ฮั่วเทียนหลันมองไปที่เหลียวซิรง ก่อนจะนึกประวัติข้อมูลของเหลียวซิรงขึ้นมาในหัว
เพราะเหลียวซิรงและอันหรันสนิทกันมาก ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับเหลียวซิรง หลี่เฉียนและคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต่างก็ถูกเขาสืบมาจนหมด
เหลียวซิรงเป็นบุคคลที่โด่งดังมากในวงการบันเทิง และยังเรียกได้อีกว่าเป็นขวัญใจของชายหนุ่มมากมาย
เธอไม่มีข่าวฉาวใดๆ แต่แฟนหนุ่มที่เคยคบมาทั้งหมดนั้นต่างก็อยู่ได้ไม่เกินสามเดือนสักคน
เธอได้รับรางวัลแทบจะทุกประเภท แต่กลับไม่เคยพูดจาประจบประแจงเอาใจผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์แต่อย่างใด
เคยมีครั้งหนึ่งที่ฮั่วเทียนหลันคิดจะแบนเธอ เพราะเธอเคยมีเรื่องกับมู่เหว่ย
แต่ก็ถูกโจวหยวนเอ่ยห้ามเอาไว้ก่อน เนื่องจากเหลียวซิรงมีผลกระทบต่อบริษัทของเขาค่อนข้างเยอะ
อีกทั้งเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ไม่มีหลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอัน ถ้าหากลงมือแบนเธออย่างไม่คิดให้รอบคอบซะก่อน อาจจะส่งผลกระทบต่อฐานแฟนคลับจำนวนมากได้
และนั่นเป็นครั้งแรกที่ฮั่วเทียนหลันยอมอ่อนข้อให้กับดาราที่เขามองว่ามูลค่าของเธอช่างน้อยนิด
ทั้งสามคนนั่งทานข้าวด้วยกัน และก็เป็นครั้งแรกที่ฮั่วเทียนหลันตักอาหารใส่จานให้กับอันหรัน
สำหรับเขามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาเพราะอันหรันเป็นภรรยาของเขา
แต่อันหรันกลับตกตะลึงกับการกระทำเช่นนั้นของเขา เนื่องความสัมพนธ์ระหว่างเธอกับฮั่วเทียนหลันไม่ได้มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากถึงเพียงนั้น
หลายครั้งที่นั่งทานข้าวที่บ้านตระกูลฮัว ก็เป็นการทานข้าวที่ต่างคนต่างกินซะส่วนใหญ่
หรือเขาต้องการจะป่าวประกาศต่อเหลียวซิรงว่าตนนั้นมีสิทธิ์ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ
แล้วเมื่อกี้เขาหึงเธอจริงๆเหรอ
อันหรันอดไม่ได้ที่จะช้อนตาขึ้นมองฮั่วเทียนหลัน และในตอนนั้นเองฮั่วเทียนหลันก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอพอดี
ทันใดนั้นเองรอบตัวของพวกเขาสองคนก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแสนหวาน
เหลียวซิรงที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มจะทนมองต่อไปไม่ไหว เธอโบกมือเป็นวงกว้างอยู่ด้านหน้าของพวกเขา ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "โอ้ย กำลังกินข้าวอยู่ดีๆ ทำไมบรรยากาศรอบตัวถึงได้ดูหวานแหววขึ้นมาอย่างนี้นะ!"
อันหรันหน้าขึ้นสี เธอก้มศีรษะลงทันทีแล้วเอื้อมมือไปดึงเสื้อของเหลียวซิรง ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ซิรง เธอพูดอะไรเนี้ย!"
เหลียวซิรงทำท่าประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "หรันหรัน เธอนี่หน้าบางเสียจริง ดูอย่างประธานฮั่วของเธอสิ ยังนั่งกินต่อได้อย่างไม่รู้สึกอะไรเลย"
อันที่จริงฮั่วเทียนหลันเองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้หน้าบางขนาดอันหรันเช่นนั้น
เขากวาดสายตามองไปที่เหลียวซิรง ก่อนจะเอ่ย : "อาหารไม่ได้ช่วยอุดปากของเธอไว้ได้เลยเหรอ"
เหลียวซิรงยังจำที่ฮั่วเทียนหลันแกล้งเรียกบริกรหนุ่มร่างกำยำถึงสิบคนมาให้บริการเธอเมื่อกี้ได้อย่างชัดเจนในหัว เธอแสร้งยิ้มขึ้นก่อนจะเอ่ย : "หรันหรัน ทานข้าวเสร็จพวกเราไปเดินเล่นกันไหม"
อันหรันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ช่วงนี้เธอเองก็หมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปเดินเล่นกับเหลียวซิรงนานมากแล้ว
ขณะที่เธอกำลังจะพยักหน้าตอบรับ สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นฮั่วเทียนหลันซะก่อน
ฮั่วเทียนหลันไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาทำเพียงแค่ส่ายหัวเป็นเชิงบอกให้เธอปฏิเสธ
เหลียวซิรงส่งเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ย : "นี่เธอใช้ชีวิตยังไงเนี้ย อยู่ที่บ้านไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรเองเลยเหรอ ทำไมต้องรอคำอนุญาตจากคนอื่นก่อนด้วยล่ะ"
อันหรันหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณชายฮั่วคะ ฉันแค่ไปเดินเล่นที่ห้างกับซิรงเท่านั้น เดี๋ยวตอนค่ำจะรีบกลับไปนะคะ"
น้ำเสียงของอันหรันเต็มไปด้วยความอ้อนวอน แต่ฮั่วเทียนหลันยังคงยืนกรานหนักแน่น : "ตอนกลางคืนอากาศมันหนาว ออกไปเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง"
เมื่อไม่กี่วันมานี้เมือง Z หิมะตกอย่างรุนแรง อุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ไข้หวัดเริ่มระบาดอีกครั้ง อันหรันรู้ว่าตอนนี้ฮั่วเทียนหลันกำลังเป็นห่วง
แต่เธอคิดว่าตัวเองไม่น่าจะโชคร้ายได้ถึงเพียงนั้น
อันหรันคิดอยากจะขอร้องต่อ แต่ทันใดนั้นเหลียวซิรงก็ตบโต๊ะอย่างแรง เธอเป็นผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเองมาก และสิ่งที่เธอเกลียดที่สุดก็คือการถูกผู้ชายคอยชักนำ
"โอเค ไม่ต้องคุยเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวสักพักพวกเราออกไปเดินเล่นกัน ตอนเย็นประธานฮั่วยุ่งมากไม่มีเวลามาดูแลเธอหรอก"
เรื่องที่ฮั่วเทียนหลันไม่ค่อยกลับบ้านตอนเย็นนั้นเหลียวซิรงรู้ดี
เพราะพวกเขาอยู่ในแวดวงภาพยนตร์และโทรทัศน์เช่นเดียวกัน และเมื่อไม่นานมานี้มู่เหว่ยกลับมามีกระแสอีกครั้ง บางทีที่ไปถ่ายละครเธอก็มีเจอกับทีมงานของมู่เหว่ยบ้างอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
และก็มักจะเห็นฮั่วเทียนหลันไปหาเธออยู่บ่อยๆ ในรถยนต์คันหรูของเขาเต็มไปด้วยของขวัญกล่องเล็กใหญ่มากมายที่นำไปมอบให้เธอ จนกลายเป็นที่จับตามองของคนบริเวณนั้น
ฮั่วเทียนหลันไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก ราวกับปล่อยให้อันหรันตัดสินใจด้วยตัวเอง
อันหรันคิดว่าเธออยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสักพัก และจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ดังนั้นเธอจึงเอ่ยขึ้น : "ฉันขอออกไปสักสองชั่วโมงนะคะ แล้วฉันจะรีบกลับบ้าน"
หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งทานข้าวกันต่อโดยที่ฮั่วเทียนหลันไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเลย
เมื่อทานข้าวเสร็จเตรียมจะจ่ายเงิน ผู้จัดการร้านก็เอ่ยขึ้น : "คุณเหลียวจ่ายเรียบร้อยแล้วครับ"
ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองเหลียวซิรงเล็กน้อย ใบหน้าของเธอแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา ราวกับไม่ได้ตระหนักเลยสักนิดว่าตนกำลังจะยึดตัวภรรยาของคนอื่นไปโดยถือวิสาสะ
หลังจากฮั่วเทียนหลันกลับไปแล้ว อันหรันและเหลียวซิรงก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ Crescent Square ที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
ผู้หญิงเวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่มีอะไรไปมากกว่าการช้อปปิ้งและลองชุดร้านนั้นร้านนี้ไปจนหมด สุดท้ายก็ได้มาทั้งถุงใหญ่ถุงเล็กมากมายหลายถุง แต่ส่วนใหญ่นั้นเป็นของเหลียวซิรงแทบทั้งหมด
อันหรันเป็นคนที่ค่อนข้างประหยัดมากๆ เพราะตัวเธอเคยผ่านชีวิตในตอนที่ยากลำบากมา
เดิมทีเหลียวซิรงอยากจะดูหนังต่อสักเรื่อง แต่พออันหรันเหลือบมองเวลาก็พบว่าตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว และเธอรับปากกับฮั่วเทียนหลันไปแล้วว่าอีกสองชั่วโมงจะรีบกลับไป ถ้าหากเธอกลับไปช้าเขาจะต้องโมโหขึ้นมาอีกแน่
ดังนั้นจึงนัดกับเหลียวซิรงว่าพรุ่งนี้ค่อยออกมาอีก ก่อนเธอจะเรียกรถกลับไปที่บ้านตระกูลฮัว
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอกวาดสายตามองหารถของฮั่วเทียนหลันแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา
นั่นทำให้เธอรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อยอย่างกดไม่ได้ นี่ฮั่วเทียนหลันยังไม่กลับมาอีกเหรอ
เธอรู้สึกไม่สบายใจจึงเลือกที่จะยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านเพื่อรอเขากลับมา
แต่ผ่านไปนานกว่าชั่วโมงเขาก็ยังไม่กลับมาสักที จนร่างกายของเธอเริ่มจะแข็งทื่อขึ้นมาเนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอย่างมาก
เธอรู้สึกเศร้าขึ้นมาในใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเพียงลำพัง อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงเดินไปนอนบนเตียง
ในวีแชทมีแจ้งเตือนข้อความที่ลั่นลานส่งมาบอกกับเธอว่าอยากดูวิวหิมะตกและยังบอกอีกว่าวันนี้ไปเที่ยวสวนสนุกกับหวังถิงมาด้วย
ประโยคที่ส่งมาทั้งหมดนั้นเธอต้องการสื่อกับอันหรันว่า เธอคิดถึงคุณแม่แล้ว
อันหรันเองก็รู้สึกไม่ดีในใจ เธอจึงกดพิมพ์ตอบกลับไปว่า : "รอให้คุณแม่กลับไปแล้วจะพาหนูออกไปเล่นทุกสัปดาห์เลยนะ"
แต่ก่อนที่จะได้กดส่งไป อันหรันก็นึกอะไรขึ้นได้ก่อน
กลับไปงั้นเหรอ แล้วเมื่อไหร่เธอถึงจะได้กลับไปล่ะ
แค่ฮั่วเทียนหลันทำดีกับเธอหน่อย เธอก็รู้สึกตัดใจจากเขาไปไม่ได้แล้ว
วันนี้ตอนที่อยู่สวนสนุกเธอมองเห็นครอบครัวหนึ่ง มีพ่อแม่ลูกสามคนกำลังจับมือกันต่อแถวรอเล่นเครื่องเล่นอยู่ด้านหน้าเธอ ภาพนั้นมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในใจ
ถ้าหากว่าพระเจ้าเมตตา ได้โปรดทำให้พวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกได้มาอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า
เธอและฮั่วเทียนหลันที่กำลังจับมือเล็กๆของลั่นหลันที่ยืนอยู่ตรงกลาง จากนั้นพวกเราสามคนพ่อแม่ลูกตะลอนเที่ยวทั่วเมือง Z ไปด้วยกัน
สุดท้ายอันหรันก็เลือกที่จะลบข้อความทิ้ง ก่อนจะกดส่งรูปเซลฟี่ของตัวเองไปให้เธอแทน : "วันนี้คุณแม่ไปเที่ยวอย่างมีความสุขมากเช่นกัน ฝันดีนะลูกรัก ดวงใจของเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง