ตอนที่ 249 ฉันอยากรอคุณกลับบ้าน
หลังจากเวลาผ่านไป 40 นาที หลี่จี้ก็มาถึง
สามีของเธอยังคงอยู่ที่สถานที่เกิดเหตุเพื่อจัดการเกี่ยวเรื่องอุบัติเหตุ
เธอช่วยอันหรันสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วเอ่ยขึ้น:“คุณชายน้อยคะ ที่คุณหนูเธอป่วยก็เพราะเธอตากลมหนาว”
เมื่อทราบสาเหตุของอาการป่วย ฮั่วเทียนหลันก็เริ่มจะเก็บความโกรธภายในใจไว้ไม่อยู่
เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด
“อืม ช่วงนี้อากาศเริ่มเปลี่ยน เธอคงไม่ทันระวังน่ะ”
ในขณะที่หลี่จี้กำลังจะจัดยา อันหรันที่สติเลอะเลือนก็พูดขึ้น :“คุณชายฮั่ว ทำไมคุณถึงยังไม่กลับบ้าน ข้างนอกอากาศหนาวมาก ฉันหนาวจนแทบจะแข็งตายอยู่แล้ว ทำไมคุณถึงยังไม่กลับมาอีก……”
คำพูดของอันหรันที่ถูกเอ่ยขึ้นมาตอนไม่มีสติ กำลังถูกอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สบาย
หลี่จี้นิ่งงันไปพักหนึ่ง เธอรู้สึกหนาวที่หลังแปลกๆ คล้ายกับว่าตัวเองได้ยินในสิ่งที่ไม่ควรจะได้ยินเข้า
ฮั่วเทียนหลันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ผู้หญิงโง่คนนี้ เป็นเพราะเขากลับบ้านช้า เธอจึงยืนรออยู่ข้างนอกอย่างนั้นหรือ
เธอไม่รู้หรือไงว่าร่างกายของตัวเองอ่อนแอมากแค่ไหน แล้วยังไปยืนทนหนาวอยู่เช่นนั้นอีก
น่าเสียดายที่คำพูดนี้ ต้องรอให้อันหรันตื่นก่อนถึงจะพูดได้
หลังจากหลี่จี้สั่งยาเสร็จ ก็ให้อันหรันกินก่อนหนึ่งครั้ง แล้วพูดกับฮั่วเทียนหลันว่า : “คุณชายน้อยคะ โดนอากาศหนาวจนไม่สบายแบบนี้จะหายช้านิดนึงนะคะ ยานี้ให้กินวันละ 2 ครั้ง ให้คุณหนูดื่มน้ำอุ่นเยอะๆขับพิษไข้ออก นี่เป็นยาช่วยไล่ลม ต้มดื่มทุกวันแค่ตอนกลางวันก็พอ……”
ฮั่วเทียนหลันตอบรับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นหลี่จี้จึงเดินออกไป
เขาเฝ้าดูแลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากกินยาอันหรันก็มีสติขึ้นมาบ้างแล้ว อุณหภูมิร่างกายก็ลดลงไปมากเช่นกัน
แต่เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างราวกับโดนม้าห้าตัวรุมฉีกร่างกายของเธอออกเป็นชิ้นๆ
เธอกระหายน้ำขึ้นมาเล็กน้อยจึงค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะเห็นเงาเบลอของใคคนหนึ่ง :“คุณชายฮั่วคะ ฉันอยากดื่มน้ำ คุณช่วย……”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบก็ถูกฮั่วเทียนหลันเอามือปิดที่ปาก เพราะไม่อยากให้เธอใช้แรงมากนัก
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ได้ดื่มน้ำ
ครั้งนี้ฮั่วเทียนหลันไม่ต้องช่วยป้อนทีละคำ เพราะเธอกลับมามีแรงขึ้นบ้างเล็กน้อยแล้ว สามารถดื่มน้ำเองได้
หลังจากดื่มน้ำเสร็จ อันหรันหายใจออกยาวๆ สายตาที่ซับซ้อนมองไปที่ฮั่วเทียนหลันก่อนจะเอ่ย:“ขอบคุณนะคะ สา สามี”
ฮั่วเทียนหลันใจเต้นขึ้นมาเมื่อถูกอันหรันเอ่ยเรียกเช่นนั้น
ตอนที่เธอแต่งงานเข้ามาให้บ้านฮัว เพื่อที่จะเล่นละครตบตาคนอื่นเธอจึงยอมเรียกเขาว่าสามี
แต่ยิ่งเรียกก็ยิ่งรู้สึกกระดากปาก ดังนั้นเธอจึงเว้นคำว่าสามีเอาไว้ และเรียกเขาว่าคุณชายฮั่วแทน
แต่ตอนนี้ที่เธอเรียกเขาว่าสามีขึ้นมาอีกครั้ง มันหมายความว่าอย่างไรกันนะ
คือความรักงั้นเหรอ
เขาก็รีบเอาความคิดนี้ออกไปจากหัว
ผู้หญิงคนนี้ไข้ลดแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องคิดบัญชีกับเธอแล้วล่ะ
"คืนนี้เธอรอฉันกลับมาที่บ้านเหรอ"
ฮั่วเทียนหลันพูดด้วยความโกรธหน่อยๆ ทำให้อันหรันเครียดขึ้นเล็กน้อย เธออืมตอบเบาๆ ราวกับกำลังอธิบาย :“ฉันอยากรอคุณกลับบ้าน”
"ฉันตัวโตขนาดนี้ จะหายไปไหนได้"
อันหรันอ้าปากอยากจะพูดอธิบายสักหน่อย แต่พูดอะไรออกไปก็ดูเหมือนจะผิดไปเสียหมด
“บอกไม่ให้ออกไปไหนก็ยังจะออกไป สุดท้ายเป็นไข้ไม่สบายแล้วเช่นนี้ สมใจเธอรึยังล่ะ”
“ทำตัวเหมือนกับเด็กเข้าไปทุกที คิดจะพึ่งฉันอยู่แบบนี้หรือไง”
อันหรันตอบในใจเงียบๆ : ค่ะ
โลกที่เธอเคยอยู่ต่างก็ล้อมรอบไปด้วยลั่นลาน
แต่โลกของเธอตอนนี้กลับล้อมรอบไปด้วยฮั่วเทียนหลัน
ลั่นลานคือสิ่งที่ฮั่วเทียวหลันสร้างขึ้นมา ผู้ร้ายที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของอันหรัน ก็คือเขา
เขาขโมยหัวใจตัวเอง ถึงแม้ว่าจะจากไปนานหลายปีแล้ว และกลับมาอีกกี่ครั้งก็ยังคงมีเรื่องราวของเขาอยู่
“ขอ ขอโทษค่ะ…….”
ในใจของอันหรัน นี่คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้วแหละ
ฮั่วเทียนหลันหัวเราะแห้งๆ เขาเอาแขนของอันหรันที่ออกมานอกผ้าห่ม ใส่กลับเข้าในผ้าห่มดังเดิมก่อนจะพูดขึ้น:“ขอโทษแล้วมีประโยชน์เหรอ ทุกวันนี้มีเรื่องอะไรก็ต้องให้ฉันคอยสอนงั้นสิ ถ้าหากวันนี้ฉันไม่ได้กลับบ้าน เธอก็ยังจะรออยู่ข้างนอกอย่างงั้นใช่ไหม เธอรู้ไหมว่าการได้รับความเย็นที่รุนแรงเช่นนั้นสามารถทำให้ผิวหนังตายได้ อาจถึงขั้นต้องตัดแขนตัดขา หรือไม่แน่อาจจะถึงตายเลย……. ”
อันหรันเม้มปากอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา
เธอรู้สึกว่าฮั่วเทียนหลันกำลังทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงมันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นซะหน่อย
แต่ท่าทางเคร่งขรึมของฮั่วเทียนหลัน นั่นทำให้เธอไม่กล้าที่จะพูดออกอะไรออกมา
ฮั่วเทียนหลันเห็นอันหรันทำท่าหวาดกลัวก็ยิ่งทำให้เขาโมโหขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้ ทุกครั้งที่เขากล่าวตำหนิเธอ เธอก็ชอบทำท่าสำนึกผิดแล้วเสมอ
แต่พอผ่านไปสักพักก็ยังทำเหมือนเดิม
เขาหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่ขึ้นมาก่อนจะชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดตัวให้อันหรัน
การถูกกระทำเช่นนี้ในตอนที่มีสตินั้นทำให้อันหรันรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา :“คุณชายฮั่วคะ เดี๋ยวฉันทำเอง!”
ฮั่วเทียนหลันกวาดสายตามองไปที่อันหรันก่อนจะเอ่ย :“เธอมีแรงจับผ้าด้วยเหรอ”
อันหรันยื่นมือออกไปคว้า แต่ก็ถูกฮั่วเทียนหลันชักมือหลบ
เขากดอันหรันลงนอนราวกับเธอเป็นหุ่นกระบอก ก่อนจะพลิกตัวเธอแล้วทำการเช็ดเหงื่อที่เริ่มผุดออกมาตามตัว จากนั้นให้อันหรันขยับไปนอนบนเตียงอีกฝั่งหนึ่ง
ร่างกายที่เริ่มเย็นลงทำให้อันหรันรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก ก่อนจะเผลอหลับไปในที่สุด
ในความฝัน เธอรู้สึกร้อนมากจนเตะผ้าห่มที่คุลมอยู่บนตัวออกไปหลายครั้ง
ลำบากให้ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้เธออยู่อย่างนั้น
ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่ที่ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นห่มผ้าให้เธอ จนเขาเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมา
เขาดึงผ้าห่มออกมาอย่างตัดความรำคาญ ถ้าเธอไม่อยากห่มนักก็ไม่ต้องห่มมันแล้ว
เสื้อนอนของอันหรันก็เปิดขึ้นตาม หน้าท้องอันราบเรียบมีรอยอะไรบางอย่าง ทำให้ฮั่วเทียวหลันเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที ถ้าเขาจำไม่ผิดรอยแบบนี้ น่าจะเป็นรอยที่เกิดจากการตั้งครรภ์
ผู้หญิงคนนี้เคยมีลูกงั้นหรอ
คิดถึงตรงนี้ ฮั่วเทียนหลันก็นึกถึงข้อมูลแต่ก่อนของอันหรัน
เดิมทีฮั่วเทียนหลันยังมองว่าอันหรันดูอ่อนแอ แต่ตอนนี้เธอกลับดูราวกับกำลังหาเรื่อง
เขาทำหน้าดุแล้วมองไปที่อันหรัน ผู้หญิงคนนี้ ปิดบังเรื่องของตัวเองไว้เท่าไหร่กันแน่
เขาเอาผ้าห่มที่ยึดมาจากเธอ ห่มให้กับตัวเอง
เธอร้อนนักไม่ใช่เหรอ งั้นก็นอนหนาวจนแข็งตายไปเลย
แต่เขาก็นอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอยู่อย่างนั้น
ดูเหมือนว่าผู้หญิงข้างๆที่ไข้เพิ่งลดไป กำลังจะหนาวตายและไข้ขึ้นอีกครั้ง
เอาเถอะ ถึงอย่างไรเธอก็อยู่กับฉันมานาน แม้ว่าจะไม่เคยทำประโยชน์อะไรต่อฉันเลย
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ถือว่าเป็นภรรยาของฉัน
ฮั่วเทียนหลันปลอบใจตัวเอง แล้วก็แบ่งผ้าห่มครึ่งหนึ่งห่มลงบนตัวอันหรัน
วันต่อมากว่าอันหรันจะตื่นก็เป็นเวลาใกล้เที่ยง
เธอตื่นนอนทั้งท่างอตัวราวกับกุ้ง ว่ากันว่าคนที่นอนท่านี้มักจะมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ในใจ
ร่างกายของเธออ่อนเพลียมาก ต้องใช้แรงอย่างมากในการที่จะยกตัวเองขึ้นนั่งที่บนเตียง
เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะพบกับกระดาษโน๊ตแปะอยู่
เธอหยิบขึ้นมาดู เป็นฮั่วเทียนหลันที่เขียนเอาไว้:“ยาวางอยู่บนตู้ตรงหัวเตียง กินวันละ 2 ครั้ง ยาต้มฉันให้ป้าDingช่วยต้มให้แล้วไว้ดื่มตอนเที่ยงไม่สบายก็อย่าออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ที่ไหนอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง