ฮั่วเทียนหลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนวางหนังสือในมือที่มีค่ามากไว้บนโซฟา
หยางหลิงรุ่ยมองชายคนนี้ด้วยความตกใจ เธอรู้สึกว่าทัศนคติต่างๆของเธอได้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
บนโลกใบนี้ ทำไมถึงได้มีผู้ชายหน้าด้านไร้ยางอายและยังใจดำแบบนี้อยู่อีกเหรอ
เธอรู้ตัวเองว่าจะต้องสั่งสอนเขา!
"ธะ ธะ เธอ ......”หยางหลิงรุ่ยสั่นไปทั้งตัว แต่เธอไม่รู้ว่าจะด่าใครอย่างไร ทำได้เพียงมองไปที่พี่ชายคนโตเหมือนกับว่าเธอกำลังขอความช่วยเหลืออยู่อย่างนั้น
หยางหยวนยิ้มและมองฮั่วเทียนหลันก่อนเอ่ย:“ขอโทษครับ ท่านประธานฮั่ว หลิงรุ่ยยังเด็กชอบพูดจาตรงเหมือนขวานผ่าซาก! ”
เป็นผู้หญิงปากกล้างั้นเหรอ
ฮั่วเทียนหลันชำเลืองมองไปที่หยางหลิงรุ่ย ผู้หญิงคนนี้ที่มีรูปร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลดูน่าดึงดูดกว่าเมื่อก่อน
ฮั่วเทียนหลันใช้สายตามองอย่างรุกราน และมองไปที่ตำแหน่งที่อ่อนไหวที่สุดของหยางหลิงรุ่ย
หยางหลิงรุ่ยหดตัวลงและรู้สึกได้ในทันที
เธอมองไปที่ฮั่วเทียนหลันอย่างดุดันและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม:“คุณมองอะไรน่ะ”
"มองคนสวย”ฮั่วเทียนหลันตอบอย่างน้ำเสียงค่อนข้างเหลาะแหละ
"พี่ใหญ่ พี่ดูว่าเขาเป็นแบบนี้!”หยางหลิงรุ่ยไม่สามารถต่อกรกับฮั่วเทียนหลันได้ เธอได้แต่ย่ำเท้าขอความช่วยจากหยางหยวนอีกครั้ง
หยางหยวนเหลือบมองน้องสาวคนนี้อย่างช่วยไม่ได้ น้องสาวที่อ่อนโยนและซุกซนในบางครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น:“พอก่อนหลิงรุ่ย หยุดโวยวายได้แล้ว เธอออกไปก่อน คุณฮั่วกับฉันมีเรื่องสำคัญที่จะต้องคุยกัน”
หยางหลิงรุ่ยไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่คำสั่งของพี่จะไม่ฟังก็ไม่ได้ ทำได้เพียงใช้สายตาสังหารตักเตือนฮั่วเทียนหลันก่อนที่จะเดินออกไปก็เท่านั้น
แต่ทว่ายังไม่ทันจะก้าวขา ก็ถูกฮั่วเทียนหลันจับเอาไว้
"เดี๋ยวก่อน น้องหยาง เธอมีอะไรจะคืนฉันไม่ใช่เหรอ”
หยางหลิงรุ่ยตะลึงไปครู่หนึ่ง คืนของงั้นหรอ ไอ้ผู้ชายบ้าคนนี้ ฉันเป็นหนี้อะไรเขา
ไม่ใช่!
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงชุดสูทที่ตอนนี้น่าจะกลายเป็นผ้าขี้ริ้วขาดรุ่งริ่งไปแล้ว
เอ่อ ......ใบหน้าเล็กๆของหยางหลิงรุ่ยซีดเผือดในทันที หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดตะกุกตะกัก:“อันนั้น อันนั้น......”
ฮั่วเทียนหลันเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มและมองไปที่หยางหลิงรุ่ย ก่อนถาม:“ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่น้องหยางพูดมันคือชุดไหน หรือว่าเธอสนใจในชุดนั้นของผม”
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ผู้ชายคนนี้อย่างไม่มีอะไรจะพูด ในขณะนั้นเธอรู้สึกถึงความแปลกไม่เหมือนใครของเขา
เขาเนี่ยนะจะทำได้ หลงตัวเองซะขนาดนี้
"คุณ คุณรอฉันก่อนเถอะ ฉันจะไปหามาให้!”
พูดจบหยางหลิงรุ่ยก็ดิ้นหลุดจากมือของฮั่วเทียวหลันและเดินออกไปจากห้องหนังสือ
เธอยืนอยู่ตรงลานบ้านพักหนึ่ง และเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหนดี
ในใจเธอก็รู้ดี สูทชุดนั้นมันกลายเป็นผ้าขี้ริ้วไปตั้งนานแล้ว จะเอามาคืนผู้ชายเลวๆคนนี้ได้อย่างไรกัน
คิดไปคิดมา ดูเหมือนว่าทำได้เพียงไปซื้อชุดใหม่มาคืน
เธอยังคงจำยี่ห้อของสูทตัวนั้นได้ ดังนั้นจึงรีบขับรถเพื่อที่จะไปห้างสรรพสินค้า
หลังจากที่พนักงานที่เคาน์เตอร์สูทในห้องสรรพสินค้าฟังหยางหลิงรุ่ยบรรยายถึงลักษณะสูทตัวนั้นจบ จึงเอ่ยขึ้น:“คุณคะ สูทตัวที่คุณพูดมา น่าจะเป็นสูทแฮนด์เมดของอาจารย์ Biganni ชาวอิตาลี ผลงานเสื้อผ้าของอาจารย์ทำแค่ชุดเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะค่ะ...... ”
"ห้ะ”หยางหลิงรุ่ยตกตะลึงเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดมาก่อนเสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้นจะหายากอะไรขนาดนี้
"ถ้าอย่างงั้น พวกคุณสามารถตัดสูทตัวใหม่แทนอาจารย์ท่านนั้นให้ฉันได้ไหม”หยางหลิงรุ่ยถามอย่างร้อนใจ เพราะเธอออกมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
ถ้าผู้ชายคนนั้นรอไม่ไหวแล้วกลับไป พบว่าตัวฉันเองไม่ได้อยู่บ้านหยางแล้ว ทำให้ตัวเองลำบากใจได้อย่างไร
พนักงานส่ายหัวแล้วเอ่ยขึ้น:“อาจารย์ Biganniมีชื่อเสียงโด่งดังมากจนพวกเรายังไม่สามารถร่วมธุรกิจกับเธอได้ และถ้าสามารถร่วมธุรกิจกับอาจารย์ Biganniได้จริงๆ เกรงว่าจะต้องเข้าแถวกันยาวๆ เพราะทุกๆปีมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องการให้เธอตัดเสื้อผ้าให้... ...”
"อืม... ...”เสียงของหยางหลิงรุ่ยดูหงุดหงิดเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงจริงๆ แค่สูทธรรมดาๆตัวนึงทำไม่ถึงได้มีอุปสรรคมากมายขนาดนี้
ในเมื่อไม่สามารถตัดชุดใหม่ได้ งั้นก็คงต้องชดใช้ด้วยเงินแล้วแหละ!
เธอคือลูกสาวคนโตของบ้านหยาง เงินเดือนของเธอมีไม่น้อยเลยทีเดียว
"งั้นฉันขอถามหน่อย ชุดนี้ราคาตลาดเท่าไหร่ ”หยางหลิงรุ่ยถามปัญหาสุดท้ายที่สงสัย
แต่ก็ทำให้เธอผิดหวัง พนักงานส่ายหัวก่อนเอ่ย:“ขอโทษด้วยค่ะ งานของอาจารย์Biganni ถ้าวัดจากมูลค่าถือเป็นการดูถูกเธอค่ะ”
หยางหลิงรุ่ยเดินจากห้างสรรพสินค้าไปอย่างผิดหวัง ภายในใจขัดแย้งกันเป็นอย่ามาก
ตอนนี้ควรจะทำอย่างไรดี ชายคนนั้นกำลังรอเธอเอาชุดกลับมาให้หรือเปล่า
แต่ว่าตอนนี้เธอออกมาเสียเที่ยวซะแล้ว
ให้เธอหาอะไรใช้แก้ขัดไปก่อน เอาของปลอมมาหลอกเป็นของจริงแบบนี้ เธอทำไม่ได้จริงๆ
ดังนั้นเธอจึงขึ้นรถมือเปล่ากลับบ้านไป
ฮั่วเทียนหลันนั่งอย่างสง่างามอยู่ในห้องหนังสือ เขาเอื้อมหยิบถ้วยชาและจิบชาอย่างช้าๆ
เขาเหลือบมองจางหยวนอย่างไม่ได้ตั้งใจราวกับว่ารอให้หยางหยวนเริ่มพูดก่อน
แต่จางหยวนกลับนั่งนิ่งอย่างสงบ ไม่ขยับแม้แต่น้อย
เมื่อหยิบยกหัวข้อเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจ แต่ทั้งสองก็คุยกันอย่างอึกอักถามคำตอบคำ
ท้ายที่สุดฮั่วเทียนหลันก็ไม่สามารถนั่งนิ่งได้
เขาวางถ้วยชาลงและมองไปที่หยางหยวนก่อนเอ่ย:“ลุงหยาง ฉันมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากลุงหน่อย”
"ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไรกันที่ทำให้นายฮั่วต้องมาขอคำแนะนำจากฉัน”หยางหยวนมีท่าทีที่เรียบง่ายดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เกี่ยวกับหยางหลิงรุ่ย......”ฮั่วเทียนหลันเริ่มพูดออกมาและประตูห้องหนังสือก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง
หยางหลิงรุ่ยเดินเข้าไปหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ในมือยังถือถุงกระดาษอีก1ใบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง