระเบียงเพื่อรับแดด นั่นทำให้เธอรู้สึกง่วงขึ้นมาเล็กน้อย
แต่มันก็แค่มีความรู้สึกขึ้นมา สมองของเธอในตอนนี้ยังคงคิดแต่เรื่องนั้น
เธอเปิดวีแชทและเข้าไปหน้าแชทของอันหรัน และพิมพ์ออกมาสามพยางค์ ขอโทษนะ
พิมพ์แล้วก็ลบ พิมพ์แล้วก็ลบ ทำแบบนั้นต่อไป.....
และดูเหมือนว่านั้นจะเป็นการกระทำที่เธอไม่รู้ตัว เป็นเพียงความรู้สึกของกล้ามเนื้อที่เคยชิน
วันนี้ฮั่วเทียนหลันไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท เขาหมกตัวอยู่ที่อำเภอจิ่นซิ่ว
เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ฟู่กุ้ยก็ร้อง เหมียว เหมียว ออกมา เสียงนั้นไปปลุกคนที่อดหลับอดนอนมาทั้งคือและเพิ่งจะนอนไปได้ไม่นานให้ตื่นขึ้นมา
เขาพาฟู่กุ้ยออกไปเดินเล่นด้านนอก ฟู่กุ้ยเห็นเพื่อนเล่นใหม่ที่เพิ่งจะเดินออกมา ดังนั้นมันจึงทิ้งเจ้าของอย่างฮั่วเทียนหลันให้อยู่คนเดียว และมันก็วิ่งออกไปเล่น
หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันกลับมาที่ที่พัก เขาก็ชงกาแฟรสเข้มดื่ม เขาดื่มไปไม่กี่ที และยังรู้สึกว่าสมองยังรู้สึกงงงวย
หรือว่าเป็นเพราะเรื่องของอันหรันจึงทำให้สมองเขากระทบกระเทือนไป?
ฮั่วเทียนหลันครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ จึงทำให้เขาคิดมากไปเอง
และโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เป็นป้าdingที่โทรมา
“เทียนหลัน คุณกลับมาบ้านสักหน่อยเถอะ! คุณนายยังขังตัวเองไว้อยู่ในห้องอยู่เลย ไม่ว่าป้าจะพูดยังไง เธอก็ไม่ยอมออกมา”
ฟังน้ำเสียงที่แสดงถึงว่าเป็นห่วงของป้าding ทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาเล็กน้อย
อันหรันคนนี้ เธอทำแบบนั้นได้อย่างไร ทำให้ทุกคนในบ้านเป็นห่วงเธอ และคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง
“เธอยังไม่ได้กินข้าว? อารมณ์ไม่ดี?” ฮั่วเทียนหลันถาม
ป้าdingตอบกลับมาว่า “แค่หนุ่มสาวทะเลาะกันตามภาษาผัวเมีย กลับมาง้อนิดง้อหน่อยเดี๋ยวก็ดีกัน”
ฮั่วเทียนหลันไม่ได้แสดงท่าทีที่เห็นด้วยหรือคัดค้าน เขาแค่ตอบกลับไปสองสามประโยค จากนั้นก็วางสายลง
เขาเดินมานั่งที่โซฟาสักพัก และคิดว่ามันน่าเบื่อ เขาจึงลุกขึ้นมาและเดินไปที่หน้าต่าง
ทันใดนั้น เขาก็หันไปเห็นฟู่กุ้ยกำลังขี่หมาพันธ์ซามอยด์ และก็ส่งเสียงร้องออกมา
แต่สิ่งที่พีคที่สุดก็คือบนหลังของหมาตัวนั้นไม่ได้มีแค่ฟู่กุ้ย และยังมีแมวสีดำอีกตัวนั่งอยู่ด้วย
ดูจากรูม่านตาที่เป็นสีดำ มันน่าจะเป็นตัวผู้
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจู่ๆในใจของเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า นี่มันต้นปี ขนาดแมวยังมีความรัก?
เขาเดินไปเดินมาอยู่ในห้องรับแขกด้วยความกระสับกระส่าย
เขาทำไปอย่างไม่รู้ตัว ผ่านไปไม่นานเขาก็เดินมาอยู่ที่ประตูรถ ในตอนนั้นเขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เขาออกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็นั่งลง
เขาสตาร์ทรถ และขับไปยันคฤหาสน์ของเขา
ผู้หญิงคนนี้ ต้องการต่อรองกับเขาโดยการขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง มันช่างน่าขันสิ้นดี
เขาแค่กลับไปดูเธอเท่านั้น และไม่มีทางที่จะไปง้อหรือให้ความประนีประนอมกับเธอ
เมื่อฮั่วเทียนหลันตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาก็เหยียบคันเร่งจนมิด
ปกติต้องใช้เวลาถึง 40 นาที จนกว่าจะขับถึง แต่นี่เขาใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นก็กลับมาถึงแล้ว
เมื่อจอดรถเสร็จ เพิ่งจะลงมาจากรถก็เห็นป้าdingเดินออกมา
“เทียนหลัน คุณลองขึ้นไปดูคุณนายหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง! ป้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกคุณทั้งสอง.....”
ป้าdingยังไม่ทันพูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็ยื่นมือออกมาเพื่อบอกให้ป้าdingหยุดพูด
เขาพูดออกมาว่า “ผมรู้แล้ว ป้าding บันไดของบ้านเราอยู่ที่ไหน?”
บันได? ป้าdingรู้สึกงง
แต่แล้วเธอก็ตอบสนอง ทันใดนั้นก็พูดด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ทำไมหรอ? คุณจะปีนบันไดขึ้นไป? ไม่ได้ ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป บอกให้เธอเปิดประตูจะดีกว่านะ!”
ฮั่วเทียนหลันไม่สนใจคำพูดของป้าding เขาเดินเข้าไปที่ห้องเก็บของเพื่อหยิบบันไดพับออกมา
หลังจากทีกางมันออก เขาก็เอามันวางพาดไปที่ชั้นสอง
ฮั่วเทียนหลันมองเห็นได้อย่างชัดเจน หน้าต่างที่ระเบียงยังคงเปิดอยู่ และเขาสามารถเข้าไปในห้องนอนได้จากตรงนั้น
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าแค่ปิดประตูก็จะสามารถลบล้างความผิดได้แล้วหรือ?
ป้าdingยืนจับบันไดด้วยความกังวล เมื่อเห็นฮั่วเทียนหลันปืนขึ้นไปที่ระเบียงได้แล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
ฮั่วเทียนหลันคลานเข้าไปที่หน้าต่าง และผลักประตูที่ระเบียบเข้าไป นั้นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
ผู้หญิงคนนี้รู้ก่อนแล้วว่าเขาจะปีนขึ้นมาทางหน้าต่าง ดังนั้นจึงปิดประตูของระเบียงเอาไว้?
เขาเคาะไปที่ประตูด้านนอกระเบียงอย่างรุนแรง ปัง ปัง ปัง พร้อมตะโกนออกไปว่า “อันหรัน เปิดประตู!”
อันหรันที่กำลังงงงวย ลุกจากเตียงขึ้นมานั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง