โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 242

อันหรันไม่ได้รู้ถึงความสำคัญของมันมากนัก แต่จากสายตาที่คนรอบข้างมองมา เธอก็พอจะเดาได้ว่ากำไลหยกนี้จะต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากแน่นอน

เธอถอดมันออกมาเพื่อจะส่งคืนให้หลี่รูยา

แต่กลับถูกหลี่รูยาจับเอาไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ใส่อันนี้ไว้ก็ได้! ต่อไปอันนั้นก็ไม่ต้องใส่ออกงานแล้ว!"

อันหรันนิ่งงันไปชั่วขณะ เธอไม่เข้าใจว่าหลี่รูยาหมายถึงอะไร

อันนั้น? กำไลหยก?

เธอตกใจขึ้นมาทันที ก่อนจะรู้สึกร้อนรนเล็กน้อย แต่ความรู้สึกซาบซึ้งที่มีอยู่เต็มอกนั้นก็พลันจะทำให้ขอบตาของเธอเอ่อล้นไปด้วยน้ำสีใส

คุณแม่ฮัวรู้เรื่องกำไลหยกของเธอด้วยเหรอนี่!

"คุณแม่คะ อันนั้น... " อันหรันอยากจะเอ่ยอธิบาย จากที่ทราบมาจากฮั่วเทียนหลันในตอนนั้น กำไลหยกเส้นนี้เป็นของที่อันหรันได้มาจากการมีความสัมพนธ์อันลึกซึ้งกับชายอื่น

แต่หลี่รูยากลับทำแค่เพียงตบที่มือของอันหรันเบาๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ฉันเชื่อว่ากำไลหยกเส้นนั้นสำคัญกับเธอมาก"

มีกลุ่มลูกหลานอีกหลายคนที่กำลังรอไหว้อวยพรปีใหม่กับหลี่รูยา

อันหรันจึงถอยออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะเดินไปที่มุมของห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง

เธอหยิบน้ำผลไม้มาหนึ่งแก้ว ยังไม่ทันที่จะยกขึ้นดื่มก็ได้ยินเสียงของผู้ชายที่คุ้นหูดังขึ้นมาก่อน : "พี่สะใภ้ สวัสดีปีใหม่ครับ!"

อันหรันเงยหน้าขึ้นมองไปที่เกาฮั่น ก่อนจะกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณแต่แล้วก็ไม่พบหัวเสี่ยวน่า

“สวัสดีปีใหม่ นานาล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ”

โดยปกติแล้ววันปีใหม่จะต้องไปที่บ้านของทางฝั่งสามี

และบ้านตระกูลฮัวนั้นมีอำนวจมาก ทุกปีจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ของครอบครัวที่ยิ่งใหญ่เสมอ เพราะฉะนั้นขอแค่เป็นญาติที่ไม่ได้ห่างกันมากนัก ต่างก็ต้องกลับมาที่บ้านตระกูลฮัวเพื่อเฉลิมฉลองวันปีใหม่ด้วยกัน

ช่วงเวลาอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของครอบครัวฮัว

เกาฮั่นส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบาย ก็เลยมาด้วยกันไม่ได้ครับ"

ไม่สบายอย่างนั้นเหรอ ทันใดนั้นอันหรันก็รู้สึกเป็นกังวลหัวเสี่ยวน่าขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะรีบถามขึ้น : "นานาเป็นอะไรเหรอ ไม่สบายตรงไหน"

เกาฮั่นเพียงแค่ส่งยิ้มกลับมา แต่ไม่ได้ตอบคำถามอะไร

จู่ๆอันหรันก็เหมือนจะคิดอะไรออก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น : "หรือว่าเธอจะ... "

เกาฮั่นยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามไม่ให้อันหรันเอ่ยอะไรออกมา ทันใดนั้นอันหรันก็เข้าใจได้ในทันที

เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ถ้าหากเป็นเรื่องจริงอย่างที่คิดล่ะก็ ความสัมพันธ์ระหว่างสองสามีภรรยาคู่นี้ก็น่าจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมากแล้วแน่

ผู้หญิงก็เปรียบเสมือนน้ำ พออยู่ด้วยกันไปสักพักแล้วก็คงก่อเกิดเป็นความรัก บวกกับปัจจัยอีกหลายๆอย่าง ต่อไปก็คงกลายเป็นสามีภรรยาที่รักกันมากแน่นอน

เกาฮั่นคุยกับอันหรันอยู่สักพักก็ถูกคุณปู่คนที่สองของฮั่วเทียนหลันเรียกไปพบ

ในห้องรับแขกมีคนอยู่มากมาย เสียงดังจอแจไปหมด อุณหภูมิห้องก็สูงขึ้นตามไปด้วย

อันหรันเดินตรงไปบริเวณหน้าต่างเพื่อสูดอากาศหายใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ : "อันหรัน พี่ชายรองของฉันล่ะ"

เสียงเรียกนั้นทำให้อันหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย

เธอจำได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คือ หยู่อิ๋งอิ๋ง เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาหรืออาจจะพูดได้อีกอย่างนึงคือเด็กที่เอาแต่ใจ

"ฉันไม่รู้" อันหรันตอบกลับไปอย่างสุภาพ

ตอนที่คุณแม่ฮัวมอบกำไลหยกให้เธอ เธอก็ไม่เห็นฮั่วเทียนหลันแล้ว

หยู่อิ๋งอิ๋งเบะปากขึ้น ก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ : “เธอไม่ใช่ภรรยาของพี่ชายรองเหรอ พี่ชายรองไปไหนทำไมถึงไม่รู้ล่ะ"

คำพูดของเธอทำให้อันหรันไปต่อไม่ถูก จึงทำได้เพียงมองไปที่เด็กสาวตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป

หยู่อิ๋งอิ๋งโกรธขึ้นมาทันที เธอก้าวไปข้างหน้าก่อนจะคว้าเสื้อของอันหรันแล้วออกแรงดึงเธอไปยังกลุ่มที่มีคนอยู่ : "ฉันไม่สน เธอต้องตามหาพี่ชายรองให้ฉัน พี่ชายรองของฉันถูกเธอซ่อนเอาไว้ใช่ไหม! "

อันหรันรู้สึกรำคาญเล็กน้อย แต่เธอต้องรักษาภาพลักษณ์ของภรรยาฮั่วเอาไว้ จึงไม่สามารถโกรธได้

และในตอนนี้เองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน : "อิ๋งอิ๋ง เธอไปก่อเรื่องอะไรอีกแล้วเนี้ย"

อันหรันมองไปทางต้นเสียง ก่อนจะพบบุคคลที่ค่อนข้างคุ้นหน้า ถ้าหากว่าเธอจำไม่ผิดล่ะก็ นี่คงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮั่วเทียนหลันที่ชื่อ ฮัวเฮารัน

"พี่เฮารัน ... " เมื่อมองเห็นฮัวเฮารัน หยู่อิ๋งอิ๋งก็รีบเปลี่ยนท่าทีที่หยิ่งผยองเมื่อกี้ในทันที ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดฮัวเฮารัน

ฮัวเฮารันยกมือขึ้นมาขวางตัวเธอไว้เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "โตเป็นสาวขนาดนี้แล้ว อยู่ต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ยังทำตัวเอาแต่ใจตัวเองอยู่อีกนะ"

หยู่อิ๋งอิ๋งหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : "ก็เพราะมีความสุขที่ได้เจอพี่ไงเล่า!"

ฮัวเฮารันก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะเอ่ยกับอันหรัน : "อิ๋งอิ๋งถูกตามใจจนเสียนิสัย เธออย่าได้ถือสาแกเลยนะ"

อันหรันยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรกลับไป หยู่อิ๋งอิ๋งก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน

ฮัวเฮารันยื่นมือไปปิดปากของหยู่อิ๋งอิ๋งไว้ แล้วจึงเอ่ยขึ้น : "ถ้าเธอยังพูดมากอีก ฉันจะฟ้องคุณแม่เรื่องเมื่อกี้"

แม่ของหยู่อิ๋งอิ๋งเป็นสุภาพสตรีที่สง่างามและมีการศึกษามาก

เธอไม่โอเคกับพฤติกรรมที่ดูก้าวร้าวของหยู่อิ๋งอิ๋ง ดังนั้นจึงมักจะอบรมสั่งสอนหยู่อิ๋งอิ๋งอยู่เสมอ ทำให้หยู่อิ๋งอิ๋งค่อนข้างที่จะเกรงกลัวคุณแม่ของเธออยู่มาก

หยู่อิ๋งอิ๋งเมื่อได้ยินที่เขาพูดก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "พี่เฮารัน...ฉันผิดไปแล้ว"

เมื่อเห็นท่าทางที่ตรงไปตรงมาของหยู่อิ๋งอิ๋ง ก็ทำให้ภาพจำของอันหรันที่มีต่อเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หยู่อิ๋งอิ๋งเดินออกไปแล้ว หลังจากนั้นฮัวเฮารันจึงหยิบน้ำผลไม้จากคนใช้มาหนึ่งแก้ว ก่อนจะยื่นไปชนกับแก้วขิงอันหรันเบาๆ จากนั้นเอ่ยขึ้น : "ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเธอมาบ้างแล้วล่ะ พอได้มาเจอด้วยตัวถึงได้รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนอย่างที่เขาพูดกันจริงๆ เทียนหลันช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ"

อันหรันยิ้มให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะยกน้ำผลไม้ขึ้นมาจิบ แล้วเอ่ยขึ้น : "มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ... เทียนหลันเขาดีมาก ฉันต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเขาสักนิด"

ฮัวเฮารันนิ่งไปชั่วขณะ อันหรันเองก็เหม่อลอยเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง