หยางหลิงรุ่ยมองเข้าไปด้านในของตึกและเห็นว่าสถานการณ์ด้านในยังคงวุ่นวาย
“คุณตำรวจคะ ฉันขอถามอะไรหน่อยค่ะ ฮั่วเทียนหลันอยู่ด้านในไหม?”
ตำรวจส่ายหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตยมากมาย และยังมีผู้อพยพอีหลายพันคน เขาจะไปจำชื่อใครคนใดคนหนึ่งได้อย่างไรกัน?
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมจำไม่ได้ และขอให้คุณนายให้ความร่วมมือออกจากที่นี่ไปหน่อยครับ” ตำรวจยังต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
หยางหลิงรุ่ยอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกคนดึงเอาไว้
“คุณนาย ผมจัดการเอง”
หยางหลิงรุ่ยหันกลับไป พบว่าคนที่พูดก็คือหยางเทียน เขาเป็นบอดี้การ์ดของพี่รอง
หยางเทียนเกิดในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และถูกตระกูลหยางรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่เด็ก
ตระกูลหยางให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของรัชทายาทเป็นอันดับแรกเสมอ
ข้างกายของหยางหลินและโจวหยวนมีบอดี้การ์ดอยู่หลายสิบคน ไม่ว่าจะแอบซ่อนอยู่หรือเปิดเผยโจ่งแจ้ง และบอดี้การ์ดพวกนนี้ยอมตายแทนพวกเขาได้
และหยางเทียนเป็นคนที่หยางหลินไว้ใจมากที่สุด
หยางเทียนเดินมาลากตำรวจไปคุยด้วยสองสามคำ ตำรวจดูหวาดกลัว และเขาก็ไปเรียกหัวหน้าของเขามา
หลังจากนั้นไม่นานหยางเทียนก็กลับมา
“คุณนาย ผมหาที่อยู่ของคุณฮั่วพบแล้ว ตามผมมา”
หยางหลิงรุ่ยขึ้นไปบนรถของหยางเทียน และรถของเธอถูกตำรวจขับกลับไปไว้ที่คฤหาสน์ของตระกูลหยาง
หลังจากผ่านมาครึ่งชั่วโมง หยางเทียนขับรถมาจอดที่ที่จอดรถของโรงพยาบาลกลาง
หยางเทียนลงจากรถ เปิดประตูพร้อมพูดว่า “คุณนาย คุณฮั่วอยู่ที่ห้องวีไอพีซึ่งอยู่ด้านบนสุด กรุณาตามผมมา”
หยางเทียนเดินตามขึ้นไปบนลิฟต์ เธอลังเลอยู่ว่าจะถามออกไปดีไหม แต่สุดท้ายเธอก็ถามออกไปว่า “ใครใช้ให้นายตามฉันมา?”
ข้างกายของหยางเทียนมีบอดี้การ์ดยืนอยู่อีกคน พวกเขามองหน้ากัน หยางเทียนจึงตอบออกมาว่า “การดูแลความปลอดภัยของคุณนายสำคัญที่สุด”
พอแล้ว อย่าเอาเหตุผลนี้มาอ้างเลย
หยางหลิงรุ่ยเม้มปากโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดของพวกเขาดูดีตลอด
ทุกคนดูเย็นชาและโหดเหี้ยม แต่พวกเขามีความสามารถมากมาย
ปีที่แล้ว ฐานเก็บพลังงานที่อยู่ทางด้านตะวันออกกลางของตระกูลหยางถูกบุกโจมตี
ผู้คนในฐานทั้งหมดถูกผู้ก่อการร้ายสังหารอย่างโหดเหี้ยม และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือผู้อำนวยการของฐานซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่ภักดีต่อตระกูลหยางมากว่า 20 ปีถูกตัดศีรษะ
หยางหยวนโกรธมาก จึงส่งบอดี้การ์ดส่วนตัวยี่สิบคนออกไป
ในเวลาเพียงสามวันฐานก็ถูกยึดคืน และผู้ก่อการร้ายทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิต
“หยางเทียน ถ้านายทำหน้าให้มันดีๆ นายก็หล่อเหมือนกันนะ”
ต้องใช้เวลานานกว่าจะขึ้นไปถึงชั้นบนสุด หยางหลิงรุ่ยอยากเข้าไปหาฮั่วเทียนหลันอย่างราบรื่น จึงชวนหยางเทียนคุย เพื่อทำให้เขาอารมณ์ดี
เนื่องด้วยงานของเขา หยางเทียนจึงไม่ค่อยยิ้มออกมาสักเท่าไหร่
แต่เธอก็เคยเห็นเขายิ้มออกมาหนึ่งครั้ง
พูดออกมาจากใจ เขาก็หล่อพอตัวเลย
ต้องบอกเลยว่าเขามีพื้นฐานหน้าตาที่ดี แต่เขาไม่รู้ตัว ปกติเขาเย็นชามากทำให้คนรอบข้างไม่รู้สึกอะไร
ไม่ว่าจะพูดอะไรกับเขา เขาจะตอบกลับมาว่า “ทราบครับ คุณนาย”
และครั้งนี้ก็เหมือนกัน
“ทราบครับ คุณนาย”
หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะม้วนริมฝีปากของเธอและพูดว่า “เข้าใจแล้วยังจะทำหน้านิ่งอีก?”
โชคดีที่เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกหยางเทียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเดินออกจากลิฟต์ไปพูดว่า “คุณนายครับ ห้องที่อยู่ด้านหน้าคือห้องของคุณฮั่ว”
ชั้นบนสุดมีห้องแค่สองห้อง ห้องแรกคือห้องที่ VIP สุด และอีกห้องหนึ่งก็คือห้องทำงานของหมอ
หยางหลิงรุ่ยมองเห็นบอดี้การ์ดหลายสิบคนที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน และในปืนเขาของบรรจุกระสุนไว้เต็มปี่ยม สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
แต่หลังจากที่เธอรู้ว่าโรงแรมเฟลตันถูกโจมตี เธอก็เป็นห่วงผู้ชายคนนี้มาก
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเธอมาถึงที่นี้แล้วความกังวลของเธอไม่ได้ลดน้อยลงเลย และเธอก็ไม่กล้าที่จะก้าวเดินออกไป
เมื่อวานเธอคิดไว้แล้ว ว่าจะมาหาผู้ชายคนนี้เพื่อสนทนาอะไรด้วย
แต่เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาคุยกัน จะคุยกันผ่านทางวีแชท
แต่เมื่อวานทั้งวัน เขาไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาเลย
ดูเหมือนว่าการติดต่อระหว่างคนสองคนจะจบลงเท่านี่
นี่ทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกใจหายเล็กน้อย
ตัวตนของเธอไม่น่าดึงดูดสำหรับเขาเลย
ถึงแม่ว่าเป็นลูกสาวของตรกูลหยางสถานะทางสังคมก็สูงอยู่ แต่เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศจีน และก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน
ตอนนี้มีบอดี้การ์ดเดินเข้ามาถามพวกเขา “พวกคุณเป็นใคร?”
เดิมที่หยางเทียนมาแค่ดูแลความปลอดภัยของหยางหลิงรุ่ย แต่เมื่อได้ยินบอดี้การ์ดของตระกูลฮั่วถามออกมาด้วยความไม่เคารพ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“นายไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าพวกเราเป็นใคร แต่พวกเรามาเพื่อเยี่ยมคุณฮั่ว” เขาตอบไปด้วยท่าทางที่เย็นชา
เมื่อบอดี้การ์ดเห็นว่าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัยของฮั่วเทียนหลันแล้ว เขาจึงสั่งให้คนมาเอาตัวพวกเขาออกไป
แต่ก็มีเสียงดังออกมาจากด้านหลัง “อย่าหยาบคาบ!”
“ผู้ช่วยพิเศษโจว” เห็นแขกที่มาเยือน ทำให้บอดี้การ์ดหมดความเย่อหยิ่งทันที
โจวหยวนตกใจเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่เขาเห็นอยู่ด้านหน้าคล้ายกับคุณนายของเขาเสียเหลือเกิน
ไม่ใช่ ไม่ใช่ ควรจะบอกว่าเธอคือคนคนเดียวกัน
ไม่แปลกที่ท่านประธานฮั่วปฏิเสธที่จะกลับไปประเทศจีนหลังจากมาถึงออสเตรเลีย
เขามองผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าด้วยความสงสัย และพูดออกมาว่า “คุณนาย....คุณผู้หญิง ขอบคุณมากๆที่มาเยี่ยมท่านประธาน เขาฟื้นแล้ว เชิญตามผมมาทางนี้เลยครับ”
โจวหยวนพูดพร้อมผายมือเชื้อเชิญ
เมื่อหยางหลิงรุ่ยได้ยินคำสองคำก่อนหน้านี้ที่ผูชายคนนี้พูดขึ้น ในใจของเธอก็ยิ่งเกิดความสงสัย
มองไปที่ตาของผู้ชายคนนี้ เหมือนกับว่าเขารู้จักเธอ
ตอนแรกก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรเพื่อจะมาเยื่อมฮั่วเทียนหลัน แต่ตอนนี้เธอเลือกเหตุผลในใจแล้ว
อย่างไรก็ตามเธอมีสิทธิที่จะรู้ความจริง และหวังว่าผู้ชายคนนี้จะบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตทั้งหมด
เธอตามโจวหยวนเข้าไปในห้องผู้ป่วย การตรวจความปลอดภัยในวอร์ดแน่นมากและมีบอดี้การ์ดหญิง 2 คนเข้ามาเพื่อตรวจค้นร่างกาย
และโจวหยวนโบกมือ พวกเธอทั้งสองจึงถอยไป
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องผู้ป่วย หยางหลิงรุ่ยที่เห็นสภาพแวดล้อมรอบๆจึงรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย
ห้องผู้ป่วยห้องนี้ ไม่ใช่ว่าเอาแบบมาจากห้องของประธานาธิบดีหรอกนะ?
การตกแต่งที่หรูหราโอ่อ่า แต่ดูเรียบง่าย และมีกลิ่นหอมลาเวนเดอร์อ่อน ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ
หลังจากที่เดินผ่านห้องนั่งเล่น เธอก็เห็นเตียงที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเตียงของห้องนอนเลยก็ว่าได้ บนนั้นฮั่วเทียนหลันที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ที่ตัวนอนอยู่
ใบหน้าของฮั่วเทียนหลันซีด ตรงหน้าของเขามีโต๊ะตั้งอยู่หนึ่งตัวและคอมพิวเตอร์พกพาหนึ่งเครื่อง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน
เมื่อยินเสียงว่ามีคนมา เขาก็หันหน้ามามอง
เรือนร่างที่คุ้นเคย หยุดสายตาของเขาทันที
เธอมาได้อย่างไร?
เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สนใจในตัวเขาเลย แต่ทำไมเธอถึงได้มาเยี่ยมเขาหละ?
ฮั่วเทียนหลันขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเขาเอามือออก เขาก็เห็นผ้าผันแผลที่ไม่เป็นระเบียบ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแบบเขินๆออกมา
ไม่นาน เรือนร่างที่เขาเห็นก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และนั่นทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้มองผิดไป
ผู้หญิงคนนี้มาเยี่ยมเขาจริงๆ
หยางเทียนและโจวหยวนยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่น หยางหลิงรุ่ยเดินไปข้างหน้าของฮั่วเทียนหลัน มองไปที่หน้าซีดเซียวของเขา และเห็นผ้าพันแผลที่อยู่บนตัวเขายังคงมีเลือดซึมๆออกมา
ถึงแม้เขาจะไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมา แต่เธอก็รู้ว่า ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้มันต้องทรมานมากแน่ๆ
“คุณฮั่ว คุณไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”
หยางหลิงรุ่ยอยากจะช่วยฮั่วเทียนหลันทำอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา เธอไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
ในดวงตาของผู้ชายคนนั้น มองมาที่เธอ และดูเหมือนว่าในนั้นจะมีเธออยู่ข้างใน
“เธอคิดว่าไงหละ? เธออยากจะมาเยี่ยมฉันด้วยตัวเองเลยหรอ!” เขาถามออกมาเพื่อยืนยัน
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหม่า เธอตอบไปด้วยเสียงทุ้มๆว่า “อ่า....ไม่ ไม่ใช่ ฉันเป็นตัวแทนของตระกูลหยาง”
“อ๋อ.....” ฮั่วเทียนหลันตอบอย่างมีความหมาย แต่ก็ยากที่จะปกปิดความอ่อนแอในน้ำเสียงของเขา
ในตอนที่เกิดการระเบิด รากฐานก็สั่นสะเทือน และเพดานที่อยู่ด้านบนก็หล่นมาทับร่างของเขา
โชคดีที่หน่วยกู้ภัยมาทันเวลามิฉะนั้นเขาอาจถูกตัดขา
“ดูแล้วถ้าไม่มีคำสั่งของตระกูลหยาง เธอก็คงไม่มา!” หยางหลิงรุ่ยรับรู้ได้ว่าเสียงที่ฮั่วเทียนหลันเปล่งออกมามีความรู้สึกน้อยใจแอบแฝงอยู่
หยางหลิงรุ่ยตัวสั่น เธออ้าปากเพื่อจะตอบโต้โดยไม่รู้ตัว
ที่เธอมาที่นี้ก็เพื่อจะมาเยี่ยมฮั่วเทียนหลัน
ส่วนหยางเทียนมาเพื่อดูแลความปลอดภัยของเธอเท่านั้น
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้ มีความคิดครอบงำในใจและเธอไม่ต้องการให้เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา
ทั้งสองคนกลับสู่การสนทนาที่บรรยากาสอึดอัดและไม่มีความสุข
เธอเงียบ และบรรยากาศในห้องผู้ป่วยก็แปลกไป
โจวหยวนแตะไปที่หยางเทียนเบาๆ เพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาทั้งสองควรออกไป
จากจุดที่ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่ เขาสามารถสังเกตเห็นว่าประตูปิดหรือเปิด
“ที่ฉันมาคราวนี้ก็เพื่อ....” หยางหลิงรุ่ยเลือกที่จะข้ามบทสนทนาเมื่อสักครู่ไป
แต่จู่โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
เป็นวิดีโอทางวีแชท จางหรันเป็นคนส่งมา
เธอมองไปที่โทรศัพท์ จากนั้นหันขึ้นมามองหน้าของฮั่วเทียนหลันอย่างรวดเร็ว
“คุณฮั่ว ฉันขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมจางหรันถึงไม่โทรมาหาเธอตามปกติ แต่เป็นการวิดีโอคอลมาแทน
เธอกลับตัวพร้อมที่จะเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
ไม่นานมานี่จางหรันเพิ่งจะไปประเทศจีน และก็ต้องจากกับที่นั่นเป็นเวลานาน และเหมือนกับว่าจะออกเดินทางวันนี้?
จู่ๆหยางหลิงรุ่ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาเคยบอกกับเธอไปแล้ว
แต่เธอยังไม่ทันได้เดินออกไป แรงของโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือทำให้โทรศัพท์เครื่องนั้นหลุดออกมาจากมือของเธอ และร่วงไปหาผู้ชายที่อยู่ด้านหลัง
และชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่พอใจพอ เขาแอนตัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้วโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
ร่างกายของหยางหลิงรุ่ยก็แข็งทื่อ และเธอสงสัยว่าชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือไง
ก็เห็นอยู่ว่าเขานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เข็มน้ำเกลือยังติดอยู่ที่แขน แต่ยังจะมีหน้ามาทำเรื่องเลวๆแบบนี้อีก?
“คุณฮั่ว ปล่อยฉัน รีบนอนลงไป เดี๋ยวเลือดไหลย้อนกลับ!”
เธอตะโกนออกมาด้วยความกังวล แต่ดูเหมือนว่าฮั่วเทียนหลันจะไม่สนใจคำพูดของเธอเลย
เขากระซิบข้างหูเธอเบาๆ “คุณหนูหยาง คุณยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อกี้ของผมเลย!”
ลมหายใจที่เร้าร้อนของเขาพุ่งเข้าไปในหูของหยางหลิงรุ่ย ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
“ใช่ พี่ชายของฉันเป็นคนให้ฉันมา ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มาหรอก!”
เธอจะเห็นเข็มที่แขวนอยู่ที่ข้อมือของฮั่วเทียนหลัน และมีเลือดสีแดงสดอยู่ในท่อพลาสติกแล้ว
เธอรีบพูดออกมา “คุณฮั่ว เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว รีบปล่อยฉันเถอะ เลือดมันไหลย้อยกลับแล้ว!”
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่เข็มที่ปักอยู่ตรงที่ข้อมือเขา เขาใช้มืออีกข้างดึงมันออกและขว้างมันทิ้งไป
เลือดไหลออกมา จากนั้นเขาก็กดมันด้วยนิ้วของเขา
“เอาหละ ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว คุณหนูหยาง ได้โปรดช่วยตอบคำถามของผมดีๆ” น้ำเสียงของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยไม่สามารถโต้เถียงได้
หยางหลิงรุ่ยคิดว่าผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว เขาทำแบบนั้นลงไป ไม่เจ็บหรอ?
“คุณฮั่ว ฉันตอบคำถามคุณไปแล้ว คุณอย่ามาเซ้าซี้ ปล่อยฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกบอดี้การ์ด!” หยางหลิงรุ่ยเห็นว่าฮั่วเทียนหลันไม่ยอมปล่อยเธอ และกอดเธอแน่นขึ้น เธอจึงรีบขู่ออกมาว่าจะเรียกหยางเทียนเข้ามา
แต่มันกลับกัน ฮั่วเทียนหลันหัวเราะออกมา
“ถ้าหากมีใครเข้ามาในห้องนี้หละก็ ฉันจะหักขาเขา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง