พูดถึงฉีหลาน บรรยากาศที่ครึกครื้นก็ค่อยๆจางหายไป
เหลียวซิรงถอนหายใจติดกันรั่วๆจากนั้นพูดว่า “ได้ ฉันจะไปดูสักหน่อย แล้วนี่เธอจะไปไหน?”
ในความทรงจำของเธอ อันหรันไม่ใช่คนที่ชอบออกไปไหนไกล
และเธอก็คิดว่า ฮั่วเทียนหลันคนไม่เห็นด้วย
อันหรันไม่ได้ตอบคำถามนี้ เธอวางสายโทรศัพท์ลง
ใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องมากขึ้นเรื่อยๆ เธออยากจะมองเมืองนี้เพื่อทิ้งท้ายกับความเศร้าของเธอ
เมื่อดวงอาทิตย์ตก แสงจันทร์ก็ค่อยๆสาดส่อง
แสงไฟที่ส่องสว่างในเมืองz ทำให้มันสวยขึ้นอีกแบบ
อันหรันมองไปด้านนอกอย่างเพ้อฝัน ตอนนั้นเธอดื่มกาแฟไปแล้วสามถ้วย
จู่ๆโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เธอถึงรู้ตัวว่า ถึงเวลาต้องไปแล้ว
เธอลุกขึ้นและเดินออกมาจากร้านกาแฟ
เธอยืนอยู่หน้าร้านสักพัก และมองภาพเมืองนี้เพื่อจดจำในความทรงจำของเธอ
และในขณะเดียวกัน ก็มีรถหนึ่งที่ติดไฟแดงอยู่บนถนน เข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ
พอข้ามถนนก็จะถึงสนามบิน
ตอนนี้เป็นไฟแดงสำหรับคนเดินเท้า อันหรันยืนอยู่ท่ามกลางฝูงคนที่ต้องการข้ามถนน
อธิบายไม่ได้จริง ๆ เธออยากให้เวลานั้นเดินช้าลง ให้เธอได้อยู่ที่นี่นานอีกสักหน่อย
และจู่ๆก็มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์กับเสียงแตกตื่นของฝูงชน
อันหรันยังไม่รู้สึกตัว ร่างกายของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง และทิวทัศน์เบื้องหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
ความจริงทำสุดท้ายของเธอ คือก็กำลังลอยขึ้นบนอากาศ
โรงแรม ST ที่หรูหราที่สุดในยุโรปเป็นธุรกิจของตระกูลฮั่วที่สืบทอดกันมายาวนานถึง 600 ปี
เพื่องานแต่งงานครั้งนี้ ฮั่วเทียนหลันได้เตรียมการทุกอย่างไว้อย่างดี
ทุกอย่างได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอเขากลับไป
เมื่อนึกถึงใครบางใครที่อยู่ประเทศจีน เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
จู่ๆเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
เขามองไปเห็นคนอายุวัยกลางคน น่าจะมาส่งอาหาร
ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นไปเปิดประตู หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันเจอหน้าเขา ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันก็เปลี่ยนไป
“เธอมาได้อย่างไร? คนที่อยู่หน้าประตูคือมู่เหว่ย สวมชุดเมด เข็นรถส่งอาหาร”
เธอจับมือของฮั่วเทียนหลันแล้วเม้มริมฝีปากของเธออย่างยั่วยวน “ไม่มีใครในบ้านคิดถึงคุณ ยังดีที่มีฉันอยู่ที่นี่ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อเซอร์ไพรส์คุณ คุณชอบไหม?”
มู่เว่ยปล่อยมือและหมุนไปรอบ ๆ ความเย้ายวนของชุดสาวใช้ทำให้ผู้ชายอดละสายตาจากเธอไม่ได้
ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า “งานของเธอเยอะแยะ รีบกลับไปทำงานไป!”
พูดจบเขาก็จะเดินไปปิดประตู
เขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่กับอันหรันแล้ว ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมู่เหว่ยควรจะต้องตัดขาดจากกัน
มู่เหว่ยคิดไม่ถึงว่าฮั่วเทียนหลันจะทำแบบนี้กับเธอ เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ฮั่วเทียนหลันหันมามองเธอ สร้างเรื่องต่างเพื่อใส่ร้ายอันหรัน แต่ทำไมฮั่วเทียนหลันไม่สนใจอะไร และยังจะเย็นชากับเธอถึงขนาดนี้อีก?
หรือว่าผู้หญิงคนนั้น ทำยาใส่เขา?
“อย่าเพิ่ง รอก่อน......” มู่เหว่ยรีบเดินไปที่ประตู
หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันถอยหลังมาสองสามก้าว มองเห็นว่ามู่เหว่ยไม่ยอมออกไป เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันยังมีเรื่องต้องทำ ไม่มีเวลามาดูแลเธอ เธอสามารถพักผ่อนที่ห้องนี้ได้ แต่ถ้าเสร็จแล้วก็รีบออกไป!”
พูดจบเขาก็เดินกลับมานั่งที่โซฟา
เขาทำงานเสร็จหมดแล้ว แต่ว่ามู่เหว่ยยังอยู่ที่นี่ เขาเลยต้องหาอะไรอย่างอื่นทำต่อ
มู่เหว่ยส่งอาหารกลางวันให้เขา อาหารที่เธอนำมานั้นมีแต่ของดีๆ จากร้านที่ได้มิชลินสตาร์ระดับหกดาว
ไม่นานด้านหน้าของฮั่วเทียนหลันก็เต็มไปด้วยอาหารมากมาย และนั้นก็ไปกระตุ้นความอยากอาหารของเขา
ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้ฮั่วเทียนหลันไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำงานต่อ
“เทียนหลัน รีบทานเถอะค่ะ!”
เขาปิดคอมพิวเตอร์ และพูดออกมาอย่างฟืนใจ “ฉันกินอาหารกลางวันไปแล้ว”
มู่เหว่ยนั่งลงข้างๆฮั่วเทียนหลัน มือด้านหนึ่งลูบไปที่ต้นขาของเขา และพูดออกมาอย่างยั่วยวน “เทียนหลัน นี่มันเป็นความปรารถนาของฉัน ได้โปรอย่าปฏิเสธมันเลย!”
ยิ่งเธอยั่วยวนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกรำคาญมากขึ้นเท่านั้น
ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงคิดว่ามู่เหว่ยเสแสร้ง
เขาพูดออกมาว่า “เธอกินเถอะ รีบกินรีบไป ฉันจำได้ว่าตอนบ่ายเธอยังต้องไปถ่ายละคร?”
คำพูดของฮั่วเทียนหลัน ทำให้ใบหน้าของมู่เหว่ยเปลี่ยนไป
เธอพูดออกมาเบาๆว่า “เทียนหลัน พักนี้คุณกำลังเตรียมตัวกลับประเทศอยู่หรอ? ฉันได้ยินว่าแถวนี้มีบ้านพักริมภูเขาอยู่ที่หนึ่งบรรยากาศดีมาก พวกเราไปที่นั่น......”
ฮั่วเทียนหลันหันหน้ามองไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยคาดหวังของมู่เหว่ย เขาถอนหายใจและพูดว่า “เธอจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?”
ประโยคนี้ ทำให้หัวใจของมู่เหว่ยหยุดเต้น
เธอแสร้งทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร “เทียนหลัน คุณกำลังพูดอะไรอยู่? ฉันทำอะไรไม่ดี? ฉันอยู่กับคุณก็มีความสุขดี ไม่ได้ลำบากอะไรเลยสักนิด”
“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วมู่เหว่ย เรื่องระหว่างเรามันจบลงไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง