โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 273

หลังจากผ่านพายุมาอย่างหนัก อันหรันก็นอนหอบหายใจอยู่บนโซฟาอย่างอ่อนแรง

อย่าว่าแต่ออกไปข้างนอกเลย ตอนนี้แค่ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าอันหรันก็แทบไม่มีแรงอยู่แล้ว!

แต่เธอก็ยังจำสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ หลังจากฮั่วเทียนหลันออกไปแล้ว เธอก็รีบกินยาในทันที

หลังจากกินยาเสร็จ เธอก็ดื่มน้ำตามลงไปอีกเยอะเพราะรู้สึกท้องบวมแปลกๆ

จนเมื่อตอนเที่ยงเธอก็อ้วกออกมาในที่สุด

เธอรู้สึกร่างกายอ่อนแอมาก พยายามฝืนตัวเองจนเดินไปถึงเตียงอย่างยากลำบาก ก่อนจะนอนลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

ที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มฟาเรนไฮต์ในรัฐปา ฮัวเฮารันขมวดคิ้วพลางอ่านข้อมูลตรงหน้า ก่อนจะพูดขึ้น : "เรื่องนี้จบแค่นี้เองเหรอ"

ฮั่วเทียนหลันตอบรับในลำคอ ก่อนจะเอ่ย : "ตระกูลหยางจะถอนตัวจากโครงการแข่งขันหลายโครงการเพื่อเป็นการชดเชยให้กับพวกเรา"

“ แล้วตระกูล Dallas ล่ะ” ฮัวเฮารันคิดค่อนข้างลึก เนื่องจากตระกูล Dallas ก็เป็นคู่แข่งที่ค่อนข้างหน้ากลัวในการลงทุนที่รัฐปาด้วยเช่นกัน

ฮั่วเทียนหลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวขึ้น : "เรื่องตระกูล Dallas นี้ เดี๋ยวผมกลับไปคิดอีกที"

ไม่ว่าจะเป็น Auch เรแกน หรือคนอื่นๆ พวกเขาต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับฮั่วเทียนหลันทั้งนั้น

ดังนั้นฮั่วเทียนหลันเองก็ยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับการจัดการกับพวกเขา

"ทางฝั่งของเราหยวนฉีเฉียนตรวจสอบละเอียดแล้วใช่ไหม" ฮั่วเทียนถาม

ฮัวเฮารันเปลี่ยนท่านั่งให้สบายขึ้นก่อนจะยกขาขึ้นมาไคว่กันไว้ แล้วจึงเอ่ยตอบ : "อืม การตายของหลี่ฉวนไห่เกิดจากผู้นำในสงครามศาสนา แต่เจ้าผู้นำนั้นปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชั้นบน ยังไม่ทันที่ฉันได้ไปเค้นถามอีกครั้ง เขาก็กินยาพิษฆาตัวตายไปก่อนแล้ว"

ฮั่วเทียนหลันหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นฝีมือของสงครามทงาศาสนาอย่างแน่นอน จากที่เดิมทีหวังว่าจะได้ปลาตัวใหญ่สักสองสามตัว

แต่ตอนนี้คนพวกนั้นตายไปหมดแล้ว จึงทำให้เรื่องนี้จัดการยากขึ้น

ฮัวเฮารันมองเห็นท่าทางลังเลของฮั่วเทียนหลันก็เข้าใจถึงความกังวลของเขาในทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "เทียนหลัน เรื่องนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่าซับซ้อนก็ซับซ้อน หากทำอะไรไม่ได้ก็แค่จำกัดทิ้งไป ... "

ฮัวเฮารันทำท่าทางประกอบ ฮั่วเทียนหลันก็เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายความว่าให้ฆ่าทิ้งตามอำเภอใจไปได้เลย

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่นึงทันใดนั้นโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย : "ท่านประธานฮั่วครับ คุณ Auch ขอเข้าพบ"

เมื่อได้ยินว่าเป็น Auch ฮั่วเทียนหลันก็เกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฮัวเฮารัน

ฮัวเฮารันยิ้มก่อนจะทำท่าทางเชิญชวนและเอ่ยขึ้น : "นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกนาย จัดการกันเองแล้วกันนะ"

"ให้เธอเข้ามา!" ฮั่วเทียนหลันพูดขึ้นเสียงเบา

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฮั่วเทียนหลันจึงเอ่ยอนุญาตให้เธอเดินเข้ามา

"ประธานฮัว เทียนหลัน... " Auch ปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขาสองคน เธอสวมใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงอิสลามอย่างดูหรูหรามีสไตล์

ฮั่วเทียนหลันเคาะนิ้วลงบนพนักแขนของโซฟาเบาๆ โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

ฮัวเฮารันจึงเอ่ยขึ้น : "คุณ Auch ประเทศของพวกเรามีคำพูดเก่าแก่คำพูดหนึ่งกล่าวว่า หากไม่มีเรื่องราวใดๆจะไม่มาหาถึงที่ ไม่ทราบว่าคุณมีเรื่องอะไรมาบอกเล่าให้พวกเราฟังเหรอ"

Auch คุ้นเคยกับฮัวเฮารันเป็นอย่างดี พวกเขาทั้งสองต่างก็ทำเกี่ยวกับธุรกิจข้ามชาติ ทั้งยังเคยร่วมมือกันและแข่งขันกันในหลายประเทศอีกด้วย

Auch ถอดผ้าคลุมหน้าออกก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น : "ท่านประธานฮัวพูดตลกจังเลย ไม่รู้ว่าคุณอยากได้เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรกัน"

ฮัวเฮารันยังไม่ทันได้ตอบ ฮั่วเทียนหลันก็พูดขึ้นก่อน : "คุณมาที่นี่มีเรื่องอะไรเหรอ"

Auch มองไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ราวกับกำลังตำหนิฮั่วเทียนหลันที่ไม่เข้าใจประเพณี

แต่ถึงกระนั้นเธอก็เข้าใจตระกะที่ว่าพูดแต่พองามเป็นอย่างดี เธอจึงเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "เทียนหลัน คุณมารัฐปาก็นานมากแล้ว ฉันยังไม่มีโอกาสได้ตอนรับคุณและภรรยาของคุณอย่างดีเลย ไม่ทราบว่าวันนี้ตอนเย็นพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่า ฉันอยากชวนไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านตระกูล Dallas"

Auch ยิ้มอย่างสง่างาม ถ้าเทียบกับอันหรันแล้วเธอนั้นมีความมั่นใจมากกว่าเยอะเลยทีเดียว

ตระกูล Dallas ได้รับการสืบทอดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และมีมรดกทางวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่ ไม่เหมือนกับบ้านตระกูลอันที่พึ่งจะเป็นที่รู้จักเมื่อไม่นานมานี้

ยิ่งไปกว่านั้น Auch ก็ค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถแย่งฮั่วเทียนหลันมาจากอันหรันได้

ฮั่วเทียนหลันหัวเราะเย้ยหยัน ชวนเขาไปงานเลี้ยงไม่พอยังเตือนให้เขาพาภรรยาไปด้วยงั้นเหรอ ฮั่วเทียนหลันเริ่มจะทำตัวไม่หมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้

“ต้องขออภัยด้วย พวกเรายังมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการอีกมากมาย คงจะไม่มีเวลาว่างชั่วคราว!” ฮั่วเทียนหลันไม่ได้ปฏิเสธไปอย่างชัดเจน แต่ก็แสดงท่าทีให้เห็นแล้วว่าเขาจะไม่ไปร่วมงาน

Auch ไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา เธอคิดไม่ถึงเลยว่าฮั่วเทียนหลันจะกล้าปฏิเสธ ทั้งทีเธอเอ่ยชวนเขาอย่างน้อบน้อมขนาดนี้

เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "เทียนหลัน ถ้าหากคุณไม่ว่างจริงๆ ภรรยาของคุณก็น่าจะว่างใช่ไหม เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะส่งคนไปรับเธอเอง งานเลี้ยงของพวกเราจัดขึ้นเล็กๆเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทุกคนเท่านั้น"

ในเมื่อ Auch พูดขนาดนี้แล้วก็คงยากที่จะปฏิเสธ ฮั่วเทียนหลันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

ท่าทางเช่นนี้ ถ้าถาม Auch ล่ะก็มันคงจะหมายถึงฮั่วเทียนหลันยอมไปร่วมงานเลี้ยงแต่โดยดี

งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่ Toermo Estate ซึ่งเป็นศูนย์ทำการหลักของครอบครัว Dallas ที่รัฐปา

คฤหาสน์แห่งนี้มีประวัติอันยาวนาน ในอดีตเคยเป็นคฤหาสน์ของจักรพรรดิ Amos Toermo ที่มีชื่อเสียงของปากีสถาน

จักรพรรดิพระองค์นี้มีตำนาน เมื่อเขาครองราชย์นั้นได้บุกขึ้นไปทางเหนือสู่เอเชียกลางและอาระเบีย ก่อนจะยึดครองคาบสมุทรอินเดียทางใต้ จนได้รับสมญานามว่าเป็นราชาแห่งความเจริญรุ่งเรืองของปากีสถาน

แต่ถึงแม้จะเป็นจักรพรรดิที่ทรงอำนาจมากแค่ไหน หลังจากเวลาผ่านไปสิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีเพียงแค่คำบอกเล่นเพียงเท่านั้น

คฤหาสน์แห่งนี้เป็นสิ่งที่ครอบครัว Toermo ได้ส่งมอบให้กับครอบครัว Dallas เมื่อ 30 ปีก่อนเพื่อเป็นการผูกพันธมิตร

ผู้ที่สามารถมาร่วมงานเลี้ยงนี้ได้ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีฐานะสูงส่งทั้งนั้น

เดิมทีอันหรันไม่ได้อยากมาร่วมงานนักเนื่องจากร่างกายไม่ค่อยสบาย

เธอรู้สึกเหมือนตนเองกำลังจะตาย ปวดหัวตัวร้อน ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ทั้งยังมีความรู้สึกบวมที่ท้อง

แต่ฮั่วเทียนหลันกลับบอกให้เธอมาร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วยกัน ฉะนั้นอันหรันจึงคิดว่านี่คงจะเป็นงานเลี้ยงที่ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว

เธอจึงทำได้เพียงแค่เก็บซ้อนความรู้สึกไม่สบายเอาไว้ และเข้าร่วมงานเลี้ยงกับฮั่วเทียนหลัน

ถึงแม้ว่าเธอจะกินยามาแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าขาไม่มีแรง จนเกือบล้มลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง

ฮั่วเทียนหลันรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอเช่นกัน เขาจึงกระซิบถาม : "เธอไม่สบายเหรอ"

อันหรันพยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้า เธอไม่ได้ตอบคำถามเขาไปตรงๆ แต่กลับเอ่ยขึ้นว่า : "ฉันยังพอทนได้ค่ะ"

ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วเข้ม ผู้หญิงคนนี้ไม่สบายก็ไม่ยอมบอกเขา ถ้าหากเขารู้ก็คงไม่พาเธอมาร่วมงานเลี้ยงด้วยหรอก

"เดี๋ยวฉันจะให้คนขับรถพาเธอกลับ!" ฮั่วเทียนหลันพูดจบก็เตรียมบอกให้โจวหยวนไปส่งอันหรันทันที

แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร เสียงคุ้นหูของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาก่อน : "เทียนหลัน คุณหญิงฮั่ว ไม่ได้เจอกันนานเลย!"

Auch เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสอง พร้อมกับยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาแตะกับอันหรันเบาๆ

อันหรันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน : "วันนี้คุณ Auch สวยมากเลยค่ะ!"

Auch ในคืนนี้ส่วมชุดเดรสสีม่วงยาวอย่างสวยสง่า

ไม่มีใครอยากคัดค้านคำพูดชื่นชมเช่นนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่เอ่ยชมเธอ ยังคงเป็นภรรยาของคนที่เธอชอบอีกด้วย

Auch เป็นคนที่เย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก ในสายตาของเธอไม่ว่าจะเป็นมู่เหว่ยหรือว่าอันหรัน ต่างก็เป็นเพียงฝุ่นใต้ตีนเท่านั้น

เธอรู้สึกว่าสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เธอพ่ายแพ้นั้น เป็นเพราะครอบครัวของเธออยู่ต่างประเทศและเธอไม่สามารถอยู่กับฮั่วเทียนหลันได้ตลอดเวลา

แต่สำหรับฮั่วเทียนหลันแล้ว เขาคิดว่า Auch เป็นคนที่ชอบคิดไปเองซะมากกว่า

"ขอบคุณค่ะ คุณหญิงฮั่ววันนี้ก็ดูดีมากเช่นเดียวกัน" Auch เอ่ยขึ้นอย่างไม่คิดอะไร สักพักเธอก็เหมือนจะนึกอะไรได้ จึงเอ่ยขึ้น : "คุณพ่อของฉันอยู่ข้างบน เทียนหลันตอนนี้คุณว่างหรือเปล่า ท่านมีเรื่องอยากพูดคุยกับคุณสักหน่อย"

ฮั่วเทียนหลันเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะไม่สนใจ Auch ต่อไป เขาพาอันหรันไปที่มุมห้องแล้วให้เธอนั่งรออยู่ตรงนี้ : "รอฉันที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา"

อันหรันพยักหน้า มองส่งฮั่วเทียนหลันที่ค่อยๆเดินออกไป

ขณะเดียวกันนั้น Auch ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็มีสีหน้าเรียบนิ่ง เธอจ้องมองไปที่อันหรันอย่างไม่ละสายตา

สายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรของเธอนั้น ทำไมอันหรันจถึงจะมองไม่ออก

เพียงแต่เธอคุ้นชินกับหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ดังนั้นจึงเลือกที่จะไม่เก็บมาใส่ใจ

ภายในงานเลี้ยงผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมาเพื่อพูดคุยและร่วมชนแก้วดื่มสังสรรค์

หลายครั้งที่บริกรนำขนมหวานและผลไม้มาวางไว้ตรงหน้าของอันหรัน

เธอเลื่อนดูหน้าไทม์ไลน์และเห็นฉีหลานโพสต์นับถอยหลังห้าวัน

ในตอนนี้เองเธอถึงนึกขึ้นได้ว่าฉีหลานกำลังจะแต่งงานแล้ว

หลังจากเดินทางมาต่างประเทศ อันหรันก็มีเรื่องให้จัดการเยอะเสียจนทำให้ลืมแม้กระทั่งเรื่องแต่งงานของฉีหลาน

รอฮั่วเทียนหลันกลับมาแล้วคงต้องพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องกลับไปที่จีนสักหน่อย

ฉีหลานเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่อันหรันมีเพียงไม่กี่คน และงานแต่งงานของเธอนั้นอันหรันจะไม่ไปเข้าร่วมไม่ได้เด็ดขาด

อันหรันกินขนมหวานไปสองสามชิ้น ก่อนจะเริ่มรู้สึกปั่นป่วนที่ท้องขึ้นมาอีกครั้ง

เธอลุกขึ้นก่อนจะรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากอาเจียนออกมาถึงทำให้เธอรู้สึกสบายตัวขึ้น ก่อนจะเปิดก๊อกน้ำเพื่อล้างหน้า

ขณะล้างหน้าเธอได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกก่อนจะปิดลง

ผู้คนมาร่วมงานเลี้ยงมากมาย เธอจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

แต่ในวินาทีต่อมา เธอก็รู้สึกเวียนหัวราวกับโลกกำลังหมุนรอบ ก่อนที่ไอความร้อนบนศีรษะจะถูกกลั่นออกมาเป็นเหยาดหงื่อไหลลงมาตามกรอบหน้าสวย หลังจากนั้นสติทั้งหมดของเธอก็เริ่มเลือนลาง

ในตอนที่เธอกำลังจะล้มลงไปนั้น เธออ้าปากขึ้นเล็กน้อย ในตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นภาระให้กับฮั่วเทียนหลันอีกแล้ว

ในห้องหนังสือ มิลเลอร์กำลังจ้องมองบุคคลอายุน้อยตรงหน้า

“เทียนหลัน ความรู้สึกของ Auch ในหลายปีมานี้เธอก็คงจะมองออกแล้ว แม้ว่าพวกเธอสองคนจะไม่ได้ติดต่อกัน แต่ Auch ยังคงมีความรู้สึกดีต่อเธอเช่นเดิมเสมอ”

มิลเลอร์จิบกาแฟและก่อนจะเอ่ยขึ้นช้าๆ

ฮั่วเทียนหลันหัวเราะเยาะในใจ ถึงอย่างไรมิลเลอร์ก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสและเขายังต้องแสดงความเคารพบุคคลต่อหน้า : "สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมันผ่านไปแล้ว ผมคิดว่าความสัมพันธ์ของ Auch กับ Cage ตอนนี้ก็ไม่เลวเลยนะ อีกทั้งครอบครัวของ Cage ก็มีอำนาจมากเช่นเดียวกัน คุณลุงลองพิจารณาเรื่องแต่งงานของทั้งสองคนดู”

ฮั่วเทียนหลันเคยเรียนที่ต่างประเทศระยะหนึ่ง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ Auch

จากนั้นทั้งสองคนก็ดูเหมือนว่าจะต่อกันติด

Auch เป็นผู้หญิงที่เย่อหยิ่งและฮั่วเทียนหลันเป็นผู้ชายที่เย็นชา พอทั้งสองอยู่ด้วยกันแล้วต่างก็เป็นที่พูดถึงของคนในโรงเรียนเป็นอย่างมากว่าพวกเขานั้นเหมาะสมกัน

แต่ในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยเรื่องการแต่งงานนั้น โครงการในประเทศหลายโครงการของ Fahrenheit Group กลับถูกคว่ำบาตรจากคู่แข่งไปทีละโครงการ

จนทำให้เกิดสถานการณ์วิกฤตขึ้นจนยากที่จะก้าวผ่านไปได้

ตามจริง Auch ก็ได้พูดเกลี้ยกล่อมให้คุณพ่อของเธอคอยสนับสนุนและช่วยครอบครัวฮัวให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้

แต่แล้วจู่ๆ Auch ก็หายไปอย่างเงียบๆ ราวกับว่าไม่เคยรู้จักกับฮั่วเทียนหลันมาก่อน

การกระทำเช่นนี้ได้ทำลายหัวใจของฮั่วเทียนหลันจนไม่เหลือชิ้นดี

หลังจากนั้นเขาก็คำนึงถึงเรื่องเงินมากขึ้นในการปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นๆ

อย่างที่เขาว่ากันว่า ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง