โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 324

หยางหยวนหยิบแก้วชาขึ้นมา เขาอยากจะดื่มมัน แต่เมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่าในแก้วไม่มีชาเหลืออยู่แล้ว

เขาวางแก้วลง แต่หยางหลิงรุ่ยก็หยิบแก้วนั้นขึ้นมา

เธอรินชาแก้วใหม่ให้เขา จากนั้นก็วางแก้วลงไปที่โต๊ะ หยางหลิงรุ่ยครุ่นคิดนานกว่าสิบวินานทีกว่าเธอจะพูดออกมาว่า “พี่ใหญ่ วันนี้ฉันได้เห็นเอกสารบางอย่าง ฮั่วเทียนหลันเป็นคนให้ฉันดู”

“ฉันไม่อยากดู แต่เขาบังคับให้ฉันดู”

“พี่ใหญ่ ชื่อของฉันก่อนที่ความจำจะเสื่อม ใช่หยางหลิงรุ่ยไหม?”

หยางหยวนมองไปที่ดวงตาของหยางหลิงรุ่ย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เขาถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมพูดว่า “ไม่ใช่.....”

หัวใจของหยางหลิงรุ่ยสั่นสะท้าน นั่นคือหนึ่งในคำตอบที่เธอคิดเอาไว้แล้ว

เนื่องจากเอกสารที่ผู้ชายคนนั้นส่งให้เธอดูในวันนี้ น่าจะเป็นของจริง และไม่น่าจะใช่สิ่งของที่จะสร้างขึ้นมาง่ายๆ

ตอนแรกเธอคิดว่าพี่ชายของเธอจะพยายามตอบเบี่ยงเบนคำถาม เพื่อคลายความสงสัยของเธอ

แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า พี่ชายของเขาจะพูดความจริงออกมาเรียบง่ายขนาดนี้

“งั้นก่อนหน้านี้ ฉันมีชื่อว่าอะไร?” เสียงของหยางหลิงรุ่ยสั่น เธอกลัวว่ามันจะเป็นความจริง แต่เธอก็โหยหาความจริงนั้น

ถ้าหากเธอเป็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เธอควรจะทำอย่างไรต่อไป?

เธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่กลับไม่สามารถอยู่กับเขาได้!

หรือว่าเธอจะต้องกลับไปมีชีวิตแบบที่เคยเป็นต่อไป?

“ฮั่วเทียนหลั่นยังไม่ได้บอกเธอหรอ?”

หยางหยวนหายใจเขาลึกๆ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เดินมาจับมือของหยางหลิงรุ่ย และพาเธอไปนั่งที่โซฟา

“เขาบอกว่าฉันชื่อ อันหรัน”

หยางหยวนยิ้มออกมา “อันหรัน เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ใช่ นั้นคือชื่อก่อนหน้านี้ของเธอ”

คำพูดต่อไปของหยางหยวน เปิดโลกทัศน์ของหยางหลิงรุ่ยเป็นอย่างมาก

เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเธอจะมีชีวิตที่ลุ่มๆดอนๆแบบนี้

ตระกูลหยาง เป็นตระกูลที่มีลูกชายและลูกสาวอย่างละคน

และลูกผู้ชายก็คือพ่อของหยางหยวน หยางเฉิงซี และลูกผู้หญิงก็คือแม่ของหยางหลิงรุ่ย หยางเหมิงฟาน

หยางหยวนจำได้แค่ว่าตอนที่เขาเป็นเด็ก ป้าหยางเหมิงฟานเคยกอดเขา

แต่หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรเกี่ยวกับป้าของเขาไม่ได้อีกแล้ว

หยางเหมิงฟานและหยางเฉิงซีเป็นฝาแฝดกัน และหยางเหมิงฟานเป็นแฝดพี่

เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้และความสามารถในการปรับตัวที่น่าทึ่งตั้งแต่อายุยังน้อย

เมื่อเธออายุได้ 18 ปีเธอสามารถดำเนินการและควบคุมสิ่งต่างของตระกูลหยางได้อย่างอิสระ

โครงการลงทุนหลายโครงการของตระกูลหยางทะยานสู่ท้องฟ้า

และหยางเฉิงซีเติบโตภายใต้ร่มเงาของพี่สาว

แต่มีอยู่วันหนึ่ง หยางเหมิงฟานประกาศว่าเธอจะลงจากตำแหน่งประธานของ Yang Group

และหลังจากนั้นก็ออกไปจากตระกูลหยาง

เนื่องจากเรื่องนี้ คุณพ่อของหยางเหมิงฟานจึงโกรธมาก และลบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอออกไปจากตระกูล

และแม่บ้านก็แอบได้ยินปู่หยางโทรบอกหยางเหมิงฟานให้รีบกลับบ้านมา

แต่ก็ไม่รู้ว่าหยางเหมิงฟานไปพูดอะไรทำให้ปู่หยางโกรธ

เขาจึงกัดฟันพูดออกมาว่า ต่อไปนี้เธอกับเขาตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกัน ตระกูลหยางมีเขาต้องไม่มีเธอ

และหลังจากนั้นหยางเหมิงฟานก็ไม่กลับมาอีกเลย

ต่อมาได้ยินว่าเธอตกหลุมรักกับประธานบริษัทเล็ก ๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนบริษัท และมีสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 10 ล้าน

แต่หยางเหมิงฟานก็ตัดสินใจที่จะเป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มใจ

ในวันแต่งงาน เธอพูดออกมาหนึ่งคำ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความรัก

แต่ที่จริงแล้วในวันแต่งงานของเธอ คุณย่าและคุณปู่ที่ดื้อรั้นก็มาแอบดูเธอ

ถึงแม่คุณปู่จะไม่ชอบ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ในใจของเขาก็ทุกข์เล็กน้อย

หลังจากวันนั้นหยางเหมิงฟานก็ได้เป็นภรรยาของผู้ชายตระกูลอันคนนั้น และบัญชีของบริษัทได้รับการโอนเงินหนึ่งพันล้านหยวนโดยมีเพียงสองคำในหมายเหตุ :สินสอด

ด้วยสินสอดที่ได้มา จึงทำให้หยางเหมิงฟานเหมาะกับตำแหน่งลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจ เธอและสามีของเธอทำงานร่วมกันเพื่อขยาย บริษัท เล็ก ๆ อย่างรวดเร็วและออกสู่สาธารณะ ครั้งหนึ่งเคยถือเป็น บริษัท ที่มีแนวโน้มดีที่สุดในเมือง Z

และหลังจากนั้นก็มีลูกสาวที่น่ารักออกมาหนึ่งคน ชื่ออันหรัน

ถึงแม้คุณปู่หยางจะมีใบหน้าที่เย็นชา แต่เขาก็ได้เจอกับเด็กคนนี้หลายครั้งและเขาก็ชอบเธอมาก

แต่เขาก็ไม่เคยบอกให้อภัยกับลูกสาวของตัวเอง

แต่ต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นกับตระกูลหยาง

Yang Groupจึงไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ประเทศออสเตรเลีย และเปลี่ยนชื่อเป็น Aneng Group เพื่อเปิดทางสู่สากล

หยางเฉิงซีกลายเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขากลับมาที่ประเทศจีนหลายครั้ง เพื่อร่วมมือกับ An's Group บริษัทของหยางเหมิงฟาน

ในฐานะองค์กรใหม่ An's Group แตกต่างจาก Yang Group เป็นจำนวนมากในเรื่องขนาดของเงินทุน

แต่ทุกครั้งที่ Yang Group จะอัดฉีดเงินทุนให้เธอ เธอก็ปฏิเสธมันทุกครั้ง

ต่อมา An's Group เกิด ข้อพิพาทเรื่องผลประโยชน์กับ บริษัท เฮฟวี่เวทในโครงการขนาดใหญ่

หลังจากนั้นครอบครัวของหยางเหมิงฟานก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหลือไว้เพียงลูกสาวของเธอเพียงคนเดียว

..........

เล่าถึงตรงนี้ หยางหยวนไม่จำเป็นต้องเล่าต่อไป ตอนนี้หยางหลิงรุ่ยรู้แล้วว่าเธอคือใคร

เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังฝันไป เธอพึมพำ “พี่ใหญ่ เล่าอะไรผิดหรือเปล่า? ที่ฉันดูมาจากข้อมูล ผู้หญิงที่ชื่ออันหรันถูกไล่ออกจากบ้านของตระกูลอัน ชีวิตของเธอดำเนินไปอย่างยากลำบาก และถ้าหากเบื้องหลังของเธอยากลำบากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีใครช่วยเธอหละ?”

หยางหยวนยิ้มอย่างขอโทษและกล่าวว่า “นั่นเป็นความปรารถนาของคุณป้า เธออยากให้ลูกสาวของเธอเป็นอิสระ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นถ้าไม่อันตรายถึงชีวิต เธอก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามายุ่ง ดังนั้น....”

หยางหลิงรุ่ยเม้มปาก เนื่องจากการตัดสินใจของคุณแม่ หยางหลิงรุ่ยไม่รู้ว่าควรจะรักหรือเกลียดเธอดี ถ้าพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา เธอควรจะเกลียดใช่ไหม?

เสียงของเธอสั่น “ฉันเข้าใจแล้ว ดังนั้น ฉันเป็นลูกของหยางเหมิงฟาน ฉันชื่อ อันหรัน และก็เป็นภรรยาตามกฎหมายของฮั่วเทียนหลัน?”

หยางหยวนพยักหน้า “ใช่!”

“แล้วชิงหรงหละ?” หยางหลิงรุ่ยพยายามถามถึงข้อสงสัยสุดท้าย

“ชิงหรงเป็นลูกของเธอ ในตอนที่เธอตั้งครรภ์เป็นท้องแฝด ตอนนั้นชีวิตของเธอลำบากมาก เธอไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กสองคนได้ ดังนั้นฉันจึงโทรไปหาแพทย์เป็นการส่วนตัวให้เอาเด็กอีกคนมาให้ฉัน และบอกเขาว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร”

“ดังนั้น ชิงหรงก็เป็นลูกสาวของฮั่วเทียนหลั่นเหมือนกัน และพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน?”

หยางหยวนยิ้มยอมรับ

ความเงียบเข้ามาครอบงำห้องอ่านหนังสือเป็นเวลานาน

สมองของหยางหลิงรุ่ยเกิดความสับสนขึ้นมากมาย และหยางหยวนก็ไม่รู้จะปลอบเธออย่างไร

สักพัก หยางหลิงรุ่ยก็ลุกขึ้นมา พูดว่า “ดึกมากแล้ว พี่ใหญ่ รีบพักผ่อนเถอะ”

พูดจบ เธอก็รีบเดินไปที่หน้าประตู แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา

“เรื่องที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป อย่าไปหมกมุ่นกับมันเลย”

หยางหลิงรุ่ยตอบรับ คำพูดที่เธอได้ยินในวันนี้ ทำให้เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

เธอต้องการเวลาสักพักเพื่อทำความเข้าใจ และต้องการเวลาที่จะคิดว่าเธอจะยอมรับมันได้ไหม

บางครั้งชีวิตที่เงียบสงบที่เธอมีอยู่มาตอนแรก อาจจะเปลี่ยนไปเพราะเรื่องที่เธอรับรู้ในครั้งนี้

หยางหยวนกลับไปที่ห้องนอน ไฟที่หัวเตียงยังคงสว่างอยู่ ตงเหยียนนอนไม่หลับจึงลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ

“ทำไมเธอยังไม่นอน? หยางหลิงรุ่ยมาถามเรื่องนั้นกับฉันแล้ว!”

เขาพูดออกไป ตงเหยียนก็ทำท่าทางนิ่งเฉย

จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ประตูเล็กอีกด้านหนึ่ง หยางหยวนเดินไปปิดประตูบานนั้น

“คุณบอกเธอไปหมดแล้ว?” ตั้งแต่ที่ฮั่วเทียนหลั่นมา ตงเหยียนก็รู้แล้ว ชีวิตที่สงบสุขของเธอจบสิ้นแล้ว มันต้องเกิดเรื่องขึ้นในไม่ช้าก็เร็ว

“อ่า ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากปิดบังเอาไว้แล้วเธอมารู้ความจริงในตอนหลัง เธออาจจะเกลียดฉันเอาก็ได้”

“คุณนี่นะ! เก็บความลับไม่อยู่จริงๆ หยางหลิงรุ่ยมีชีวิตที่มีความสุข ทำไมคุณต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอด้วย?” ตงเหยียนกล่าวโดยท่าทางตำหนิ

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาหยางหลิงรุ่ยใช้ชีวิตเรียบง่ายและไร้กังวล

ถ้าเกิดเป็นไปได้หละก็ ตงเหยียนอยากให้เธอมีชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

เพราะชีวิตในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาของเธอ ลำบากเสียเหลือเกิน

“ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องรู้ บุญคุณความแค้นระหว่างตระกูลหยางกับตระกูลฮั่วมีมากมาย เกรงว่าทั้งชีวิตนี้ก็คงใช้ไม่หมด”

หยางหยวนถอนหายใจ นั้นทำให้ตงเหยียนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินหยางหยวนพูดเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลฮั่ว ตระกูลฮั่วกับตระกูลหยางมีอะไรขัดแย้งกัน?

แต่งงานกันมานานขนาดนี้ ทำไมเธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้หลุดออกมาจากปากของหยางหยวน

“คุณพูดอะไร? เกี่ยวอะไรกับตระกูลฮั่ว?”

หยางหยวนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป

เขาขึ้นไปบนเตียง จากนั้นก็เอื้อมมือไปโอบตงเหยียนไว้ และกันไปที่ติ่งหูของเธอเบาๆ

ตงเหยียนสะดุ้ง และร่างกายของเธอก็ตอบสนองขึ้นมาทันที

“อย่านะคุณ คุณยังอธิบายเรื่องที่คุณพูดเมื่อสักครู่ไม่จบ....”

“เมียจ๋า นี่ก็ดึกมากแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องไร้สาระแล้ว พวกเราควรมาทำเรื่องอะไรที่มันสนุกๆกันดีกว่า!”

หยางหยวนพูดพร้อมเลื่อนมือข้างหนึ่งของเขาลง

ตงเหยียนจับมือที่พยายามเลื่อนลงไปของหยางหยวนพร้อมพูดว่า “เดี๋ยว พูดออกมาก่อน”

แต่วินาทีต่อมา มือของหยางหยวนก็ดิ้นออกมาจนเป็นอิสระ และเลื่อนลงไปที่จุดอ่อนโยนที่สุดของเธอ และนั่นทำให้ร่างกายเธอสั่นสะท้านขึ้นมาทันที

“ทำให้เสร็จแล้วค่อยพูด!”

หยางหลิงรุ่ยขังตัวเองไว้ในห้องอยู่หลายวัน เธอไม่ได้ออกไปไหนเลย

เรื่องรับผิดชิงหรง ยกให้เป็นหน้าที่ของตงเหยียน

จิตใจของเธอสับสน เธอยังไม่สามารถแยกแยะเรื่องราวที่หยางหยวนพูดในคืนนั้นได้

และเธอก็ยังคิดอีกว่า ตัวเองกำลังฝันไปอยู่หรือเปล่า?

หยางเทียนจะเอาเบาะแสของฮั่วเทียนหลั่นมารายงานให้เธอรับรู้ทุกวัน

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น เขายังไม่รีบกลับประเทศ

แต่กลับย้ายมาอยู่ที่ออร์ตัน เขามักจะมาที่บ้านของตระกูลหยางบ่อยๆ หวังว่าจะมีสักวันจะได้พบกับหยางหลิงรุ่ยอีก

แน่นอน ทุกครั้งที่เขามาหยางหลิงรุ่ยปิดประตูไว้แน่น

ครั้งนี้หยางเทียนทำตามคำสั่งอย่างเคร่งคัด ถ้าหยางหลิงรุ่ยไม่อยากเจอ ก็ไม่มีทางได้เจอ ไม่มีทางปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปหาฮั่วเทียนหลันได้อีก

ตั้งแต่คืนนั้นถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าจะไปเจอกับเขาในสถานะอะไร

ทุกครั้งที่หยางหลิงรุ่ยพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต เธอจะปวดหัวขึ้นมา

หลังจากอาการปวดหัวนั้นเบาบางลง เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าจำอะไรได้มาขึ้นเล็กน้อย

ตงเหยียนที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอในทุกกัน ก็รู้สึกกังวลใจ

ดังนั้นเขาจึงขอให้จิตแพทย์ชั้นนำของโลกมาที่บ้านของตระกูลหยางเพื่อมาให้คำปรึกษากับเธอโดยเฉพาะ

ห้องอ่านหนังสือถูกเปลี่ยนให้เป็นคลินิก หยางหลิงรุ่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้นอน นักจิตวิทยากำลังเตรียมที่สะกดจิตเธอ

“คุณหนูหยาง คุณลองนึกเรื่องถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ผู้คนหรือสิ่งต่างๆที่คุณสามารถสัมผัสได้ แต่ไม่ต้องไปให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไป เพราะนั้นจะทำให้คุณปวดหัว และจะทำให้การสะกดจิตติดขัด”

แพทย์ได้ให้คำแนะนำตามอาการที่เปลี่ยนไปของหยางหลิงรุ่ย

“ตอนนี้ผมกำลังสะกดจิตคุณอยู่ ทำให้คุณนึกไปถึงความทรงจำที่ฝังลึก คุณกดปุ่มนี้ค้างไว้ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจมาก ๆ ให้กดมันแรง ๆ แล้วผมจะปลุกคุณเอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง