แต่ปัญหาตอนนี้คือ ถ้าหลังจากนี้หยางหลิงรุ่ยฟื้นคืนความทรงจำของอันหรันกลับมา เธอจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับจางหรัน
นี่คือปัญหาที่ยังคงยุ่งเหยิง และยังไม่สามารถที่จะหาทางออกที่ดีที่สุดได้
“จริงๆแล้วฉันไม่อยากให้หลิงรุ่ยกลับไป เธอใจดีเกินไป จึงถูกทำร้ายอย่างง่ายๆ” เมื่อพูดถึงน้องสาวตัวเอง หยางหยวนก็เศร้าใจเล็กน้อยเช่นกัน
เมื่อครั้งที่ป้าแต่งงานเข้าบ้านอัน มันเป็นการตัดสินใจของป้าเอง ซึ่งคุณปู่และคุณย่าท่านก็ไม่เห็นด้วยเลยสักนิด
ปรากฏผ่านมาได้แค่ 2 วันเท่านั้น ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุณป้าและสามีของคุณป้าก็ได้เสียชีวิตลง
และชีวิตของหลิงรุ่ยก็ร่อนเร่พเนจรด้วยเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ป้าขอเอาไว้ก่อนหน้านี้ อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของหลิงรุ่ยโดยเด็ดขาด
ตอนที่หลิงรุ่ยเพิ่งถูกไล่ออกจากบ้านอัน หยางหยวนก็เป็นคนรับเธอไป
“ถ้าพูดจริงๆ เธอก็ยังชอบฮั่วเทียนหลันอยู่ อยู่ด้วยกันบ้างแยกกันบ้าง แต่โชคชะตานี้ก็ถูกฟ้าลิขิตไว้แล้ว”ตงเหยียนถอนหายใจพร้อมเอ่ยขึ้น
หยางหยวนดึงมือออกมาอย่างยากลำบากก่อนลูบเบาๆที่ผมของตงเหยียนแล้วเอ่ยขึ้น:“โอเค เรื่องนี้พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่ง หลิงรุ่ยจะชอบใคร ก็ปล่อยให้เธอไปกับคนนั้น!แต่ว่าตอนนี้เธอเป็นคนในครอบครัวหยางแล้ว ถ้ามีใครยังกล้ารังแกเธอ ก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน......”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่ก็ยังเผยให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่ง
ตงเหยียนมองไปที่หยางหยวน หยางหยวนเมื่อสักครู่นั้นดูหล่อเหลาเป็นพิเศษ
“เถ้าแก่หยางของพวกเราลงมือเองล่ะก็ งานนี้ต้องป่าเถื่อนแน่! ”
“อืม ป่าเถื่อนอย่างงั้นเหรอ” หยางหยวนเดินเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหูของตงเหยียน:“อันที่จริงแล้วเธอคิดไม่ถึงหรอกว่ามันจะป่าเถื่อนได้ถึงขนาดไหน อยากจะลองดูไหมล่ะ”
“อันธพาล......”
เวลากลางคืนหยางหลิงรุ่ยหลับๆตื่นๆ เธอก็จะฝันถึงฮั่วเทียนหลัน
ไอ้ผู้ชายเลวคนนี้ เกือบกลายเป็นผีชั่วร้ายในความฝัน เขาดุร้ายมากๆเพื่อต้องการจะให้เธอตามเขาไป และยังให้เธอรีบเอาชุดสูทออกมา ไม่อย่างงั้นจะให้เธอใช้หนี้ด้วยร่างกายของเธอ
ประเด็นอยู่ตรงที่ตอนสุดท้ายเขาเกือบต้องจะมีบทบาทนี้
หยางหลิงรุ่ยก็ทำอะไรไม่ถูก บังเอิญว่าวันนั้นจางหรันโทรศัพท์มาพอดี เพื่อชวนเธอไปเที่ยวบ้านผีสิง
สำหรับความสัมพันธ์ของจางหรัน ก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
เช้านี้ เธอเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวไปแล้วเจ็ดแปดชุด ก่อนจะเลือกชุดเดรสยาวสีขาวนวล ซึ่งทำให้เธอดูสวยสง่างามโดดเด่นขึ้นมา
กำลังจะลงไปข้างล่าง เธอก็ถูกตงเหยียนตะโกนเรียก
“แต่งตัวสวยขนาดนี้ วันนี้จะไปไหนเหรอ”
หยางหลิงรุ่ยนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยอย่างเบาๆ:“เอ่อ เอ่อ ฉันจะออกไปหน่อย”
ส่วนเรื่องที่เธอมีนัด เธอเขินและอายจึงไม่กล้าพูดออกไป
ตงเหยียนก้าวไปข้างหน้าและสำรวจหยางหลิงรุ่ย ก็รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรบ้างอย่างไป
“เธอรอฉันแป๊บนึง”พูดจบเขาก็ออกไป
หยางหลิงรุ่ยรอไม่นาน ตงเหยียนก็กลับมาในมือถือสร้อยเพชรมา1เส้น
หลังจากช่วยหยางหลิงรุ่ยสวมใส่สร้อยคอเสร็จ เขาก็ถอยหลังไปไม่กี่ก้าวก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น:‘ อืม น้องสาวของบ้านเราสวยอย่างสมบูรณ์แล้ว!’
หยางหลิงรุ่ยยิ้มและกระโดดดีใจออกจากบ้านไป
มองเห็นเงาของเธอค่อยๆจากไป ตงเหยียนก็ถอนหายใจ
อย่ามาว่าพี่นะ พี่ก็ไม่อยากให้เธอมาเสียใจภายหลังเหมือนกัน
หยางหลิงรุ่ยเพิ่งจะออกไป ก็เห็นรถMaybach จอดที่ด้านนอก
เมื่อเธอเดินผ่าน ประตูรถก็ถูกเปิดด้วยคนคนขับเรียบร้อยแล้ว
หยางหลิงรุ่ยมักจะออกไปข้างนอกกับจางหรันเป็นประจำ รถที่จางหรันขับหรือคนขับรถของจางหรัน หยางหลิงรุ่ยเธอรู้จักดี
แต่ทำไมวันนี้ทั้งคนทั้งรถดูไม่ค่อยจะเหมือนเดิมเท่าไหร่
แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากกล่าวขอบคุณเสร็จเธอก็ขึ้นรถ
ยังไม่ทันจะนั่งลง เธอก็มองเห็นดวงตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม และใบหน้าอันเย็นชานั้น
แท้จริงแล้วคือผู้ชายคนนั้น
พระเจ้าช่วย เธอขึ้นรถผิดคันซะแล้ว!
หยางหลิงรุ่ยรู้ตัวดีว่าต้องถอยกลับ แต่เสียงปิดประตูดังปังขึ้น ประตูรถก็ถูกล็อคอัตโนมัติ
คนขับขึ้นรถ โดยไม่สนใจคำขอร้องให้จอดรถของหยางหลิงรุ่ยเลย เขาเหยียบคันเร่งแล้วขับไปอย่างรวดเร็ว
หยางหลิงรุ่ยจ้องไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สีหน้าท่าทางค่อนข้างประหม่าเล็กน้อย
“คุณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”
ฮั่วเทียนหลันมองหยางหลิงรุ่ยอย่างใคร่ครวญ ก่อนเอ่ย:“เธอไม่ได้มาขึ้นรถฉันเองหรอกเหรอ”
“ไม่ใช่ ฉันแค่ ……”หยางหลิงรุ่ยอยากจะอธิบาย แต่คิดไปคิดมาก็ตัวเองนี่แหละที่ขึ้นรถไปเอง
ดังนั้นเสียงของเธอก็ค่อยๆลดเบาลง สุดท้ายก็ทำได้แค่ก้มหน้าเพื่อประณีประนอมและพูดว่า:“คุณฮั่ว ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกหลายเรื่อง ปล่อยให้ฉันลงจากรถได้ไหม”
ฮั่วเทียนหลันไม่ได้ตอบในทันที แต่เขามองไปรอบๆหยางหลิงรุ่ยและโจมตีเธอด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
วันนี้เธอแต่งตัวสวยงามและน่ารักมาก
ในแววตาค่อนข้างสับสน ที่ทำให้ผู้คนอยากจะโอบกอดและอยากรักทะนุถนอมเธอ
“รถกำลังขับและไม่สามารถจอดได้”ฮั่วเทียนหลันตอบอย่างไม่จริงใจ
“เธอ!”หยางหลิงรุ่ยลุกขึ้นอย่างดุดัน แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีคลื่นพลังงานบางอย่างถ่ายทอดออกมา ทำให้เธอทับฮั่วเทียนหลันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ขอโทษครับ ประธานฮั่ว คุณหยาง เมื่อกี้มีรถเบรกกะทันหัน ดังนั้นผมจึงต้องเปลี่ยนเลนครับ”
หยางหลิงรุ่ยเหมือนมีอะไรจะพูด แต่ตอนนี้เธอทับฮั่วเทียนหลันอยู่ เธอก็พยายามที่จะลุกขึ้น
ดูเหมือนว่าเธอจะโดนกระแทกที่คอ และมันเจ็บมากๆโดยเฉพาะเวลาขยับตัว
ในขณะที่อยู่ในอ้อมแขนของฮั่วเทียนหลันอุณหภูมิร่างกายที่ร้อนแรงและลมหายใจของเขานั้น มันทำให้เธอรู้สึกถึงการพึ่งพากันที่ไม่สามารถอธิบายได้
ในตอนนี้ เธอมีความเคลิบเคลิ้มเล็กน้อย
“ชอบใช่ไหม”ฮั่วเทียนหลันยื่นมือมากอดหยางหลิงรุ่ยไว้
ถึงตอนนั้นหยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกตัวขึ้นมา เธอผลักฮั่วเทียนหลันออกอย่างรุนแรงจนหลังไปกระแทกกับประตูรถ ถ้าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ก็คงต้องใช้ไม้แข็ง เธอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:“ฮั่วเทียนหลัน คุณทำแบบนี้มันคือการลักพาตัว คุณกำลังลักพาตัว!ฉันเป็นลูกสาวแห่งบ้านหยาง ถ้าคุณกล้าทำอะไรฉัน คุณจะสามารถรับสิ่งที่จากเกิดหลังจากนี้ได้เหรอ”
“จริงหรอ งั้นเธอก็แจ้งตำรวจเลยสิ!”ฮั่วเทียนหลันยื่นโทรศัพท์มือถือให้ พร้อมกดเบอร์ตำรวจและโทรออกให้อย่างเสร็จสรรพ
หยางหลิงรุ่ยมองชายคนนี้ด้วยความประหลาดใจ คนที่ทำเรื่องเลวๆ จะยิ่งหวาดผวาได้ง่ายๆไม่ใช่เหรอ
แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ยังถึงได้สงบและเยือกเย็นขนาดนี้
เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์กำลังจะโทรติด หยางหลิงรุ่ยจึงรีบกดวางสายทันที
ไอ้ผู้ชายไร้ยางอาย แต่ว่าเธอก็ยังต้องรักษาหน้าตาให้กับตระกูลหางเอาไว้
เธอขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ด้วยความโมโหและทุบโทรศัพท์ลงที่ขาของฮั่วเทียนหลัน
เสียงร้องของความเจ็บปวดไม่ปรากฏขึ้น ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วและดึงหยางหลิงรุ่ยเข้ามา
“นี่เธอกล้าตีฉันงั้นเหรอ กล้าทำฉันอย่างฉันเหรอ นี่อยากถูกสั่งสอนใช่ไหม ”
ขณะที่พูดอยู่หน้าของฮั่วเทียนหลันก็โน้มเข้าใกล้หยางหลิงรุ่ยขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยก็เริ่มแดงจนไปถึงคอ เธอผลักฮั่วเทียนหลันออกอย่างแรงก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนเลว!”
ท่าทางของเธอดูโกรธมาก ริมฝีปากแดงของเธอ ทำให้ในใจของฮั่วเทียนหลันมีแรงกระตุ้นที่แปลกประหลาดก่อตัวขึ้น
จากนั้นเขาโน้มตัวลงไปจูบเธออย่างดูดดื่ม
“ฮือ ฮือ......”หยางหลิงรุ่ยพยายามดิ้นอย่างสุดแรง แต่ทว่ามือของเธอก็เริ่มอ่อนแรงลง
เธอมีรู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงสามารถเจอจุดอ่อนของเธอได้ง่ายดายขนาดนี้
ฉากกั้นที่เบาะหลังถูกปิดลง ฮั่วเทียนหลันยื่นมือเข้าไปในเสื้อของหยางหลิงรุ่ยและบีบคลำอย่างเหิมเกริม
เมื่อเห็นมือของเขาเริ่มที่จะไม่เกรงใจเธอขึ้นเรื่อย หยางหลิงรุ่ยเริ่มร้อนใจ จึงกัดริมฝีปากของฮั่วเทียนหลันไปอย่างรุนแรง
ฮั่วเทียนหลันรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ยื้ออยู่สักพักก่อนที่จะปล่อยหยางหลิงรุ่ยออก
หยางหลิงรุ่ยสะบัดออกอย่างสุดแรงก่อนไปนั่งชิดติดประตู รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆในปากของเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธเคือง:“ฮั่วเทียนหลัน ไอ้อันธพาลหัวเหม็น! ”
“อันธพาลงั้นเหรอ ไม่ไม่ไม่ ฉันเป็นแค่สุภาพบุรุษที่คู่ควรสุภาพสตรีแสนงามก็เท่านั้น” ฮั่วเทียนหลันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ใบหน้าอันหล่อเหลาเพียงพอที่จะฆ่าดาราชายคนไหนก็ได้
“คุณเนี้ยเหรอ......มีแบบคุณที่ไหนกัน” หยางหลิงรุ่ยเถียงไม่กี่คำ แต่สุดท้ายเธอก็เริ่มไม่มีแรง
ใบหน้าของเธอเริ่มแดงและรู้สึกร้อนระอุ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่ค่อยสบายตัว
เธอจำได้แม่นว่าจางหรันจะมารับ แต่ทำไมฮั่วเทียนหลันถึงได้มาปรากฏตัวในชั่วพริบตานี้
เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธชายคนนี้มาก
แต่ทำไมไม่รู้ ในใจเธอกลับเกลียดเขาไม่ลง
หยางหลิงรุ่ยนั่งตัวแข็งทื่อ เธอดึงมือจับตรงหลังคารถ พยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับฮั่วเทียนหลัน
รถขับไปได้อย่างราบรื่น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจอดเมื่อไหร่
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หยางหลิงรุ่ยจึงรีบหยิบมันขึ้นมา เธอเห็นว่าเป็นเบอร์ของจางหรัน จึงรีบที่จะกดรับสาย
แต่เธอเห็นแล้วว่าฮั่วเทียนหลันก็เห็นแล้วเช่นกัน
เขายื่นมือออกไปอย่างไม่ต้องสงสัยแล้วแย่งโทรศัพท์จากหยางหลิงรุ่ย จากนั้นปิดเครื่องและนำมาวางไว้อีกฝั่งนึง
“นี่คุณ!คืนฉันมาเดี๋ยวนี้นะ!”หยางหลิงรุ่ยเริ่มโมโห แยกเคี้ยวยิงฟันยื่นมือไปเพื่อที่จะแย่งคืนมา
แต่คราวนี้รถเลี้ยวอย่างกะทันหัน ทำให้เธอกลิ้งไปทับที่ฮั่วเทียนหลันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ริมฝีปากของทั้งสองคนก็สัมผัสกันในชั่วพริบตา
หยางหลิงรุ่ยเหมือนจะหยุดนิ่ง ลมหายใจที่ริมฝีปากของชายคนนั้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนหยุดไม่อยู่
เธอหยิบโทรศัพท์คืนมาได้ แล้วรีบกลับไปนั่งชิดติดประตูก่อนที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขยับไปไหนเวลารถเลี้ยวอีกต่อไป
ฮั่วเทียนหลันเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองไปที่หยางหลิงรุ่ย ก่อนเอ่ย:“มีรสชาติที่น้องหยางต้องการหรือเปล่านะ”
น้ำเสียงของเขาทุ้มและมีพลัง แต่ลากยาวและแฝงไปด้วยความตลก
ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยเริ่มแดงไปถึงคอ ไอ้ผู้ชายคนนี้ ไม่รู้จักขอโทษหรือไงทำให้ผู้หญิงอายอยู่ได้
เธอจ้องมองฮั่วเทียนหลันอย่างดุดัน หลังจากนั้นเธอก็ตบแผ่นกั้นตรงหน้าอย่างแรง
“จอดรถ จอดรถ ฉันจะลง!”
ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่บนรถอย่างสง่างาม และหยิบโทรศัพท์ของเธอที่ไม่รู้ว่าตกไปอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ขึ้นมา ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ:“น้องหยางเป็นหนี้ฉันตัวนึง ยังไม่ใช้คืนฉันเลย ทำไมไม่เอาเวลานี้ พาฉันไปซื้อชุดใหม่ล่ะ”
ห้ะ หยางหลิงรุ่ยมองฮั่วเทียนหลันอย่างประหลาดใจ
เขาไม่พูด เธอก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว
ถึงแม้จะได้ผ้ามาแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาตัดเย็บ หยางหลิงรุ่ยเพิ่งจะรู้สึกว่า ฝีมือและผลงานของอาจารย์ท่านนี้ พิถีพิถันเสียเหลือเกิน
เธอลงมือทำอยู่นาน แต่รูปแบบที่ออกมา เมื่อเทียบกับแบบเดิมนั้นแตกต่างกันมากทีเดียว
คำพูดที่บอกว่านักเรียนสามารถเก่งกว่าครูได้ นี้มันเป็นเพียงแค่คำโกหกทั้งนั้น
“ไม่ได้ วันนี้ฉันไม่ว่าง คุณบอกให้คนขับรถรีบจอดเดี๋ยวนี้ ฉันจะลง”
แต่ถ้าเป็นวันอื่น หยางหลิงรุ่ยอาจจะไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฮั่วเทียวหลันได้จริงๆ
แค่ชุดเดียวเอง สิบชุดก็ไม่มีปัญหา
แต่ว่าวันนี้ไม่ได้ เธอนัดกับจางหรันก็ต้องไปตามที่นัดไว้
“ถ้าน้องหยางไม่รับปาก รถก็จะไม่จอด”
“นี่คุณ ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”หยางหลิงรุ่ยตะโกนขึ้นอย่างโมโห แต่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ฮั่วเทียนหลันก็แค่หลับตาสงบสติอารมณ์ แสดงท่าทีไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ฮั่วเทียนหลันก็คงโดนม้าห้าตัวขยี้ร่างไปแล้ว
หยางหลิงรุ่ยเริ่มจะเสียใจแล้ว ทำไมตอนแรกเธอถึงได้ใจร้อนขนาดนั้น
ไม่ใช่โดนเหลาะแหละชั่วครู่หรอกเหรอ อย่างมากก็แค่คืนชุดสูทสภาพเดิมให้กับเขา หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก
แต่ตอนนี้ก็ยังต้องพึ่งเขาอยู่ดี!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง