โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 317

เมื่อได้ยินชื่อนี้ หัวใจของหยางหลิงรุ่ยก็สั่นขึ้นมา เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหายใจเข้าออกลึกๆอย่างไม่เอ่ยอะไรออกมา

เมือง Z คือที่ทำการใหญ่ของตระกูลฮัว

แต่เธอก็รู้ว่าบริษัทของจางรันที่เมือง Z นั้นก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่มากเหมือนกัน

“ที่นั่นดีมากเลยล่ะ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจีน ฉันเองก็ชอบเมืองนั้นมากเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากลองไปเที่ยวดูสักครั้ง” คำตอบของหยางหลิงรุ่ยนั้นราบรื่นและเป็นธรรมชาติ

นั่นทำให้จางรันที่เฝ้าสังเกตเธออยู่ก็บ่นขึ้นมาในใจ

หรือว่าเขารู้สึกไปเอง

ตอนนั้นเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอย่างมาก คงไม่สามารถฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้หรอกมั้ง

เขาลุกขึ้นไปจับมือของหยางหลิงรุ่ยแล้วเดินไปที่ริมดาดฟ้า

แม้จะมีภูเขาลูกหนึ่งบดบังอยู่ แต่ก็ยังสามารถมองเห็นทะเลและท้องฟ้าได้จากระยะไกล

ทิวทัศน์สวยงามมาก แต่คนด้านข้างเขานั้นสวยงามยิ่งกว่า

"หลิงรุ่ย เรื่องก่อนหน้าที่เคยพูดกัน คุณพิจารณา ... "

เขายังไม่ทันพูดจบประโยค หยางหลิงรุ่ยก็เดาได้ในทันทีว่าเขากำลังจะพูดเรื่องอะไร

เธอรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาในใจก่อนจะรีบเอ่ยขัดจังหวะเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว : "อารัน ทะเลข้างนอกสวยมากเลย พวกเราไปเล่นเรือสำปั้นกันเถอะ!"

หัวใจของจางหรันจมดิ่ง เธอกำลังเปลี่ยนเรื่องแต่ใบหน้าของเธอกลับยังคงสงบนิ่ง

เขาดึงหยางหลิงเข้ามาในอ้อมกอดของตนเองเบาๆ

หยางหลิงรุ่ยตัวสั่นสะท้าน เธอแข็งทื่อเล็กน้อยและหยุดหายใจของไปชั่วขณะ

เธอไม่รู้ว่าทำไมการกระทำที่ดูสนิทสนมอย่างเช่นเมื่อก่อน ในตอนนี้ถึงได้รู้สึกดูห่างเหินชัดเจนถึงเพียงนี้

แน่นอนว่าจางรันรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของคนที่ตนรัก เขาโอบกอดหยางหลิงรุ่ยด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับ : "โอเค! ที่รักหลิงรุ่ยอยากไปที่ไหน ฉันก็จะพาไปหมดเลย"

สองคนเดินลงไปชั้นล่างและขับรถไปที่ชายหาด

ระหว่างทางจางรันได้จัดการเรือสำปั้นไว้รอเรียบร้อยแล้ว

เมื่อมาถึงชายหาด มองเห็นน้ำสีฟ้าสะท้อนกับท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาว หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเป็นอย่างมาก

หลังจากเปลี่ยนชุดว่ายน้ำแล้ว เธอก็กุมมือของจางรันเดินลงไปที่ชายหาด

หลังจากท่องเรือสำปั้นได้สามชั่วโมง หยางหลิงรุ่ยก็เริ่มหมดแรง เธอนอนอาบแดดบนเรือพร้อมกับจางรัน

"มีความสุขจัง ถ้ามีวิลล่าที่นี่สักหลังคงจะดีไม่น้อย สามารถมาเล่นได้ทุกวัน!" หยางหลิงรุ่ยพูดขึ้นอย่างไม่คิดอะไร

อิงจากสถานะทางการเงินของตระกูลหยางแล้ว การซื้อที่ดินและสร้างบ้านพักที่นี่ถือเป็นเรื่องง่ายมากๆ

เพราะนี่คือชายหาดที่มีกระแสน้ำขึ้นลงทุกวัน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างบ้านที่นี้ ดังนั้นเธอจึงพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก

แต่วินาทีต่อมาจางรันก็กดโทรศัพท์มือถือโทรออก : "ซื้อ Elmer Beach และสร้างบ้านพักตากอากาศหนึ่งหลัง"

"ไม่ต้อง ไม่จำเป็น" หยางหลิงรุ่ยเอื้อมมือออกไปหวังจะหยุดการกระทำของเขา แต่จางรันกดวางสายก่อนและโยนโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ด้านข้าง

“เธอชอบที่นี่ไม่ใช่เหรอ”

"ก็ชอบ แต่ชายหาดไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย!"

แม้ว่าหยางหลิงรุ่ยจะไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน แต่เธอก็ไม่ชอบใจนักที่คนอื่นจ่ายเงินเพื่อเธอเช่นนี้

"ชอบก็ดีแล้ว" จางรันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวเแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าหยางหลิงรุ่ย

ออร่าความเป็นชายที่รุนแรงของเขา ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหม่าและขนลุกขึ้นมาทันที

เขากดจูบลงบนใบหน้าของเธอสักพัก จากนั้นก็เริ่มใกล้ชิดเข้ามาเรื่อยๆ

แต่ในวินาทีต่อมาหยางหลิงรุ่ยก็ยกมือขึ้นเพื่อหยุดยั้งการกระทำที่แสนอ่อนโยนของเขา

หลังจากที่เธอยกมือขึ้นมา เธอก็รู้สึกเสียใจทีหลังเล็กน้อย

ความสัมพันธ์เช่นนี้ของพวกเขานั้นไม่ได้ดูเกินงามมากเกินไปด้วยซ้ำ

แต่ไม่รู้ทำไม ใจของเธอกลับรู้สึกแปลกๆ

มันเหมือนกับ เหมือนกับ...

เธอกำลังรู้สึกผิดต่อผู้ชายคนหนึ่ง

เมื่อนึกถึงผู้ชาย ในหัวของเธอก็ปรากฏภาพผู้ชายคนนั้นขึ้นมา

ภาพลวงตาเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกรำคาญขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"นายจะหยุดไม่หยุด!"

จางรันตัวแข็ง เขาลุกขึ้นนั่งอย่างรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“ขอโทษนะหลิงรุ่ย ฉันหุนหันพลันแล่นไป”

"ไม่ ไม่ใช่ อารัน ฉันไม่ได้หมายถึงคุณ" หยางหลิงรุ่ยรีบอธิบายอย่างเร่งรีบ ต้องการจะบอกเขาว่าที่เธอพูดเมื่อกี้หมายถึงฮั่วเทียนหลันคนที่เธอเกลียดชังคนนั้นต่างหาก

แต่เมื่อคิดได้ว่าตนเองอยู่กับจางรัน แต่กลับคิดถึงผู้ชายคนอื่นเช่นนี้

เธอจึงไม่สามารถพูดประโยคนี้ออกไปได้

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ บรรยากาศที่มีความสุขและรู้สึกผ่อนคลายในคราแรกก็เริ่มแปลกขึ้นมา

ด้วยเหตุนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่เรือเข้าฝั่ง หยางหลิงรุ่ยก็เรียกนั่งแท็กซี่กลับไปที่บ้านตระกูลหยางในทันที

จางรันจะให้คนขับรถไปส่งเธอ แต่เธอก็ปฏิเสธไป

เธอรู้สึกว่าระหว่างตัวเธอและจางหรันเหมือนกับมีกำแพงกั้นไว้อีกชั้นอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็อาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง

เมื่อตอนเย็นเธอวานให้พี่สะใภ้เป็นคนไปรับชิงหรงแทน

เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและสับสนในใจเป็นอย่างมาก

ผู้ชายคนนั้นราวกับสาปเธอไว้

เมื่อใดที่เธอว่างและจิตใจสงบใบหน้าของเขาก็จะปรากฏเข้ามาในหัวของเธอเสมอ

ความรู้สึกเสน่หา ห่วงใยและทะนุถนอมนั้นล้วนแต่ถูกส่งผ่านเข้ามายังต่อมรับความรู้สึกของเธอ

ผู้ชายที่ชื่อฮั่วเทียนหลันมีฐานะหน้าตาทางสังคมและมีผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่แย่งชิงกันเพื่อจะได้เข้าใกล้เขาคนนี้

แต่เขากลับไม่ไหวติง เอาแต่สะกดรอยตามตัวเธออยู่เช่นนี้

หรือว่าเธอจะเป็นภรรยาของเขาจริงๆงั้นหรือ

เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะนามสกุลของภรรยาเขาคืออัน แต่นามสกุลของเธอคือหยาง

และเขาก็มีลูกสาวหนึ่งคนแล้ว เธอเองก็เช่นเดียวกัน

คนหนึ่งอยู่ประเทศจีน อีกคนหนึ่งอยู่ที่ออสเตรเลีย

เส้นทางชีวิตของพวกเขาทั้งสองคนดูเหมือนจะหาที่ทับซ้อนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วจะรู้จักกันมาก่อนได้อย่างไร

คฤหาสน์ฮัว ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่ในห้องหนังสือ ตรงด้านหน้าของเขาคือกล่องเครื่องประดับหรูหรา

เครื่องประดับชุดนี้ส่งมาจากประเทศจีนหลังจากที่เขาเจอกับผู้หญิงคนนั้น

เขาเปิดกล่องมันออกก่อนจะหยิบสร้อยคอออกมาจากด้านใน

เพชรใสเปล่งประกายแวววาวแปลกตาภายใต้แสงไฟ

ในตอนแรกเขาเองที่เป็นคนสวมสร้อยคอเส้นนี้ใส่คอหยกของอันหรัน

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาระดมความสัมพันธ์ทั้งหมดภายในประเทศและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอันหรันอย่างละเอียด

หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ใกล้บริเวณสนามบิน ภาพกล้องวงจรปิดถูกลบออกไปบางส่วนอย่างมีเจตนา

แต่มีบันทึกของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งระบุว่าอันหรันถูกคนนำตัวส่งมายังโรงพยาบาล

เธอบาดเจ็บสาหัสมาก หลังจากได้รับการผ่าตัดต่อเนื่องสามครั้งก็ยังคงมีอาการโคม่า

หลังจากนั้นเธอก็ถูกย้ายโรงพยาบาลไปที่ต่างประเทศ

และข้อมูลที่ลงทะเบียนนั้นถูกเปลี่ยนเป็นนามสกุลหยาง

และตามการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล ก็พบหยางหยวนและตงเหยียนโผล่อยู่ในนั้นเช่นกัน

นอกจากนี้ หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ยังมีคดีคนหายในเมือง Z อีกด้วย

หญิงสาวรูปร่างและอายุใกล้เคียงกับอันหรันหายตัวไปจากสนามบิน

หลังจากการตรวจสอบดีเอ็นเอในขี้เถ้าที่ทำการสกัดออกมา พบว่าหญิงสาวที่หายไปคือคนที่ถูกฝังในสุสานอันเพื่อเป็นตัวแทนของอันหรัน

ตามการคาดเดาของโจวหยวน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น

อันหรันน่าจะถูกครอบครัวหยางนำตัวไปตั้งแต่แรก และผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะตกเป็นเหยื่อเช่นกัน หลังจากถูกเผาจนไม่เหลือเค้าโครงให้เห็น หยางหยวนได้วางสิ่งของที่เป็นตัวแทนของอันหรันไว้บนตัวเธออีกที

ในขณะเดียวกันครอบครัวของหญิงสาวคนนั้นก็ได้รับเงินบริจาคถึงสองล้านหยวนอย่างไม่ทราบที่มา

โจวหยวนได้ทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารนั้นและพบว่าแหล่งเงินต้นทางก็มาจากบ้านตระกูลหยาง

ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก

ทุกคนต่างก็คิดว่าอันหรันตายไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น

เธอเพียงแค่ถูกย้ายเข้าไปในตระกูลหยาง เปลี่ยนแปลงข้อมูลยืนยันตัวตนเพื่อใช้ชีวิตต่อไปก็แค่นั้น

แต่ทำไมตระกูลหยางถึงได้ให้ความสำคัญกับอันหรันมากขนาดนี้ล่ะ

หยางหยวนก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว และอันหรันในตอนนี้ยังเป็นคุณผู้หญิงของบ้านตระกูลหยางอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าเธอต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลหยางอย่างแน่นอน

เรื่องนี้โจวหยวนยังคงทำการตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากเวลาที่ผ่านไปนานเกินไปจึงทำให้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอน

ฮั่วเทียนหลันกอบกุมสร้อยคอเอาไว้ในมือ พลางนึกถึงแววตาที่มักจะระมัดระวังต่อเขาเสมอของอันหรัน

มุมปากของเขายกขึ้นแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง

อันหรัน เธอลืมฉันไปแล้ว ฉันไม่โทษเธอหรอก

แต่ฉันจะจับกุมหัวใจของเธอใหม่ ทำให้เธอตกหลุมรักฉันอีกครั้งให้ได้!

เขาเปิด WeChat ก่อนจะเห็นวิดีโอสั้นๆที่ป้า Ding ส่งมาให้

ในวิดีโอนั้น ลั่นลานอุ้มเจ้ารวยอยู่และเปลี่ยนท่าให้เจ้ารวยไปเรื่อยๆ

เจ้ารวยนั้นไม่ใช่แมวอารมณ์ดี มันยิงฟันด้วยความไม่พอใจ แต่ท้ายที่สุดก็ทำได้เพียงจำยอมเพราะลั่นลานคือเจ้านายคนเล็กของมัน

ลั่นลานเติบโตขึ้นมาก หัวใจของเธอเริ่มยอมรับความจริงที่ว่าคุณแม่ของเธอจากไปแล้ว ดังนั้นนิสัยและอารมณ์ของเธอจึงเริ่มฟื้นตัวขึ้นมามากแล้ว

เขามองดูลูกสาวที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับอันหรัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ลูกรัก รอคุณพ่อก่อนนะ คุณพ่อจะรีบพาคุณแม่กลับไปหา"

เช้าวันรุ่งขึ้นฮั่วเทียนหลันก็ไปเยี่ยมหยางหยวนอีกครั้ง

ภายในห้องหนังสือนั้นไม่รู้ว่าพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับอะไร แต่หลังจากฮั่วเทียนหลันเดินออกมา หยางหลิงรุ่ยก็ถูกเรียกตัวเข้าไปทันที

"หลิงรุ่ย ครอบครัวของเรากำลังจับมือกับ Fahrenheit ในโครงการต่างๆมากมาย และต้องการใครสักคนคอยติดต่อเรื่อง" หยางหยวนกล่าวขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

หยางหลิงรุ่ยมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอก้าวไปข้างหน้าและกอดแขนพี่ชายใหญ่ก่อนจะเขย่าตัวเขาแล้วเอ่ยขึ้นเสียงออดอ้อน : "พี่ชายใหญ่คะ ฉันต้องพาหรงหรงไปที่โรงเรียนทุกวัน แล้วบังต้องคอยสอนการบ้านและเล่นเกมส์กับเธออีก หน้าที่เยอะแยะเลย!"

เธอพยายามหาเหตุผลเพื่ออธิบายว่าเธอนั้นยุ่งมาก

แต่หยางหยวนกลับยกยิ้มขึ้นและเอ่ยว่า : “ฉันรู้ว่าเธองานยุ่งมากก็เลยจัดหางานที่ผ่อนคลายให้เธอทำ ตอนนี้เธออายุไม่น้อยแล้วและถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้งานด้านธุรกิจบ้างแล้ว ฉะนั้นเธอเป็นผู้นำติดต่อเกี่ยวกับเรื่องของความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้กับประธานฮั่วแล้วกัน!"

เมื่อได้ยินในสิ่งที่หยางหยวนพูด หยางหลิงรุ่ยก็ตลึกตาค้างในทันที

เธอปล่อยมือออกจากแขนของหยางหยวน ก่อนจะลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ : "ฉันไม่ทำ ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนอันธพาลคนนั้น!"

“อันธพาล?” น้ำเสียงของหยางหยวนแฝงด้วยความหมาย

หยางหลิงรุ่ยกระทืบด้วยความอับอาย ก่อนจะตะโกนขึ้น : “พี่ชายใหญ่!"

หยางหยวนโบกมือขึ้นก่อนจะเอ่ย : "เอาล่ะ เรื่องนี้ก็ตามนี้แล้วกัน"

หยางหลิงรุ่ยอยากที่จะแย้งขึ้นมา แต่หยางหยวนกระแอมไอขึ้นมาอย่างแรง

เธอรีบเดินไปข้างหน้า ก่อนจะตบหลังหยางหยวนเบาๆแล้วยื่นน้ำอุ่นแก้วหนึ่งให้กับเขา

ผ่านไปพักใหญ่ หยางหยวนถึงอาการดีขึ้น

เมื่อเห็นพี่ชายใหญ่คนที่รักเธอมากเป็นเช่นนี้ หยางหลิงรุ่ยก็ไม่อาจเอ่ยปากปฏิเสธออกไปได้ จึงทำได้เพียงยอมรับความจริงข้อนี้

ทันทีที่เธอออกมาจากห้องหนังสือก็เห็นผู้ชายคนนั้นยืนพิงเสาด้านนอกประตูอย่างสง่า เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยมุมสี่สิบห้าองศา ขณะนั้นเองหยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกว่าเขาดูหล่ออย่างบอกไม่ถูก

แต่วินาทีต่อมาเธอก็พลันนึกถึงพฤติกรรมไร้ยางอายของผู้ชายคนนี้ที่ทำกับเธอ

เธอเม้มริมฝีปาก หวังให้แดดในตอนนี้แรงขึ้นอีกหน่อย ทำให้ผู้ชายคนนี้ตาบอดไปเลยยิ่งดี เอาให้หมดหล่อไปเลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง