ฮั่วเทียนหลันและหยางหยวนเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือในการทำธุรกิจ แต่หยางหลิงรุ่ยนั้นฟังไม่ค่อยเข้าใจ เธอจึงเตรียมเดินออกจากห้องหนังสือ
แต่ทันทีที่เธอขยับเท้าพี่ชายใหญ่ก็เอ่ยขึ้น : "หลิงรุ่ย เดี๋ยวก่อน"
"หือ?" หยางหลิงรุ่ยมองหยางหยวนด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอคิดว่าตนเองอยู่ในนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
"แข้งขาของฉันไม่ค่อยมีแรง อีกสักหน่อยเธอเดินไปส่งนายน้อยฮั่วด้วยนะ!”
คำพูดของหยางหยวนทำให้ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยตึงขึ้นในทันที
แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจที่จะเดินไปส่งผู้ชายใจแคบและน่าเกลียดชังคนนี้ แต่เธอก็ต้องทำตามที่พี่ชายใหญ่สั่งอยู่ดี
จะให้พี่ชายใหญ่นั่งรถเข็นเพื่อไปส่งฮั่วเทียนหลันมันก็ยังไงอยู่
เป็นเวลานานพอสมควรที่ทั้งสองพูดคุยกัน หยางหลิงรุ่ยที่นั่งอยู่ด้านข้างเกือบจะหลับไปแล้วเมื่อต้องมานั่งฟังเรื่องน่าเบื่อเหล่านี้
เมื่อเห็นว่าคุยกันเสร็จแล้วเธอจึงรีบลุกขึ้นและพูดว่า : "เชิญค่ะ คุณชายฮั่ว"
หลังจากเดินออกจากคฤหาสน์ก็เห็นรถที่จอดอยู่ข้างนอกทันที
เมื่อฮั่วเทียนหลันเดินไปถึงรถ เขาก็ชะงักเท้าก่อนจะหันไปมองหยางหลิงรุ่ย
เมื่อสังเกตเห็นแววตาของชายคนนี้ หยางหลิงรุ่ยก็ยืนแน่นิ่งก่อนจะก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว : "คุณชายฮั่วมีอะไรหรือเปล่าคะ"
เธอเหลือบมองด้านหลังพบว่ามีบอดี้การ์ดสองคนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ถึงได้รู้สึกวางใจขึ้นมา
หึ บ้านตนเองแท้ๆ เธอยังกลัวจะถูกเขารังแกอยู่อีกหรือ
ฮั่วเทียนหลันยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความเนื่อยหน่าย : "คุณหยางรู้ว่าผมอาศัยอยู่ที่ไหนไหมครับ"
อะไรกันเนี้ย หยางหลิงรุ่ยเริ่มรู้สึกว่ามันไร้สาระ ผู้ชายคนนี้สมองมีปัญหาหรือไง ทำไมเธอจะต้องรู้ด้วยว่าเขาพักอาศัยอยู่ที่ไหน
ขอร้องล่ะ เธอไม่อยากจะเสวนากับเขาจริงๆ สิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อวานนี้ยังคงตามหลอนอยู่เลย
"ไม่รู้ค่ะ และก็ไม่จำเป็นต้องรู้ด้วย"
"แต่คุณหยางบอกว่าจะทำชุดสูทเพื่อทดแทนชุดเดิมของผมที่มันเสียหายไม่ใช่เหรอ”
คำพูดของฮั่วเทียนหลันนั้นราวกับสายฟ้าฟาดลงมาข้างในหัวใจของหยางหลิงรุ่ย
ผู้ชายคนนี้เกินไปจริงๆ แทนที่จะเป็นคนมารับชุดเอง กลับจะให้เธอนำไปส่งให้ยังงั้นเหรอ
เธอเอ่ยตอบอย่างตัดรำคาญ : “โอเคๆๆ คุณชายฮั่วบอกที่อยู่มาเลยค่ะ ฉันจำได้ไม่ลืมแน่นอน”
หยางหลิงรุ่ยกำลังรอฟังที่อยู่ของฮั่วเทียนหลัน แต่ทันใดนั้นผู้ชายคนดังกล่าวก็ดึงประตูรถออกแล้วเดินขึ้นไปนั่งบนรถทันที ก่อนที่เขาจะปิดประตูลงเขาได้เอ่ยขึ้น
"ดูอารมณ์ของผมก่อนละกัน ผมกลัวว่าคุณหยางจะไม่มาส่งด้วยตัวเอง ... "
มองดูรถกำลังวิ่งออกไป หยางหลิงรุ่ยที่พึ่งได้สติก็กระทืบเท้าของตนเองด้วยความคับแค้น
ผู้ชายคนนี้กำลังปั่นหัวเธออยู่ชัดๆ
ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองหยางหลิงรุ่ยที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นผ่านกระจกมองหลัง ก่อนใบหน้าจะรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้ลืมทุกสิ่งในอดีตไปแล้วอาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย แต่ก็พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ดียิ่งกว่าเช่นเดียวกัน
ความทรงจำในอดีตของเธอนั้นมันมืดมนเกินไป และตอนนี้เธอสามารถกลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้เช่นนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฟังจากปากของหยางหยวนเกี่ยวกับตัวเธอ แต่เขาก็ยืนยันได้ว่าเธอคืออันหรันไม่ผิดแน่
เมื่อหยางหลิงรุ่ยกลับเข้าไปในคฤหาสน์และเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เธอก็เห็นหยางหยวนกำลังยันตัวลุกขึ้นจากรถเข็นอย่างยากลำบาก
เธอรีบก้าวเข้าไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพยุงตัวพี่ชายใหญ่ไว้ ก่อนจะเอ่ยเชิงตำหนิ : "พี่ชายใหญ่ทำไมถึงลุกด้วยตัวเองเช่นนี้ ให้คนใช้มาช่วยพยุงสิคะ ถ้าหากล้มลงไปแล้วจะทำอย่างไร"
หยางหยวนยกยิ้มแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรกลับไป
ทุกวันเขาจะต้องลุกขึ้นจากรถเข็นเพื่อเดินสักหน่อย แม้ว่าผลสืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปีนั้นจะเลวร้ายลงมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้นเขาก็ยิ่งต้องลุกขึ้นสู้ เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตาง่ายๆอยู่แล้ว
หยางหลิงรุ่ยพยุงเขาเดินออกมาจากตัวบ้านไปที่ศาลาในสวนด้านหลัง
หยางหยวนมองไปที่หมู่ดอกไม้นานาชนิดที่เพิ่งผลิบานตรงหน้า เมื่อสายลมพัดมาดอกไม้ก็พลิ้วไหวและส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานหัวใจ
"หลิงรุ่ย เธอคิดว่าฮั่วเทียนหลันเป็นคนยังไงเหรอ"
หยางหลิงรุ่ยนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายใหญ่ถึงได้เอ่ยถึงผู้ชายที่น่ารำคาญคนนั้น
เธอนึกถึงสิ่งที่ชายคนนั้นทำ ก่อนจะกัดฟันพูดขึ้น : "ฉันเกลียดผู้ชายคนนั้น ฉันไม่ชอบเขา!"
"ฮ่าฮ่า ... " หยางหยวนยิ้มให้คำตอบของน้องสาวซึ่งไม่ผิดจากที่เขาคาดไว้เลย
เธอสูญเสียความทรงจำไปแล้วและความทรงจำในอดีตนั้นไม่หลงเหลืออยู่เลยสักนิด
แต่ถึงอย่างนั้นก็ดี เรื่องรักๆใคร่ๆนี้เพิ่งจะเริ่มขึ้น มองดูท่าทีของเธอตอนนี้คงจะไม่ได้สังเกตเห็นว่าตนเองนั้นมีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นมากกว่าความรู้เกลียดเสียอีก
"พี่ชายใหญ่หัวเราะอะไร ฉันไม่ชอบผู้ชายคนนั้นจริงๆนะ" เมื่อเห็นท่าทางล้อเลียนของหยางหยวน หยางหลิงรุ่ยจึงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่คิดว่าฐานะของเขาดูเหมาะสมกับเธอดี"
"อะไรนะ พี่ชายใหญ่อย่ามาล้อเล่นแบบนี้สิ! หัวใจของฉันไม่มีทางรับคนอย่างเขาแน่นอน!” หยางหลิงรุ่ยพูดปฏิเสธขึ้นมาทันที
แม้ว่าเธอจะเคยตรวจสอบข้อมูลของฮั่วเทียนหลัน และรู้ว่าตระกูลฮัวนั้นได้รับการยกย่องให้เป็นตระกูลแรกในประเทศจีน
แต่ตระกูลแรกนี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากตระกูลหยางได้ออกจากจีนไปแล้ว
หากตระกูลหยางไม่ได้ออกจากจีนไปก่อน คงเป็นตระกูลหยางที่ควรได้รับสมญานามเช่นนั้น
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตระกูลหยางถึงย้ายจากประเทศจีนไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศแทน
หยางหยวนส่ายหัวไปมาก่อนจะเอ่ย : "ตอนนี้ไม่ชอบก็ไม่แปลก ไม่ฝืนบังคับหรอกเพราะชิงสุกก่อนหามนั้นไม่ดี แต่ว่าโชคชะตาของเธอและเขาถูกกำหนดไว้แล้วล่ะ"
คำพูดเหมือนมีอะไรแอบแฝงของหยางหยวนนั้น ทำให้หยางหลิงรุ่ยตกตะลึง
"พี่ชายใหญ่คะ วันนี้เขามาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”
หยางหลิงรุ่ยไม่อยากพูดถึงเรื่องของโชคชะตาอีกต่อไป เธอแค่รู้สึกแปลกใจเพราะว่าหลังจากที่ไปส่งชิงหรงที่โรงเรียนเธอก็ได้พบกับฮั่วเทียนหลัน พอกลับมาบ้านก็เจอกับฮั่วเทียนหลันอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง