โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 267

ฮั่วเทียนหลันตะลึง และอันหรันก็ตะลึงเช่นกัน

เด็กคนนี้ จู่ๆก็ร้องไห้ขึ้นมา!

อันหรันรีบไปปลอบเธอ สักพักเธอถึงหยุดร้อง

ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความหงุดหงิด จ้องมองไปที่เด็กหญิงคนนี้ และคิดหาวิธีแก้ปัญหา

พูดที่่จริง เด็กผู้หญิงคนนี้น่ารักมาก น่ารักจนอดไม่ได้ที่จะกอดเธอ

“แม่จ๋า หนูหิวแล้ว!” เด็กคนนี้ไม่คุ้นชินกับฮั่วเทียนหลัน แต่สำหรับอันหรันแล้วเธอคิดว่าหนูน้อยเป็นคนในครอบครัว

แววตาของฮั่วเทียนหลันมีความสงสัย เขาพูดออกมาว่า “ห้ามเรียกแม่ นั่นไม่ใช่แม่เธอ!”

เด็กคนนั้นเบะปาก น้ำตาซึมที่เบ้าตา มองมาที่อันหรันเหมือนกับว่าจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

อันหรันรีบหยิบอมยิ้มที่เพิ่งซื้อมาจากร้านค้าที่วางอยู่บนโต๊ะ แกะออกมาแล้วใส่ปากของเด็กคนนั้น

อมยิ้มเปรี้ยวๆหวานๆ ทำให้เด็กคนนั้นยิ้มขึ้นมาทันที ถืออมยิ้มแล้วตะโกนออกมาว่า “ แม่จ๋า! แม่จ๋า! แม่จ๋า!”

เธอตะโกนออกมาสามครั้ง ราวกับว่าต้องการทำให้ฮั่วเทียนหลันได้ยิน

อันหรันยิ้มขึ้นมา ลูบไปที่หัวของเด็กคนนั้น เธอเดินไปที่ลิ้นชักแล้วหยิบขนมออกมาอีก

ฮั่วเทียนหลันกำลังถ่ายภาพของเด็กคนนี้ ส่งไปที่หยวนฉีเฉียน ให้เขาหาทางติดต่อพ่อแม่ของเด็ก

อันหรันเปิดซองขนมให้เด็กหญิงคนนี้ ถึงแม้ว่าเธอยังไม่ค่อยแข็งแรง แต่เรื่องแค่นี้ไม่ได้ยากอะไรมาก

เด็กหญิงคนนี้กำลังสนุกอยู่กับการกินขนม อันหรันสังเกตไปที่ตัวเธออย่างละเอียด

เด็กหญิงคนนี้สวยมาก และพ่อแม่ของเธอก็คงดูดีมากเช่นกัน

เด็กคนนี้กินจุมาก ถ้าอันหรันไม่ห้ามเอาไว้ เธอคงกินของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะจนหมด

อันหรันรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเธอกินเยอะเกินไป พ่อแม่ของเธอเลี้ยงไม่ไหวเลยเอาเธอออกมาทิ้ง

แต่หลังจากที่เธอคิดได้ไม่นาน เธอก็มีอีกความคิดหนึ่ง คือการพาเด็กหญิงคนนี้ไปทานข้าวเย็นด้วย

เด็กที่น่ารักขนาดนี้ อยู่ในฝูงชน แน่นอนว่าใครๆก็ต้องชอบเธอ

เล่นมากจนเธอรำคาญ เธอจึงตะโกนออกมาว่าแม่ แล้ววิ่งเข้าไปที่อ้อมกอดของอันหรัน

ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันดูแปลกไป ฮัวเส้าซู่ที่อยู่อีกด้านจึงพูดออกมาว่า “พี่รอง พี่นี่โชคดีจริงๆ! เด็กหญิงคนนี้สวยมากๆ และยังเหลือเด็กที่อยู่ในท้องของพี่สะใภ้อีก พี่ต้องยุ่งมากแน่ๆเลย!”

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่ฮัวเส้าซู่อย่างเคร่งเครียด แล้วถามออกไปว่า “นายอยากจะแต่งงานตอนนี้เลยไหม?”

ฮัวเส้าซู่สะดุ้ง เขารีบก้มหน้าพร้อมกับพูดว่า “ผมผิดไปแล้ว....ผมขอถอนคำพูด”

ทันเหว่ยชอบเด็กคนนี้มาก เด็กหญิงคนนี้ก็ถูกชะตากับทันเหว่ยเหมือนกัน เธอเรียกทันเหว่ยว่าป้า ทำให้ทันเหว่ยถึงกับหมดอารมณ์

มื้อเย็นมื้อนี้ทุกคนทานกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะมีเด็กที่น่ารักเข้ามาร่วมทานด้วย อันหรันจึงทานได้มากกว่าปกติเล็กน้อย

แต่ฮั่วเทียนหลันจิบไวน์แดงไปเพียงไม่กี่อึก

เขามองดูเด็กน้อยหน้าตาประหลาดคนนี้ด้วยความกังวลเล็กน้อย

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ตอนนี้ขึ้นลิฟท์กลับไปยังที่พัก เด็กหญิงเรียกออกมาว่าแม่ และเหมือนกับอันหรันจะยินยอมกับชื่อนี้ จึงอุ้มเธอขึ้นมาด้วยความดีใจ

ฮั่วเทียนหลันจึงอดไม่ได้ที่จะต้องพูดออกมา “เธอดูมีความสุขขนาดนี้ กลับประเทศไปมีลูกสักคนดีไหม?”

อันหรันเก็บสีหน้าของเธอทันที เธอนึกถึงปัญหาสำคัญของเรื่องนี้

แต่ว่าเด็กคนนี้ เหมือนกับอุบัติเหตุเกินผ่านเข้ามาในชีวิตเธอ

ความน่ารักของเธอทำให้เธอนึกถึงลั่นลาน ตอนนี้เธอไม่สามารถวางเด็กคนนี้ลงได้แล้ว

“คุณฮั่ว เด็กคนนี้น่าสงสารเหลือเกิน ให้เธออยู่กับพวกเราก่อนเถอะ! รอพวกเราเจอพ่อแม่ของเธอแล้ว ค่อยเอาเธอ......” น้ำเสียงของอันหรันเต็มไปด้วยความรู้สึกขอร้อง เด็กคนนี้เอาแต่เรียกเธอว่าเธอ นั่นทำให้ใจของเธอจะแทบจะละลาย

ฮั่วเทียนหลันยื่นมือออกมา และพูดกับเด็กคนนั้นว่า “มานี่!”

เด็กหญิงทำเป็นไม่สนใจฮั่วเทียนหลัน เธอนอนนิ่งในอ้อมแขนของอันหรัน

“ถ้าไม่มาฉันจะปล่อยเธอไว้ตรงนี้แหละ!”

ในตอนนี้พวกเขาออกมาจากลิฟท์แล้ว ข้างๆก็คือถังขยะ ฮั่วเทียนหลันทำท่าเหมือนกับว่าอุ้มเด็กทิ้งลงไปให้นั้น

เด็กหญิงกลัวมาก และร้องออกมาเสียงดัง

แต่เสียงนั้นก็ต้องเงียบลง เนื่องจากฮั่วเทียนหลันพูดออกมาด้วยความเย็นชา “ถ้ายังร้องอยู่จะโยนเธอออกไปนอกหน้าต่าง!”

เด็กหญิงน้ำตาซึม เธอมองมาที่อันหรันเพื่อขอความช่วยเหลือ

อันหรันรู้สึกปวดใจ แต่เธอก็รู้ดีว่าถ้าหากเด็กคนนี้ต้องการอยู่ที่นี่ต่อไป เธอจะต้องเอาใจฮั่วเทียนหลัน

ไม่มีทางเลือก เธอทำได้เพียงโน้มตัวไปที่เด็กหญิงและกระซิบข้างหูเบาๆว่า “เด็กน้อย ลงไปให้ลุงอุ้มหน่อย ลุงเขาแค่ทำเป็นดุไปอย่างนั้นแหละ ที่จริงเขารักเด็กจะตาย”

เด็กหญิงกระพริบตา น้ำตาของเธอก็หยดลงมา

อันหรันรู้สึกเจ็บปวดไปถึงหัวใจ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร

เด็กหญิงมองมาที่ อันหรัน และก็มองไปที่ฮั่วเทียนหลัน และเธอก็รู้แล้วว่าเธอควรจะทำอะไรต่อไป

ดังนั้นเธอจึงเช็ดน้ำตา หันตัวไปทางฮั่วเทียนหลัน ยื่นแขนออกเพื่อให้ฮั่วเทียนหลันอุ้มพร้อมพูดว่า “พ่อจ๋า อุ้มหน่อย!”

คำเรียกคำนี้ ทำให้ท่านประธานใหญ่ฮั่วเทียนหลันที่ดูสุขุมอยู่ตลอดเวลาถึงกับทำอะไรไม่ถูก

ยายเด็กคนนี้ เรียกเขาว่าอะไร?

และหลังจากผ่านไปไม่นาน เขาก็เริ่มสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง

ถ้าหากว่าฮั่วเทียนหลันถามพ่อแม่ที่มีลูกว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร พวกเขาก็คงจะตอบกลับมาว่า นี่คือความรักของพ่อ

ฮั่วเทียนหลันอุ้มเด็กหญิงเข้ามาในอ้อมแขน และเด็กคนนั้นก็เอาอกเอาใจฮั่วเทียนหลันพร้อมพูดว่า “พ่ออุ้ม หนูชอบที่สุดเลย....”

อันหรันตกใจ ฮั่วเทียนหลันก็เช่นกัน

ยายเด็กคนนี้ร้ายกาจจริงๆ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย

ฮั่วเทียนหลันอุ้มเด็กหญิงเอาไว้ เขาไม่ได้พูดอะไร ถ้าหากเด็กหญิงขัดขืนเขา เขาก็สามารถจัดการเธอได้

แต่เด็กหญิงกลับทำเหมือนว่าเขาเป็นพ่อของเธอจริงๆ นี่ทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกประหม่า

เขาทำหน้าก้าวร้าว บีบไปที่หน้าของเด็กหญิงพร้อมพูดว่า “ห้ามเรียกว่าพ่อ และก็ห้ามเรียกว่าแม่ ให้เรียกว่าคุณป้ากับคุณลุง.....”

เขายังพูดไม่ทันจบ เด็กหญิงคนนั้นก็พูดออกมาด้วยท่าทางน่าเอ็นดู “พ่อจ๋า!”

ฮั่วเทียนหลันส่งเสียง อ่า ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย

อันหรันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากที่ปรากฏในละครทีวีที่เธอเคยดูมาก่อน

“ต่อให้ฉันต้องอดตายก็ยอม แต่ฉันไม่วันที่จะขอความช่วยเหลือจากคุณ!”

“เห้อ น่ารักจริงๆ....”

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา นั่นทำให้ฮั่วเทียนหลันหันมามองเธอ

“ห้ามจ้องแม่!” เด็กหญิงพูดออกมาเพราะหวงอันหรัน

ฮั่วเทียนหลันบีบไปที่หน้าของเด็กหญิงคนนั้น แต่เขาไม่ได้ออกแรง หลังจากนั้นเขาอุ้มเธอเดินตรงไปที่หน้าต่างระเบียง “เธอพูดอะไรนะ? ตอนนี้ยังจะกล้ากวนฉันอีกไหม? ถ้าไม่เชื่อก็ลองพูดออกมาอีกสิ ฉันจะโยนเธอลงไปเดี๋ยวนี้เลย!”

เด็กหญิงตกใจขึ้นมาทันที และน้ำตาคลอเบ้ามองไปที่อันหรัน

อันหรันก้าวเดินออกมา ยื่นแขนทั้งสองข้างออก พร้อมกับพูดว่า “คุณฮั่ว ทำให้เด็กตกใจจะแย่อยู่แล้ว มานี่เอามาให้ฉัน!”

ฮั่วเทียนหลันไม่ยอมปล่อยมือ และเขามองอันหรันด้วยใบหน้าที่เย็น แต่อันหรันก็สัมผัสได้ถึงแววตาที่อ่อนโยนของเขา

“เธออยู่กับฉันได้ ฉันจะพาเธอไปสวรรค์!”

ฮั่วเทียนหลันไม่ยอมอุ้มเด็กให้ อันหรันจึงเดินไปล้างผลไม้ และส่งลิ้นจี่ให้เด็กหญิงกิน

เด็กหญิงคนนี้กินจุเอามากๆ เธอกินไปหลายสิบชิ้นภายในหนึ่งนาที

อันหรันนึกขึ้นได้ว่ากินลิ้นจี่มากๆอาจจะทำให้ปวดท้อง เธอจึงหยุดให้เด็กหญิงกิน

แต่เด็กหญิงก็ไม่พอใจ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง

แสงไฟในห้องนั่งเล่นที่ส่องลงมาให้ความอบอุ่น อันหรันมองของที่อยู่ในอ้อมแขนของฮั่วเทียนหลัน เขาทะเลาะกับเด็กคนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า จู่ๆเธอก็รู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นของครอบครัวขึ้นมา

ถ้าหากให้อ้อมแขนของเขาเป็นลั่นลานหละก็ มันจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ!

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทำให้ฮั่วเทียนหลันอดละสายตาไปจากเธอไม่ได้

เขารู้สึกถึงบรรยาศตอนนี้ และอดไม่ได้ที่จะมีความสุขไปกับมัน

เห็นได้ว่าอันหรันชอบเด็กคนนี้มาก เขาทั้งสองคนแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว รอภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้น พวกเขาคงต้องกลับไปปรึกษากันสักหน่อย!

ในตอนกลางคืนเด็กหญิงนอนกับอันหรัน ฮั่วเทียนหลันจึงต้องไปนอนอีกห้องหนึ่ง

อันหรันตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่ พบว่าฮั่วเทียนหลันไม่ได้นอนอยู่ด้วย จึงพาเด็กหญิงลุกขึ้นมาทานข้าวเช้า

พอกลับมาถึงห้อง อันหรันถามฮั่วเทียนหลันว่าจะอยู่ทานข้าวกลางวันด้วยกันไหม ฮั่วเทียนหลันตอบว่าอยู่ เธอเขาไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมทำอาหาร

ดังนั้นจึงปล่อยให้ฮั่วเทียนหลันอยู่เล่นกับเด็กหญิง ฮั่วเทียนหลันก็ชอบเด็กหญิงคนนี้อยู่พอสมควรดังนั้นเธอจึงไม่ได้เป็นห่วงอะไร

เมื่ออันหรันออกไปจากห้องนั่งเลน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที

ฮั่วเทียนหลันนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เด็กหญิงค่อยๆปีนขึ้นไปบนโซฟา เธอพยายามไปในที่ที่ห่างไกลจากฮั่วเทียนหลัน

แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอแค่ลุก ยังไม่ทันได้เดิน ก็ได้ยินเสียงไอออกมา

ฮั่วเทียนหลันมองมาที่เด็กหญิงด้วยรอยยิ้มที่ไม่สามารถบรรยายได้ที่มุมปากของเขาและพูดว่า “จะไปไหน?”

“อ่า....อ่า....อ่า....” เด็กหญิงแกล้งทำเป็นบ้า

“พูดภาษาคน!” ฮั่วเทียนหลันไม่มีความนุ่มนวลเหมือนตอนที่อันหรันอยู่ด้วย

“หนู.....หนูอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ” เด็กหญิงพูดคำพูดออกมาเหมือนกับเป็นผู้ใหญ่ ถ้าอันหรันอยู่ข้างๆ เธอจะต้องปกป้องเด็กหญิงคนนี้แน่

แต่ฮั่วเทียนหลันก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า “นั่งดีๆ และตอบคำถามฉันมา”

คนสองคนนั่งมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าอีกฝั่งต้องการอะไร

“หนู หนูจะไปหาแม่!” เด็กหญิงใจกล้า ตัดสินใจที่จะวิ่งออกไป

ฮั่วเทียนหลันก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะห้ามปราม เขาแค่พูดออกมาด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “ไปเถอะ ถ้าเธอสามารถเปิดประตูได้และไปถูกอะนะ”

เด็กหญิงเหลือบมองไปที่ลูกบิดประตูอย่างหมดหวังที่ เธอเอื้อมไม่ถึงแม้ว่าเธอจะเหยียดแขนออกจนสุด เธอก็ได้แต่นั่งพิงโซฟาไปเท่านั้น

“ชื่อ”

“พ่อจ๋า.....”

“เพศ”

“พ่อจ๋า”

“อายุ”

“พ่อจ๋า....”

ฮั่วเทียนหลันแหงนหน้ามอง เขาม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือของเขาและถามออกมาว่า “เคยโดยตีไหม?”

เด็กหญิงมองหน้าฮั่วเทียนหลันด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอย่นเข้าหากัน และเธอก็ร้องไห้ออกมา

ฮั่วเทียนหลันพูดออกมาเบาๆว่า “ต่อให้เธอร้องไห้ให้ตาย แม่ของเธอก็ไม่ออกมา....”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง