โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 295

“ คุณฮั่ว นี่คือการเดินทางของคุณนาย เธอมาที่สนามบิน จากนั้นก็ไม่พบร่องรอยอะไรเลย”

“ เธอขึ้นเครื่องบินแล้วเหรอ”

"ไม่พบว่าคุณนาย บินเที่ยวบินในวันนั้น"

"ฉ้นเข้าใจแล้ว เตรียมเครื่องบิน ฉันจะไปเมืองW

อันหรันหายตัวไป ทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกสับสน

เธอไม่สามารถหายไปไหนได้ มีเพียงที่เดียวที่คิดว่าเธอจะหลบอยู่ที่นั่น

ขณะนั่งอยู่บนเครื่องบินเขาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน

เมื่อวานนี้ เกิดเหตุรถชนกันใกล้สนามบิน คนขับใช้คันเร่งแทนเบรก ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน

สามชั่วโมงต่อมา ฮั่วเทียนหลันลงจากเครื่องบิน

เจ้าหน้าที่ของฟาเรนไฮต์ในเมือง W นำรถมารอรับอยู่แล้ว หลังจากเห็นฮัวเทียนหลันเขาก็รีบเดินเข้ามาหา "คุณฮั่ว นี่คือข้อมูลที่คุณขอให้ฉันตรวจสอบ"

มันเป็นเรื่องง่ายมากการดึงข้อมูลมาจากสถานีตำรวจสำหรับฟาเรนไฮต์

ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองไปที่ที่อยู่ จากนั้นจึงขอให้คนขับรถขับพาไป

ฮัวเทียนหลันนั่งอยู่ในรถโดยไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์แบบไหน

ผลการตรวจหาดีเอ็นเอของเส้นผมของผู้หญิงคนนั้นคืออันหรันจริงๆ

และเร็ว ๆ นี้เขาจะได้พบอันหรันและลูกสาวของเธอ

เด็กหญิงน่ารักคนนั้นยังเป็นลูกสาวของตัวเอง

เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขียนในจดหมายของอันหรันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

แต่ในใจ ฮั่วเทียนหลันก็เชื่อมั่นเป็นอย่างมาก

อันหรันหายไป แต่ตามลักษณะของเธอแล้ว ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม ยังไงเธอก็ต้องกลับมาอยู่เคียงข้างลูกสาวของเธออย่างแน่นอน

ฮั่วเทียนหลันคิดไว้แล้วถ้าหากเจออันหรันล่ะก็จะต้องลงโทษด้วยการเอาเธอมากอดแน่นๆ

ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเขา เธอจะมาจากเขาไปได้อย่างไร

ก็เห็นอยู่ว่ า เรื่องของงานแต่งก็จัดการเสร็จหมดแล้ว

รถจอดที่หน้าประตู ผู้คนที่พักอยู่ที่นี่ต่างมามุงดูรถหรู

มีคนเปิดเส้นทางข้างหน้าให้ ฮั่วเทียนหลันก็รีบเดินมุ่งหน้าไปยังอาคาร3 ห้อง202

บอดี้การ์ดเคาะประตู แต่รออยู่นาน ก็ไม่มีใครเปิดประตู

ฮั่วเทียนหลันจึงพยายามติดต่ออันหรันโดยโทรศัพท์ แต่ะโทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง

สักพักคนที่อยู่ห้องตรงข้ามก็โผล่หน้าออกมา ก็ตกใจที่เห็นบอดี้การ์ดชุดดำจำนวนมาก

โจวหยวน จึงถามว่า "สวัสดีครับ รบกวนหน่อยครับ ห้องนี้มีคนพักอาศัยอยู่ไหมครับ"

หญิงสาวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า "สองสามวันนี้ ฉันยังไม่เห็นพวกเขาออกมาเลย! สงสัยพวกเขาน่าจะไปเที่ยวกัน"

ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว

โจวหยวนกล่าวว่า "คุณฮั่วเรามาครั้งนี้อาจเปล่าประโยชน์"

"พังประตู!"

ฮั่วเทียนหลันพูดอย่างเย็นชา ทำให้โจวหยวนตกใจ

ที่นี่เป็นย่านที่อยู่อาศัยและมีผู้คนจำนวนมาก พวกเขาไม่ใช่ตำรวจ การพังประตูอาจทำให้ผู้คนเอิกเกริก และอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อฟาเรนไฮต์

เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของฮั่วเทียนหลัน เขาทำได้เพียงทำตามคำสั่ง เขาโบกมือส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดเดินไปชั้นล่างเพื่อขับไล่ทุกคนออกไป

อย่างไรก็ตามอีกมือหนึ่งของโจวหยวนก็สั่งให้คนจากบริษัทกุญแจ เปิดประตูห้อง202

หลังจากที่ฮั่วเทียนเข้ามาได้ ก็พบว่าห้องนั้นว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่

ดวงตาของเขาหดหู่ และหัวใจของเขาก็แทบสลาย

พวกเขาย้ายออกไป พวกเขาจะไปที่ไหน?

ในช่วงเวลานี้เมือง W ดูเหมือนจะสงบ แต่ก็ยังมีความมืดมนที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว

ฟาเรนไฮต์ออกประกาศตั้งรางวัลเพื่อค้นหาบุคคลเหล่านี้

แต่ค้นหากันทั้งเมือง ก็ดูเหมือนพวกเขาจะล่องลอยหายไปกับอากาศที่เบาเบา

มีเพียงคำให้บอกเล่าเพียงว่า เห็นคนจำนวนหนึ่งขึ้นรถบูอิคไป

ป้ายทะเบียนถูกบังเหมือนจงใจเพื่อที่จะไม่ให้ใครเห็น

ฮั่วเทียนหลันยังคงอยู่ในเมืองW หากเขาไม่พบอันหรันเขาจะไม่กลับไป

เรื่องในบริษัท เขาให้ฮัวเส้าซู่เป็นคนจัดการดูแล

เช้าวันนี้ โจวหยวนมาส่งเอกสารที่ห้องของฮั่วเทียนหลัน

ทันทีที่เขาเดินเข้าไป ในห้องก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า

ในห้องนั้นเละเทะ เต็มไปด้วยขวดเหล้า เสื้อผ้า ข้าวของต่างๆถูกวางกระจัดกระจาย

ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่บนโซฟา ในมือถือขวดเบียร์ ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราเนื่องจากไม่ได้โกนมาหลายวัน

ถ้าเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของเขาเอง โจวหยวนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าประธานฮั่วซึ่งเป็นคนสะอาด และเด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด กลับกลายเป็นคนที่ดูโทรมเช่นนี้

“ คุณฮั่ว นี่ครับ... ”

โจวหยวนยังพูดไม่ทันจบ ฮั่วเทียนหลันก็กระแอม ขัดจังหวะคำพูดของเขา “ เอาหุ้นของตระกูลอันที่ถืออยู่ออกไป”

โจวหยวนตกตะลึง เขาเข้าใจผลกระทบของการนำหุ้นออกไปเป็นอย่างดี

เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล หลี่รูยาจึงซื้อหุ้น 70% ของตระกูลในราคาที่สูง ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของตระกูลอันอยู่ในระดับต้นๆ และตลาดหุ้นมีความไว้วางใจในระดับสูง

และตอนนี้ถ้าฟาเรนไฮต์นำหุ้นออกไปทั้งหมดมันจะเป็นเอฟเฟกต์แบบหิมะถล่มอย่างแน่นอน และตระกูลอันจะต้องล้มละลายแน่นอน

"ทราบครับ"

ช่วงสายวันนั้น ฟาเรนไฮต์ขายหุ้นของตระกูลจำนวนมาก

หุ้นของตระกูลอันตกลงไปที่เพดานล่างสุด มูลค่าหุ้นสุทธิของอันหงไชหดตัวลงมากกว่าสิบเท่า

อันหงไชตื่นตระหนกอย่างมาก เขาไม่กล้าที่จะไปหาฮั่วเทียนหลัน ทำได้เพียงไปบ้านตระกูลฮั่ว ขอร้องกับหลี่รูยา เพื่อให้ฮั่วเทียนหลันหยุด

"คุณ เห็นแก่อันหรันเถอะโปรดให้ Fahrenheit ซื้อหุ้นคืน ไม่เช่นนั้นกลุ่มของตระกูลอัน เป็นอันต้องจบเห่!"

ยี่เฉียวถงร้องไห้ออกมา แต่หลี่รูยาก็ยังคงเฉยเมย

เกี่ยวกับการขายหุ้น เธอไม่ชัดเจนนัก

แต่สำหรับตระกูลอันนั้น เธอรู้สึกรังเกียจถึงกระดูก

แต่ก่อนบอกอันหรันไม่ดี ให้อันชิงมาแต่งงานบอกเป็นคนของตระกูลอัน ตอนนี้กลับเอาอันหรันมาอ้าง มาบอกว่าเป็นตระกูลอันเหมือนกัน

ตระกูลอันเห็นว่าตระกูลฮั่วเป็นคนโง่เหรอ?

แต่ก่อนเพราะความสัมพันธ์ที่หลี่รูยาเป็นแม่ผัวลูกสะไภ้ เธอจึงดูแลตระกูลอัน โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตระกูลอันเลย

แต่หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หลังจากที่หลี่รูยาตรวจข้อมูลของตระกูลอัน เธอก็ได้รับรู้ข้อมูลที่สกปรกของตระกูลอันอย่างละเอียด

“ เรื่องนี้เป็นของการดำเนินงานของบริษัท และฉันไม่สามารถจัดการได้” หลี่รูยาพูดอย่างไม่แยแส

ยี่เฉียวถงเห็นว่าการแสดงความเศร้าออกมาไม่มีประโยชน์ จึงหันไปหาอันหงไชเพื่อขอความช่วยเหลือทันที

อันหงไชถอนหายใจ เขารู้สึกว่าปัญหาง่ายๆแค่นี้ กลับแก้ไม่ได้

"คุณนายฮั่ว ไม่ว่าอย่างไงเราก็ผิดไปแล้ว แต่ก็อย่าให้ตระกูลอันถึงตาย มันเป็นธุรกิจที่ได้รับตกทอดกันมา หวังว่าคุณจะให้โอกาส"

คำพูดขออังหงไชทำให้หลี่รูยาเงยหน้าขึ้นมองเขา

เขาพูดถูก ควรจะมองในหลายๆด้าน

หลี่รูยามองไปที่อ้นชิง ซึ่งเธอดูไม่ได้สนใจอะไร

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จหรือเป็นเพียงการวางกลอุบาย

ถ้าอันชิงเป็นลูกของพวกเขาจริงๆ เธอคงต้องหาทางเพื่อเอาชีวิตรอด

“ ฉันจะลองคิดดู ส่งแขก!”

หลี่รูยาโบกมือเรียกคนรับใช้ ให้เชิญทั้งสามคนออกไป

ยี่เฉียวถงปกติมักจะเป็นคนที่ทนได้กับความกดขี่ แต่ครั้งนี้มันจะมากเกินไป

เธอกลัว เธอไม่ได้คาดหวังว่ามันจะมีฉากจบแบบนี้

หลังจากขึ้นรถอันหงไชก็ขับรถไปอย่างเงียบ ๆ

ยี่เฉียงถงนั่งข้างๆคนขับก็กล่าวขึ้น "หงไช หรือคุณจะไปหาอันหรัน และขอให้เธอมาขอร้องแทนพวกเรา?"

อันหงไชที่สับสนอยู่ก็เหยียบเบรกกระทันหันเมื่อได้ยินคำพูดของยี่เฉียวถง

ยี่เฉียวถงไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย เธอแทบจะกระโจนพุ่งไปหน้ากระจกรถ

"คุณเบรกทำบ้าอะไร หา!" เธอโกรธ

อันหงไช มองไปด้านข้าง มองไปที่คนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขามากว่า 20 ปี

ในตอนนี้ เขาเสียดายเล็กน้อย เขาเลือกผู้หญิงคนนี้ทำไมกัน

หากไม่มีผู้หญิงคนนี้. ตอนนี้ตระกูลอยู่ภายใต้การบริหารโดยพี่ชายคนโตและพี่สะใภ้

ไม่ต้องเป็นเหมือนเขาตอนนี้ ที่พยายามเอาตัวรอดอย่างไร้ยางอาย

"ตอนนี้ยังจะมีหน้าไปหาอันหรันอีกเหรอ ไปหาเธอ คุณจะบอกเธอว่ายังไง เรื่องราวต่างๆที่คุณก่อไว้ คุณลืมไปหมดแล้วหรือ"

คำพูดของอันหงไช เหมือนค้อนหนัก ๆ ที่ทุบหัวใจของยี่เฉียวถง

เธออ้าปากค้าง แล้วพูดขึ้นว่า "คุณอย่าว่าว่าฉันฝ่ายเดียว ราวกับว่าคุณไม่ได้ทำอะไรอันหรันเลย ยังไงตอนนี้ก็ต้องไปขอความช่วยเหลอจากเธอ ต้องทำทุกวิถีทาง”

ท่าทางที่น่ารังเกียจของยี่เฉียวถง ทำให้อันหงไชรู้สึกแย่มาก

เขาตะคอก ตบพวงมาลัยแรงๆ แล้วพูดว่า "พอแล้ว เรื่องผิดกฏแบบนี้ จะไม่ทำอีกแล้ว แพ้แล้วก็แพ้ไป คุณจะหยุดสร้างปัญหาเมื่อไหร่"

"ฉันกำลังสร้างปัญหา คุณบอกว่าฉันกำลังสร้างปัญหาเหรอ อันหงไช คุณมันไร้ยางอาย ..." ยี่เฉียวถงจิกไปที่มือของอันหงไชด้วยความโกรธและกำลังจะนำเล็บไปจิกที่หน้าของเขา

ตอนนี้เธอกำลังพยายามแก้วิกฤตนี้ แต่อันหงไชล่ะ? ไม่พูดอะไรและไม่ทำอะไรเลย แถมยังพูดว่าเธอกำลังสร้างปัญหา

สิ่งนี้ทำให้ยี่เฉียวถงเสียใจและความโกรธของเธอก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด

อันหงไชเท้าที่เพิ่งเหยียบเบรก พอยี่เฉียวถงอาละวาด ก็ทำให้เท้าค่อยๆปล่อยเบรก

ขณะที่รถกำลังอยู่ในเกียร์ d กำลังเดินหน้าไปยังริมถนนมากขึ้น อันหงไชกำลังจะเหยียบเบรก แต่ยี่เฉียวถงกลับดึงเขาไว้ ทำให้เขาเหยียบคันเร่ง

เสียงของเครื่องยนต์รถเร่งขึ้นในทันที และมันพุ่งไปที่ราวริมถนน เสียงดังโครมคราม

ในรถตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ อันหงไชดึงมือของยี่เฉียงถงออก ด้วยความโกรธเขาตบหน้ายี่เฉียวถง

“ ผู้หญิงบ้า!”

เขาลงจากรถ เรียกแท็กซี่กลับบ้าน

ยี่เฉียวถงสัมผัสใบหน้าที่เพิ่งจะถูกตบ ก่อนที่เธอจะนึกได้ และหันไปพูดกับอันชิง "อันชิง พ่อแก พ่อแก ตบฉัน"

อันชิงรู้สึกโกรธยี่เฉียงถงเช่นกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อกอบกู้ประเทศ ผลลัพท์มันถึงออกมาเป็นแบบนี้

เธอพูดอย่างเย็นชา เธอเปิดประตูรถ แล้วทิ้งไว้เพียงประโยคเดียว: "โดนตบหน่ะแหละดี!"

ยี่เฉียวลงนั่งอยู่ในรถเพียงลำพัง ในขณะนี้ชีวิตของเธอดูเหมือนจะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

หลังจากอันหงไชกลับบ้าน เขาก็มุ่งตรงไปที่คอมพิวเตอร์ที่ห้องสมุด เขาพบว่าหุ้นของตระกูลอันมาถึงขีดต่ำสุดแล้ว

เลขาฯของเขาได้โทรมาและบอกอันหงไชว่า เขาได้เจรจากับธนาคารสำหรับโครงการต่างๆ และกำลังรอการอนุมัติการกู้

ธนาคารเพิ่งแจ้งมาในวันนี้ว่าตระกูลได้รับความไว้วางใจจากตลาด จะขยายเวลาการปล่อยสินเชื่อไปเรื่อย ๆ หากหุ้นของตระกูลอันจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อันหงไชไม่ตอบอะไร เขาปิดเครื่อง และเงียบไปครู่หนึ่ง

ทันใดนั้นเขาก็ปัดมืออย่างรุนแรงผลักคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะลงกับพื้น

ขณะที่มีเสียงโครมคราม ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา

“ พ่อทำบ้าอะไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง