“คุณหยางขึ้นมาบนรถของผม ก็แปลว่าเป็นคนของผมแล้ว” ฮั่วเทียนหลันพูดเสียงเรียบอย่างไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองพูดนั้นมีเหตุผลหรือเปล่า
"อะไรนะ" หยางหลิงรุ่ยนิ่งงันเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้ทำตัวไร้เหตุผลเช่นนี้
“นายมันเอาแต่ใจไร้เหตุผล!” หยางหลิงรุ่ยเอ่ยขึ้นเสียงแหลม
ฮั่วเทียนหลันเงยหน้าขึ้นมองหยางหลิงรุ่ยด้วยสายตาลึกซึ้ง ทำให้หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าขึ้นมา
“คุณหยางต้องการพูดอย่างมีเหตุผลงั้นเหรอ ถ้าเช่นนั้นชุดสูทของผมล่ะ”
คำถามของฮั่วเทียนหลันราวกับค้อนหนักทุบลงบนตัวของหยางหลิงรุ่ยอย่างรุนแรง
เธอรู้สึกใจฝ่อเล็กน้อย แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ เธอเอ่ยขึ้น : "ก็ใช่ ฉันทำลายชุดของนาย แต่ฉันก็รับปากแล้วนี่ว่าจะทำให้นายใหม่น่ะ!"
หลังจากพูดจบประโยคหยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกว่าคำพูดเมื่อกี้ยังไม่หนักแน่นมากพอ เธอจึงพูดเสริมขึ้น : "ชุดของฉันก็ถูกนายทำจนเปียกและยับยู้ยี้เหมือนกันนั่นแหละ ถ้าหากอิงตามที่นายพูด นายเองก็ควรชดใช้ชุดราตรีให้ฉันสักชุดเหมือนกัน!"
ฮั่วเทียนหลันกระแอมขึ้นก่อนรถจะหยุดเคลื่อนไหว
เขามองหยางหลิงรุ่ยที่เอนตัวมาทางเขาเรื่อยๆ
แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกราวกับกำลังจะกดขี่บังคับของเขานั้น
ทำให้หยางหลิงรุ่ยเกิดความรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที เธออยากที่จะถอยหลังไปให้ห่างจากเขา แต่ร่างกายของเธอถอยไกลได้แค่ประตูรถเท่านั้น : "นาย นายจะ ทำอะไรน่ะ"
ฮั่วเทียนหลันจับเข้าที่เอวของหยางหลิงรุ่ย ทำให้หยางหลิงรุ่ยตัวสั่นและเริ่มรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
"อืม รูปร่างยังคงเหมือนเดิม แต่เอวดูจะมีเนื้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เรื่องชุดราตรีของคุณนั้นไม่เป็นปัญหา ผมจะชดใช้ให้เลยสิบชุด" ฮั่วเทียนหลันพูดจบก็กลับไปนั่งท่าเดิม
หลังจากหยางหลิงรุ่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ได้สติกลับมาก่อนจะคิดได้ว่าตนเองเพิ่งจะถูกเขาแกล้งไปเมื่อกี้
ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องที่ให้ยอมไม่ได้เลยคือเรื่องไหนรู้ไหม
ไม่ใช่เรื่องแต่งหน้าสวยไม่สวย ไม่ใช่เรื่องเงินทองหรือเรื่องอำนาจ แต่เป็นเรื่องที่มีคนมาพูดว่าตนเองอ้วนต่างหาก
รูปร่างของเธอเห็นได้ชัดว่ากำลังสมส่วน
หยางหลิงรุ่ยโกรธจนมือสั่น เธอกระทืบเท้าอย่างโมโหก่อนจะปลดล็อกประตูรถและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
"นาย นายต่างหากที่อ้วน!"
ก่อนที่ประตูรถจะถูกปิด เสียงของเธอก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
ฮั่วเทียนหลันลดหน้าต่างของรถลงก่อนและมองหยางหลิงรุ่ยที่กำลังเดินห่างออกไป
เขาคุ้นเคยกับผิวสัมผัสของผู้หญิงคนนี้ไปทั่วทุกตารางนิ้ว
ตลอดสองปีที่ผ่านมาเขาเฝ้าคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา
ความคิดถึงนี้ราวกับเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนและแผดเผาร่างกายเขาอย่างสาหัส
ชีวิตของเขานั้นล้มลุกคลุกคลาน
คุณพ่อและพี่ชายใหญ่จากไปแล้ว หลังจากนั้นเธอก็จากเขาไปด้วย
คนเรามักจะสำนึกได้เมื่อตอนที่สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว
"ท่านประธานฮั่วครับ ดูเหมือนว่าคุณผู้หญิงจะความจำเสื่อม" คนขับรถคือหยวนฉีเฉียนอดีตผู้รับผิดชอบที่ปากีสถาน
เนื่องจากการพัฒนาโครงการที่ปากีสถานประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว เขาจึงถูกโอนย้ายมายังทวีปออสเตรเลีย
ด้วยความกังวลว่าลูกน้องคนอื่นจะบริการท่านประธานฮั่วได้ไม่ดี ดังนั้นเขาจึงรับหน้าที่เป็นคนขับรถซะเอง
เขายังจำอดีตภรรยาคุณฮั่วได้ดี เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและสวยงามมาก
ฮั่วเทียนหลันอืมตอบ ร่างของหญิงสาวคนนั้นหายลับตาไปแล้ว แต่ภาพของเธอยังคงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
เขายื่นมือออกไปก่อนจะค่อยๆสัมผัสที่ที่เธอเคยนั่ง
เธอสูญเสียความทรงจำไปหมดแล้ว จำไม่ได้แล้วว่าตนเองรักเขามากแค่ไหน และจำไม่ได้ว่าเขาเกลียดเธอมากเพียงใด
ตอนนี้หลงเหลือเพียงความรู้สึกที่ไม่อาจซ่อนเก็บไว้
คือเธอไม่ชอบเขาแววตาของเธอบ่งบอกว่าไม่เหลือความรู้สึกดีๆให้เขาอีกต่อไป
"ออกรถเถอะ!"
อันหรัน ในใจของเธอไม่เหลือที่ว่างให้ฉันแล้วจริงๆหรือ
ทำไมเธอถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ทำร้ายผู้ชายที่รักเธอและพ่อของลูกเธอได้ลงคอ!
หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยลงจากรถ เธอก็เดินมาโผล่ที่ร้านกาแฟที่ตงเหนียนร่วมลงทุน
เธอรู้สึกสับสนอย่า่งบอกไม่ถูก ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เป็นจางรันที่โทรมาถามว่าเธอไปไหน
หลังจากหยางหลิงรุ่ยบอกสถานที่ไปแล้ว เธอก็เดินเข้าไปในร้านกาแฟ สั่งคาปูชิโน่หนึ่งแก้วและนั่งลงตรงที่นั่งริมหน้าต่าง
ในตอนนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้น
เมื่อเปิดดูก็พบว่ามีคนแอด WeChat เธอเข้ามา
"คนที่รู้จักเธอดี"
ฝ่ายตรงข้ามพิมพ์ส่งมา หยางหลิงรุ่ยเดิมทีอยากปิดหน้าจอมือถือลงและไม่สนใจมัน เพราะปัจจุบันมีหลายคนที่มักจะหลอกล่อสาวๆด้วยวิธีส่งข้อความมาเช่นนี้
แต่มือของเธอกลับกดไปโดนปุ่มยอมรับโดยไม่ได้ตั้งใจ
เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะและไม่ได้บล็อกคนนั้นในทันที แต่เลือกที่จะกดดูรูปโปรไฟล์ของเขาก่อน
ในรูปเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักกำลังนั่งบนตักของผู้หญิงคนหนึ่ง รอยยิ้มของทั้งสองคนสดใสราวกับฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อเห็นหน้าตาและรูปร่างของผู้หญิงคนนี้ หยางหลิงรุ่ยก็ตัวสั่นสะท้าน หัวใจของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง
เธอเหมือนกับจำเด็กน้อยคนนี้ได้ และรู้สึกว่าตนเองชอบเด็กหญิงคนนี้มากๆ
และผู้หญิงคนนี้เธอก็รู้จักด้วยเช่นกัน หน้าตารูปร่างที่เหมือนกับเธอเราวกับเป็นคนเดียวกันนั้น เป็นภรรยาของผู้ชายที่ชื่อฮั่วเทียนหลัน
ไม่สิ ควรใช้คำว่าภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วต่างหาก
ถ้าเช่นนั้น ผู้ใช้ WeChat บัญชีนี้ก็คงเป็นเขาอย่างแน่นอน
"นายกำลังจะทำอะไรกันแน่" เดิมทีหยางหลิงรุ่ยต้องการพิมพ์ส่งด้วยคำพูดนิ่มนวล แต่หลังจากกดส่งข้อความไปแล้วเธอก็พบว่าตนเองใช้คำพูดที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังโกรธเกรี้ยวเสียมากกว่า
ทำไงได้ ความแค้นในใจของเธอที่มีต่อผู้ชายคนนี้มันมีมากเกินไปนี่นา
หลังจากที่เขาปรากฏตัวขึ้นมา ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอไปหมด
และยังทำตัวเหมือนสตอล์กเกอร์ตามพัวพันกับเธอไม่หยุด ไม่ว่าเธอจะสะบัดออกยังไงก็ไม่หลุดพ้นเสียที
นั่นทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นมาในใจ
“ฉันแค่อยากอยู่ใกล้เธอ”
คำพูดแสนธรรมดาแต่กลับทำให้หัวใจของอันหรันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา
เธอกำโทรศัพท์มือถือในมือแน่น จู่ๆหัวของเธอก็รู้สึกราวกับถูกกระตุ้น
“ฉันไม่ใช่คนที่นายพูดถึงคนนั้น!”
"ฉันตรวจสอบข้อมูลของนาย ภรรยาของนาย เหมือนกับฉันมาก... "
หยางหลิงรุ่ยยังไม่ทันพิมพ์เสร็จ ฮั่วเทียนหลันก็ส่งข้อความกลับมาก่อน
"เธอใช่ แต่เธอแค่ความจำเสื่อม"
เธอจ้องประโยคนี้อย่างรู้สึกสับสนในใจ เนิ่นนานก็ยังไม่ได้สติกลับมา
เธอนึกถึงอดีตของตนเอง เธอสูญเสียความทรงจำไปแล้วและจำสิ่งต่างๆก่อนหน้านี้ไม่ได้ทั้งหมด
พี่ชายใหญ่บอกว่าเธอตกลงมาจากชั้นบน แต่ทุกคนในครอบครัวกลับปกปิดเรื่องนี้เอาไว้
ไม่มีใครบอกกับเธอว่าก่อนหน้านี้เธอคือใคร
พ่อของชิงหรงหน้าตาเป็นยังไง ที่บ้านก็ไม่มีรูปภาพของเขาเลยสักใบ
มันผิดปกติมากจนเกินไป
เธอมือสั่นเทา ก่อนจะวางนิ้วลงบนหน้าจอ : "ฮั่วเทียนหลัน ทำไมนายถึงบอกว่าฉันเป็นคนที่นายกำลังตามหาคนนั้น"
ฮั่วเทียนหลันมองดูข้อความที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือและรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ผู้หญิงคนนี้เชื่อที่เขาพูดแล้วใช่ไหม
"เพราะโชคชะตาได้พาฉันมาพบกับเธอ ดังนั้นฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหายไปไหนอีกแล้ว"
คำพูดเหล่านี้ของเขา ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกอิจฉาผู้หญิงที่ชื่ออันหรันขึ้นมาเล็กน้อย
เธอกำลังจะกดพิมพ์ตอบกลับไป แต่ก็มีใครบางคนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะของเธอซะก่อน
เธอเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา
“อารัน คุณมาแล้วเหรอ”
"อืม พวกเราไปกันเถอะ!" เมื่อจางรันเห็นหยางหลิงรุ่ยรีบคว่ำมือถือลงราวกับไม่ต้องการให้เขาเจออะไรบางอย่าง ทำให้จางรันหลุบตาลงอย่างอดไม่ได้
"โอเค!"
หยางหลิงรุ่ยลุกขึ้นเดินตามจางรันออกไป พร้อมทั้งกดลบแชทที่คุยกับฮั่วทียนหลันก่อนหน้านั้นไปด้วย
หนึ่งนาที สองนาที สิบนาที
ฮั่วเทียนหลันรออยู่เนิ่นนาน ก่อนจะตระหนักได้ว่าคำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เขาพิมพ์ส่งไปนั้นถูกผู้หญิงคนนี้มองผ่านอย่างไม่ใยดี
เขารู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก มือข้างหนึ่งกำหมัดแน่น
ผู้หญิงคนนี้นิสัยแน่มากขึ้นเยอะเลย!
จางรันขับรถตรงไปที่บ้านผีสิง นักท่องเที่ยวเข้าแถวรอคิวยาวจนถึงด้านนอกของตัวบ้าน
พวกทั้งสองเล่นตามโปรแกรมที่ถูกจัดไว้สำหรับแขกวีไอพี
มันทั้งรุ้สึกตื่นเต้นและน่าตลกมากเลยทีเดียว
แต่ไม่รู้ว่าทำไมในหัวของหยางหลิงรุ่ยกลับมีแต่ภาพของผู้ชายคนนั้นคอยตามหลอกหลอนไม่หยุด
และหยิบยกเขาเข้ามาเปรียบเทียบกับผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว
มันน่ากลัวตรงที่เธอมีความรู้สึกว่าผู้ชายที่ชื่อฮั่วเทียนหลันนั้นทำให้เธอรู้สึกอยากเข้าใกล้มากกว่า
เธอจับแขนของจางรันตอนที่กำลังจะเดินผ่านถ้ำของบ้านผีสิง
เมื่อตอนที่ความคิดนี้ฉายเข้ามาในหัว เธอก็รีบส่ายหัวอย่างแรง พยายามโยนความคิดบ้าๆนี้ออกไปให้เร็วที่สุด
แต่ทันทีที่เธอสะบัด หัวของเธอก็กระแทกเข้ากับหินคอนกรีตที่อยู่เหนือศีรษะ
ความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาอย่างรุนแรง ทำให้หยางหลิงรุ่ยร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"เป็นอะไรหรือเปล่า หลิงรุ่ย" จางรันดึงตัวหยางหลิงรุ่ยเข้าหาตน ก่อนจะกดปุ่มที่ซ่อนอยู่ด้านข้าง
เมื่อกี้นี้เป็นการกระแทกที่กระแทกจริงๆ หยางหลิงรุ่ยลูบหัวตนเองอยู่สักพักถึงรู้สึกว่าความเจ็บนั้นทุเลาลงแล้ว
"ไม่เป็นไรอารัน พวกเราเล่นต่อกันเถอะ!"
"เธอไม่ระวังตัวขนาดนี้จะไปเล่นอะไรอีกเล่า ดีนะที่หัวไม่แตก!" จางรันเปิดไฟฉายในโทรศัพท์มือถือก่อนจะส่องดูที่หัวของหยางหลิงรุ่ย พบว่าผิวหนังของเธอถลอกเพียงเล้กน้อยและแดงบวมขึ้นไม่มาก เขาจึงรู้สึกโล่งใจ
เขาดูออกว่าวันนี้หยางหลิงรุ่ยทำตัวผิดปกติ ราวกับมีเรื่องอะไรในใจ
ทันใดนั้นกำแพงหินด้านข้างก็ถูกเปิดออกและมีเจ้าหน้าที่สองคนนำทางให้พวกเขาเดินออกไป
เมื่อมาถึงห้องพักชั้นบนสุด หยางหลิงรุ่ยนั่งบนเก้าอี้อาบแดดที่ระเบียง ส่วนจางรันกำลังเปิดไวน์แดงหนึ่งขวด
"นี่คือไวน์แดงขอองสุภาพสตรีที่เพิ่งออกจากโรงกลั่นล่าสุดเลย รสชาตินุ่มนวล บำรุงผิวพรรณ นอกจากนั้นน้ำตาลยังต่ำอีกด้วย ลองดูสิ"
หลังจากจิบแล้ว ดวงตาของหยางหลิงรุ่ยก็สว่างขึ้นมาทันที เธอยกแก้วขึ้นดื่มลงท้องรวดเดียวอย่างไม่คิดจะค่อยๆลิ้มรสของมัน
ท่าทางตรงไปตรงมาของเธอ ทำให้จางรันอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปากขึ้น
"ชอบไหม ถ้าชอบล่ะก็เดี๋ยวฉันจะให้คนส่งไปให้เธอสองลัง"
“หยุดเลย พี่ชายใหญ่และพี่ชายรองไม่ยอมให้ฉันแตะเหล้าเด็ดขาด” น้ำเสียงของหยางหลิงรุ่ยเจือไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ
จางรันยกยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปลูบผมสีดำของเธอเบาๆ
หยางหลิงรุ่ยตัวเกร็กเล็กน้อย แต่ก็ผ่อนคลายลงในนาทีต่อมา
ความรู้สึกเหินห่างเช่นนี้ เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
จางรันแอบรู้สึกวกตกกังวลภายในใจ
“เมื่อเร็วๆนี้ฉันจะกลับไปประเทศจีน มีอะไรที่อยากได้หรือเปล่า” จางรันเอ่ยถามเสียงนิ่ง
“ไปไหนเหรอ” หยางหลิงรุ่ยถาม
เธอใสซื่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอมีประสบการณ์น้อย
เรื่องเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจนั้น เธอได้เห็นและได้ยินจากครอบครับหยางมาไม่น้อย
ประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตลาดความต้องการในประเทศแข็งแกร่ง ในปีนี้จางรันเองก็ได้พัฒนาโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการในประเทศจีน โดยหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาดของประเทศจีนมาบ้าง
"เมือง Z"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง