โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 243

สำหรับฮั่วเทียนหลัน เขาคิดว่าอันหรันยังไม่ได้มีผลต่อหัวใจของเขามากขนาดนั้น

"เธอไม่หลงตัวเองไปหน่อยเหรอ" ฮั่วเทียนหลันเอ่ยเสียงเรียบ

เมื่อเข้าใจปัญหา ก็สามารถแก้ไขมันได้ง่ายขึ้น

ท่าทางเช่นนี้ของพวกเขา ทำให้อันหรันรู้สึกราวกับว่าเอวของธอกำลังจะหักอยู่เต็มทน

เธอจึงเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "คุณชายฮั่วคะ ปล่อยฉันลุกขึ้นก่อนได้ไหม"

ทันทีที่ฮั่วเทียนหลันปล่อยมือ อันหรันก็ลุกขึ้นนั่งได้อย่างปกติ

จากนั้นเธอจึงจัดการเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา : “ฉันกับคุณฮัวเฮารันแค่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องงานศิลปะเท่านั้น ไม่ได้มีการสัมผัสตัวกันเลยสักนิด แต่เมื่อกี้ตอนที่หยู่อิ๋งอิ๋งขึ้นมาหาคุณ ฉันมองเห็นนะว่าเธอกอดแขนคุณน่ะ”

อันหรันตอบกลับ ทำให้ฮั่วเทียนหลันแทบจะตั้งรับไม่ทัน

เขาจ้องไปที่อันหรันอย่างโมโห จากนั้นพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม : "นี่เธอหมายความว่ายังไง สงสัยฉันงั้นเหรอ"

อันหรันหัวเราะขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินชาใส่แก้วให้กับตัวเอง จากนั้นยกขึ้นจิบเบาๆ กลิ่นหอมของชายังคงอบอวลไปทั่วปากของเธอ : "เปล่านะคะ คุณชายฮั่วสะอาดบริสุทธิ์ขนาดนี้ จะไปเลี้ยงต้อยเช่นนั้นได้อย่างไรกัน!"

อันหรันจงใจเน้นคำว่าเลี้ยงต้อยขึ้นมาเป็นพิเศษ

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่อันหรันด้วยท่าทีนิ่งขรึม ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "เมื่อคืนฉันคงทำเธอน้อยครั้งไปสินะ ถึงได้มีแรงมาต่อปากต่อคำเยอะขนาดนี้!"

ฮั่วเทียนหลันยืนขึ้นก่อนจะก้มลงมองไปที่อันหรัน จากนั้นจึงค่อยๆโน้มตัวลงไป อันหรันเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบหลบตัวทันที แต่ยิ่งหลบเท่าไหร่มันก็ยิ่งเหมือนเป็นการให้ความร่วมมือแก่เขามากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายเธอก็ถูกเขาคล่อมเอาไว้ในที่สุด

"ฮัวเฮารันเป็นคนที่นิยมการอยู่ตัวคนเดียว ฉันขอแนะนำว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย เดี๋ยวเธอจะได้นองเลือดเสียเปล่า ส่วนฟู่ฮั่นหยูนั้นเกมส์มันพึ่งจะเริ่ม... "

เมื่อได้ยินฮั่วเทียนหลันพูดถึงฟู่ฮั่นหยู อันหรันก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณชายฮั่วคะ ฉันกับฟู่ฮั่นหยูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย เราก็แค่... "

"ก็แค่อะไร ก็แค่เขากอดเธอ? มอบกำไลหยกให้เธอ? อันหรัน จะพูดโกหกอะไรก็หาเหตุผลที่มันดีกว่านี้หน่อย" มือของฮั่วเทียนหลันไต่ขึ้นไปยังจุดอ่อนไหวของเธอ ก่อนจะใช้แรงบีบเล็กน้อย จนอันหรันทนไม่ไหวกรีดร้องออกมา

"เขา เขาเป็นแค่ เพื่อนของน้องชายฉัน!" อันหรันพูด

น้องชาย? ยังกล้าบอกกับเขาว่าเป็นน้องชายอีกเหรอ

ฮั่วเทียนหลันโมโหขึ้นมาทันที เขาให้โจวหยวนตามสืบข้อมูลมานาน แต่ไม่เคยพบเลยว่าอันหรันมีน้องชายด้วย

ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขาโง่นักหรือไง

แต่เรื่องนี้ก็ต้องขอชื่นชมอันหงไช

เพื่อที่จะลบเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอันหรัน และร่องรอยเบาะแสต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอทั้งหมดที่อยู่ในเมือง Z นั้น ไม่ว่าจะเป็นใครที่เธอเคยมีความเกี่ยวพันด้วย ต่างก็ถูกยัดเงินเพื่อปิดเรื่องทั้งหมดเอาไว้ และข้อมูลเกี่ยวกับอันหรันทั้งหมดที่สามารถหามาได้ก็ถูกทำลายไปหมดทุกอย่าง

จากนั้นก็ให้อันชิงปลอมแปลงข้อมูลของอันหรันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

เขาทุ่มเงินไปไม่น้อยกับเรื่องพวกนี้

แต่ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น ฮั่วเทียนหลันตามสืบข้อมูลของเธอมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ยังไม่พบข้อมูลอะไรเลย

ดังนั้นเมื่อได้ยินที่อันหรันเอ่ย ฮั่วเทียนหลันจึงเกิดความเคลือบแคลงขึ้นมาในใจ

หลักฐานทั้งหมดก็แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าอันหรันกำลังหลอกลวงอยู่

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่อันหรัน เธอหลบสายตาของเขาเล็กน้อยราวกับกำลังรู้สึกหวาดผวา

ไม่ว่าตอนไหน เธอก็มักจะทำให้คนอื่นเผลอคิดว่าเธอบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอยู่เสมอ

"อันหรัน" ฮั่วเทียนหลันเอ่ยขึ้น

"คะ" อันหรันตอบรับ

“เธอมีน้องชายจริงๆเหรอ” ฮั่วเทียนหลันเอ่ยความสงสัยในใจออกมา

อันหรันนิ่งไปเล็กน้อย นี่ถึงเวลาที่เธอต้องอธิบายแล้วใช่ไหม

เธอเม้มปาก ก่อนจะออกแรงจับไปที่โซฟาเล็กน้อย : "คุณชายฮั่ว จะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดหรือเปล่า"

"อืม"

"ฉันเคยมีค่ะ แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้วล่ะ"

หลังจากอันหรันพูดจบ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเหงาหงอย

ฮั่วเทียนหลันนิ่งอยู่ครู่นึง ก่อนจะรู้สึกสงสารอันหรันขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เธอคงจะเสียใจมากแน่เลยสินะ

แต่ทันใดนั้นฮั่วเทียนหลันก็เหมือนได้สติ เขาโยนความคิดเมื่อกี้ออกไปจากหัวทันที

ผู้หญิงคนนี้เธอจะเศร้าไปทำไมกัน

น้องชายของเธอที่เธอกำลังพูดถึง ก็เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาทั้งนั้น

อันหรันมองฮั่วเทียนหลันอยู่ตลอดนั้น เธอพบว่าสีหน้าท่าทางที่เขาแสดงออกมานั้นเริ่มจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา

เธอถอนหายใจอย่างรู้สึกปลง ต่อให้พูดไปกี่พันกี่หมื่นครั้งเขาก็ไม่มีวันเชื่อคำพูดของเธอหรอก

ฮั่วเทียนหลันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกผิดหวังของอันหรัน เขาจึงโน้มตัวลงไปก่อนจะกดริมฝีปากของตัวเองลงไปที่ริมฝีปากของเธอแรงๆ

"ต่อไปถ้าฉันยังไม่ได้อนุญาต เธอก็ห้ามไปพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาด!"

เดิมทีอันหรันคิดว่าฮัวเทียนหลันจะลงโทษเธออย่างหนักเหมือนที่เคยทำ เธอจึงรู้สึกต่อต้านขึ้นมาอย่างรุนแรงด้วยความหวาดกลัว

ข้างนอกคนเยอะขนาดนั้น ถ้าหากเธอออกไปทั้งๆที่ตัวแดงเถือก ไม่ต้องเอ่ยถามพวกเขาก็คงจะพอเดาออกว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้ฮั่วเทียนหลันจะทำเพียงแค่ช่วงชิงความหวานจากปากของเธอ ก่อนจะผละตัวเธอออกโดยที่ไม่ได้ทำอะไรต่อจากนั้น

ทันใดนั้นเอง คนใช้ของบ้านก็เดินขึ้นมาเคาะประตูเรียกพวกเขาลงไปรับประทานอาหารค่ำ

ฮั่วเทียนหลันเรียกให้อันหรันเข้าไปจัดแจงความเรียบร้อยของเสื้อผ้าให้กับตน จากนั้นทั้งสองจึงเดินลงไปชั้นล่างของบ้านด้วยท่าทีแสนรักใคร่

บนโต๊ะอาหาร ฮั่วเทียนหลันและอันหรันนั่งอยู่ด้านข้างหลี่รูยา อีกด้านคือคุณปู่ทั้งสองท่าน คุณลุง ตามด้วยคนอื่นๆ

ฮัวเส้าซู่ก็พาผู้หญิงของตนมาที่บ้านด้วย คนที่เขาพามานั้นไม่ใช่ทันเหว่ย แต่กลับเป็นฉินฟาง

ฉินฟางเหลือบมองไปที่อันหรันอย่างอาจหาญ ราวกับต้องการโอ้อวดกับเธอว่า 'สนับสนุนทันเหว่ยนักไม่ใช่เหรอ เห็นหรือยังว่าทันเหว่ยไม่มีทางที่จะมานั่งอยู่ตรงนี้ได้'

ปกติแล้วฮั่วเทียนหลันเป็นคนที่ดื่มเยอะมาก แต่ในงานเลี้ยงวันนี้เขากลับควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่มเยอะ

ดื่มไปได้สองสามแก้ว เขาก็ไม่ดื่มต่อแล้ว

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เขาก็นั่งพูดคุยกับชายชราทั้งสองอยู่พักหนึ่ง

อันหรันเองก็พูดคุยเล่นกับลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงๆ

หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น : "พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าเกาฮั่นน่ะแอบซ่อนหญิงอื่นไว้ด้วยล่ะ"

ลูกพี่ลูกน้องคนอื่นๆเอ่ยขึ้นต่อ : จริงเหรอ แต่ฉันเห็นพวกเขาก็รักกันดีนี่! แต่นานาดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบเกาฮั่นเท่าไหร่ ถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาไม่ดี ชีวิตคู่ก็คงไม่มีความสุขแน่นอนเลย... "

“หรือบางทีนานาอาจจะยังไม่ลืมคนนั้นหรือเปล่า!”

อันหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย คนนั้นที่ว่าคือใครกัน

ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฮัว เธอไม่เคยเอ่ยพูดอะไรที่ไม่ควรพูดเลย นับประสาอะไรกับการที่ต้องถามออกไปเช่นนั้น

ขณะที่ฟังญาติเหล่านี้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของหัวเสี่ยวน่าที่ดูราวกับว่ามันมีเรื่องราวอะไรมากมาย

ทันใดนั้นเองสายตาของพวกเธอก็กวาดมองมาที่อันหรัน ราวกับกลัวว่าอันหรันจะถือสาที่พวกเธอกำลังพูดถึงหัวเสี่ยวน่า เนื่องจากอันหรันได้ชื่อว่าเป็นพี่สะใภ้ของเธอ

อันหรันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "พวกเธอพูดกันเถอะ ฉันไม่ได้สนิทกับนานาขนาดนั้น"

จากที่ฟังเรื่องราวที่พวกเธอเอ่ยขึ้นมานั้น ทำให้อันหรันได้รู้ว่าแท้จริงแล้วชีวิตของหัวเสี่ยวน่าเคยลำบากมาไม่ใช่น้อย

เธอได้รับความทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เป็นเด็ก จึงทำให้เธอโหยหาความอบอุ่นเข้ามาช่วยเติมเต็ม

เธอมีแฟนตั้งแต่ช่วงขึ้นมัธยมจนถึงตอนเรียนจบ

แฟนหนุ่มของเธอเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางเท่านั้น

ถ้าอิงตามหลักความเป็นจริงแล้ว พวกเขาสองคนไม่เหมาะกันเลยสักนิด และไม่มีทางที่จะไปกันรอด

แต่นายหญิงฮัวเอ็นดูหัวเสี่ยวน่ามาก เธอจึงยอมปิดหูปิดตาแล้วปล่อยให้ทั้งสองได้รักกันอย่างอิสระ

แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อหัวเสี่ยวน่าล้มป่วยและมีภาวะยูรีเมีย

และถ้าหากมีภาวะยูรีเมียนั้นจะต้องได้รับการปลูกถ่ายไตอย่าเร่งด่วน

แต่ไม่ว่าจะพยายามหาแหล่งไตเท่าไหร่ก็หาที่เหมาะกับร่างกายของเธอไม่ได้สักที

จนสุดท้ายแฟนหนุ่มของเธอลองให้คุณหมอเช็ดดูไตของตน ถึงพบว่าไตของเขานั้นเข้ากับเธอได้พอดี

แต่แฟนหนุ่มของเธอไตทำงานได้ไม่ค่อยดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าหากถ่ายโอนไปให้เธออีกข้างหนึ่งล่ะก็ ร่างกายของเขาจะเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก

แต่เพื่อช่วยชีวิตหัวเสี่ยวน่า เขาจึงกัดฟันสู้และทำการปลูกถ่ายไตให้เธอ

นายหญิงฮัวจึงได้ทำการตกลงกับเขาว่า หลังจากที่หัวเสี่ยวน่ารักษาจนหายดีแล้ว จะให้พวกเขาทั้งสองคนแต่งงานกัน

จากนั้น……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง