หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ อันหรันเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับชิงหรง พร้อมทั้งยัดขนมใส่ในกระเป๋ากางเกงให้เธอจนแน่น
เธอมองเจ้าเด็กตัวน้อยแสนน่ารักด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์
“คนเก่ง กลับไปแล้วหนูต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังนะคะ ห้ามดื้อห้ามซนเข้าใจไหม”
ขอบตาของชิงหรงเริ่มขึ้นสีแดง เธอเองก็ไม่อยากจากอันหรันไปเช่นเดียวกัน : "คุณแม่กลับบ้านกับหนูได้ไหมคะ"
อันหรันหัวเราะเบาๆก่อนลูบใบหน้าเนียนนุ่มของชิงหรง : "หรงหรงมีคุณพ่อคุณแม่ของตัวเอง ฉันเป็นแค่ป้าของหนูนะ!"
อันหรันไม่รู้ว่าทำไมชิงหรงถึงได้ทำเหมือนเธอเป็นแม่ของตน แต่คำว่าแม่ที่ชิงหรงเอ่ยออกมานั้นก็ทำให้หัวใจของอันหรันแทบจะละลายเช่นเดียวกัน และยังทำให้เธอเกิดความรู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นเป็นแม่จริงๆของเด็กน้อยคนนี้
ฮั่วเทียนหลันมือซ้ายถือกระเป๋าและมือขวาจับมือของชิงหรงไว้ก่อนจะเดินจูงมือเธอออกไปข้างนอก
ชิงหรงพยายามยื้อฮั่วเทียนหลันไว้ เท้าเล็กๆของเธอหยั่งลงกับพื้นอย่างไม่ยอมขยับไปไหน
แต่เพราะเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น ถึงอย่างไรแรงของเธอก็ไม่อาจเทียบกับแรงของฮั่วเทียนหลันได้อย่างแน่นอน
ไม่นานก็ถูกฮั่วเทียนหลันดึงลากออกไปจนถึงหน้าประตู อันหรันน้ำตาคลอเบ้ามองไปที่ชิงหรง แม้ว่าเธอจะอยู่กับชิงหรงเป็นระยะเวลาสั้นๆไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็ตาม
แต่เด็กน้อยคนนี้น่ารักมากเหลือเกิน และยังชอบเรียกเธอว่าคุณแม่อีกด้วย จนทำให้อันหรันเกิดความคิดว่าตัวเองนั้นเป็นแม่ของเด็กน้อยคนนี้ขึ้นมาจริงๆ
"คุณชายฮั่วคะ... " เมื่อเห็นว่าฮั่วเทียนหลันกำลังจะออกไปแล้ว อันหรันจึงเอ่ยขึ้น
ฮั่วเทียนหลันหันกลับไปมองอันหรัน พร้อมทั้งรอฟังเธอเอ่ยประโยคถัดมา
อันหรันอ้าปากเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้สนใจสายตาที่มองมาราวกับขอร้องให้เธอช่วยพูดให้ตัวเองได้อยู่ต่อของชิงหรง : "ข้างนอกแดดร้อน กลัวว่าชิงหรงจะถูกแดดทำร้ายผิวเอาได้ เดี๋ยวฉันไปหยิบร่มมาให้นะคะ"
พูดจบอันหรันก็เดินไปหยิบร่มกันแดดที่แขวนอยู่บนผนังลงมา ก่อนจะยื่นให้ฮั่วเทียนหลัน
ชิงหรงขอบตาแดงก่ำ เธอยื่นมือออกไปหาอันหรันอย่างต้องการให้กอด
เมื่อเห็นดังนั้นอันหรันก็ไม่สามารถที่จะทำใจแข็งต่อไปได้ เธอย่อตัวลงนั่งกอดชิงหรงเต็มรัก
"คุณแม่ไปกับหนูเถอะนะ พวกเราไม่ต้องเอาคุณลุงปีศาจคนนี้!" ชิงหรงกระซิบข้างหูอันหรันเสียงเบา
อันหรันเงียบไปในทันที เจ้าเด็กแสบคนนี้ไม่เห็นว่าฮั่วเทียนหลันยังคงยืนอยู่ด้านข้างหรือไงกัน
ฮั่วเทียนหลันยกตัวชิงหรงขึ้นแบกไว้บนไหล่ของเขาแล้วเดินออกไปในทันที
ชิงหรงทั้งร้องไห้ทั้งโวยวายเพราะต้องการลงจากตัวของฮั่วเทียนหลัน อันหรันมองดูสองคนเดินออกไปไกลเรื่อยๆ ชิงหรงเองก็เหมือนจะรู้ว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกับอันหรัน
เธอจึงโบกมือให้กับอันหรัน พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง : "คุณแม่ ลาก่อนนะคะ!"
อันหรันยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะโบกมือตอบซิงหรงไป
ขณะที่ยืนรอลิฟต์ฮั่วเทียนหลันมองเห็นสองคนทำท่าอาลัยอาวรณ์กันอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา
ภายในบ้านหยางมี Audi A8 แบบโลว์คีย์ขับเข้ามาจอดอย่างช้าๆ
บริเวณหน้าบ้านมีคนออกมายืนรอต้อนรับ หยางหลินมองไปที่รถคันนี้อย่างรอคอย
บอดี้การ์ดเดินลงมาจากรถ เปิดประตูด้านหลังก่อนจะพบกับเด็กสาวตัวเล็กน่ารักคนหนึ่ง เธอมองไปยังสถานที่ที่แสนคุ้นเคยก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงอย่างรู้สึกเศร้า
เฮ้อ แผนการหลบหนีคงจบลงซะแล้วล่ะ
เมื่อมองเห็นชิงหรงหยางหลินก็ยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจ เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วยกตัวชิงหรงขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ : "เจ้าเด็กซน หนีไปจากบ้านแบบนี้รู้หรือเปล่าว่าอาเกือบจะโดนพ่อของหนูฆ่าตายแล้ว!”
ชิงหรงถูกหยางหลินกอดรัดแน่นจนรู้สึกอึดอัด มิหนำซ้ำเขายังยื่นหน้ามาแนบใบหน้าเนียนนุ่มของเธออีก
ไรหนวดที่โกนออกไม่หมดราวกับตะแกรงกำลังลากผ่านใบหน้าของชิงหรง
ชิงหรงร้องตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด : "คุณอา คุณอา มันเจ็บ ... "
ฮั่วเทียนหลันลงจากรถ ก่อนจะมองไปที่หยางหลินและบอดี้การ์ดหลายสิบคนที่ยืนรอรับพวกเขาอยู่
M4 ที่อยู่ในมือของพวกเขาถูกแสงแดดส่องจนเกิดแสงประกายนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาไม่ได้ยินดีต้อนรับเขาสักเท่าไหร่นัก
หยางหลินเหลือบมองไปที่ฮั่วเทียนหลันชายหนุ่มผู้มีชื่อเป็นอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ของจีน ก่อนจะลังเลอยู่ครู่นึงแล้วจึงยื่นมืออกมา : "เชิญครับ... "
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องรับแขกพร้อมกัน ทันทีที่ชิงหรงมองเห็นหยางหยวนเธอก็รีบกระโดดลงจากอ้อมแขนของผู้เป็นอาทันที ก่อนจะร้องตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ : "คุณพ่อ คุณพ่อ คุณพ่อ ... "
ชิงหรงทำเหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้สร้างเรื่องอะไรเอาไว้ ทำเอาหยางหยวนที่เดิมทีอยากจะดุด่าว่ากล่าวต้องเก็บคำพูดเหล่านั้นลงไปทันคงัน
เขาขยิบตาให้หยางหลิน จากนั้นหยางหลินจึงก้มหน้าลงพูดกับชิงหรงว่า : "หรงหรงเด็กดี พวกเราขึ้นไปข้างบนกันก่อนเนาะ อาเตรียมของกินอร่อยๆไว้ให้หนูเยอะแยะเลย!"
“ไม่ไป!” ชิงหรงปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด
เธอหยิบขนมทุกชิ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณแม่เตรียมขนมให้หนูตั้งเยอะแล้วเหมือนกัน!"
คุณแม่? หยางหลินชะงักไปชั่วขณะ เขาเงยหน้าขึ้นมองฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะนึกออกว่าคุณแม่ในที่นี้ก็คงจะหมายถึงภรรยาของฮั่วเทียนหลัน
หยางหยวนริมฝีปากกระตุก เขาพยายามควบคุมความต้องการที่อยากจะเปลี่ยนความคิดของชิงหรง
เจ้าเด็กผู้หญิงคนนี้ ไปที่ไหนก็ไม่ลืมที่จะสร้างญาติไปทั่วตลอดเลย
เขากระแอมขึ้น ก่อนจะเอ่ย : "หรงหรง ขึ้นไปข้างบน หนูดูง่วงแล้ว"
ชิงหรงที่อวดขนมกับหยางหลินด้วยท่าทีสดใสเต็มพลังเมื่อกี้ พอได้ยินคำสั่งจากหยางหยวนก็หงอยลงในทันที ขอบตาของเธอเริ่มแดงก่ำ พร้อมกับท่าทางน้อยอกน้อยใจที่ดูน่าสงสารอย่างสุดซึ้ง
ขณะนั้นเองหยางหลินก็ถือโอกาสนี้อุ้มเธอขึ้นก่อนจะพาไปที่ชั้นบน
หยางหยวนเงยหน้าขึ้นสั่งให้คนใช้ชงชาให้กับฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะพูดขึ้น : "เธอยังเด็ก เมื่อวานคงจะก่อเรื่องไว้มากมาย รบกวนคุณแย่เลย"
ฮั่วเทียนหลันยกถ้วยชาขึ้นจิบ ก่อนจะเอ่ย : "ชาหวี่เฉียนนั้นเป็นชาล้ำเลิศ ดื่มเข้าไปแล้วรสชาติยังติดอยู่ในปากพร้อมกับกลิ่นหอมหวานที่ยังหลงเหลืออยู่ ลุงหยางช่างใส่ใจจริงๆ"
หยางหยวนหัวเราะออกมาเล็กน้อย จากนั้นสองคนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาอีก ทำเพียงแค่เผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ
ฮั่วเทียนหลันมองสังเกตหยางหยวน หยางหยวนก็มองสังเกตฮั่วเทียนหลันอยู่อย่างนั้น
ความจริงเขาสนใจฮั่วเทียนหลันมาตลอด อายุเพียงแค่นี้แต่กลับสามารถบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Fahrenheit Group ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
และเขายังมีสายตาที่มองขาดเรื่องการตลาดเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งเลยทีเดียว
ในงานเลี้ยงอาหารค่ำคืนวันก่อน ยังทราบว่าเขาชื่นชอบเหล้าขาวจึงเตรียมไว้ให้ก่อนจะบินไปต่างประเทศอีก
คนแบบนี้ เรียกได้ว่าเก่งกาจและน่ากลัวกว่าคนรุ่นเก่าเยอะเลยล่ะ
ชั้นบน ชิงหรงเล่าถึงความน่ากลัวของฮั่วเทียนหลันให้หยางหลินฟังอย่างออกรสออกเสียง และยังเล่าอีกว่าเขาฉุดตัวเธอมาจากคุณแม่อย่างป่าเถื่อน
เขาทำท่าทางโหดเหี้ยมกับเธอ ทั้งยังจะโยนเธอลงจากหน้าต่างอีกด้วย
คำบอกเล่าของเธอฟังดูเกินกว่าเด็กทั่วไปจะพูดคำเช่นนี้ได้ ไม่เช่นนั้นเธอก็อาจจะเติมแต่งเรื่องที่เล่าออกมาเพิ่มไปด้วย
หยางหยินมุมปากกระตุก จากที่ได้ฟังเธอพูดฮั่วเทียนหลันคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับปีศาจชั่วร้ายเลยสักนิด
และถ้าหากวิเคราะห์แค่เพียงคำพูดของเด็กสาวนั้นก็คงทำให้เขาอยากจะไปฆ่าฮั่วเทียนหลันให้ตายเลยล่ะ
ชิงหรงเล่าไปด้วยกินขนมไปด้วย
จนสุดท้ายก็สำลักขนมจนไอขึ้นเสียงดัง
หยางหลินรีบหยิบน้ำให้ทายาทตัวน้อยดื่มเพื่อแก้อาการสำลัก ก่อนจะตบหลังเธอเบาๆ
หลังจากที่ชิงหรงดื่มน้ำเสร็จ เธอก็เอ่ยขึ้น : "คุณอาต้องช่วยหนูเอาคืนนะคะ โอเคไหม!"
ดวงตากลมโตของชิงหรงจ้องมองมาที่หยางหลิน จนทำให้หยางหลินรู้สึกลำบากใจขึ้นมา
ถึงแม้ในใจเขาจะตอบตกลง แต่เขารู้ดีว่าตัวเองนั้นทำเช่นนั้นไม่ได้
แม้แต่พี่ชายใหญ่ยังไม่กล้าที่จะรับปาก แล้วเขาจะทำได้อย่างไรกันล่ะ
แต่เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของชิงหรงที่มองมาหาตน เขาก็รู้สึกไม่อยากทำร้ายจิตใจคนตัวเล็ก
"โอเค โอเค เดี๋ยวอาไปบอกกับคุณพ่อให้เขาแก้แค้นให้หนู โอเคไหม"
หยางหลินตอบรับ แต่ก็ยังหาทางออกให้ตัวเอง
ชิงหรงเบะปากอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณอาขี้ขลาด!"
หยางหลินที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีก็รีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะพูด : "อาจะไปเอาคืนให้เดี๋ยวนี้เลย!"
ภาพที่เขาคิดคือชิงหรงจะต้องยื้นฉุดตัวเขาไว้ไม่ให้ไป แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
กลับกัน ชิงหรงปรบมือขึ้นอย่างดีใจก่อนจะเอ่ย : "ดีมาก ดีมาก คุณอาสุดยอดที่สุด!"
ตอนนี้หยางหยินกำลังทำตัวไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าควรจะออกไปข้างนอกหรือยืนอยู่ในนี้ต่อไปดี
หลังจากที่เขาเดินออกมาจากห้อง พลันนึกถึงบุคคลที่จะสามารถช่วยจัดการชิงหรงขึ้นมาได้
เขาจึงต่อสายหาอีกคนทันที : "พี่สะใภ้ หรงหรงกลับมาแล้วนะ"
ตงเหยียนเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ : "จริงเหรอ เปิดวิดีโอคอลหน่อยฉันอยากเห็นหรงหรง"
หยางหลินทำตามโดยเร็ว ก่อนจะเดินกลับข้าไปในห้องดังเดิม
ชิงหรงเมื่อเห็นว่าคุณอากลับเข้ามาอีกครั้งก็ไม่พอใจขึ้นมาทันทีเตรียมจะเอ่ยปากต่อว่าเขาเป็นคนหลอกลวง
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นบุคคลในโทรศัพท์มือถือซะก่อน
"คุณแม่!" ชิงหรงยิ้มขึ้นอย่างน่ารักก่อนจะวิ่งเข้าไปหามือถือ
หยางหลินเมื่อเห็นท่าทีของชิงหรงที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะส่งมือถือให้กับเธอ
"คุณแม่ คุณแม่ คุณแม่ ... " ชิงหรงเอ่ยเรียกเสียงหวาน
ราวกับในปากของเธอมีน้ำผึ้งอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ตงเหยียนลืมเรื่องกังวลใจไปได้ในทันที
"ยังจำคุณแม่ได้อยู่เหรอเรา" ตงเหยียนกล่าว
"แน่นอนสิคะ ก็คุณแม่เป็นแม่แท้ๆของหนูนี่นา คนอื่นๆเป็นแค่คุณแม่ปลอมๆเท่านั้นแหละ!" ชิงหรงตะโกนขึ้นอย่างมีความสุข
ตงเหยียนชินกับลูกสาวที่เธอไม่ได้คลอดออกมาเองคนนี้แล้วล่ะ เด็กผู้หญิงคนนี้แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆของเธอ แต่กลับกลายเป็นดวงใจของเธอไปแล้ว
การเกิดมาของชิงหรงนั้นเป็นเรื่องลับที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งหยางหลินเป็นคนพาเธอเข้ามาอยู่ในบ้านหยาง
ตงเหยียนมีปัญหาเรื่องสุขภาพจึงทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ โชคดีที่มีชิงหรงเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกของความเป็นแม่ให้กับเธอ
สองคนแม่ลูกรักกันเป็นอย่างมาก หลังจากที่ชิงหรงโตพอที่จะรู้เรื่องอะไรบ้างแล้ว ตงเหยียนก็ได้บอกความจริงไปว่าเธอไม่ใช่แม่แท้ๆของเจ้าตัว
เพราะตงเหยียนคิดว่าชิงหรงมีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริง
หลังจากนั้นมาชิงหรงก็มีความเคยชินอย่างหนึ่ง
ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เธอจะตามหาคุณแม่
มีครั้งหนึ่งที่แปลกที่สุดคือตอนที่หยางหลินไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ประเทศ M เป็นเวลาหนึ่งเดือน
ชิงหรงออกไปข้างนอกกับผู้บอดี้การ์ด และเธอได้แม่มาทั้งหมดหกคนด้วยกัน
“ถ้าอย่างนั้นชิงหรงจะเชื่อฟังคำพูดของคุณแม่แท้ๆหรือเปล่าล่ะ” หลังจากดีใจที่ได้รู้ว่าชิงหรงกลับมาแล้ว เธอก็เริ่มเข้าสู่ช่วงของการอบรมเจ้าตัวเล็ก
ชิงหรงหดคอลงก่อนจะเอ่ยตอบอย่างเชื่อฟัง
"ต่อไปห้ามวิ่งไปทั่ว เวลาออกไปไหนต้องอยู่ในสายตาของคุณลุงบอดีการ์ด ถ้าหากครั้งหน้าหายไปอีกจะไม่อนุญาตให้ออกไปข้างนอกกับคุณพ่อแล้ว โอเคไหมคะ "
ตงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน แต่ทุกประโยคที่กล่าวออกมานั้นกลับเต็มไปด้วยคำสั่งห้าม
ชิงหรงตอบรับด้วยท่าทีน้อยใจ แต่การแสร้งทำตัวน่าสงสารของเธอนั้นถูกตงเหยียนมองข้ามอย่างไม่สนใจ
สองแม่ลูกคุยกันอีกสักพัก ตงเหยียนก็ต้องวางสายไปเนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ
ฮั่วเทียนหลันมองสังเกตห้องรับแขกของบ้านตระกูลหยาง ภายในห้องนั้นตกแต่งตามแบบฉบับของยุคฮั่นและยุคถังอย่างดูหรูหรา
ภาพที่แขวนบนผนัง ถ้าหากเขามองไม่ผิดน่าจะเป็นภาพวาดของใครบางคนเมื่อพันปีก่อน
ภาพวาดนี้ถูกนำมาประมูลขายที่ลอนดอนเมื่อสามปีก่อน ในราคาสูงถึง 800 ล้านปอนด์และมันถูกซื้อโดยบุคคลลึกลับคนหนึ่ง
และในตอนนี้ก็ทำให้ทราบแล้วว่าผู้ซื้อลึกลับคนนั้นก็คือตระกูลหยางนั่นเอง
ชุดเครื่องดื่มน้ำชาสามสีของยุคราชวงศ์ถัง เฟอร์นิเจอร์นานมู่สีทอง อีกทั้งพื้นห้องที่ถูกตกแต่งด้วยไม้มะฮอกกานีและไม้กฤษณาวางสลับกัน
ทุกๆจุดล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลหยาง
หยางหยวนยกชาขึ้นมาจิบ ก่อนจะเอ่ย : "คุณฮั่วมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองเช่นนี้ คงมีเรื่องอื่นที่อยากคุยด้วยใช่ไหม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง