หลังจากทำการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย หัวเสี่ยวน่าก็มีชีวิตรอดกลับมา
แต่แฟนหนุ่มของเธอเนื่องจากเหลือไตเพียงข้างเดียวทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ เขาเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน และสุดท้ายก็เสียชีวิตลงไปในที่สุด
ในตอนจัดพิธีไว้อาลัย หัวเสี่ยวน่าสวมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์พร้อมทั้งจัดพิธีแต่งงานระหว่างเธอกับเขาขึ้น จากนั้นได้ทำการสาบานต่อหน้าเขาว่าเธอจะไม่แต่งงานกับชายอื่นไปชั่วชีวิต
เรื่องนี้ถูกนายหญิงฮัวปิดเงียบไว้ และไม่อนุญาตให้ใครเอ่ยถึงมันอีก
ตอนที่อันหรันได้ยินเรื่องนี้ เธอตกใจเป็นอย่างมาก
เธอคิดมาตลอดว่าความรู้สึกที่หัวเสี่ยวน่ามีต่อฮั่วเทียนหลันนั้นเป็นสิ่งที่คงทนที่สุด
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตของหัวเสี่ยวน่าจะมีผู้ชายอายุสั้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าหากมีสามีที่ดีเช่นนี้ ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วล่ะ!
ในที่สุดเธอก็ได้เข้าใจสักทีว่าทำไมหัวเสี่ยวน่าถึงดูไม่ค่อยยอมรับเกาฮั่นสักเท่าไหร่
เพราะใจเธอมีคนๆหนึ่งอยู่ในนั้นแล้ว และการที่จะยอมรับใครอีกคนเข้าไปเพิ่มนั้นมันต้องใช้ความกล้าหาญมากเลยทีเดียว
อันหรันรู้สึกตื้นตันในใจ แต่นอกจากนี้แล้วเธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ในเมื่อหัวเสี่ยวน่ามีคนอื่นอยู่ในใจอยู่แล้ว แล้วทำไมเธอถึงบอกกับเกาฮั่นว่าไม่สบายเช่นนั้นล่ะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง อันหรันลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปข้างนอกบ้าน หามุมที่เงียบที่สุด จากนั้นจึงโทรหาหัวเสี่ยวน่า
แต่โทรไปกี่สายก็ไม่มีใครรับสักที
เธอจึงเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะเรียกเกาฮั่นออกมา
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ" อันหรันถาม
เกาฮั่นงงงันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "พี่สะใภ้หมายถึงอะไรเหรอครับ"
"ตกลงว่านานาอยู่ที่ไหน"
"ผมบอกแล้วนี่ว่าเธออยู่ที่บ้าน เธอไม่ค่อยสบาย... " ยังไม่ทันที่เกาฮั่นจะอธิบายเสร็จ อันหรันก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
"ไม่สบายถึงขั้นรับสายไม่ได้เลยเหรอ เกาฮั่น ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่" อันหรันเอ่ยถามเสียงเรียบ
สีหน้าของเกาฮั่นนิ่งลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย : "พี่สะใภ้ เรื่องบางเรื่องพี่ก็ไม่ควรเข้ามายุ่งนะ"
อันหรันลองพยายามโทรหาหัวเสี่ยวน่าอีกครั้ง แต่หลายต่อหลายครั้งก็ยังไม่มีใครกดรับสายสักที
จู่ๆความคิดไร้สาระก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ หรือว่าเกาฮั่นจะกักขังหัวเสี่ยวน่าไว้งั้นเหรอ
และเธอก็เดาถูก
หัวเสี่ยวน่าถูกกักขังจริง เธอถูกขังให้อยู่ในวิลล่าที่เต็มไปด้วยความหนาวเย็น ข้างในและข้างนอกของห้องนอนติดตั้งประตูกันขโมยเอาไว้หลายชั้น
อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่หนูก็ยังวิ่งเข้าไปไม่ได้
เหตุเกิดจากเธอได้ทราบข่าวว่าอดีตแฟนของเธอยังไม่เสียชีวิต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนั้นเป็นเพียงฉากฉากหนึ่งที่คนในบ้านของเธอจัดขึ้นมาตบตาเพียงเท่านั้น
เมื่อเธอทราบเรื่องนี้ขึ้นมา จึงเตรียมขับรถกลับไปที่เมือง Z ในวันนั้นในทันที
แต่ยังไม่ทันโผล่พ้นเขตเมือง เธอก็ถูกเกาฮั่นนำลูกน้องมาจับคุมเอาไว้เสียก่อน จากนั้นจึงบังคับกักขังเธอเอาไว้ที่วิลล่านี้
หัวเสี่ยวน่าร้อนรนใจเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าวันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า
ทันใดนั้นบอดี้การ์ดก็เปิดประตูลูกกรงเหล็กออก ก่อนจะนำอาหารมื้อเย็นที่หลากหลายมาส่งเธอ
ใช่ มันคือประตูลูกกรงเหล็กที่เป็นแบบเดียวกับในคุกเป๊ะเลยล่ะ
เธอหายใจเข้าลึกๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอที่อยู่ด้านนอกดังขึ้นมาเป็นระยะ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็นคนที่บ้านของเธอโทรมาหาแน่นอน
"เกาฮั่น ให้ฉันติดต่อกับนานาเดี๋ยวนี้นะ ไม่เช่นนั้นฉันจะบอกเทียนหลันอย่างที่ฉันคาดเดาไว้" อันหรันขู่
เกาฮั่นมองจ้องไปที่อันหรันอย่างตาไม่กระพริบ ก่อนจะเอ่ย : "พี่สะใภ้ พี่ก็รู้ดีนี่ว่าผมรักนานาจริง"
อันหรันไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมา เธอเพียงแค่มองไปที่เกาฮั่นอย่างเย็นชา
เกาฮั่นยอมหัวเสี่ยวน่ามากแค่ไหน รักหัวเสี่ยวน่ามากเท่าไหร่ เธอเองก็พอจะรู้
แต่ถ้าหากหัวเสี่ยวน่าไม่คิดเปลี่ยนใจล่ะ ถ้าหากเธอลงมือทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นล่ะ เกาฮั่นจะทนยอมเธอต่อไปได้หรือเปล่า
"ฉันไม่สามารถทนดูนานาเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้หรอกนะ" พูดจบ อันหรันก็เตรียมหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อคุยกับฮั่วเทียนหลัน
ทันใดนั้นเกาฮั่นก็กระวนกระวายใจขึ้นมาทันที เขารีบยื่นมือออกไปจับมืออันหรันไว้
มือของเธอนุ่มมาก จนทำให้เกาฮั่นตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ
อันหรันสะบัดมือของเขาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินถอยหลังไปเล็กน้อยด้วยความโมโห : "นี่นายจะทำอะไรอะ!"
เกาฮั่นรู้ว่าเมื่อกี้ตนได้ทำตัวบุ่มบ่ามไปจึงรีบเอ่ยขอโทษ ก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาใครสักคน : "เอาไปให้หัวเสี่ยวน่าคุยหน่อย"
จากนั้นเขาจึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้อันหรัน
อันหรันรอสายอยู่ครู่นึง ก่อนจะได้ยินเสียงแหลมคมของหัวเสี่ยวน่าดังขึ้นมา : "เกาฮั่น นายมันคนงี่เง่าน่ารังเกียจ กล้าดียังไงมากักขังฉัน ถ้าฉันออกไปได้เมื่อไหร่ฉันหย่ากับนายแน่! "
เสียงพูดของหัวเสี่ยวน่าดังมาก จนอันหรันแทบจะหูอื้อ เธอรอให้หัวเสี่ยวน่าพูดเสร็จก่อนจะเอ่ยขึ้น : "นานาฉันเอง อันหรัน เธอเป็นยังไงบ้าง เกิดเรื่องอะไรขึ้น"
หัวเสี่ยวน่าสะอึกจนพูดไม่ออก เธอไม่คิดเลยว่าอันหรันจะเป็นคนแรกที่ติดต่อหาเธอ
ความรู้สึกตื้นตันล้นอยู่เต็มอก จนเธอเริ่มสะอื้นขึ้นมา
ทันทีที่อันหรันได้ยินเสียงสะอื้นของเธอที่ดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ก็ไม่รอช้าเอ่ยถามขึ้นมาทันที : "นานาตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ให้ฉันไปหาหรือเปล่า"
หัวเสี่ยวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด : "พี่สะใภ้ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก พี่เอามือถือให้เกาฮั่นหน่อยสิ ฉันอยากคุยกับเขาสักหน่อย"
เมื่อได้ยินที่หัวเสี่ยวน่าพูดอันหรันก็ยิ่งกังวล จะบอกว่าไม่เป็นอะไรได้ยังไงในเมื่อเรื่องมันใหญ่ขนาดนี้
แต่แล้วเธอก็จำใจยอมส่งมือถือให้เกาฮั่น ในเมื่อหัวเสี่ยวน่าบอกว่าไม่เป็นไรมันก็ชัดเจนแล้วว่าเธอต้องการจัดการปัญหานี้กับเกาฮั่นเพียงสองคนเท่านั้น
เกาฮั่นยกมือถือขึ้นมาแนบหู ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ : "ว่าไง"
หัวเสี่ยวน่าหัวเราะเยาะ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ครอบครัวของฉันกำลังตามหาฉันแล้ว นายแน่ใจเหรอว่าจะขังฉันต่อไปแบบนี้"
"อืม" คำตอบเรียบง่ายที่แฝงด้วยความน่ากลัวของเกาฮั่น ทำให้หัวเสี่ยวน่าปรี๊ดขึ้นมาทันที
"เกาฮั่น นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ!"
"ฉันไม่ได้บ้า เธอนั่นแหละที่ต้องสงบสติอารมณ์"
พูดเสร็จ เกาฮั่นก็กดวางสายทันที
หัวเสี่ยวน่าโกรธจนดึงสายหูฟังแทบขาด
และแล้วเส้นยางด้านนอกของสายหูฟังก็ถูกหัวเสี่ยวน่าดึงจนชำรุด แต่ลวดทองแดงข้างในนั้นยังไม่ขาด สายหูฟังไม่ได้หลุดออกจากกัน มีเพียงมือของเธอที่ถูกรัดจนเลือดไหลออกมา...
อันหรันมองไปที่เกาฮั่นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวล
“นายแน่ใจแล้วเหรอว่านี่คือวิธีจัดการปัญหาระหว่างสามีภรรยาที่ถูกต้อง”
เกาฮั่นไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ
พูดจนขนาดนี้แล้ว ต่อให้อันหรันพูดออกไปอีกก็คงไร้ประโยชน์
เธอจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น
ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ญาติๆหลายคนต่างก็พากันทยอยเดินทางกลับบ้าน
หลังจากที่เธอเดินตามไปส่งแขกสองสามคน เธอก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเตรียมตัวเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านเพื่อพักผ่อน
ทันทีที่เดินไปถึงชั้นบน เธอก็พบกับฮั่วเทียนหลันที่ยืนอยู่ก่อนหน้าแล้ว เขาจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาเฉียบแหลม ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุยกันสนุกมากไหม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง