โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 275

อันหรันหายตัวไปในคฤหาสน์ของ Dallas คำพูดก่อนหน้าของ Auch และ Miller ยังคงก้องอยู่ในหูของฮั่วเทียนหลัน

ดูเหมือนพวกเธอจะมีความผิดปกติทางจิตแล้วที่กล้าทำกับคนของเขาเช่นนี้!

Miller ออกมาประกาศยุติงานเลี้ยงลงชั่วคราวเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น และเรียนเชิญให้ผู้คนที่มาร่วมงานไปพักผ่อนที่ห้องรับรองก่อน แต่ห้ามให้ใครหนีกลับบ้านก่อนโดยเด็ดขาด

ฮั่วเทียนหลันโทรสั่งให้ฮั่วเส้าซู่นำคนมาล้อมคฤหาสน์ Dallas เอาไว้

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงอ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา : "คุณชายฮั่วคะ ฉันคิดว่าฉันพอจะรู้แล้วว่าคุณหญิงฮั่วเธอไปไหน"

ฮั่วเทียนหลันหันหลังกลับไปก่อนจะอึ้งไปพักนึงเมื่อเห็นว่าเป็นเฮเลนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

"ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้"

คำพูดห่างเหินของเขาทำให้ใจของเฮเลนกระตุกเล็กน้อย

เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ตอนนี้ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงมันไม่สำคัญหรอกมั้ง"

ฮั่วเทียนหลันก้าวไปข้างหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา จนเฮเลนรู้สึกว่าตัวเองจะสามารถกลายเป็นน้ำแข็งได้

"เธออยู่ที่ไหน"

น้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของฮั่วเทียนหลัน ทำให้เฮเรนรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเล็กน้อย

แต่เธอก็เข้าใจดี ขนาด Auch ยังไม่สามารถครอบครองผู้ชายคนนี้ได้เลย คงไม่ต้องพูดถึงเธอแล้วล่ะ

"ถ้าคุณชายฮั่วอยากรู้จริงๆล่ะก็ หาอะไรมาแลกสิคะ!" เฮเลนพูดขึ้นอย่าเฉยเมย

ตอนที่เธอกำลังจะเดินไปห้องน้ำ บังเอิญมองเห็น Elena กำลังลากคนๆหนึ่งไปตรงมุมห้องพอดี

หลังจากนั้นไม่นานข่าวของการหายตัวไปของอันหรันก็ถูกประกาศขึ้นมา

ฮั่วเทียนหลันยื่นมือออกไปคว้าคอเสื้อของเฮเลนในทันที ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม : "นี่เธอกำลังต่อรองกับฉันงั้นหรือ เธอรู้หรือเปล่าว่าที่เธอพูดออกมาเมื่อกี้ ฉันก็สามารถทำลายครอบครัวของเธอได้แล้ว!"

เฮเลนเชื่อคำพูดขู่ของฮัวเทียนหลันอย่างแน่นอน

เธอยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า : "ฉันรู้ว่าคุณชายฮั่วเป็นคนพูดจริงทำจริง แต่คุณกำลังกล่าวหาว่าฉันลักพาตัวคุณหญิงฮั่วไป ทั้งที่ความจริงฉันแค่บังเอิญเห็นคุณหญิงฮั่วถูกนำตัวไปเท่านั้น"

มือของฮั่วเทียนหลันค่อยๆดึงรัดคอเสื้อของเธอแน่น จนเฮเลนเริ่มหายใจลำบาก แต่ก็ยังไม่วายมองไปที่ฮั่วเทียนหลันอย่างไม่คิดยอมแพ้

จนในที่สุด ความเป็นห่วงในใจของเขาก็เอาชนะความโกรธที่มีอยู่ทั้งหมด เขาสะบัดตัวเฮเลนออกก่อนจะเอ่ยขึ้น : "พูดมา!"

"ฉันต้องการฐานพลังงานของ Elmer และต้องการร่วมมือกับฟาเรนไฮต์เป็นเวลาสิบปีในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าฉันไม่ได้จะแลกด้วยมือเปล่า ผลประโยชน์ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็นสามส่วนเจ็ด" เฮเลนกล่าว

ฮั่วเทียนหลันนิ่งงันไปชั่วขณะ เงื่อนไขนี้ไม่ได้เรียกร้องมากจนเกินไป กลับกันมันดูจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ

อำนาจของครอบครัวของเฮเลนนั้นก็ถือว่าไม่เลว การจะจับมือทำธุรกิจด้วยกันนั้นไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว ฐานพลังงานของ Elmer อยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างแย่และมักจะมีความขัดแย้งกับทางทหารที่อยู่ชายแดนระหว่างอินเดียและปากีสถาน

สำหรับฟาเรนไฮต์แล้วที่ตรงนั้นราวกับเป็นซี่โครงไก่ที่มีรสชาติจืดชืด แต่จะทิ้งก็น่าเสียดาย

ถ้าหากครอบครัวของเฮเลนสามารถพัฒนาและทำการส่งออกตามกฎเกณฑ์ทางกฎหมายของฟาเรนไฮต์ได้ ก็ถือได้ว่าฟาเรนไฮต์จะได้รับเงินก้อนนี้มาอย่างไม่ต้องทำลงมือทำอะไรเลย

แต่เพราะสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างพิเศษ...

ฮั่วเทียนหลันจ้องมองในดวงตาของเฮเลนราวกับต้องการหาอะไรบางอย่าง

แต่ดวงตาของเฮเลนกลับไม่มีคลื่นความคิดอะไรเลยสักนิด นั่นทำให้เขาลังเลเล็กน้อย

“ตกลง ฉันยอมรับเงื่อนไขเธอ!”

ฮั่วเทียนหลันตัดสินใจเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง เพราะสัญชาตญาณบอกเขาว่าการวางหมากของเฮเลนนั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางการค้าของฟาเรนไฮต์แต่อย่างใด

เฮเลนยื่นมือออกมาเพื่อจับมือตกลงกับฮั่วเทียนหลัน : "งั้นก็อวยพรให้ความร่วมมือของพวกเราประสบความสำเร็จล่วงหน้าละกัน!"

ฮั่วเทียนหลันไม่ตอบรับใดๆ แต่กลับเอ่ยขึ้น : "รีบบอกฉันว่าอันหรันอยู่ที่ไหน!"

เฮเลนก้าวไปข้างหน้าก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของฮั่วเทียนหลัน

สีหน้าของฮั่วเทียนหลันเรียบตึงในทันที เขาจ้องมองไปที่ Elena และ Auch ที่ยืนอยู่ไม่ไกล

เหอะ เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเธอกลับรีบกระโดดกำแพงอย่างรีบร้อนซะก่อน!

“เรื่องที่ตกลงกับเธอเดี๋ยวฉันจะกำชับโจวหยวน ถึงตอนนั้นเธอก็พูดตกลงรายละเอียดกับเขาก็โอเคแล้ว” ฮั่วเทียนหลันพูดจบ เฮเลนก็หลีกทางให้เขาทันที

เขารีบเดินไปหา Elena อย่างรวดเร็ว

Elena ที่กำลังพูดคุยและหัวเราะอยู่นั้น เมื่อมองเห็นฮั่วเทียนหลันเดินเข้ามาหาอย่างกระทันหันก็รู้สึกตัวเกร็งขึ้นมาทันที

แต่แล้วก็คิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำตัวน่าสงสัยอะไรออกมาสักหน่อย ดังนั้นจึงยกยิ้มขึ้นก่อนจะเอ่ย : "พี่เทียนหลัน...

ฮั่วเทียนหลันยิ้มเยาะและเอ่ยขึ้น : "คนอยู่ที่ไหน"

"ใครคะ ฉันไม่เข้าใจที่พี่พูด!" Elena เริ่มแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

ฮั่วเทียนหลันหน้านิ่ง เขาหันไปมอง Auch ที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะพูด : "Auch เธอไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ฉันฟังหน่อยเหรอ"

Auch ถอนหายใจ เธอไม่คิดว่าฮั่วเทียนหลันจะรู้เร็วขนาดนี้

เธอก้าวไปข้างหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "น้องเล็ก เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคุณหญิงฮั่วหรือเปล่า"

เมื่อ Elena ได้ยินเช่นนั้น เธอก็รีบส่ายหัวทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก : "ไม่ ไม่... มันจะเกี่ยวข้องกับฉันได้ยังไง! คุณหญิงฮั่วอ่อนโยนแสนดีขนาดนั้น ฉันเองก็นับถือเธอเป็นอย่างมาก!"

คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ได้ยินในสิ่งที่ Elena กล่าว

แต่บางคนที่ได้ยินกลับเบ้ปากขึ้น เพราะรู้ดีว่า Elena นั้นเป็นตัวก่อปัญหาของครอบครัว Dallas

ไม่มีใครพูดถึงก็รอดตัวไป แต่ถ้าหากมีใครสงสัยขึ้นมาล่ะก็ เธอคือผู้ต้องสงสัยที่สุดแล้วล่ะ

"เทียนหลัน เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับน้องเล็กของฉันเลย" Auch มองไปที่ฮั่วเทียนหลันก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

ฮั่วเทียนหลันจ้องไปที่ Elena อย่างไม่วางตา ทำให้ Elena เริ่มทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

“แล้วถ้าเธอพูดโกหกล่ะ ครอบครัวของเธอจะรับผลที่ตามมาได้หรือเปล่า” ฮั่วเทียนหลันกล่าว

Auch ไม่เอ่ยอะไรออกมา ทันใดนั้นเองผู้อาวุโสของตระกูล Dallas ที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนขึ้นมาอย่างไม่พอใจ : "หมายความว่ายังไง ฮั่วเทียนหลันนี่นายกำลังพูดขู่พวกเรางั้นเหรอ ตระกูล Dallas ได้รับการสืบทอดมาเป็นเวลาหลายร้อยปีและเป็นตระกูลที่มีพลังอำนาจมาก จะไปกลัวนายได้ยังไง!"

ฮั่วเทียนหลันหมดความอดทน เขายื่นมือออกไปล็อกคอของ Elena แล้วพูดขึ้น : "เอาคนของฉันคืนมาหรือเธอจะตาย!"

Elena พยายามขืนตัวออกจากการกอบกุม เธอตะโกนขึ้นเสียงดัง : "ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้เกี่ยวข้อง... "

ประโยคหลังที่เธอเอ่ยขึ้นมานั้นเบาจนแทบไม่มีเสียง

เพราะฮั่วเทียนหลันออกแรงเยอะจนเธอหายใจไม่ออก

Auch คว้าแขนของฮั่วเทียนหลันอย่างพยายามช่วย Elena เธอตะโกนขึ้นอย่างรู้สึกกระวนกระวาย : "เทียนหลัน Elena ยังเด็กอยู่และถึงแม้ว่าเธอจะทำเช่นนั้นจริงๆ คุณก็ไม่สามารถฆ่าคนได้นะ!"

เนื่องจากฮั่วเทียนหลันเริ่มลงมือ ทำให้บอดี้การ์ดของตระกูล Dallas เริ่มเข้ามาห้อมล้อม แต่ถึงกระนั้นคนของฟาเรนไฮต์ก็ไม่แพ้ต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้

ฮั่วเทียนหลันมองคนที่กำลังหยิบปืนขึ้นมาเขาด้วยสายตาเย็นชา สำหรับเขาแล้วคนกลุ่มนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว

Miller ที่เพิ่งกลับมาจากตรวจสอบกล้องวงจรปิด เมื่อมองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็แทบลมจับ

เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง : "หยุดเดี๋ยวนี้นะ วางปืนลงให้หมด! ’

เนื่องจากเขาเป็นเจ้าบ้าน บอดี้การ์ดของ Dallas จึงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยอมวางปืนลงในที่สุด

แต่คนของฟาเรนไฮต์กลับไม่ยอม พวกเขายังคงยกปืนขึ้นเล็งเป้าไปที่จุดสำคัญของคนฝั่งตรงข้าม

Miller เดินไปหยุดอยู่ข้างๆฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "เทียนหลัน ฉันเป็นผู้อาวุโสของเธอและรู้จักกับครอบครัวของเธอมานาน ไม่ว่าเรื่องนี้ Elena จะเป็นคนทำหรือไม่นั้น แต่การฆ่าคนก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหรอกนะ เธอปล่อยเธอเถอะ”

สำหรับ Auch แล้วฮั่วเทียนหลันสามารถไม่ยอมความได้

แต่กับ Miller เขาจำเป็นต้องไว้หน้าเพราะเป็นผู้อาวุโส

ฮั่วเทียนหลันปล่อยมือออก ทำให้ Elena แทบจะทรุดลงกับพื้นก่อน Auch จะช่วยพยุงเธอเอาไว้

เธอไอขึ้นเสียงดังและหอบหายใจอย่างรุนแรง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเข้าใกล้ความตายจริงๆ!

"คุณพ่อคะ พี่คะ เขาจะฆ่าฉัน!" Elena พูดขึ้นอย่างยากลำบาก

Miller ตอนนี้มีสีหน้าเรียบนิ่ง เขามองไปที่ Elena ก่อนจะอ่ยขึ้น : "ใช่เธอทำหรือเปล่า พูด!"

แววตาของ Elena เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่เธอยังคิดที่จะส่ายหน้าปฏิเสธ

แต่ด้วยความที่เป็นพ่อลูกกันนั้น แค่มองตาของเธอ Miller ก็รู้ได้ในทันที

เขาเอ่ยคำรามขึ้นเสียงดัง : "จนถึงตอนนี้เธอยังคิดจะเล่นลิ้นอยู่อีกเหรอ คิดจะฆ่าทุกคนให้ตายหมดหรือไง"

Elena อึ้งไปชั่วขณะ ในความทรงจำของเธอไม่ว่าเธอจะสร้างปัญหามากแค่ไหนคุณพ่อก็ยังรักเธอเสมอ และไม่เคยเอ่ยต่อว่าเธอเลยสักนิด

แต่วันนี้เขากลับตะโกนใส่หน้าเธอ

"หนู หนูแค่ อยากจะแก้แค้นให้พี่... " Elena ก้มหน้าลง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงสะอื้น

ท่าทางเช่นนี้ถือได้ว่าเธอยอมรับแล้ว

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เริ่มพูดคุยจอแจ ไม่คาดคิดเลยว่าคนของตระกูล Dallas จะเป็นคนก่อเหตุในครั้งนี้จริงๆ

ฮั่วเทียนหลันมุมปากกระตุก เขามองไปที่ Elena อย่างเฉยเมย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราวกับต้องการฆ่าเธอให้ตายจริงๆ : "นำทางไป หาคนของฉันให้เจอ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต!"

Miller รู้สึกอับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นความผิดของฝั่งเขาจริงๆ จึงทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรเยอะได้

เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะให้คนคอยเดินตามประกบตัว Elena ไปตามเส้นทาง

ยิ่ง Elena เดินไปใกล้ถึงจุดหมายเท่าไหร่ สีหน้าของ Miller ก็ยิ่งขรึมขึ้นเท่านั้น

เนื่องจากห้องใต้ดินนี้เป็นสถานที่ที่สำคัญมาก ข้างในนั้นมีโบราณวัตถุและของมีค่ามากมายที่มีเพียงคนสนิทของเขาเท่านั้นถึงจะรู้ เพราะเขาไม่เคยบอกกับคนนอกเลยสักครั้ง

แล้ว Elena ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

หลังจากมาถึงที่หมายก็มีคนผลักประตูให้เปิดออก Elena กดสวิตช์เปิดปิดจากนั้นพื้นด้านล่างก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป

ฮั่วเทียนหลันก้มลงมอง ความสูงจากด้านบนถึงด้านล่างเกือบจะเจ็ดหรือแปดเมตรเลยทีเดียว ทำให้เขาเริ่มกระวนกระวายใจ

สูงขนาดนี้ถ้าหากอันหรันถูกผลักลงโดยตรงเธอจะยังรอดชีวิตอยู่หรือเปล่า

ในความฝัน อันหรันมองเห็นเงาของฮั่วเทียนหลัน

“อันหรัน อันหรัน... ”

"คุณ คุณชายฮั่ว... " อันหรันเอื้อมมือออกไปพยายามคว้าตัวฮั่วเทียนหลัน

แต่เพียงแค่เธอเอื้อมมือ เงาของฮั่วเทียนหลันก็เริ่มจางหายไป

เธอรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนมาก

อย่าว่าแต่ลืมตาเลย แม้แต่จะขยับนิ้วเธอยังไม่มีแรงพอ

แต่ทุกครั้งที่เธอจะหลับไป เงาของฮั่วเทียนหลันก็ปรากฏขึ้นมาอยู่อย่างนั้น

เธอออกแรงอย่างมีความหวังอีกครั้ง แต่เมื่อเอื้อมมือออกไปฮั่วเทียนหลันก็จางหายไปอีกรอบ

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ...

อันหรันรู้สึกหมดหวังในใจ เธอนี่โง่เสียจริง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

เธอหลับตา เตรียมจะพักผ่อน

พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ ...

ถ้าหากเธอยังฟื้นขึ้นมา ค่อยคิดหาทางใหม่แล้วกัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง