ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นไปหยิบชาในตู้เย็น แต่กลับพบอาหารหลากหลายอยู่ในนี้
แม้จะมาต่างประเทศ แต่อันหรันก็ยังจัดเตรียมทุกอย่างมาอย่างครบครัน
เขายัดชากลับเข้าที่เดิม ตัดสินใจเตรียมทำอาหารมื้อใหญ่ให้กับอันหรันในวันนี้
เรื่องของการทำอาหารนั้นเป็นเรื่องที่ฝึกแล้วทำได้ไปตลอด ถึงแม้จะไม่ได้ทำมานานหลายปีแต่ความสามารถนั้นก็จะยังคงมีเหลืออยู่
เครื่องปรุงรสที่ฮั่วเทียนหลันสั่งให้คนไปซื้อนั้นถูกนำมาส่งอย่างรวดเร็ว
เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นทางโรงแรมแห่งชาติได้จัดเตรียมตู้สำหรับทำอาหารทั้งชุดไว้ในห้องเอนกประสงค์ของตัวห้องเรียบร้อย
เข้าพักในโรงแรมระดับนี้แต่ยังจะทำอาหารเอง ทำให้พนักงานของโรงแรมประหลาดใจมากไม่น้อย
หลังจากล้างหั่นจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮั่วเทียนหลันก็หยิบเนื้อขึ้นมาเตรียมจะทำเนื้อสัตว์ตุ๋น
การหั่นเนื้อนั้น
ต้องอาศัยฝีมือมากเช่นกัน
เขาหั่นมาหลายชิ้นต่อกันยังดูเบี้ยวไม่สมส่วนกันเลยสักชิ้น
ทำให้เขาผู้ซึ่งได้รับการยกย่องจากคนทั้งครอบครัวในเรื่องทักษะการทำอาหารเป็นยอด ถึงกลับต้องรู้สึกขายขี้หน้าขึ้นมาทันที
สงสัยมีดเล่มนี้จะไม่ค่อยคม เขาคิดในใจก่อนจะเปลี่ยนมีดเล่มใหม่
ผลออกมาดีขึ้นเล็กน้อย ความชำนาญคงจะสำคัญกว่าการเปลี่ยนมีดล่ะมั้ง...
อันหรันเปิดประตูออกมาก่อนจะถูกกลิ่นหอมยั่วยวนของอาหารแตะเข้าที่จมูก
กลิ่นแบบนี้, ไก่ผัดเผ็ด, เนื้อสัตว์ตุ๋น, ผัดแห้งของหายากจากภูเขา...
กลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่วทั้งห้อง จนอันหรันรู้สึกว่าวิญญาณของเธอกำลังจะถูกอาหารเหล่านี้ดึงดูดไปหมด
เธอก้าวไปข้างหน้าพร้อมทั้งหยิบตะเกียบขึ้นมาเตรียมจะคีบขึ้นมาชิมสักชิ้น วันนี้เธอออกไปดื่มกาแฟกับทันเหว่ยมา และได้เรียนรู้วิธีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้จากทันเหว่ยมาบ้าง
และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอได้ดื่มกาแฟเพียงไม่กี่คำ และไม่ได้แตะขนมหวานใดๆเลยสักชิ้น
แต่ยังไม่ทันได้ชิมเนื้อตุ๋น ก็มีเสียงกระแอมไอดังขึ้นมาก่อน
อันหรันเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบกับฮั่วเทียนหลันที่สวมผ้ากันเปื้อนอยู่
“คุณ คุณชายฮั่ว... ” ความรู้สึกราวกับถูกจับได้คาหนังคาเขาเช่นนี้ ทำให้อันหรันรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ฮั่วเทียนหลันมองดูอันหรัน ผู้หญิงคนนี้ช่างทำตัวตามสบายเสียจริง ไม่รู้หรือไงว่าควรจะล้างมือแล้วไปช่วยเขาก่อน "หิวเหรอ" เขาถาม
อันหรันอืมตอบกลับไปอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว : "คุณชายฮั่วมานั่งทานเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันเป็นคนทำอาหารเอง"
แต่ฮั่วเทียนหลันกลับส่ายหน้าปฏิเสธ : "เธอกินต่อไปเถอะ!"
พูดจบเขาก็ปิดประตูครัวชั่วคราวลงทันที
ไม่นานเขาก็ตะโกนเรียกอันหรันให้เดินไปยกอาหารมาวางบนโต๊ะ
อาหารหลากหลายชนิดถูกทำออกมาอย่างดูดีและมีรสชาติเอร็ดอร่อยเป็นอย่างมาก
อันหรันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฮั่วเทียนหลันจะมีทักษะการทำอาหารที่ดีเลิศถึงเพียงนี้
หลังจากทำเมนูที่หกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮั่วเทียนหลันจึงถอดผ้ากันเปื้อนบนตัวออก ก่อนอันหรันจะเป็นคนรับมันมาแล้วนำไปแขวนเก็บไว้บนผนัง
ที่นั่งของฮั่วเทียนหลันก็ถูกอันหรันดึงเก้าอี้ออกมาให้เรียบร้อย
เมื่อเขานั่งลงบนที่แล้ว อันหรันก็รีบรินไวน์แดงลงครึ่งแก้วอย่างขะมักเขม้น
สองคนมองหน้ากันเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวเงียบลงไปพักหนึ่ง ก่อนฮั่วเทียนหลันจะยกแก้วขึ้นมาให้อันหรันชนด้วย
“ลำบากคุณชายฮั่วแย่เลยค่ะ!”
หลังจากยกไวน์แดงขึ้นมาจิบ อันหรันก็ลงมือลิ้มลองรสชาติอาหารแสนอร่อยทันที
ทุกเมนูที่กินไปเธอก็เอ่ยชมขึ้นมาอย่างไม่ขาดปาก
แต่เมื่อมาถึงเมนูเนื้อสัตว์ตุ๋นเมนูแรกที่มีเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กอยู่เต็มชาม อันหรันก็เกิดนึกคำชมขึ้นมาไม่ทัน
ฮั่วเทียนหลันสายตาล่อกแล่กเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย : "อันนี่ เป็นเพราะฉันไม่ได้ทำอาหารมานาน ดังนั้นฝีมือในการหั่นก็เลย... "
อันหรันยิ้มขึ้นก่อนจะเอ่ย : "สวยไม่สวยไม่สำคัญหรอก แค่รสชาติอร่อยก็พอแล้วค่ะ!"
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พนักงานของโรงแรมก็เข้ามาทำหน้าที่ทำความสะอาดต่อทันที
อันหรันเดินจับมือกับฮั่วเทียนหลันออกไปเดินเล่นบริเวณโรงแรมก่อนจะกลับเข้ามาในห้อง
เมื่อกินอิ่มและร่างกายอบอุ่นก็เริ่มเกิดอารมณ์ตัณหา
หลังจากอันหรันอาบน้ำเสร็จแล้วเธอก็มานั่งลงบนเตียง ก่อนหยิบหนังสือที่พึ่งซื้อจากร้านขึ้นมาอ่าน
แต่ฮั่วเทียนหลันที่พึ่งชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยนั้นกลับล้มตัวลงนอนทับอันหรันไว้
เรื่องเช่นนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับพวกเขา และอันหรันก็ไม่ได้คัดค้านเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
เขาไล่จูบไปทั่วใบหน้าของอันหรัน ก่อนจะเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆจนถึงจุดอ่อนไหว ทำให้อันหรันรีบยกมือห้าม
“คุณชายฮั่วคะ แบบนี้ไม่ได้... ”
อันหรันถูกฮั่วเทียนหลันกระตุ้นจนเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เธอยังคงไม่อาจปล่อยให้เขาทำเรื่องอย่างว่าได้
เพราะตำแหน่งนั้นมันช่างน่าอายสิ้นดี
มือของฮั่วเทียนหลันขยี้ไปที่จุดอ่อนไหวของเธอ
อันหรันตัวหด มือของเธอยังคงจับตัวฮั่วเทียนหลันไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา : "ได้โปรด ... "
เมื่อเห็นหญิงสาวขอร้องอ้อนวอนด้วยแววตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำสีใส ฮั่วเทียนหลันจึงปล่อยมือลง ก่อนจะขึ้นไปคล่อมเธอไว้ทั้งตัว : "ตามคำขอ"
ภายในห้องแห่งความโรแมนติกนั้น อันหรันจำแทบไม่ได้เลยว่าถูกฮั่วเทียนหลันพาขึ้นสวรรค์ไปทั้งหมดกี่รอบ
เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ทำการเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว
การใช้ชีวิตเช่นนี้ทำให้อันหรันเริ่มมีความรู้สึกหลงใหล
ถ้าหากได้อยู่ที่รัฐปาเช่นนี้ตลอดไปก็คงเป็นเรื่องที่ดีมากเหมือนกัน
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ อันหรันที่เตรียมจะออกไปข้างนอก ก็ถูกฮั่วเทียนหลันเรียกเอาไว้ก่อน
อันหรันใจเต้นระส่ำ เธอนั่งลงบนโซฟาก่อนจะลอบสังเกตแววตาของฮั่วเทียนหลันอย่างคนมีความผิด
"ช่วงนี้เธอยุ่งอะไรเหรอ" ฮั่วเทียนหลันได้รับอีเมลของโจวหยวนตั้งแต่เช้าตรู่
เรื่องที่ฮัวเส้าซู่ตรวจสอบเกี่ยวกับเรแกนและพบต้นตอของเรื่องนี้แล้ว
อันหรันอ้าปากขึ้น เธอลังเลเล้กน้อยก่อนจะเอ่ย : "เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหนิ"
"หือ?" ฮั่วเทียนหลันเงยหน้าขึ้นมองทำให้ใจของอันหรันสั่นยิ่งกว่าเดิม
เธอถอนหายใจออกมา เพราะรู้ว่าท่าทีเช่นนี้ของฮั่วเทียนหลันนั้นหมายความว่าเจ้าตัวรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
“คนในครอบครัวของเพื่อนฉันหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นฉันจึงขอให้เส้าซู่... ”
อันหรันยังไม่ทันเอ่ยจบก็ถูกฮั่วเทียนหลันพูดแทรกขึ้นมาเสียงเรียบ
“เรื่องแบบนี้ทำไมเธอถึงไม่บอกฉัน”
ฮั่วเทียนหลันรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย อันหรันมีเรื่องอะไรก็มักจะเก็บไว้ในใจไม่ยอมบอกกับเขาตลอด
ทั้งที่เขาคือสามีของเธอ!
อันหรันไตร่ตรองอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ : "เพราะว่าคุณยุ่งมากอยู่แล้ว และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก ดังนั้นฉันจึงวานให้เส้าซู่มาช่วยสักหน่อย"
หลังจากลังเลอยู่ครู่นึง อันหรันก็เอ่ยอธิบายเพิ่มเติมขึ้นมาอีก : "ฉันไม่อยากให้คุณเหนื่อยจนเกินไป!"
ประโยคนี้ทำให้ฮั่วเทียนหลันที่มีความโกรธอยู่ถึงกับตกตะลึงในทันที
คำพูดที่บอกว่าไม่อยากให้เขาเหนื่อยเกินไปนั้นทำให้เขาไม่สามารถหักล้างได้เลยจริงๆ
ท่าทางและคำพูดของเธอ มันแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเธอนั้นจริงจัง
"ตอนนี้ฉันรู้หมดแล้วเนี้ยสิ จะทำยังไงต่อดีล่ะ" เขาพูด
“งั้นก็ขอร้องคุณชายฮั่วช่วยตามหาเขาหน่อยนะคะ เขาเคยช่วยน้องชายของฉันไว้ เพราะฉะนั้นฉันจำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณของเขา ... ” อันหรันพูดเสียงเบา
“น้องชายของเธองั้นเหรอ” ฮั่วเทียนหลันพูดเน้นเสียง
อันหรันพยักหน้าก่อนจะเอ่ย : "อืม ... "
เรื่องน้องชายของอันหรันที่ว่านั้น ฮั่วเทียนหลันคิดมาเสมอว่ามันคือเรื่องที่แต่งขึ้น
แต่ในตอนนี้อันหรันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องหลอกเขา
เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้น : "ถ้าช่วยเธอตามหาแล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไงล่ะ"
คำพูดของประธานฮั่ว ทำให้อันหรันอึ้งไปชั่วขณะ
ฐานะและตำแหน่งของเขา รวมถึงความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเขาสองคน ยังต้องมีอะไรตอบแทนอีกด้วยหรือ
อันหรันพูดขึ้นอย่างอ้ำๆอึ้งๆ : "ละ แล้วคุณชายฮั่วอยากให้ตอบแทนยังไงคะ"
ฮั่วเทียนหลันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอนตัวลงบนโซฟาข้ามโต๊ะน้ำชาไปจนแทบจะคร่อมร่างของอันหรันไว้ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น : "เธอคิดว่ายังไงล่ะ"
ท่าทางเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้อันหรันจับโซฟาแน่นอย่างรุ้สึกประหม่า
เมื่อคืนเพิ่งจะทำไปรอบหนึ่ง ถ้าหากตอนนี้ทำอีกรอบล่ะก็ เธอคงออกไปไหนไม่ได้แน่
"ฉัน ฉันไม่รู้ ... " อันหรันเอ่ยเสียงเบา
เธอกำลังจะเอ่ยขึ้นว่าจะเลี้ยงข้าวตอบแทนเขา แต่เมื่อนึกถึงฝีมือทำอาหารที่เกือบจะเทียบเท่าร้านอาหารในโรงแรมหรูของเขาแล้ว ก็คิดได้ว่าเรื่องกินนั้นดูท่าจะไม่เวิร์คเท่าไหร่
ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันแสดงอารมณ์แข็งกระด้างขึ้นมาครูหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ช่างพึ่งพาอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
เขาดูดเข้าที่ปากของอันหรัน ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยขึ้น : "โอเค นี่คือการมัดจำไว้ก่อน!"
อันหรันตอบรับในลำคอ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยถามขึ้น : "ยังจะต้องทำอะไรอีกเหรอคะ"
ฮั่วเทียนหลันที่เพิ่งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเตรียมจะสั่งให้โจวหยวนตามหาใครบางคน เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เดิมทีเขาวางแผนแค่จะลองชิมก่อนเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคงต้องกินอาหารมื้อใหญ่นี้ซะแล้วล่ะ
"ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันควรจะรวบรวมยอดทั้งหมดซะแล้ว! มิเช่นนั้นจะอาศัยความเกี่ยวพันธ์ของเส้าซู่เพียงคนเดียวคงหาไม่เจอแน่นอน" ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างๆอันหรัน จากนั้นดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด
ความเกี่ยวพันธ์ที่ฮัวเส้าซู่สามารถใช้ได้ต่างก็เป็นของกลุ่มฟาเรนไฮต์ทั้งหมด
แต่เครือข่ายหลายแห่งนั้นถูกควบคุมอย่างลับๆโดยฮั่วเทียนหลัน
ดังนั้นการหาใครสักคนในประเทศขนาดใหญ่อย่างประเทศ M นั้นจึงเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร
แม้ว่าอันหรันจะดูโง่เพียงใด แต่ตอนนี้เธอก็เข้าใจได้ว่าการรวบยอดในที่นี้ของฮั่วเทียนหลันนั้นมันหมายถึงอะไร
ฮั่วเทียนหลันเชยคางอันหรันขึ้นเพื่อให้เธอสบตากับตน
จากนั้นจึงค่อยๆขยับเข้าไปอย่างช้าๆ
อันหรันหลับตาลงด้วยความประหม่า ก่อนจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
ความนุ่มนวลเกิดขึ้นเมื่อริมฝีปากของทั้งสองประกบกัน ฮั่วเทียนหลันขบเม้มปากของอันหรันเพื่อให้เธอเปิดให้เขาเข้าไปช่วงชิงความหวานภายในนั้น
หนึ่งนาที สองนาที สามนาที ...
อันหรันหอบหายใจถี่ขึ้น ลิ้นร้อนที่ไล่ต้อนความหวานในช่องปากของเธอนั้นทำให้เธอเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาในใจ
ถ้าหากใช้คำพูดทั่วไปมาอธิบายความรู้สึกนี้ของเธอก็คงจะแปลได้ว่าตอนนี้เธออเริ่มมีความต้องการขึ้นมาแล้ว
มือของฮั่วเทียนหลันไม่อยู่นิ่ง เขาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างใต้ร่มผ้าของอันหรันอย่างเคลิ้บเคลิ้ม
สมองของอันหรันว่างเปล่าไปชั่วขณะ การปลุกเร้าอารมณ์ของฮั่วเทียนหลันทำให้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะต้านทาน
นานกว่า 7 นาทีเขาถึงยอมปล่อยเธอ
และในตอนที่เขาปล่อยเธอออกนั้น เธอก็ร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้
เสียงที่หลุดออกมาจากปากเมื่อกี้ทำให้เธอรู้สึกอับอายจนต้องฝังหน้าเข้ากับหน้าอกแกร่งของฮั่วเทียนหลัน
การจูบที่ดูดดื่มจนแทบขาดลมหายใจเช่นนี้ทำให้ร่างกายของเธอตอบสนองอย่างรุนแรง
ฮั่วเทียนหลันหอบหายใจเล็กน้อย ก่อนจะกอดอันหรันเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น : "นี่เป็นการจ่ายแค่บางส่วนเท่านั้น"
หลังจากได้ยินเช่นนั้น อันหรันก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
"คุณชายฮั่วคะ การรวบยอดมันหมายถึงครั้งเดียวนี่!"
เธอออกแรงขืนเพื่อดึงตัวเองออกจากตัวของฮั่วเทียนหลัน
แต่ฮั่วเทียนหลันกลับกักขังตัวเธอไว้แน่น เขาเอ่ยขึ้น : "ครั้งเดียวไม่ครั้งเดียวนั้นขึ้นอยู่กับฉันทั้งหมด ทีนี้รู้หรือยังว่าใครที่มีสิทธิ์ต่อรอง"
ผ้าม่านของห้องถูกปิดลงชั่วพริบตา
อันหรันถูกฮั่วเทียนหลันกดไว้ใต้ร่าง การเปลื้องเสื้อผ้านั้นฮั่วเทียนหลันใช้เวลาเพียงไม่กี่วิเท่านั้นแหละ
เขามองไปที่ร่างกายขาวหยกตรงหน้าที่เป็นหมือนยาปลุกเซ็กส์ชนิดที่รุนแรงที่สุด ก่อนจะยกยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วเอ่ยขึ้น : "ถึงเวลาที่ฉันต้องรวบยอดครั้งที่สองแล้วล่ะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง