โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 269

เสียงของตงเหยียนหายไปไม่นาน หยางหยวนรีบพูดออกไปว่า “ไม่ต้อง เหยียนเหยียน ที่นี่อันตรายมาก ไม่ต้องมา หรงหรงปลอดภัยดี เธอวางใจเถอะ คนพวกนั้นฉันรู้จักพวกเขาดี ถ้าพวกเขารู้ว่าหรงหรงเป็นใคร พวกเขาต้องปฏิบัติกับหรงหรงเป็นอย่างดี!”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ตงเหยียนก็มีสติขึ้นมาบ้าง

เธอสูดหายใจเข้า เธอรู้ว่าเรื่องนี้หยางหยวนจะจัดการได้ดีกว่าเธอ

“งั้นถ้าเจอหรงหรงแล้ว คุณต้องรีบบอกกับฉัน เข้าใจไหม?” ตงเหยียนพูดย้ำท้าย

“เข้าใจแล้ว....ภรรยาที่รัก”

หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ หยางหยวนก็ทุบลงไปที่โต๊ะจนเกิดเสียงดัง จากนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านนอกประตูว่า “นายท่านต้องการอะไรครับ?”

“ไปเรียกหยางหลินมา” หยางหยวนตะโกนออกไปด้วยความโกรธ

ตงเหยียนไม่มีทางรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง และก็ไม่ต้องเดาเลยว่าเธอรู้ได้อย่างไร ต้องเป็นน้อยชายที่เขาเพิ่งไล่ออกไปจากห้องเมื่อสักครู่นี้แน่ๆ

หลังจากเสียงเงียบไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า “นายสองออกไปแล้วครับ”

หยางหยวนรู้สึกเจ็บใจ แต่เขาก็ไม่สามารถให้คนไปเอาตัวหยางหลินกลับมาได้ เขาจึงทำได้แค่โบกมือพร้อมพูดว่า “ฉันรู้แล้ว นายออกไปก่อน!”

ทางลงภูเขา รถฮัมเมอร์หนึ่งคนกำลังวิ่งลง หยางหลินมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ที่มีการโทรเข้าทางวีแชท

“นายท่าน ท่านนี่ช่างรู้ทุกอย่างจริงๆ เมื่อกี้มีคนของท่านหยางมา ให้นายท่านผ่านไป!”

“เมื่อก่อนฉันไม่ใช่คนเก่งแบบนั้นหรอ?”

“ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น....”

หยางหลินวางโทรศัพท์ลง และหยุดที่จะหยอกล้อกับลูกน้อง

ถึงแม้ว่าพี่ใหญ่ไม่ได้สั่ง แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามที่จะให้เขาหา

เขาให้คนไปหาสถานะของผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว แค่รู้ว่าเธอเป็นใคร เขาก็จะไปแย้งเด็กกลับมา

เช้าตรู่ หลังจากที่อันหรันเล่นโยคะเสร็จ อาหารเช้าสไตล์จีนก็เข้ามาเสิร์ฟ

อันหรันจัดอาหารบนโต๊ะเรียบร้อย ก็ไปที่เตียงเพื่อพาชิงหรงไปอาบน้ำ

เด็กคนนี้ยังอยู่ในช่วงวัยนอน

หน้าของชิงหรงแสดงให้เห็นว่าเธอยังนอนไม่พอ แต่เธอก็ต้องถูกปลุกให้ตื่น

แต่หลังจากรอให้เธอตื่นดีแล้ว เธอก็เปล่งเสียงอ้อนๆออกมาเรียกอันหรันว่าแม่

ระหว่างที่กำลังทานข้าวเช้า อันหรันก็กระซิบถามออกมาว่า “คุณฮั่ว ได้ข่าวคราวอะไรบ้างหรือยัง?”

ฮั่วเทียนหลันส่ายหน้า แล้วมองไปที่ชิงหรงพร้อพูดว่า “เธอโตขนาดนี้แล้ว เธอคงจะจำทางกลับบ้านของเธอได้!”

ชิงหรงใจสั่น แต่เธอก็ทำเหมือนว่าไม่ได้ยินอะไร และกินข้าวเช้าต่อไป

เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้เปรียบเสมือนปีศาจ เขามองเธอออกทุกอย่าง

อันหรันมองไปที่ชิงหรงด้วยความเอ็นดู ใบหน้าเล็กๆของเธอที่กำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย

“เธอยังเด็กขนาดนี้ จะจำได้ได้อย่างไร!” อันหรันโต้กลับ

ฮั่วเทียนหลันส่ายหน้า และก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลังจากกินข้าวเสร็จ ชิงหรงตามติดอันหรันอยู่ตลอด

แค่อันหรันหายไปไม่ถึง 10 วินาที เธอก็จะร้องออกมาพร้อมกับตะโกนเรียกแม่

นี่ทำให้ฮั่วเทียนหลันรำคาญมาก เขาจับชิงหรงขึ้นและอุ้มเธอมานั่งบนโซฟา เขาคุกเขาพร้อมพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธอกำลังแกล้งทำตัวน่าสงสาร แต่ฉันจะเตือนเธอเอาไว้ ถ้าเธอยังกล้าตะโกนว่าแม่อีกหละก็ ฉันจะโยนเธอออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้เลย!”

เมื่อเขาพูดเสร็จ ก็ชี้ไปทางหน้าต่าง

ชิงหรงหดตัวลงและตะโกนออกมาเบาๆว่า “พ่อ!”

ฮั่วเทียนหลันผงะไปชั่วขณะ คำว่าพ่อคำนี้ซึมเข้ามาในจิตใต้สำนึกของเขา

เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาลุกขึ้นมาและเดินออกไปที่ระเบียง จากนั้นหยิบบุหรี่ออกมาสูบ

นี่ทำให้ชิงหรงไม่ไปกวนอันหรันแล้ว เธอเห็นว่าฮั่วเทียนหลันท่าทางไม่ค่อยสบายใข จึงขยับแข้งขยับขาของตัวเองออกมา

“พ่อจ๋า พ่อเป็นอะไร?”

“อย่าเรียกฉันว่าพ่อ......”

“พ่อจ๋า หรงหรงทำให้พ่อโกรธใช่ไหม?”

“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่าพ่อ.....”

“พ่อจ๋า พ่อจ๋า พ่อจ๋า.....”

ชิงหรงดิ้นงอแง และตะโกนเรียกฮั่วเทียนหลันว่าพ่อ

ฮั่วเทียนหลันบอกไม่ได้ถึงความรู้สึกในใจของเขาตอนนี้ เขาเอนตัวไปอุ้มชิงหรงขึ้นมาและทำท่าว่าจะโยนเธอออกไป

ชิงหรงเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ถูกทำให้ตกใจขนาดนี้ จึงร้องไห้ออกมา

ชิงหรงพยายามดิ้นออกจากอ้อนแขนของฮั่วเทียนหลัน แต่ฮั่วเทียนหลันก็กอดเธอแน่นขึ้น ทำให้เธอขยับร่างกายไม่ได้

ชิงหรงใช้ทั้งขาและแขนเตะต่อยฮั่วเทียนหลันเพื่อที่จะดิ้นออกมาจากอ้อมแขนของเขา

แต่ว่าเรียวแรงของเธอสำหรับฮั่วเทียนหลันแล้ว ก็เหมือนมีคนมาจั๊กจี้เขาเท่านั้นเอง

“เลวจริงๆ คุณมันเลวจริงๆ!” ชิงหรงตะโกนออกมาเสียงดัง เธอไม่เรียกฮั่วเทียนหลันว่าพ่ออีกแล้ว

ฮั่วเทียนหลันหัวเราะและมองไปที่หน้าของชิงหรงพร้อมพูดว่า “ฉันมันก็แค่คนเลวคนหนึ่ง ทำไมหรอ เธอจะทำอะไรฉันได้?”

ใบหน้าของชิงหรงแดงขึ้น แล้วก็เบะปากเหมือนกับว่ากำลังจะร้องไห้ แต่ฮั่วเทียนหลันทำท่าทีไม่แยแสพร้อมกับพูดออกมาว่า “ไหน ลองร้องไห้ออกมาให้ลุงดูหน่อยสิ!”

ดวงตาของชิงหรงที่เดิมเป็นสีแดงกลับมาอยู่ในสภาพปกติทันที จากนั้นก็ตะโกนเรียกแม่ขึ้นมา “แม่จ๋า แม่จ๋า พ่อแกล้งหนู!”

ฮั่วเทียนหลันถึงกับตกใจ เด็กคนยังสามารถใช้ไม้นี้ได้!

อันหรันได้ยินเสียงโวยวายมาตลอด และเธอก็ไม่ได้คิดจะออกมาดูอยู่แล้ว

ที่จริงแล้วตอนนี้ฮั่วเทียนหลันค่อนข้างเครียด ให้เขาเล่นกับชิงหรงสักพัก มันก็คงให้เขาคลายเครียดลงมาได้บ้าง

แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงชิงหรงตะโกนว่าเขากำลังแกล้งเธออยู่ อันหรันก็ถึงกับนั่งไม่ติด

เธอรีบวิ่งออกมาที่ระเบียง และเห็นเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังทุบตีฮั่วเทียนหลันอยู่

“แม่จ๋า แม่จ๋า.....” หลังจากที่เห็นอันหรัน ชิงหรงก็ตะโกนขึ้นมาดังขึ้นเพื่อให้อันหรันมาช่วย

อันหรันหัวเราะออกมา เธอเดินมาข้างหน้าลูบหัวชิงหรงเบาๆและจูบลงไปที่หน้าผากของเธอ

ชิงหรงผลักตัวออกจากอ้อมแขนของฮั่วเทียนหลัน และทำท่าทางเยาะเย้ย จากนั้นก็เอนตัวไปหาอ้อมแขนของอันหรัน เมื่ออันหรันอุ้มเธอเธอก็พูดออกมาว่า “แม่จ๋า เมื่อกี้นี้ลุงคนนี้แกล้งหนู!”

ฮั่วเทียนหลันตกตะลึง และมีน้ำเสียงของเขาไม่สามารถอธิบายได้ “เมื่อกี้ยังเรียกว่าพ่ออยู่เลยไม่ใช่หรอ?”

ชิงหรงเชิดหน้าขึ้นและทำท่าไม่สนใจ

เห็นผู้ใหญ่กับเด็กทะเลาะกัน ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอันหรันก็หายไป

เธอวางชิงหรงลง ให้ชิงหรงเข้าไปเล่นของเล่นในห้องนั่งเล่น

ของเล่นพวกนี้เป็นของที่ฮั่วเทียนหลันสั่งมาเมื่อวาน และเพิ่งจะส่งมาถึงเมื่อเช้า

เห็นได้ชัดว่าชิงหรงยังไม่อยากไป มองไปที่ดวงตาที่เอื้ออาทรของฮั่วเทียนหลัน ในที่สุดเธอก็ยอมและเดินไปเล่นของเล่น

อันหรันเดินมาข้างหน้า ช่วยจัดเสื้อผ้าของฮั่วเทียนหลันที่เมื่อกี้ถูกชิงหรงทำยับ

ฮั่วเทียนหลันมองชิงหรงที่กำลังกระโดดโลดเต้น ทำให้ใจของเขารู้สึกหวั่นไหวและพูดออกมาว่า “เด็กมันก็น่ารักเหมือนกันนะ!”

อันหรันหยุดนิ่ง และคิดถึงคำพูดของฮั่วเทียนหลัน

เธอส่งเสียง อืม! เบาๆ แล้วพูดว่า “ใช่ ฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน”

“เรียกเธอว่าแม่ เธอจะไม่ชอบได้ไง?ไม่คิดว่าอยู่ที่ปากีสถานได้ไม่นาน เธอแอบไปคุยกับผู้ชายคนอื่นมาหรอ?” ฮั่วเทียนหลันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

แต่คำพูดประโยคสุดท้าย แสดงให้เห็นอย่างชัดว่าฮั่วเทียนหลันไม่พอใจที่ชิงหรงเรียกเขาว่าลุง

อันหรันเม้มปาก พูดออกมาแบบไม่ได้โกรธ “ตอนแรกเธอก็เรียกคุณว่าพ่อ ไม่ใช่ว่าตั้งแต่มาที่นี่คุณออกไปเที่ยวทุกคืนหรอกนะ?”

ฮั่วเทียนหลันถึงกับอึ้ง ผู้หญิงคนนี้ล้อเล่นด้วยไม่ได้แล้ว เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!

อันหรันเล่นของเล่นเป็นเพื่อนชิงหรง ขณะที่ฮั่วเทียนหลันกำลังเตรียมตัวออกไปด้านนอก

เห็นอันหรันและชิงหรงเล่นด้วยกันอย่างกลมเกลียว ตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศของครอบครัว

เขาคิดว่าเมื่อสะสางงานนี้เสร็จ ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องมีลูกแล้ว!

อันหรันและอันหรันกำลังต่อหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ชิงหรงฉลาดมาก เธอต่อไวมากจนอันหรันมองตามไม่ทัน แปปเดี๋ยวก็ต่อเสร็จแล้ว

“บี๊บ บี๊บ หุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ไปกำจัดลุงชั่วร้ายคนนั้น!”

ชิงหรงลืมความเจ็บปวดจากครั้งที่แล้ว ฮั่วเทียนหลันยังไม่ทันออกไป เธอก็พูดมันขึ้นมา

ฮั่วเทียนหลันเดินออกไปได้แค่ก้าวเดียวก็ต้องหันกลับมามองที่ชิงหรง

ชิงหรงตกใจจึงเข้ามาแอบที่ด้านหลังของอันหรัน

อันหรันพูดออกมาว่า “คุณฮั่ว อย่าไปถือสาเด็กมันเลย คุณรีบไปทำงานเถอะ! ฉันอยู่ดูแลชิงหรงที่นี้เอง”

แต่ฮั่วเทียนหลันวางกระเป๋าทำงานลงแล้วพูดออกมาว่า “ฉันไม่รีบ ฉันเพิ่งคิดได้ว่าวันนี้ไม่จำเป็นต้องออกไปแต่เช้า”

ฮั่วเทียนหลันเดินไปนั่งที่โซฟา ชิงหรงแอบมองไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยความกลัว

นี่ทำให้อันหรันทำอะไรไม่ถูกจึงพูดออกมาเบาๆว่า “ไม่ต้องกลัว ลุงเขาแค่หยอกหนูเล่น!”

แต่เมื่อพูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็ไอออกมา

อันหรันมองไปที่ฮั่วเทียนหลัน ในตาของเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจสักเท่าไหร่

เธอยิ้มขึ้นมา ยิ้มตั้งแต่ก่อนพูด รอยยิ้มที่ฮั่วเทียนหลันไม่เคยเชื่อใจ

แต่ว่าตอนนี้ เขารู้สึกหลงรักรอยยิ้มนี้ไปแล้ว

เด็กๆมักจะไม่ค่อยสนใจสิ่งที่อยู่รอบกาย ชิงหรงลืมไปแล้วว่าฮั่วเทียนหลันยังนั่งอยู่ข้างๆ

เธอก่อปราสาทขึ้นมา ชิงหรงพูดออกมาว่า “แม่จ๋า นี่คือบ้านของพวกเรา นี่คือห้องนอนของแม่ นี่คือห้องนอนของหนู หลังจากนี้เราจะอยู่ที่นี่และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข!”

อันหรันมองไปที่ปราสาทแล้วถามออกมาว่า “แล้วคุณพ่อหละจ๊ะ?”

ชิงหรงร้องออกมาเสียงเบาๆ ทำท่าทางออดอ้อน และน่าเอ็นดู

“คุณลุงนิสัยไม่ดีที่อยู่ตรงนั้น พวกเราไม่ต้องการเขาแล้ว!”

ฮั่วเทียนหลันแกล้งทำเป็นอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาได้ยินคำพูดนี่ ทำให้เขามือสั่น

ถ้าหากอันหรันไม่อยู่ด้วย ชิงหรงคงถูกโยนออกนอกหน้าต่างไปแล้ว

เมื่ออันหรันได้ยินคำพูดนี้ เธอก็รีบเอามือมาปิดปากของชิงหรงพร้อมพูดออกมาว่า “เด็กน้อย อย่าพูดแบบนี้สิ เดี๋ยวจะถูกทำโทษเอานะ เข้าใจไหม?”

ชิงหรงเพิ่งจะนึกได้ว่าฮั่วเทียนหลันก็นั่งอยู่ด้วย ตอนนี้เธอกำลังเล่นกับไฟ ทันใดนั้นเธอก็พยักหน้าเหมือนกับไก่ที่กำลังจิกข้าว

เวลาสิบโมงเช้า ฮั่วเทียนหลันรับโทรศัพท์

เขาออกไปรับที่ระเบียง แต่ท่าทีของเขาทำให้อันหรันอดไม่ได้ที่จะออกไปแอบฟัง

เธอได้ยินไม่ค่อยชัด แต่เหมือนกับว่าพวกเขาจะพูดถึงชื่อของชิงหรง

ฮั่วเทียนหลันกลับมาที่ห้องนั่งเล่น อันหรันจึงถามออกไปว่า “คุณฮั่ว เมื่อกี้เกี่ยวข้องกับชิงหรงใช่ไหม?”

ฮั่วเทียนหลันมองมาที่อันหรัน ผู้หญิงคนนี้แอบฟังเขาคุยโทรศัพท์งั้นหรอ?

แต่นี่มันก็เป็นแค่เรื่องเล็ก เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงตอบไปว่า “อืม หลังจากกินข้าวกลางวันแล้วค่อยพาเธอไปส่ง”

“เธอมาจากครอบครัวไหน? เกิดปากีสถานเหรอ?” อันหรันถามออกไปเบาๆ

ฮั่วเทียนหลันส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ไม่ใช่”

เขาตอบสั้นๆอย่างน่าสงสัย และนั่นก็ไม่ได้คลายความสงสัยที่มีของอันหรันเลย เธอจึงถามต่อไปว่า “งั้นก็น่าจะเป็นคนที่มาจากประเทศจีนเหมือนเราใช่ไหม? ตอนที่ไปส่งเธอ ฉันสามารถตามไปด้วยได้ไหม?”

ฮั่วเทียนหลันหันมามองที่อันหรันแล้วถามว่า “แล้วเธอคิดว่าไงหละ?”

อันหรันเม้มปาก และดูเหมือนว่าเธอจะพูดมากเกินไปแล้ว

ถึงแม้ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันจะนิ่งสงบ แต่ในใจของเขารุนแรงเหมือนน้ำที่ไหลอยู่ใต้ท้องทะเล

เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ อันหรันอุ้มเด็กคนนี้มาจากไหนก็ไม่รู้ แต่จู่ๆทำไมถึงกลายมาเป็นคนของตระกูลหยาง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง