โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 321

หยางหลิงรุ่ยมองเข้าไปด้านในของตึกและเห็นว่าสถานการณ์ด้านในยังคงวุ่นวาย

“คุณตำรวจคะ ฉันขอถามอะไรหน่อยค่ะ ฮั่วเทียนหลันอยู่ด้านในไหม?”

ตำรวจส่ายหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตยมากมาย และยังมีผู้อพยพอีหลายพันคน เขาจะไปจำชื่อใครคนใดคนหนึ่งได้อย่างไรกัน?

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมจำไม่ได้ และขอให้คุณนายให้ความร่วมมือออกจากที่นี่ไปหน่อยครับ” ตำรวจยังต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

หยางหลิงรุ่ยอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกคนดึงเอาไว้

“คุณนาย ผมจัดการเอง”

หยางหลิงรุ่ยหันกลับไป พบว่าคนที่พูดก็คือหยางเทียน เขาเป็นบอดี้การ์ดของพี่รอง

หยางเทียนเกิดในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และถูกตระกูลหยางรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่เด็ก

ตระกูลหยางให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของรัชทายาทเป็นอันดับแรกเสมอ

ข้างกายของหยางหลินและโจวหยวนมีบอดี้การ์ดอยู่หลายสิบคน ไม่ว่าจะแอบซ่อนอยู่หรือเปิดเผยโจ่งแจ้ง และบอดี้การ์ดพวกนนี้ยอมตายแทนพวกเขาได้

และหยางเทียนเป็นคนที่หยางหลินไว้ใจมากที่สุด

หยางเทียนเดินมาลากตำรวจไปคุยด้วยสองสามคำ ตำรวจดูหวาดกลัว และเขาก็ไปเรียกหัวหน้าของเขามา

หลังจากนั้นไม่นานหยางเทียนก็กลับมา

“คุณนาย ผมหาที่อยู่ของคุณฮั่วพบแล้ว ตามผมมา”

หยางหลิงรุ่ยขึ้นไปบนรถของหยางเทียน และรถของเธอถูกตำรวจขับกลับไปไว้ที่คฤหาสน์ของตระกูลหยาง

หลังจากผ่านมาครึ่งชั่วโมง หยางเทียนขับรถมาจอดที่ที่จอดรถของโรงพยาบาลกลาง

หยางเทียนลงจากรถ เปิดประตูพร้อมพูดว่า “คุณนาย คุณฮั่วอยู่ที่ห้องวีไอพีซึ่งอยู่ด้านบนสุด กรุณาตามผมมา”

หยางเทียนเดินตามขึ้นไปบนลิฟต์ เธอลังเลอยู่ว่าจะถามออกไปดีไหม แต่สุดท้ายเธอก็ถามออกไปว่า “ใครใช้ให้นายตามฉันมา?”

ข้างกายของหยางเทียนมีบอดี้การ์ดยืนอยู่อีกคน พวกเขามองหน้ากัน หยางเทียนจึงตอบออกมาว่า “การดูแลความปลอดภัยของคุณนายสำคัญที่สุด”

พอแล้ว อย่าเอาเหตุผลนี้มาอ้างเลย

หยางหลิงรุ่ยเม้มปากโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดของพวกเขาดูดีตลอด

ทุกคนดูเย็นชาและโหดเหี้ยม แต่พวกเขามีความสามารถมากมาย

ปีที่แล้ว ฐานเก็บพลังงานที่อยู่ทางด้านตะวันออกกลางของตระกูลหยางถูกบุกโจมตี

ผู้คนในฐานทั้งหมดถูกผู้ก่อการร้ายสังหารอย่างโหดเหี้ยม และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือผู้อำนวยการของฐานซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่ภักดีต่อตระกูลหยางมากว่า 20 ปีถูกตัดศีรษะ

หยางหยวนโกรธมาก จึงส่งบอดี้การ์ดส่วนตัวยี่สิบคนออกไป

ในเวลาเพียงสามวันฐานก็ถูกยึดคืน และผู้ก่อการร้ายทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิต

“หยางเทียน ถ้านายทำหน้าให้มันดีๆ นายก็หล่อเหมือนกันนะ”

ต้องใช้เวลานานกว่าจะขึ้นไปถึงชั้นบนสุด หยางหลิงรุ่ยอยากเข้าไปหาฮั่วเทียนหลันอย่างราบรื่น จึงชวนหยางเทียนคุย เพื่อทำให้เขาอารมณ์ดี

เนื่องด้วยงานของเขา หยางเทียนจึงไม่ค่อยยิ้มออกมาสักเท่าไหร่

แต่เธอก็เคยเห็นเขายิ้มออกมาหนึ่งครั้ง

พูดออกมาจากใจ เขาก็หล่อพอตัวเลย

ต้องบอกเลยว่าเขามีพื้นฐานหน้าตาที่ดี แต่เขาไม่รู้ตัว ปกติเขาเย็นชามากทำให้คนรอบข้างไม่รู้สึกอะไร

ไม่ว่าจะพูดอะไรกับเขา เขาจะตอบกลับมาว่า “ทราบครับ คุณนาย”

และครั้งนี้ก็เหมือนกัน

“ทราบครับ คุณนาย”

หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะม้วนริมฝีปากของเธอและพูดว่า “เข้าใจแล้วยังจะทำหน้านิ่งอีก?”

โชคดีที่เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกหยางเทียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเดินออกจากลิฟต์ไปพูดว่า “คุณนายครับ ห้องที่อยู่ด้านหน้าคือห้องของคุณฮั่ว”

ชั้นบนสุดมีห้องแค่สองห้อง ห้องแรกคือห้องที่ VIP สุด และอีกห้องหนึ่งก็คือห้องทำงานของหมอ

หยางหลิงรุ่ยมองเห็นบอดี้การ์ดหลายสิบคนที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน และในปืนเขาของบรรจุกระสุนไว้เต็มปี่ยม สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

แต่หลังจากที่เธอรู้ว่าโรงแรมเฟลตันถูกโจมตี เธอก็เป็นห่วงผู้ชายคนนี้มาก

แต่ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเธอมาถึงที่นี้แล้วความกังวลของเธอไม่ได้ลดน้อยลงเลย และเธอก็ไม่กล้าที่จะก้าวเดินออกไป

เมื่อวานเธอคิดไว้แล้ว ว่าจะมาหาผู้ชายคนนี้เพื่อสนทนาอะไรด้วย

แต่เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาคุยกัน จะคุยกันผ่านทางวีแชท

แต่เมื่อวานทั้งวัน เขาไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาเลย

ดูเหมือนว่าการติดต่อระหว่างคนสองคนจะจบลงเท่านี่

นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกใจหายเล็กน้อย

ตัวตนของเธอไม่น่าดึงดูดสำหรับเขาเลย

ถึงแม่ว่าเป็นลูกสาวของตรกูลหยางสถานะทางสังคมก็สูงอยู่ แต่เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศจีน และก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน

ตอนนี้มีบอดี้การ์ดเดินเข้ามาถามพวกเขา “พวกคุณเป็นใคร?”

เดิมที่หยางเทียนมาแค่ดูแลความปลอดภัยของหยางหลิงรุ่ย แต่เมื่อได้ยินบอดี้การ์ดของตระกูลฮั่วถามออกมาด้วยความไม่เคารพ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที

“นายไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าพวกเราเป็นใคร แต่พวกเรามาเพื่อเยี่ยมคุณฮั่ว” เขาตอบไปด้วยท่าทางที่เย็นชา

เมื่อบอดี้การ์ดเห็นว่าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัยของฮั่วเทียนหลันแล้ว เขาจึงสั่งให้คนมาเอาตัวพวกเขาออกไป

แต่ก็มีเสียงดังออกมาจากด้านหลัง “อย่าหยาบคาบ!”

“ผู้ช่วยพิเศษโจว” เห็นแขกที่มาเยือน ทำให้บอดี้การ์ดหมดความเย่อหยิ่งทันที

โจวหยวนตกใจเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่เขาเห็นอยู่ด้านหน้าคล้ายกับคุณนายของเขาเสียเหลือเกิน

ไม่ใช่ ไม่ใช่ ควรจะบอกว่าเธอคือคนคนเดียวกัน

ไม่แปลกที่ท่านประธานฮั่วปฏิเสธที่จะกลับไปประเทศจีนหลังจากมาถึงออสเตรเลีย

เขามองผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าด้วยความสงสัย และพูดออกมาว่า “คุณนาย....คุณผู้หญิง ขอบคุณมากๆที่มาเยี่ยมท่านประธาน เขาฟื้นแล้ว เชิญตามผมมาทางนี้เลยครับ”

โจวหยวนพูดพร้อมผายมือเชื้อเชิญ

เมื่อหยางหลิงรุ่ยได้ยินคำสองคำก่อนหน้านี้ที่ผูชายคนนี้พูดขึ้น ในใจของเธอก็ยิ่งเกิดความสงสัย

มองไปที่ตาของผู้ชายคนนี้ เหมือนกับว่าเขารู้จักเธอ

ตอนแรกก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรเพื่อจะมาเยื่อมฮั่วเทียนหลัน แต่ตอนนี้เธอเลือกเหตุผลในใจแล้ว

อย่างไรก็ตามเธอมีสิทธิที่จะรู้ความจริง และหวังว่าผู้ชายคนนี้จะบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตทั้งหมด

เธอตามโจวหยวนเข้าไปในห้องผู้ป่วย การตรวจความปลอดภัยในวอร์ดแน่นมากและมีบอดี้การ์ดหญิง 2 คนเข้ามาเพื่อตรวจค้นร่างกาย

และโจวหยวนโบกมือ พวกเธอทั้งสองจึงถอยไป

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องผู้ป่วย หยางหลิงรุ่ยที่เห็นสภาพแวดล้อมรอบๆจึงรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย

ห้องผู้ป่วยห้องนี้ ไม่ใช่ว่าเอาแบบมาจากห้องของประธานาธิบดีหรอกนะ?

การตกแต่งที่หรูหราโอ่อ่า แต่ดูเรียบง่าย และมีกลิ่นหอมลาเวนเดอร์อ่อน ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ

หลังจากที่เดินผ่านห้องนั่งเล่น เธอก็เห็นเตียงที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเตียงของห้องนอนเลยก็ว่าได้ บนนั้นฮั่วเทียนหลันที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ที่ตัวนอนอยู่

ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันซีด ตรงหน้าของเขามีโต๊ะตั้งอยู่หนึ่งตัวและคอมพิวเตอร์พกพาหนึ่งเครื่อง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน

เมื่อยินเสียงว่ามีคนมา เขาก็หันหน้ามามอง

เรือนร่างที่คุ้นเคย หยุดสายตาของเขาทันที

เธอมาได้อย่างไร?

เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สนใจในตัวเขาเลย แต่ทำไมเธอถึงได้มาเยี่ยมเขาหละ?

ฮั่วเทียนหลันขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเขาเอามือออก เขาก็เห็นผ้าผันแผลที่ไม่เป็นระเบียบ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแบบเขินๆออกมา

ไม่นาน เรือนร่างที่เขาเห็นก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และนั่นทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้มองผิดไป

ผู้หญิงคนนี้มาเยี่ยมเขาจริงๆ

หยางเทียนและโจวหยวนยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่น หยางหลิงรุ่ยเดินไปข้างหน้าของฮั่วเทียนหลัน มองไปที่หน้าซีดเซียวของเขา และเห็นผ้าพันแผลที่อยู่บนตัวเขายังคงมีเลือดซึมๆออกมา

ถึงแม้เขาจะไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมา แต่เธอก็รู้ว่า ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้มันต้องทรมานมากแน่ๆ

“คุณฮั่ว คุณไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”

หยางหลิงรุ่ยอยากจะช่วยฮั่วเทียนหลันทำอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา เธอไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

ในดวงตาของผู้ชายคนนั้น มองมาที่เธอ และดูเหมือนว่าในนั้นจะมีเธออยู่ข้างใน

“เธอคิดว่าไงหละ? เธออยากจะมาเยี่ยมฉันด้วยตัวเองเลยหรอ!” เขาถามออกมาเพื่อยืนยัน

หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหม่า เธอตอบไปด้วยเสียงทุ้มๆว่า “อ่า....ไม่ ไม่ใช่ ฉันเป็นตัวแทนของตระกูลหยาง”

“อ๋อ.....” ฮั่วเทียนหลันตอบอย่างมีความหมาย แต่ก็ยากที่จะปกปิดความอ่อนแอในน้ำเสียงของเขา

ในตอนที่เกิดการระเบิด รากฐานก็สั่นสะเทือน และเพดานที่อยู่ด้านบนก็หล่นมาทับร่างของเขา

โชคดีที่หน่วยกู้ภัยมาทันเวลามิฉะนั้นเขาอาจถูกตัดขา

“ดูแล้วถ้าไม่มีคำสั่งของตระกูลหยาง เธอก็คงไม่มา!” หยางหลิงรุ่ยรับรู้ได้ว่าเสียงที่ฮั่วเทียนหลันเปล่งออกมามีความรู้สึกน้อยใจแอบแฝงอยู่

หยางหลิงรุ่ยตัวสั่น เธออ้าปากเพื่อจะตอบโต้โดยไม่รู้ตัว

ที่เธอมาที่นี้ก็เพื่อจะมาเยี่ยมฮั่วเทียนหลัน

ส่วนหยางเทียนมาเพื่อดูแลความปลอดภัยของเธอเท่านั้น

แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้ มีความคิดครอบงำในใจและเธอไม่ต้องการให้เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา

ทั้งสองคนกลับสู่การสนทนาที่บรรยากาสอึดอัดและไม่มีความสุข

เธอเงียบ และบรรยากาศในห้องผู้ป่วยก็แปลกไป

โจวหยวนแตะไปที่หยางเทียนเบาๆ เพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาทั้งสองควรออกไป

จากจุดที่ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่ เขาสามารถสังเกตเห็นว่าประตูปิดหรือเปิด

“ที่ฉันมาคราวนี้ก็เพื่อ....” หยางหลิงรุ่ยเลือกที่จะข้ามบทสนทนาเมื่อสักครู่ไป

แต่จู่โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

เป็นวิดีโอทางวีแชท จางหรันเป็นคนส่งมา

เธอมองไปที่โทรศัพท์ จากนั้นหันขึ้นมามองหน้าของฮั่วเทียนหลันอย่างรวดเร็ว

“คุณฮั่ว ฉันขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมจางหรันถึงไม่โทรมาหาเธอตามปกติ แต่เป็นการวิดีโอคอลมาแทน

เธอกลับตัวพร้อมที่จะเดินไปที่ห้องนั่งเล่น

ไม่นานมานี่จางหรันเพิ่งจะไปประเทศจีน และก็ต้องจากกับที่นั่นเป็นเวลานาน และเหมือนกับว่าจะออกเดินทางวันนี้?

จู่ๆหยางหลิงรุ่ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาเคยบอกกับเธอไปแล้ว

แต่เธอยังไม่ทันได้เดินออกไป แรงของโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือทำให้โทรศัพท์เครื่องนั้นหลุดออกมาจากมือของเธอ และร่วงไปหาผู้ชายที่อยู่ด้านหลัง

และชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่พอใจพอ เขาแอนตัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้วโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

ร่างกายของหยางหลิงรุ่ยก็แข็งทื่อ และเธอสงสัยว่าชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือไง

ก็เห็นอยู่ว่าเขานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เข็มน้ำเกลือยังติดอยู่ที่แขน แต่ยังจะมีหน้ามาทำเรื่องเลวๆแบบนี้อีก?

“คุณฮั่ว ปล่อยฉัน รีบนอนลงไป เดี๋ยวเลือดไหลย้อนกลับ!”

เธอตะโกนออกมาด้วยความกังวล แต่ดูเหมือนว่าฮั่วเทียนหลันจะไม่สนใจคำพูดของเธอเลย

เขากระซิบข้างหูเธอเบาๆ “คุณหนูหยาง คุณยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อกี้ของผมเลย!”

ลมหายใจที่เร้าร้อนของเขาพุ่งเข้าไปในหูของหยางหลิงรุ่ย ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง

“ใช่ พี่ชายของฉันเป็นคนให้ฉันมา ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มาหรอก!”

เธอจะเห็นเข็มที่แขวนอยู่ที่ข้อมือของฮั่วเทียนหลัน และมีเลือดสีแดงสดอยู่ในท่อพลาสติกแล้ว

เธอรีบพูดออกมา “คุณฮั่ว เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว รีบปล่อยฉันเถอะ เลือดมันไหลย้อยกลับแล้ว!”

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่เข็มที่ปักอยู่ตรงที่ข้อมือเขา เขาใช้มืออีกข้างดึงมันออกและขว้างมันทิ้งไป

เลือดไหลออกมา จากนั้นเขาก็กดมันด้วยนิ้วของเขา

“เอาหละ ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว คุณหนูหยาง ได้โปรดช่วยตอบคำถามของผมดีๆ” น้ำเสียงของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยไม่สามารถโต้เถียงได้

หยางหลิงรุ่ยคิดว่าผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว เขาทำแบบนั้นลงไป ไม่เจ็บหรอ?

“คุณฮั่ว ฉันตอบคำถามคุณไปแล้ว คุณอย่ามาเซ้าซี้ ปล่อยฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกบอดี้การ์ด!” หยางหลิงรุ่ยเห็นว่าฮั่วเทียนหลันไม่ยอมปล่อยเธอ และกอดเธอแน่นขึ้น เธอจึงรีบขู่ออกมาว่าจะเรียกหยางเทียนเข้ามา

แต่มันกลับกัน ฮั่วเทียนหลันหัวเราะออกมา

“ถ้าหากมีใครเข้ามาในห้องนี้หละก็ ฉันจะหักขาเขา!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง