มิลเลอร์รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขารู้ว่าฮั่วเทียนหลันนั้นยังคงไม่ลืมเรื่องราวในอดีต
แต่เรื่องนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลยด้วยซ้ำ และไม่ใช่คำสั่งของเขา
ในตอนนั้น Auch ยังเด็กเกินไปและยังถือดีอีกต่างหาก ในสายตาของมิลเลอร์และคนรุ่นเก่าคนอื่นนั้นต่างก็มองว่าวิกฤตธุรกิจนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อตระกูลฮัว ทั้งยังจะทำให้ตระกูลฮัวต้องเผชิญกับความทุกข์ยากมากยิ่งขึ้น
แต่ Auch กลับรู้สึกว่าตระกูลฮัวนั้นสิ้นหวังแล้ว
ดังนั้นเธอจึงทำเรื่องโง่ๆนี้เพียงคนเดียว
ต่อมาตระกูลฮัวนั้นกลับพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และอาศัยตลาดที่มีอำนาจอย่างประเทศจีนจึงทำใหเแซงหน้าตระกูล Dallas ไปได้อย่างรวดเร็ว
เดิมทีเขาวางแผนให้ Auch ใช้ความงามเข้าสู้เพื่อแก้ไขความสัมพันธ์ให้ดีดังเดิม
แต่ใครจะคิดว่าฮั่วเทียนหลันนั้นไปตกหลุมรักนักแสดงคนหนึ่ง หลังจากนั้นก็แต่งงานกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งอย่างตามอำเภอใจ
เรื่องบางเรื่องถ้าหากว่าพลาดไปแล้วก็คือพลาดไปแล้ว ไม่มีทางกลับไปแก้ไขได้
“Cage เองก็พูดถึงเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ถ้าหากตอนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็คิดจะให้ลีร่าแต่งงานกับเขาเหมือนกัน” มิลเลอร์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
ฮัวเทียนหลันเงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองมิลเลอร์อย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ผมตรวจสอบเรื่องของดอร่าอย่างละเอียดแล้วและได้ส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้แล้ว ส่วนเรื่องนี้ผมจะทำการตรวจสอบให้ถึงที่สุด!"
มิลเลอร์โบกมือพลัน เขาพูดขึ้นเสียงเรียบ : "เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ไม่ต้องไปตามสืบสาวเอาความอะไรหรอก ทั้งหมดมันเป็นคำสั่งของดอร่า ฉันเองก็เคยเอ่ยห้ามไม่ให้เธอไปแล้ว"
ฮั่วเทียนหลันอืมตอบและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
แม้จะมีหลักฐานมากมายว่าเบื้องหลังของมือมืดนั้นมีความเกี่ยวข้องกับตระกูล Dallas
แต่ฮั่วเทียนหลันก็ไม่ได้ตัดสินในทันที เขาตรวจสอบเพิ่มเติมมาสักระยะก่อนจะพบว่าการคาดการณ์นั้นไม่ถูกต้อง
แม้ว่าเงินทุนและทรัพยากรหลั่งไหลเข้ามายังครอบครัว Dallas ทั้งหมด
แต่เมื่อฮั่วเทียนหลันทำการตรวจสอบต่อไป ก็พบว่าของกลางทั้งหมดถูกแจกจ่ายผ่านเครือข่ายธุรกิจของตระกูล Dallas ไปยังพื้นที่ควบคุมขององค์กรทางศาสนา
และเมื่อมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการตรวจสอบเรื่องนี้มากขึ้น
ดังนั้นฮั่วเทียนหลันจึงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
เมื่ออันหรันรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบกับความมืดมิด
เธอรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก ขยับเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกราวกับหัวของเธอจะระเบิดออกมา
เธอมองไปรอบๆ ก่อนจะพบแสงริบหรี่ที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านช่องของหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
แต่ตำแหน่งของหน้าต่างนั้นค่อนข้างสูง วัดจากพื้นถึงด้านบนอย่างน้อยห้าหรือหกเมตรได้
เธอยกมือขึ้นกุมหัว ก่อนจะเอามือลงมาดูและพบว่ามันมีเลือดสีแดง
เมื่อสายตาปรับโฟกัสได้เธอก็ตกใจขึ้นมาทันที
ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นโกดังเก็บของ ข้างในมีของเก่าหลายประเภท ทั้งรูปปั้นพระพุทธรูปที่ดูน่ากลัว เครื่องปั้นดินเผาเก่า หรือแม้กระทั่งโลงศพสองสามโลงก็ถูกเก็บไว้ในนี้
อันหรันไม่ใช่คนที่กล้าหาญถึงเพียงนั้น หรือพูดง่ายๆว่าเธอค่อนข้างขี้กลัว
เธอมองหาประตูไปทั่วทุกที่อย่างรู้สึกหวาดกลัวและพบว่าประตูนั้นอยู่ด้านบน
เห็นได้ชัดเลยว่าที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่มีเอาไว้เก็บสมบัติ
ของทุกอย่างที่ถูกนำมาเก็บไว้ข้างในห้องนี้ต่างก็ถูกหย่อนลงมาจากทางด้านบนของห้อง
อุณหภูมิภายในห้องเย็นจนทำให้อันหรันตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
เธอยืนพิงผนังด้านล่างของหน้าต่างที่มีแสงสว่างเพียงบานเดียว ก่อนจะตะโกนขึ้น : "ช่วยด้วยค่ะ มีใครอยู่ไหม"
อุณหภูมิของอากาศช่วงกลางวันและกลางคืนของปากีสถานนั้นมีความแตกต่างค่อนข้างมาก อย่างเช่นค่ำคืนนี้ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นอย่างมากจนสามารถทำให้แข็งตายได้
ยังดีที่อันหรันรู้สึกไม่สบายจึงสวมใส่เสื้อผ้าค่อนข้างหนาเพื่อมาร่วมงานเลี้ยง
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังกลัวว่าอาจจะอยู่ไม่รอดตลอดทั้งคืน
เมื่อมองไปที่โลงศพสีฟ้าครามที่อยู่ไม่ไกล อันหรันก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากของหนังลี้ลับที่เธอเคยดูมาก่อน
จนทำให้เธอกลัวจนแทบจะขาดใจตาย ก่อนจะพยายามปีนป่ายขึ้นไปตามผนังห้องและร้องขอความช่วยเหลือเสียงดัง
แต่เธอก็ไม่อาจปีนขึ้นไปได้และแม้ว่าจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือมากเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา จนเสียงของเธอเริ่มแหบแห้งแต่ก็ยังไม่มีใครผ่านเข้ามาพบเลยสักคน
เธอยืนพิงผนังห้องอย่างรู้สึกหมดหวังเพราะรู้ว่าวันนี้เธอคงจะเจอกับความโชคร้ายเข้าให้แล้ว
อันหรันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนวางยาสลบเธอและโยนเธอลงมาตรงนี้
เธอจำได้ลางๆว่าประตูห้องน้ำถูกเปิดออก
และคนที่เข้ามาในตอนนั้นต้องเป็นคนทำร้ายเธออย่างแน่นอน
เครื่องมือสื่อสารทั้งหมดบนตัวเธอก็ถูกริบไปจนหมด
แม้กระทั้งลูกอมผลไม้ที่เธอเตรียมมาด้วยสองสามเม็ดเพื่อบรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วนของเธอยังถูกเก็บไปจนหมด
คนที่ลอบทำร้ายเธอนั้นคงหวังจะให้เธอนอนตายอยู่ตรงนี้เป็นแน่
และในตอนนี้แสงสุดท้ายที่มีอยู่ก็เริ่มมอดดับลงไปในที่สุด
ความมืดมิดภายในห้องทำให้อันหรันรู้สึกกลัวจนแทบบ้า
ร่างกายและจิตใจของเธอหนาวสั่นขึ้นมา
ความเหนื่อยและความง่วงกำลังเล่นงานเธอ
จากการดูหนังมาเยอะทำให้เธอรู้ว่านี่คือปฏิกิริยาของคนที่กำลังจะตาย
ในตอนนี้หัวใจของเธอเริ่มสงบลง
ไม่รู้ว่าตอนนี้ฮั่วเทียนหลันจะรู้หรือยังว่าเธอหายตัวไป
เขาจะตามหาเธอบ้างหรือเปล่า
เธอตายไปแล้ว เรื่องที่ว่าลั่นลานเป็นลูกสาวของเขานั้นก็คงจะกลายเป็นแค่หมอกควันไปในที่สุด
ไม่มีใครรู้ก็ดีเหมือนกัน ลั่นลานจะได้เติบโตขึ้นอย่างสุขภาพดีและมีความสุขโดยไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินทองพวกนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง