ตลอดทางที่หยางหลิงรุ่ยเดินผ่าน สภาพแวดล้อมของคฤหาสน์ฮัวนั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ถนนลาดเอียงปูด้วยพื้นหินสีน้ำเงิน บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์
กลิ่นหอมเข้มข้นแต่กลับไม่ฉุนจมูก ช่างดีงามตามธรรมชาติจริง ๆ
เธออดคิดในใจไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้มีความสนใจคล้ายกันกับเธออยู่มาก!
กว่าจะเดินมาถึงที่พักของเจ้าบ้านนั้นก็ใช้เวลานานพอสมควร
บอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินเข้าไปกระซิบอีกคนที่กำลังยืนเฝ้าประตู : "คุณหยางกรุณารอสักครู่นะครับ ผมต้องเข้าไปขออนุญาตคุณท่านก่อน"
"อืม"
หยางหลิงรุ่ยไม่คิดเลยว่าการมาพบฮั่วเทียนหลันนั้นจะเป็นเรื่องยากขนาดนี้ ยังดีที่ของที่นำมาเยี่ยมทั้งหมดเธอได้ให้บอดี้การ์ดช่วยกันขนย้ายไปเก็บเรียบร้อยแล้ว
หลังจากผ่านไปสองนาทีบอดี้การ์ดคนเดิมก็เดินออกมา
"ขออภัยครับคุณหยาง ท่านประธานฮั่วไม่สะดวกพบแขกชั่วคราว"
หยางหลิงรุ่ยอึ้งไปพักหนึ่ง เธอยืนอยู่กับที่ไม่ได้ขยับไปไหน
เธอรู้ดีว่าตนเองมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ เจ้าบ้านจึงไม่ยินยอมต้อนรับ
"ถ้าอย่างนั้นประธานฮั่วจะสะดวกตอนไหนเหรอ" เธอเอ่ยถามเสียงเบา
บอดี้การ์ดคนดังกล่าวทำหน้ายาก เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเบา : “คุณหยางครับ เรื่องแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม ได้โปรดอย่าทำให้ผมลำบากใจเลยนะครับ"
หยางหลิงรุ่ยถอนหายใจก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินจากไป
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนเธอก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
เธอเดินทางมาตั้งไกลเพื่อมาเยี่ยมฮั่วเทียนหลัน ของเยี่ยมทั้งหมดก็ส่งมอบให้แล้ว แต่กลับยังไม่ได้พบคนป่วย
นี่มันไม่แฟร์เลยสักนิด!
เธอหันกลับไปอีกครั้ง ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าและผลักตัวบอดี้การ์ดออกให้พ้นทาง
“คุณฮั่วไม่มีเวลา เดี๋ยวฉันเป็นคนไปหาเขาเอง”
บอดี้การ์ดคนนั้นชะงักไปชั่วขณะ เขาอยากจะหยุดยั้งการกระทำของหยางหลิงรุ่ย
“คุณหยาง ... ”
แต่เมื่อเขายื่นมือออกไป ก็นึกถึงความสัมพันธ์ของหยางหลิงรุ่ยกับท่านประธานฮั่วขึ้นมาได้ จึงรีบชักมือกลับมาไว้ที่เดิม
ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของท่านประธานนี่!
แม้ว่าจะไม่มีใครพูดเช่นนั้น แต่คนในตระกูลฮัวต่างก็รู้กันดี เรื่องที่ท่านประธานฮั่วมาอยู่ที่ออสเตรเลียและเรื่องที่ออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดก็เป็นเพราะคุณหยางท่านนี้หมดเลยทั้งนั้น
คุณหยางเป็นคนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับท่านประธานฮั่ว
เขาขัดขวางเธอก็คงไม่ดี จะไม่ขัดขวางเลยก็ไม่ถูกอีก
บอดี้การ์ดคนที่นำทางมาเมื่อสักครู่ พอเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีก็หนีไปก่อนแล้ว
เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเสียทีจึงก้มหน้าลง ก่อนร่างกายของเขาจะเอนไปมาและล้มลงกับพื้นในที่สุด
หยางหลิงรุ่ยตะลึงไปชั่วขณะ เธอยังไม่ทันได้แตะตัวบอดี้การ์ดคนนี้เลย ทำไมเขาถึงล้มลงไปเช่นนั้น
หยางหลิงรุ่ยรีบเดินตรงไปยังห้องรับแขก ทันใดนั้นพ่อบ้านก็เดินออกมาต้อนรับเธอ
เมื่อเห็นใบหน้าท่าทางของหยางหลิงรุ่ย พ่อบ้านก็รู้ทันทีว่าเธอคือใคร
ผู้หญิงคนนี้หน้าตาเหมือนกับภรรยาของนายน้อยไม่มีผิด
"คุณผู้หญิงครับ คุณคือ"
หยางหลิงรุ่ยเหลือบมองขึ้นไปชั้นบนและพูดขึ้นเสียงเบา : "คุณพ่อบ้าน ฉันมาพบฮั่วเทียนหลันค่ะ เขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ"
"ตอนนี้นายน้อยอยู่ที่ชั้นบนครับ คุณคงจะเป็นผู้หญิงท่านเมื่อกี้ใช่ไหม ต้องขออภัยด้วยนะครับนายน้อยไม่สะดวกที่จะพบแขกในขณะนี้ เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณทิ้งข้อมูลติดต่อของคุณไว้เดี๋ยววันหลังผมจะติดต่อคุณกลับไปโอเคไหมครับ"
พ่อบ้านเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสงบก่อนจะขยับตัวเพื่อปิดกั้นบันไดเอาไว้
แต่หยางหลิงรุ่ยกลับรีบเดินขึ้นไปก่อน วันนี้เธอบุกเข้ามาขนาดนี้แล้ว จะให้กลับไปอย่างไม่ได้อะไรเลยได้ยังไง
เธอรีบก้าวเท้าขึ้นบันได พอไปถึงชั้นสองกลับรู้สึกมึนงงขึ้นมาเล็กน้อย
ที่ชั้นสองมีทั้งหมด 7-8 ห้องและเธอไม่รู้เลยว่าฮั่วเทียนหลันนั้นพักอยู่ห้องไหน
ขณะนั้นเองพ่อบ้านที่รีบวิ่งตามเธอมาก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา : "คุณผู้หญิงครับ คุณอย่าทำให้ผมลำบากนักเลย นายน้อยร่างกายยังไม่หายดีและกำลังพักผ่อน จึงไม่สะดวกที่จะพบแขก"
หยางหลิงรุ่ยลังเลอยู่ครู่นึง ในเมื่อพ่อบ้านก็บอกว่าเขากำลังพักผ่อนอยู่ เขาคงไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ต้อนรับเธอหรอกมั้ง
หรือบางทีฮั่วเทียนหลันอาจจะยังไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังออกมาจากห้องที่สองตรงหน้าเธอ
น่าแปลก พอหยางหลิงรุ่ยได้ยินเสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคยนั้น ความโกรธก็เริ่มก่อนตัวขึ้นมาในใจ
เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำพูดของพ่อบ้านที่อยู่ข้างหลัง ก่อนจะผลักประตูให้เปิดออกทันที
ประตูห้องถูกเปิดออกกระทันหัน ภาพตรงหน้าคือชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งใกล้ชิดสนิทกัน ทั้งสองหันมามองเธอด้วยความประหลาดใจ ก่อนหญิงสาวคนนั้นจะขยับร่างกายออกเพื่อรักษาระยะห่างจากฮัวเทียนหลัน
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกเจ็บที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ที่แท้เธอก็คิดเข้าข้างตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว
เพราะผู้ชายคนนี้กำลังนัดพบกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ เขาจึงไม่คิดจะสนใจเธอล่ะมั้ง
ขณะนั้นเองพ่อบ้านก็เดินเข้ามา ก่อนจะโค้งคำนับที่ด้านนอกประตูและเอ่ยขึ้น : "ผมขอโทษครับนายน้อย ผม... "
“ช่างมัน ลุงหลี่ไม่ได้เกี่ยวอะไร ลงไปข้างล่างก่อนเถอะ!”
พ่อบ้านปิดประตูลงก่อนจะเดินออกไป หยางหลิงรุ่ยมองสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ฮั่วเทียนหลันยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังจ้องมองมาที่เธออย่างสงบนิ่ง
หยางหลิงรุ่ยนึกออกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
เธอคือคนที่คุยกับฮั่วเทียนหลันอย่างสนิทสนมในร้านเสื้อผ้าวันนั้น
Auch ลุกขึ้นก่อนจะก้าวออกมาข้างหน้าและทำท่าเชิญให้เธอนั่งลงอย่างอ่อนโยน : "คุณหยาง ผู้มาเยือนต่างก็เป็นแขก อย่ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นสิคะ เชิญนั่งลงก่อนเร็ว"
ท่าทางของเธอในตอนนี้ราวกับเป็นเจ้าบ้านเสียเอง
แววตาของหยางหลิงรุ่ยหม่นลงเล็กน้อย เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ขอโทษด้วยนะคะที่ฉันพรวดพราดเข้ามาแบบนี้ รบกวนแล้ว... "
พูดจบเธอก็หมุนตัวเตรียมเดินออกไป
เธอรู้สึกตลกตัวเองสิ้นดีที่ทำตัวว่างและยังเป็นห่วงผู้ชายคนนี้
เพียงเพราะคำพูดลอย ๆ ของเขา เธอกลับเก็บเอาไปคิดจริง แถมยังถ่อมาหาเขาถึงที่นี่อีก
เธอนี่มันโง่จริง ๆ พี่สะใภ้พูดถูกทุกอย่างเลย ผู้ชาย 90% ต่างก็เจ้าชู้ด้วยกันทั้งนั้น ส่วนอีก 10% ที่เหลือก็แค่ไม่มีโอกาสได้เจ้าชู้เท่านั้นเอง
ทันทีที่มือของหยางหลิงรุ่ยจับลูกบิดประตู ฮั่วเทียนหลันที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดก็เอ่ยขึ้น : "คุณหยางจะทั้งอย่างนี้เลยเหรอ"
หยางหลิงรุ่ยชะงักเล็กน้อย เธอยิ้มกับประตูอย่างขมขื่น
ไม่ไปแล้วจะให้ทนอับอายขายขี้หน้าอยู่ตรงนี้หรือไงกัน
เธอไม่หลงเหลือความทรงจำในอดีตแล้ว
แม้ว่าเขาจะยังอยู่ แต่ที่ข้าง ๆ เขานั้นมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่แล้ว
ความรักนี้ช่างน่าขัน เมื่อคุณรักใครสักคนเขากลับไม่รักคุณตอบ แต่เมื่อเขารักคุณแล้ว คุณกลับไม่รักเขาเช่นเดียวกัน
คุณหันหลังกลับไป แต่เขากลับเดินจากไป
ทั้งสองเอาแต่วิ่งไล่ตามกันไปอย่างนั้น ราวกับเป็นเส้นขนานสองเส้นที่เพียงแค่ยื่นมือออกไปก็สามารถสัมผัสถึงกันได้ แต่ก็ไม่มีวันที่เส้นขนาดสองเส้นนั้นจะมาบรรจบกัน
เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่กลับเปิดประตูแล้วก้าวออกไปทันที
แต่วินาทีต่อมาก็มีเสียงฝีเท้าเดินตามมาข้างหลังเธอ ก่อนที่มือของเธอจะถูกมือหยาบกร้านนั้นดึงรั้งเอาไว้
"หยางหลิงรุ่ย ผมอนุญาตให้คุณไปแล้วเหรอ"
รอยยิ้มบนใบหน้าของ Auch หายไปในทันที เธอขบฟันแน่นอย่างรู้สึกเกลียดชัง เล็บที่จิกเข้ากับโซฟาแตกหัก แต่เธอกลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
"เทียนหลัน พวกเราคุยกันแล้วว่าอีกหน่อยจะออกไปดูหนังด้วยกัน"
Auch เดินเหยาะแหยะเข้ามา ก่อนจะจับมือของฮั่วเทียนหลันเบา ๆ แล้วเอนตัวเข้าหาเขาเล็กน้อย
สีหน้าของฮั่วเทียนหลันเย็นชา เขาไม่ได้ปล่อยมือจากอันหรัน กลับกันเขาเบียงตัวหลบเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ Auch พิงเข้ามา
“ขอโทษทีนะคุณ Auch ผมพึ่งนึกได้ว่าวันนี้ยังมีธุระต้องจัดการ เกรงว่าจะไม่สามารถไปเป็นเพื่อนคุณได้แล้ว”
แน่นอนว่า Auch สามารถสัมผัสได้ถึงความห่างเหินของผู้ชายคนนี้ เธอรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ยังต้องแสดงท่าทีที่อ่อนโยนออกมา
“ถ้าอย่างนั้น ฉันอยู่จัดการธุระเป็นเพื่อนคุณได้ไหม”
เธอยอมลดทิฐิของตัวเองลงเพื่อขอร้องเขา แต่ฮั่วเทียนหลันกลับปฏิเสธเธอออกมาโดยไม่คิดลังเลเลยสักนิด
“คุณ Auch ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณหยางสักหน่อย คุณกลับไปก่อนเถอะ!”
Auch ไม่สามารถคงท่าทางสง่างามของตนเองได้อีกต่อไป ใบหน้าของเธอแดงขึ้นด้วยความโมโห เธอจ้องมองไปที่ชายหญิงตรงหน้าด้วยสายตาดุร้าย ก่อนจะเดินผ่านหยางหลิงรุ่ยไปอย่างไม่สบอารมณ์
หยางหลิงรุ่ยมองดูเหตุการณ์ตลกตรงหน้า ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเธอปรากฏตัวขึ้นมา และเป็นมือที่สามของเรื่องนี้
เมื่อ Auch กลับไปแล้ว เธอเองก็ยิ่งไม่ควรอยู่ที่นี่
เธอสะบัดมือฮั่วเทียนหลันออก ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่าง
ฮั่วเทียนหลันไม่คิดว่าท่าทีของหยางหลิงรุ่ยจะเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมากระทันหันเช่นนี้ เขาเอื้อมมือออกไปหวังจะคว้าเสื้อผ้าของหยางหลิงรุ่ย
แต่พอหยางหลิงรุ่ยหยุดชะงัก เขากลับล้มลงไปอย่างไม่ทันระวัง
เมื่อหยางหลิงรุ่ยหันกลับไปมองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ
ผู้ชายคนนี้อ่อนแอขนาดนี้เลยเหรอ โดนเธอสะบัดไปนิดเดียวก็ล้มลงเช่นนี้เลยจริง ๆ หรือ
เธอรีบไปก้าวเข้าไปพยุงตัวฮั่วเทียนหลันขึ้น
ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แต่ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
หลังจากหยางหลิงรุ่ยช่วยพยุงตัวเขาขึ้นมาแล้ว เขาก็ออกแรงดึงตัวหยางหลิงรุ่ยเข้ามาในอ้อมกอดของตนเองทันที
เธอเบียดเข้ากับหน้าอกของเขา ทำให้แผลตรงจุดนั้นรู้สึกปวดขึ้นมาจนเขาซี้ดปากอย่างอดไม่ได้
เมื่อมองเห็นรอยเลือดแดงซึมออกมาจากเสื้อของเขา หยางหลิงรุ่ยก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
"คุณทำอะไรเนี้ย ปล่อยฉันได้แล้ว อยากตายหรือไง"
แต่ยิ่งเธอดิ้นรนมากเท่าไหร่ ฮั่วเทียนหลันก็ยิ่งออกแรงยับยั้งเธอมากขึ้นเท่านั้น
“ถ้าคุณยอมอยู่ที่นี่ก่อน ผมถึงจะปล่อย”
หยางหลิงรุ่ยไม่กล้าแตะที่บาดแผลของฮั่วเทียนหลัน เธอจึงทำได้เพียงจับเข้าที่ต้นแขนทั้งสองข้างของเขาแน่น ก่อนจะพยายามออกแรงผละตัวออก
แต่แรงของผู้หญิงอย่างเธอจะไปสู้คนอย่างฮั่วเทียนหลันได้อย่างไร
แต่ถึงกระนั้นการเคลื่อนไหวร่างกายของเธอ ก็ส่งผลกระทบต่อบาดแผลของฮั่วเทียนหลันอยู่ดี
คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นเรื่อยๆ แต่ลำแขนที่โอบกอดหยางหลิงรุ่ยอยู่นั้นกลับแน่นเสียยิ่งกว่า
สุดท้ายหยางหลิงรุ่ยก็ยอมแพ้ไม่คิดขัดขืนต่อไป
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยังคงโมโหอยู่ : "ฮั่วเทียนหลัน คุณนี่มันบ้าจริง ๆ!"
“เพื่อคุณแล้ว บ้าอีกสักครั้งจะเป็นไรไป”
“คุณหยางจู่ๆก็โกรธขนาดนี้ เป็นเพราะหึงหวงผมหรือเปล่านะ” ฮั่วเทียนหลันข่มความเจ็บปวดของร่างกายเอาไว้ ก่อนจะเอนตัวไปกระซิบที่ข้างหูของหยางหลิงรุ่ย
การกระทำมีเลศนัยพร้อมกับลมหายใจอุ่นที่กำลังเป่ารดใบหู ทำให้หยางหลิงรุ่ยหน้าแดงขึ้นมาฉับพลัน
"พูดมั่วๆ พวกเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ฉันจะไปหึงคุณทำไม"
แต่ฮั่วเทียนหลันกลับไม่ฟังคำอธิบายของเธอ
เขาเอ่ยขึ้นสียงเรียบ : “จริงเหรอ คุณหยางไม่ได้หึงก็ดีแล้ว สำหรับคุณ Auch คนเมื่อกี้ ผมกับเขาแค่ความสัมพันธ์ทางธุรกิจเท่านั้น เมื่อก่อนคุณก็เคยเจอเขามาแล้ว”
เธอรู้จักผู้หญิงคนนั้นด้วยเหรอ
ตอนนี้ในหัวสมองของหยางหลิงรุ่ยปรากฏภาพผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา เธออดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ หญิงสาวเลือดผสมคนนั้นมีหน้าตาที่งดงามมากจริง ๆ
ไม่สิ นี่ไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย เธอกำลังถูกฮั่วเทียนหลันชักนำอีกแล้ว
"คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฉันฟังหรอก เพราะฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จักเธอ แต่ว่าตอนนี้คุณช่วยปล่อยฉันทีได้ไหม!"
ฮั่วเทียนหลันกอดรัดเธอแน่นเช่นนี้ มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมไปด้วยกลิ่นอายของผู้ชายอย่างรุนแรง และนั่นทำให้ร่างกายของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
ที่สำคัญที่สุดคือบาดแผลของเขายังไม่หายดี จะมาออกแรงกระทำเช่นนี้ได้อย่างไร
ฮั่วเทียนหลันตอบรับ แต่มือของเขากลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ และนั่นบอกได้ชัดแล้วว่าเขารับรู้ แต่แค่ไม่ยอมทำตามก็เท่านั้น
หยางหลิงรุ่ยถอนหายใจอย่างรู้สึกปลง แม้ว่าคำอธิบายของฮั่วเทียนหลันจะทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะให้อภัยเขานี่
ผู้ชายคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเธอมาหา แต่เขากลับไม่ยอมให้เธอเข้ามา
ผลสุดท้ายเธอบุกเข้ามาเองและพบว่าเขากำลังเดทอยู่กับผู้หญิงคนอื่น
เพียงคำพูดแก้ตัวง่ายๆเช่นนี้ ก็คิดว่าตนเองจะพ้นผิดแล้วงั้นหรือ
เหอะ คนหลายใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง