เช้าวันต่อมาฮั่วเทียนหลันก็นั่งเครื่องบินกับมาถึงเมือง z
โจวหยวนเป็นคนมารับ พอฮั่วเทียนหลันขึ้นรถ เขาก็ถามออกมาว่า “ท่านประธานต้องการไปไหนครับ?”
ฮั่วเทียนหลันคิดไปคิดมา “กลับคฤหาสน์!”
โจวหยวนสงสัย เขาไม่ได้ออกรถทันที “ไม่นานมานี้เพิ่งจะเกิดเรื่องขึ้น ไม่รู้ว่าควรจะรายงานคุณก่อนดีไหม?”
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่โจวหยวน เขาจากไปนานขนาดไหนนี่ เดี๋ยวนี้โจวหยวนหัดมีความลับกับเขาแล้ว
“พูด!”
โจวหยวนก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดอะไร เขาพูดถึงใจความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลอันเลย
เมื่อได้ยินว่าอันหรันเป็นลูกแท้ๆของยี่เฉียวถง และอันชิงเป็นคนที่เขาจะต้องแต่งงานด้วย
ฮั่วเทียนหลันก็ยิ้มออกมา “คนของตระกูลอันพวกนี้ ไม่รู้จักหลาบจำ ต้องไปจัดการสักหน่อย!”
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
โจวหยวนรู้ว่าฮั่วเทียนหลันกำลังถามถึงคนของตระกูลอันสามคนนั้น เขาจึงตอบไปว่า “เช้าวันนี้ พวกเขาไปที่บ้านใหญ่ของคุณ เหมือนกับว่าจะไปคุยเรื่องการแต่งงาน”
ฮั่วเทียนหลันหัวเราะในใจ เขาได้หมั้นหมายกับอันหรันไว้แล้ว ยังไม่ทันได้แต่งงานคนพวกนี้ก็มาก่อเรื่องซะแล้วหรอ?
“กลับรถ ไปบ้านใหญ่กัน!”
เมื่อจอดรถเรียบร้อย ฮั่วเทียนหลันก็เห็นรถเรนจ์โรเวอร์ที่เขาซื้อให้อันหรันจอดอยู่ข้างๆ
แต่ลักษณะของรถคันนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก มีหลายอย่างที่เปลี่ยนให้ดูสดใสขึ้น แต่ดูก็รู้ว่านี่ไม่ใช่สไตล์ของอันหรัน
“เกิดอะไรขึ้น?” ฮั่วเทียนหลันถามออกมาเสียงทุ้มๆ
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของรถ โจวหยวนก็ตอบออกมาว่า “เนื่องจากสถานะถูกเปลี่ยน ตระกูลอันจึงคิดไปเองว่าของทั้งหมดที่เดิมเป็นของอันหรัน ก็จะตกเป็นของอันชิงแทน”
ฮั่วเทียนหลันชำเรืองไปเห็นพวงมาลัยสีชมพูแพรวพราวผิดปกติในรถ
เขาจึงรีบวิ่งไปใช้ค้อนทุบกระจกทุบไปที่กระจกรถ
เพล้ง! เสียงกระจกแตก
“ให้คนมาขับรถนี่ออกไป ของของอันหรัน ไม่อนุญาตให้คนของตระกูลอันแตะต้อง!”
ฮั่วเทียนหลันเดินเข้ามาในบ้าน เห็นคนของตระกูลอันสามคนนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
ฮั่วเทียนหลันมองไปด้วยแววตาเชิงดูถูก อันหงไชที่กำลังงีบหลับอยู่ก็ตกใจตื่นขึ้น
“เทียนหลัน เทียนหลันกลับมาแล้ว!”
พูดจบ เขาก็ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าบ้าน เชิญให้ฮั่วเทียนหลันรีบนั่ง
ฮั่วเทียนหลันไม่ได้สนใจอันหงไช สายตาของเขากวาดไปทั่วร่างของอันชิง พูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ว่า “พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?”
ฮั่วเทียนหลันไม่สนใจเขา ทำให้อันหงไชรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย
เขากำลังจะอ้าปากขึ้น แต่ก็กลัวที่จะถูกเมินอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงสะกิดยี่เฉียวถง ยี่เฉียวถงจึงรีบเอ่ยปากออกมาว่า “เทียนหลัน เรื่องของอันหรันพวกเราต้องขอโทษเธอจริงๆนะ แต่ว่าเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว พวกเราทำได้แค่ยอมรับความผิดและพร้อมที่จะแก้ไข ตำแหน่งนี้เดิมทีควรจะเป็นของอันชิง ที่มาในวันนี้ก็เพื่อที่จะมาคุยเรื่องงานแต่งระหว่างเธอกับอันชิง.......”
ฮั่วเทียนหลันหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น การแต่งงานของเขากลายเป็นสิ่งของไปแล้ว? อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป อยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน? เขาพูดออกมาว่า “งานแต่งาน? ใครบอกว่าผมจะแต่ง? ผมเห็นด้วยแล้วหรอ? พวกคุณยังนอนไม่ตื่นหรือสมองเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรือไง?”
สำหรับเรื่องนิสัยของยี่เฉียวถง ฮั่วเทียนหลันให้คนไปตรวจสอบมาอย่างชัดเจนแล้ว
และสำหรับเอกสารการตรวจ DNA มันก็ไม่มีความหมายอะไรกับฮั่วเทียนหลันตั้งแต่แรก
คนที่เขารักคืออันหรัน ไม่ว่าอันหรันจะเป็นลูกของใครก็ไม่เกี่ยว
ยี่เฉียวถงหยุดนิ่ง เธอพูดพรึมพรำออกมาว่า “ขอ ขอโทษด้วย...เทียนหลัน ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่เธอต้องเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่บ้าง อันหรัน เธอเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่ว่าตอนนี้พวกเรา.......”
“ใช่หรือไม่ใช่ลูกสาวของคุณ ตัวคุณเองรู้ดีที่สุด ไม่ต้องมาร้องไห้งอแงใส่ผม ถ้าหากไม่มีธุระอะไรแล้ว ก็เชิญกลับไปได้เลย!”
ฮัวเทียนหลันพูดอย่างไร้มารยาท โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่วางอุบายสกปรกเช่นนี้
อันหรันเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลฮั่วไปแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่ควรจะมายุ่งวุ่นวายเรื่องนี้
ผู้หญิงที่ฮั่วเทียนหลันยอมรับมีเพียงอันหรันคนเดียวเท่านั้น และไม่ว่าเธอจะเป็นใครมากจากไหน เขาก็ไม่สนใจ
ฮั่วเทียนหลันกวาดตามองไปที่พวกเขาทั้งสามคน และสายตาของฮั่วเทียนหลันก็หยุดไปที่มือของอันชิง
เขารีบเดินไปหาเธอ จับมือของอันชิงขึ้น และถอดแหวนที่เธอสวมไว้ทั้งหมดออกมา
“แหวนพวกนี้ ใครอนุญาตให้เธอสวมมัน!” เสียงของฮั่วเทียนหลันมีความโกรธอย่างไม่สิ้นสุด
แหวนเหล่านี้ เป็นของที่เขาซื้อให้อันหรัน
ทำไมถึงมาอยู่ในมือของผู้หญิงคนอื่นได้?
การกระทำที่รุนแรงของเขา ทำให้อันชิงรู้สึกเจ็บ ราวกับว่านิ้วมือของเธอจะหัก
อันชิงถูกทำให้ตกใจกลัว สภาพของฮั่วเทียนหลันในตอนนี้เหมือนกับสัตว์กินเนื้อที่กำลังจะเลือกกินคนอยู่
“เทียน เทียนหลัน ฉัน ฉันจะเป็นคนที่มาเป็นภรรยาของคุณ ดังนั้น แหวนพวกนี้ มันไม่ควรเป็นของฉันหรอ?” อันชิงพูดออกมาอย่างลังเล
ฮั่วเทียนหลันหลับตาลง จากนั้นเขาจับไปที่คอเสื้อของอันชิงและยกเธอขึ้นมา
“อ่า พูดมากเสียจริง คุณเป็นคนพูดมากเหมือนอะไรนะ”
อันชิงหายใจลำบากเพราะคอเสื้อของเธอ เธอพยายามยืนขึ้นด้วยปลายเท้า และเผยธาตุแท้ออกมา “งานแต่งงานระหว่างคุณกับอันหรัน มันไม่ถูกต้อง มันควรจะเป็นงานแต่งงานระหว่างฉันกับคุณ เทียนหลัน คุณอย่าลืมว่าอันหรันเคยสำมะเลเทเมา เคยแท้งลูก และเธอเคยหลอกลวงคุณ.....”
เมื่อหลี่รูยาลงมาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไอออกมาพร้อมพูดว่า “เทียนหลัน ปล่อยเธอ!”
คำพูดของแม่ เขาต้องรับฟัง
ฮั่วเทียนหลันปล่อยมือ อันชิงล้มลงไปที่พื้น
เธอเหมือนจะร้องไห้ ทำให้คนรับใช้ที่นั่งอยู่ข้างๆรูสึกสงสารเธอไปด้วย
ฮั่วเทียนหลันมองอันชิงที่นั่งอยู่บนพื้น พูดออกมาอย่างเย็นชา “ภรรยาของฉันมีคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ อันหรัน การตัดสินใจครั้งนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย พวกคุณออกไปซะ!”
ฮั่วเทียนหลันไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด
ถึงแม้จะเป็นแม่ แต่ชีวิตที่เหลือต่อไปเป็นของเขา ความรู้สึกที่มีก็เป็นของเขา
หลี่รูยาไม่ได้พูดอะไร เมื่อคืนเธอรู้สึกเสียใจมาก โทรจึงโทรหาอันหรันเพราะต้องการให้อันหรันอธิบายให้เธอฟัง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แค่อันหรันอธิบายให้เธอฟัง เกิดสามารถทำเป็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แต่คาดไม่ถึงว่าอันหรันจะปิดโทรศัพท์
ฮั่วเทียนหลันรีบออกจากบ้านใหญ่ เพื่อจะกลับไปหาอันหรันที่คฤหาสน์
ในเวลาเดียวกัน เขาสั่งให้โจวหยวนตรวจสอบข้อมูลของอันชิงทันที
หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันกลับมาถึงคฤหาสน์ ป้าDingบอกเขาว่าอันหรันออกไปแล้ว แต่ว่าออกไปไหนนั้นเธอก็ไม่รู้
และตอนนี้ข้อมูลที่ให้โจวหยวนไปหามานั้นออกมาแล้ว
“ท่านประธานครับ ข้อมูลของอันชิงเหมือนกับข้อมูลของคุณนายทุกอย่างเลย....”
คนละคน แต่ข้อมูลกลับเหมือนกัน
ตอนนี้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกว่าเขาเข้าใจอะไรบ้างอย่างแล้ว
“หาข้อมูลของอันหรัน ตั้งแต่แรกเลย และก็หาด้วยว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหน!”
ฮั่วเทียนหลันสั่งด้วยเสียงทุ้ม
เขาเดินขึ้นไปที่ห้องนอน พบว่ามีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนเตียงนอน หน้าซองเขียนถึงคุณฮั่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง