โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 270

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ อันหรันเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับชิงหรง พร้อมทั้งยัดขนมใส่ในกระเป๋ากางเกงให้เธอจนแน่น

เธอมองเจ้าเด็กตัวน้อยแสนน่ารักด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์

“คนเก่ง กลับไปแล้วหนูต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังนะคะ ห้ามดื้อห้ามซนเข้าใจไหม”

ขอบตาของชิงหรงเริ่มขึ้นสีแดง เธอเองก็ไม่อยากจากอันหรันไปเช่นเดียวกัน : "คุณแม่กลับบ้านกับหนูได้ไหมคะ"

อันหรันหัวเราะเบาๆก่อนลูบใบหน้าเนียนนุ่มของชิงหรง : "หรงหรงมีคุณพ่อคุณแม่ของตัวเอง ฉันเป็นแค่ป้าของหนูนะ!"

อันหรันไม่รู้ว่าทำไมชิงหรงถึงได้ทำเหมือนเธอเป็นแม่ของตน แต่คำว่าแม่ที่ชิงหรงเอ่ยออกมานั้นก็ทำให้หัวใจของอันหรันแทบจะละลายเช่นเดียวกัน และยังทำให้เธอเกิดความรู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นเป็นแม่จริงๆของเด็กน้อยคนนี้

ฮั่วเทียนหลันมือซ้ายถือกระเป๋าและมือขวาจับมือของชิงหรงไว้ก่อนจะเดินจูงมือเธอออกไปข้างนอก

ชิงหรงพยายามยื้อฮั่วเทียนหลันไว้ เท้าเล็กๆของเธอหยั่งลงกับพื้นอย่างไม่ยอมขยับไปไหน

แต่เพราะเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น ถึงอย่างไรแรงของเธอก็ไม่อาจเทียบกับแรงของฮั่วเทียนหลันได้อย่างแน่นอน

ไม่นานก็ถูกฮั่วเทียนหลันดึงลากออกไปจนถึงหน้าประตู อันหรันน้ำตาคลอเบ้ามองไปที่ชิงหรง แม้ว่าเธอจะอยู่กับชิงหรงเป็นระยะเวลาสั้นๆไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็ตาม

แต่เด็กน้อยคนนี้น่ารักมากเหลือเกิน และยังชอบเรียกเธอว่าคุณแม่อีกด้วย จนทำให้อันหรันเกิดความคิดว่าตัวเองนั้นเป็นแม่ของเด็กน้อยคนนี้ขึ้นมาจริงๆ

"คุณชายฮั่วคะ... " เมื่อเห็นว่าฮั่วเทียนหลันกำลังจะออกไปแล้ว อันหรันจึงเอ่ยขึ้น

ฮั่วเทียนหลันหันกลับไปมองอันหรัน พร้อมทั้งรอฟังเธอเอ่ยประโยคถัดมา

อันหรันอ้าปากเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้สนใจสายตาที่มองมาราวกับขอร้องให้เธอช่วยพูดให้ตัวเองได้อยู่ต่อของชิงหรง : "ข้างนอกแดดร้อน กลัวว่าชิงหรงจะถูกแดดทำร้ายผิวเอาได้ เดี๋ยวฉันไปหยิบร่มมาให้นะคะ"

พูดจบอันหรันก็เดินไปหยิบร่มกันแดดที่แขวนอยู่บนผนังลงมา ก่อนจะยื่นให้ฮั่วเทียนหลัน

ชิงหรงขอบตาแดงก่ำ เธอยื่นมือออกไปหาอันหรันอย่างต้องการให้กอด

เมื่อเห็นดังนั้นอันหรันก็ไม่สามารถที่จะทำใจแข็งต่อไปได้ เธอย่อตัวลงนั่งกอดชิงหรงเต็มรัก

"คุณแม่ไปกับหนูเถอะนะ พวกเราไม่ต้องเอาคุณลุงปีศาจคนนี้!" ชิงหรงกระซิบข้างหูอันหรันเสียงเบา

อันหรันเงียบไปในทันที เจ้าเด็กแสบคนนี้ไม่เห็นว่าฮั่วเทียนหลันยังคงยืนอยู่ด้านข้างหรือไงกัน

ฮั่วเทียนหลันยกตัวชิงหรงขึ้นแบกไว้บนไหล่ของเขาแล้วเดินออกไปในทันที

ชิงหรงทั้งร้องไห้ทั้งโวยวายเพราะต้องการลงจากตัวของฮั่วเทียนหลัน อันหรันมองดูสองคนเดินออกไปไกลเรื่อยๆ ชิงหรงเองก็เหมือนจะรู้ว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกับอันหรัน

เธอจึงโบกมือให้กับอันหรัน พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง : "คุณแม่ ลาก่อนนะคะ!"

อันหรันยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะโบกมือตอบซิงหรงไป

ขณะที่ยืนรอลิฟต์ฮั่วเทียนหลันมองเห็นสองคนทำท่าอาลัยอาวรณ์กันอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา

ภายในบ้านหยางมี Audi A8 แบบโลว์คีย์ขับเข้ามาจอดอย่างช้าๆ

บริเวณหน้าบ้านมีคนออกมายืนรอต้อนรับ หยางหลินมองไปที่รถคันนี้อย่างรอคอย

บอดี้การ์ดเดินลงมาจากรถ เปิดประตูด้านหลังก่อนจะพบกับเด็กสาวตัวเล็กน่ารักคนหนึ่ง เธอมองไปยังสถานที่ที่แสนคุ้นเคยก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงอย่างรู้สึกเศร้า

เฮ้อ แผนการหลบหนีคงจบลงซะแล้วล่ะ

เมื่อมองเห็นชิงหรงหยางหลินก็ยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจ เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วยกตัวชิงหรงขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ : "เจ้าเด็กซน หนีไปจากบ้านแบบนี้รู้หรือเปล่าว่าอาเกือบจะโดนพ่อของหนูฆ่าตายแล้ว!”

ชิงหรงถูกหยางหลินกอดรัดแน่นจนรู้สึกอึดอัด มิหนำซ้ำเขายังยื่นหน้ามาแนบใบหน้าเนียนนุ่มของเธออีก

ไรหนวดที่โกนออกไม่หมดราวกับตะแกรงกำลังลากผ่านใบหน้าของชิงหรง

ชิงหรงร้องตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด : "คุณอา คุณอา มันเจ็บ ... "

ฮั่วเทียนหลันลงจากรถ ก่อนจะมองไปที่หยางหลินและบอดี้การ์ดหลายสิบคนที่ยืนรอรับพวกเขาอยู่

M4 ที่อยู่ในมือของพวกเขาถูกแสงแดดส่องจนเกิดแสงประกายนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาไม่ได้ยินดีต้อนรับเขาสักเท่าไหร่นัก

หยางหลินเหลือบมองไปที่ฮั่วเทียนหลันชายหนุ่มผู้มีชื่อเป็นอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ของจีน ก่อนจะลังเลอยู่ครู่นึงแล้วจึงยื่นมืออกมา : "เชิญครับ... "

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องรับแขกพร้อมกัน ทันทีที่ชิงหรงมองเห็นหยางหยวนเธอก็รีบกระโดดลงจากอ้อมแขนของผู้เป็นอาทันที ก่อนจะร้องตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ : "คุณพ่อ คุณพ่อ คุณพ่อ ... "

ชิงหรงทำเหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้สร้างเรื่องอะไรเอาไว้ ทำเอาหยางหยวนที่เดิมทีอยากจะดุด่าว่ากล่าวต้องเก็บคำพูดเหล่านั้นลงไปทันคงัน

เขาขยิบตาให้หยางหลิน จากนั้นหยางหลินจึงก้มหน้าลงพูดกับชิงหรงว่า : "หรงหรงเด็กดี พวกเราขึ้นไปข้างบนกันก่อนเนาะ อาเตรียมของกินอร่อยๆไว้ให้หนูเยอะแยะเลย!"

“ไม่ไป!” ชิงหรงปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด

เธอหยิบขนมทุกชิ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณแม่เตรียมขนมให้หนูตั้งเยอะแล้วเหมือนกัน!"

คุณแม่? หยางหลินชะงักไปชั่วขณะ เขาเงยหน้าขึ้นมองฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะนึกออกว่าคุณแม่ในที่นี้ก็คงจะหมายถึงภรรยาของฮั่วเทียนหลัน

หยางหยวนริมฝีปากกระตุก เขาพยายามควบคุมความต้องการที่อยากจะเปลี่ยนความคิดของชิงหรง

เจ้าเด็กผู้หญิงคนนี้ ไปที่ไหนก็ไม่ลืมที่จะสร้างญาติไปทั่วตลอดเลย

เขากระแอมขึ้น ก่อนจะเอ่ย : "หรงหรง ขึ้นไปข้างบน หนูดูง่วงแล้ว"

ชิงหรงที่อวดขนมกับหยางหลินด้วยท่าทีสดใสเต็มพลังเมื่อกี้ พอได้ยินคำสั่งจากหยางหยวนก็หงอยลงในทันที ขอบตาของเธอเริ่มแดงก่ำ พร้อมกับท่าทางน้อยอกน้อยใจที่ดูน่าสงสารอย่างสุดซึ้ง

ขณะนั้นเองหยางหลินก็ถือโอกาสนี้อุ้มเธอขึ้นก่อนจะพาไปที่ชั้นบน

หยางหยวนเงยหน้าขึ้นสั่งให้คนใช้ชงชาให้กับฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะพูดขึ้น : "เธอยังเด็ก เมื่อวานคงจะก่อเรื่องไว้มากมาย รบกวนคุณแย่เลย"

ฮั่วเทียนหลันยกถ้วยชาขึ้นจิบ ก่อนจะเอ่ย : "ชาหวี่เฉียนนั้นเป็นชาล้ำเลิศ ดื่มเข้าไปแล้วรสชาติยังติดอยู่ในปากพร้อมกับกลิ่นหอมหวานที่ยังหลงเหลืออยู่ ลุงหยางช่างใส่ใจจริงๆ"

หยางหยวนหัวเราะออกมาเล็กน้อย จากนั้นสองคนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาอีก ทำเพียงแค่เผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ

ฮั่วเทียนหลันมองสังเกตหยางหยวน หยางหยวนก็มองสังเกตฮั่วเทียนหลันอยู่อย่างนั้น

ความจริงเขาสนใจฮั่วเทียนหลันมาตลอด อายุเพียงแค่นี้แต่กลับสามารถบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Fahrenheit Group ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

และเขายังมีสายตาที่มองขาดเรื่องการตลาดเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งเลยทีเดียว

ในงานเลี้ยงอาหารค่ำคืนวันก่อน ยังทราบว่าเขาชื่นชอบเหล้าขาวจึงเตรียมไว้ให้ก่อนจะบินไปต่างประเทศอีก

คนแบบนี้ เรียกได้ว่าเก่งกาจและน่ากลัวกว่าคนรุ่นเก่าเยอะเลยล่ะ

ชั้นบน ชิงหรงเล่าถึงความน่ากลัวของฮั่วเทียนหลันให้หยางหลินฟังอย่างออกรสออกเสียง และยังเล่าอีกว่าเขาฉุดตัวเธอมาจากคุณแม่อย่างป่าเถื่อน

เขาทำท่าทางโหดเหี้ยมกับเธอ ทั้งยังจะโยนเธอลงจากหน้าต่างอีกด้วย

คำบอกเล่าของเธอฟังดูเกินกว่าเด็กทั่วไปจะพูดคำเช่นนี้ได้ ไม่เช่นนั้นเธอก็อาจจะเติมแต่งเรื่องที่เล่าออกมาเพิ่มไปด้วย

หยางหยินมุมปากกระตุก จากที่ได้ฟังเธอพูดฮั่วเทียนหลันคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับปีศาจชั่วร้ายเลยสักนิด

และถ้าหากวิเคราะห์แค่เพียงคำพูดของเด็กสาวนั้นก็คงทำให้เขาอยากจะไปฆ่าฮั่วเทียนหลันให้ตายเลยล่ะ

ชิงหรงเล่าไปด้วยกินขนมไปด้วย

จนสุดท้ายก็สำลักขนมจนไอขึ้นเสียงดัง

หยางหลินรีบหยิบน้ำให้ทายาทตัวน้อยดื่มเพื่อแก้อาการสำลัก ก่อนจะตบหลังเธอเบาๆ

หลังจากที่ชิงหรงดื่มน้ำเสร็จ เธอก็เอ่ยขึ้น : "คุณอาต้องช่วยหนูเอาคืนนะคะ โอเคไหม!"

ดวงตากลมโตของชิงหรงจ้องมองมาที่หยางหลิน จนทำให้หยางหลินรู้สึกลำบากใจขึ้นมา

ถึงแม้ในใจเขาจะตอบตกลง แต่เขารู้ดีว่าตัวเองนั้นทำเช่นนั้นไม่ได้

แม้แต่พี่ชายใหญ่ยังไม่กล้าที่จะรับปาก แล้วเขาจะทำได้อย่างไรกันล่ะ

แต่เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของชิงหรงที่มองมาหาตน เขาก็รู้สึกไม่อยากทำร้ายจิตใจคนตัวเล็ก

"โอเค โอเค เดี๋ยวอาไปบอกกับคุณพ่อให้เขาแก้แค้นให้หนู โอเคไหม"

หยางหลินตอบรับ แต่ก็ยังหาทางออกให้ตัวเอง

ชิงหรงเบะปากอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "คุณอาขี้ขลาด!"

หยางหลินที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีก็รีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะพูด : "อาจะไปเอาคืนให้เดี๋ยวนี้เลย!"

ภาพที่เขาคิดคือชิงหรงจะต้องยื้นฉุดตัวเขาไว้ไม่ให้ไป แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

กลับกัน ชิงหรงปรบมือขึ้นอย่างดีใจก่อนจะเอ่ย : "ดีมาก ดีมาก คุณอาสุดยอดที่สุด!"

ตอนนี้หยางหยินกำลังทำตัวไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าควรจะออกไปข้างนอกหรือยืนอยู่ในนี้ต่อไปดี

หลังจากที่เขาเดินออกมาจากห้อง พลันนึกถึงบุคคลที่จะสามารถช่วยจัดการชิงหรงขึ้นมาได้

เขาจึงต่อสายหาอีกคนทันที : "พี่สะใภ้ หรงหรงกลับมาแล้วนะ"

ตงเหยียนเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ : "จริงเหรอ เปิดวิดีโอคอลหน่อยฉันอยากเห็นหรงหรง"

หยางหลินทำตามโดยเร็ว ก่อนจะเดินกลับข้าไปในห้องดังเดิม

ชิงหรงเมื่อเห็นว่าคุณอากลับเข้ามาอีกครั้งก็ไม่พอใจขึ้นมาทันทีเตรียมจะเอ่ยปากต่อว่าเขาเป็นคนหลอกลวง

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นบุคคลในโทรศัพท์มือถือซะก่อน

"คุณแม่!" ชิงหรงยิ้มขึ้นอย่างน่ารักก่อนจะวิ่งเข้าไปหามือถือ

หยางหลินเมื่อเห็นท่าทีของชิงหรงที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะส่งมือถือให้กับเธอ

"คุณแม่ คุณแม่ คุณแม่ ... " ชิงหรงเอ่ยเรียกเสียงหวาน

ราวกับในปากของเธอมีน้ำผึ้งอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ตงเหยียนลืมเรื่องกังวลใจไปได้ในทันที

"ยังจำคุณแม่ได้อยู่เหรอเรา" ตงเหยียนกล่าว

"แน่นอนสิคะ ก็คุณแม่เป็นแม่แท้ๆของหนูนี่นา คนอื่นๆเป็นแค่คุณแม่ปลอมๆเท่านั้นแหละ!" ชิงหรงตะโกนขึ้นอย่างมีความสุข

ตงเหยียนชินกับลูกสาวที่เธอไม่ได้คลอดออกมาเองคนนี้แล้วล่ะ เด็กผู้หญิงคนนี้แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆของเธอ แต่กลับกลายเป็นดวงใจของเธอไปแล้ว

การเกิดมาของชิงหรงนั้นเป็นเรื่องลับที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งหยางหลินเป็นคนพาเธอเข้ามาอยู่ในบ้านหยาง

ตงเหยียนมีปัญหาเรื่องสุขภาพจึงทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ โชคดีที่มีชิงหรงเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกของความเป็นแม่ให้กับเธอ

สองคนแม่ลูกรักกันเป็นอย่างมาก หลังจากที่ชิงหรงโตพอที่จะรู้เรื่องอะไรบ้างแล้ว ตงเหยียนก็ได้บอกความจริงไปว่าเธอไม่ใช่แม่แท้ๆของเจ้าตัว

เพราะตงเหยียนคิดว่าชิงหรงมีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริง

หลังจากนั้นมาชิงหรงก็มีความเคยชินอย่างหนึ่ง

ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เธอจะตามหาคุณแม่

มีครั้งหนึ่งที่แปลกที่สุดคือตอนที่หยางหลินไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ประเทศ M เป็นเวลาหนึ่งเดือน

ชิงหรงออกไปข้างนอกกับผู้บอดี้การ์ด และเธอได้แม่มาทั้งหมดหกคนด้วยกัน

“ถ้าอย่างนั้นชิงหรงจะเชื่อฟังคำพูดของคุณแม่แท้ๆหรือเปล่าล่ะ” หลังจากดีใจที่ได้รู้ว่าชิงหรงกลับมาแล้ว เธอก็เริ่มเข้าสู่ช่วงของการอบรมเจ้าตัวเล็ก

ชิงหรงหดคอลงก่อนจะเอ่ยตอบอย่างเชื่อฟัง

"ต่อไปห้ามวิ่งไปทั่ว เวลาออกไปไหนต้องอยู่ในสายตาของคุณลุงบอดีการ์ด ถ้าหากครั้งหน้าหายไปอีกจะไม่อนุญาตให้ออกไปข้างนอกกับคุณพ่อแล้ว โอเคไหมคะ "

ตงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน แต่ทุกประโยคที่กล่าวออกมานั้นกลับเต็มไปด้วยคำสั่งห้าม

ชิงหรงตอบรับด้วยท่าทีน้อยใจ แต่การแสร้งทำตัวน่าสงสารของเธอนั้นถูกตงเหยียนมองข้ามอย่างไม่สนใจ

สองแม่ลูกคุยกันอีกสักพัก ตงเหยียนก็ต้องวางสายไปเนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ

ฮั่วเทียนหลันมองสังเกตห้องรับแขกของบ้านตระกูลหยาง ภายในห้องนั้นตกแต่งตามแบบฉบับของยุคฮั่นและยุคถังอย่างดูหรูหรา

ภาพที่แขวนบนผนัง ถ้าหากเขามองไม่ผิดน่าจะเป็นภาพวาดของใครบางคนเมื่อพันปีก่อน

ภาพวาดนี้ถูกนำมาประมูลขายที่ลอนดอนเมื่อสามปีก่อน ในราคาสูงถึง 800 ล้านปอนด์และมันถูกซื้อโดยบุคคลลึกลับคนหนึ่ง

และในตอนนี้ก็ทำให้ทราบแล้วว่าผู้ซื้อลึกลับคนนั้นก็คือตระกูลหยางนั่นเอง

ชุดเครื่องดื่มน้ำชาสามสีของยุคราชวงศ์ถัง เฟอร์นิเจอร์นานมู่สีทอง อีกทั้งพื้นห้องที่ถูกตกแต่งด้วยไม้มะฮอกกานีและไม้กฤษณาวางสลับกัน

ทุกๆจุดล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลหยาง

หยางหยวนยกชาขึ้นมาจิบ ก่อนจะเอ่ย : "คุณฮั่วมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองเช่นนี้ คงมีเรื่องอื่นที่อยากคุยด้วยใช่ไหม"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง