ดวงตาของมู่หนิงเมิ่งแวววาวขึ้นทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฮัวเฮารัน เพราะเธอเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด
อันหรันเป็นแม่สื่อได้ที่ไหนกัน เธอไม่คิดเลยว่าการที่เธอพูดประโยคธรรมดาทั่วไปออกไปแบบนั้น เธอจะถูกเหมารวมเข้ากลุ่มเดียวกับพวกเขาเช่นนี้
เธอพูดอ้ำอึ้งในลำคอ : "เอ่อคือ ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ จะมีก็แต่... "
“ใครเหรอ” ดวงตาของมู่หนิงเมิ่งแวววาวขึ้นมาทันใด
"เหลียวซิรง เธอนิสัยค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว หน้าตาสะสวย ติดแค่ว่าเธอค่อนข้างจะมีความแข็งแกร่งไปนิด... "
จู่ๆอันหรันก็นึกถึงเหลียวซิรงขึ้นมา และรอบตัวเธอก็ยังไม่มีผู้ชายอีกด้วย
ฮัวเฮารันมองดูอันหรันที่มีท่าทีลำบากใจ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
น้องสะใภ้คนนี้ช่างเป็นคนจริงเสียจริง!
ว่าแต่ชื่อเหลียวซิรงงั้นเหรอ ทำไมชื่อถึงได้คุ้นหูจังเลยนะ!
มู่หนิงเมิ่งชอบเปิดละครทีวีดูบ่อยๆ ดังนั้นเธอจึงพอจะรู้จักเหลียวซิรงอยู่บ้าง
“คนที่เธอพูดถึงที่เป็นดาราหญิงคนนั้นน่ะเหรอ คนที่ดังๆคนนั้น” อันหรันพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยต่อ : "แม้ว่าเธอจะทำงานในวงการบันเทิง แต่เธอมีชื่อเสียงได้เพราะความซื่อสัตย์…"
มู่หนิงเมิ่งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก่อนจะกดต่อสายหาใครสักคน : "ตรวจสอบข้อมูลของเหลียวซิรงให้ฉันหน่อย ได้แล้วส่งมาให้ฉันด่วนเลยนะ"
หลังจากวางสายเธอก็นั่งฟังอันหรันเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหลียวซิรงต่อ นอกจากนั้นยังมีซักถามเกี่ยวกับนิสัยต่างๆรวมถึงวิถีการดำรงชีวิตของเหลียวซิรงบ้างเล็กน้อย เพื่อประกอบการตัดสินว่าเหลียวซิรงเหมาะสมหรือเปล่า
เมื่อเห็นว่าแม่ของตนซักถามประวัติอย่างจริงจัง ฮัวเฮารันก็เริ่มลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน คิดจะแนะนำเธอให้กับเขาจริงๆน่ะเหรอ
หลังจากนั้นไม่นานมู่หนิงเมิ่งก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหลียวซิรง เมื่อทำการอ่านดูประวัติชีวิตของเธอคร่าวๆ ก็พยักหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย : "ก็ไม่เลวนี่"
หลังจากทำการแสกนเสร็จเรียบร้อย เธอก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับอันหรัน : "หรันหรัน ผู้หญิงคนนี้โอเคมากเลย เธอช่วยจับคู่ให้ทีได้หรือเปล่า"
อันหรันยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา ฮัวเฮารันก็รีบขยิบตาเป็นเชิงบอกว่าห้ามจับคู่ให้เขาตามที่คุณแม่ขอ
อันหรันเงยหน้าขึ้นมองฮัวเฮารันเเล็กน้อย เธอยังจำได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้พึ่งแกล้งเธอไปเมื่อกี้ ดังนั้นเธอจึงเอ่ยขึ้น : "โอเคค่ะคุณป้า เดี๋ยวหนูหาโอกาสให้พวกเขาทั้งสองคนได้เจอกันนะคะ"
"ไม่ต้องหาโอกาสอะไรแล้ว รีบจัดการตอนนี้เลยสิ" มู่หนิงเมิ่งยื่นคำขาด
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ อันหรันก็ออกไปข้างนอกกับฮั่วเทียนหลัน
ดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงดูไร้ชีวิตชีวา แสงของมันทำให้อันหรันรู้สึกสะลึมสะลือขึ้นมา และไม่นานก็ม่อยหลับไปในที่สุด
ผ่านไปสักพัก เธอก็รู้สึกคันที่หน้าราวกับมีอะไรกำลังมารบกวนการนอนของเธอ จึงเอื้อมมือออกไปก่อนจะคว้าเข้ากับกลุ่มก้อนขนหนานุ่ม
ตอนที่มีสติก็คิดว่าเจ้ากลุ่มก้อนนี้มันก็น่ารักดีอยู่หรอก
แต่ไม่ใช่กับตอนที่เธอเบลอๆเช่นนี้ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกตกใจ
เธอกรีดร้องขึ้นมาก่อนจะรีบปล่อยมือออกจากสิ่งนั้นแล้วรีบลืมตาขึ้น ถึงได้พบว่าฮั่วเทียนหลันกำลังถือหญ้าหางสุนัขอยู่ในมือ และนี่คือสิ่งที่เขาใช้เพื่อปลุกเธอให้ตื่น
เนื่องจากพึ่งตื่นนอน ทำให้อันหรันฉุนเฉียวขึ้นมาเล็กน้อย : "คุณชายฮั่ว นี่คุณทำอะไรเนี้ย!"
ฮั่วเทียนหลันยกยิ้มมุมปาก ท่าทางโมโหเขาของเธอในตอนนี้ดูน่ารักไม่หยอก
"ฉันทำอะไรเธอก็เห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ คิดจะนอนไปจนถึงเมื่อไหร่"
อันหรันอืมรับในคออย่างไม่ค่อยพอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "พวกเราถึงไหนแล้วเหรอ"
“เธอคิดว่าไงล่ะ”
ทันทีที่เสียงของฮั่วเทียนหลันเงียบลง อันหรันก็ได้ยินเสียงดังจากข้างนอก
เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะพบผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา และยังมองเห็นชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนี้
เดิมทีฮั่วเทียนหลันบอกว่าจะพาเธอออกมาเดินเล่นสักหน่อย แต่ตอนนี้กลับมาโผล่ที่สวนสนุกยังงั้นเหรอ
อันหรันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกในใจตอนนี้ได้ แต่ความรู้สึกตื่นตันนั้นมีมากจนแน่นไปทั้งอก
เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมาตอนที่เธอกำลังนั่งกอดหมอนดูละครอยู่นั้น ฮั่วเทียนหลันก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ขณะนั้นเองเธอก็เห็นฉากที่นางเอกและพระเอกกำลังนั่งม้าหมุนด้วยกัน เธอจึงถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "เฮ้อ ฉันก็ไม่ได้ไปสวนสนุกนานมากแล้วเหมือนกัน!"
ตอนนั้นเธอแค่พูดขึ้นมาลอยๆ แต่ไม่คิดว่าฮั่วเทียนหลันจะจำได้
เมื่อเห็นท่าทางง่วงงุนของอันหรัน ฮั่วเทียนหลันจึงก้าวเท้าลงจากรถก่อนจะเดินไปฝั่งที่อันหรันนั่งอยู่แล้วดึงเธอลงมา
อันหรันเริ่มเล่นเครื่องเล่นราชาโจรสลัดก่อน จากนั้นก็ต่อแถวรอเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างที่มีอยู่ในรายการ
จริงๆแล้วฮั่วเทียนหลันสมัครบัตรวีไอพีและไม่จำเป็นต้องต่อแถวรออย่างคนอื่นๆ
แต่อันหรันมีความสุขที่ได้ใช้เวลาทุกวินาทีอยู่กับฮั่วเทียนหลัน ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะพาเขาเดินไปต่อแถวรออย่างอดทน
การต่อแถวรอเป็นเวลานานเช่นนี้ ถึงจะสัมผัสได้ถึงความสุขของการเล่นเครื่องเล่นได้อย่างแท้จริง
แน่นอนว่าในใจของเธอนั้นอยากที่จะอยู่กับฮั่วเทียนหลันนานอีกสักหน่อย
เนื่องจากต้องต่อแถวรอคิว จึงทำให้อันหรันได้เล่นเครื่องเล่นเพียงหนึ่งส่วนสี่ของสวนสนุกเท่านั้น ก่อนที่สวนสนุกจะถึงเวลาปิดทำการเสียก่อน
แต่เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก หลังจากที่ขึ้นรถมากับฮั่วเทียนหลัน เธอก็เอ่ยขึ้น : "คุณชายฮั่วคะ ตอบแทนที่คุณพาฉันมาเที่ยวสวนสนุกวันนี้ เย็นนี้ให้ฉันเลี้ยงข้าวนะคะ!"
ฮั่วเทียนหลันนิ่งงันไปชั่วขณะ ราวกับไม่คาดคิดว่าอันหรันจะเอ่ยขอเลี้ยงข้าวเย็นเขาเช่นนี้ เมื่อได้ยินดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตอบรับอย่างรู้สึกยินดี
อันหรันเลือกพาเขามาที่ร้านอาหารจีนร้านหนึ่ง ร้านนี้เธอเคยมาแล้วสองครั้ง และเป็นเหลียวซิรงที่พาเธอมา
เจ้าของร้านเป็นแฟนคลับตัวยงของเหลียวซิรง
ขอแค่เป็นคนที่เหลียวซิรงพามา ต่างก็จะได้รับส่วนลดถึง 70% เลยล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง