โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 334

หยางหลิงรุ่ยพึ่งจะสังเกตเห็นเวลา ตอนนี้ล่วงเลยมาจนถึงหกโมงเย็นแล้ว

เธออยู่ที่บ้านของฮั่วเทียนหลันเป็นเวลาเนิ่นนานเลยทีเดียว

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันกลับไปกินที่บ้าน”

แต่ฮั่วเทียนหลันกลับไม่สนใจคำพูดของเธอ

เขาพาเธอไปยังห้องอาหาร ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว

หยางหลิงรุ่ยตะลึงงง ฮั่วเทียนหลันเข้าไปในครัวทำไมกัน

หรือว่าเขายังสามารถทำอาหารได้ยังงั้นหรือ

ขณะนั้นเองคนใช้ก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานผลไม้ในมือ หยางหลิงรุ่ยจึงเอ่ยถามขึ้น : "ขอโทษนะคะ คุณฮั่วเข้าไปทำอาหารเหรอคะ"

คนใช้มองหยางหลิงรุ่ยอย่างรู้สึกอิจฉา ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ภรรยานายน้อยช่างโชคดีเสียจริง นายน้อยมาที่นี่ก็นานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ยอมเข้าครัวทำอาหารเองกับมือเช่นนี้!"

ก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะลงมาที่ชั้นล่าง พ่อบ้านได้กำชับคนใช้ทุกคนบอกว่าถ้าหากเจอหยางหลิงรุ่ยให้ทุกคนเรียกเธอว่าภรรยานายน้อย

หยางหลิงรุ่ยชะงักไปครู่นึง ก่อนจะเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา

ผู้ชายคนนี้ทำอาหารเป็นด้วยหรือ

ไม่ใช่ว่าแสร้งทำเป็นมืออาชีพทำอาหารเก่ง แต่รสชาติกลับเป็นดั่งยาพิษหรอกใช่ไหม

สรุปแล้วเป็นเธอเองที่กังวลมากเกินไป

ผ่านไปสักพักอาหารทุกอย่างก็ถูกทยอยนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ

มีอาหารทั้งหมด 4 เมนูและอาหารที่เป็นซุปอีก 1 อย่าง ไก่เผ็ดพริก เนื้อสัตว์ตุ๋น ปลาต้มผักดอง ต๊อกบกกีชีสและซุปหอยเชลล์

หยางหลิงรุ่ยมองอาหารจานเด็ดตรงหน้าอย่างตกตะลึง ทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกหิวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

ฮั่วเทียนหลันถอดผ้ากันเปื้อนบนตัวส่งให้กับคนใช้ จากนั้นมองดูหยางหลิงรุ่ยที่ดูเหมือนกับจะหิวจนน้ำลายแทบไหลนั้น เขาก็ยิ้มมุมปากขึ้นอย่างรู้สึกพอใจ : "คุณหยางไม่อยากกินเหรอครับ"

"อยาก อยาก... " หยางหลิงรุ่ยเอ่ยตอบอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะตระหนักได้ว่าตนเองนั้นพูดตรงเกินไปจึงรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว : "ไม่ ฉันรอ รอคุณฮั่วทานพร้อมกัน"

ฮั่วเทียนหลันหยิบชามใบเล็กตรงหน้าหยางหลิงรุ่ยขึ้นมา ก่อนจะตักซุปหอยเชลล์ส่งให้เธอเต็มชาม

เนื่อจากซุปเพิ่งทำเสร็จจึงค่อนข้างร้อน หยางหลิงรุ่ยเป่าสองสามทีก่อนจะส่งเข้าปาก เมื่อได้ลิ้มรสแล้วตาของเธอก็แวววาวขึ้นมาทันที

น้ำซุปอร่อยเข้มข้น หอยเชลล์สดใหม่เนื้อนุ่ม ผู้ชายคนนี้มีความสามารถรอบด้านจริง ๆ!

ฝีมือการทำอาหารนี่แทบจะไม่เป็นรองจากเชฟมืออาชีพเลย ถ้าเขาเปิดร้านอาหารล่ะก็ ธุรกิจจะต้องเจริญรุ่งเรือง ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน!

ถึงตอนนั้นเธอก็จะเป็นเถ้าแก่หญิงของร้าน มีหน้าที่เก็บเงิน ...

เดี๋ยวนะ ใครบอกว่าเธอจะยอมคบกับเขากันล่ะ หยางหลิงรุ่ยรีบปัดเป่าความคิดในหัวของเธอออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นตั้งหน้าตั้งตาทานอาหาร

เธอกินซุปหอยเชลล์จนหมดถ้วยอย่างไม่กลัวความร้อนลวกปาก จากนั้นก็เริ่มลิ้มลองอาหารทุกอย่างด้วยความเอร็ดอร่อย

หลังจากอาหารบนโต๊ะถูกกินไปสองในสามส่วนแล้ว หยางหลิงรุ่ยก็ลูบท้องที่ยื่นออกมาเล็กน้อยของตนเอง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงหอบ : "เฮ้อ ทักษะการทำอาหารของคุณฮั่วยอดเยี่ยมมากเลย ฉันทานอิ่มจนแน่นท้องไปหมดไม่สามารถทานต่อไปได้แล้ว แต่อาหารยังเหลืออีกเยอะเลยอะ น่าเสียดายจัง!”

ฮั่วเทียนหลันเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าที่ตอนนี้มีคราบน้ำมันจากอาหารติดอยู่ที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน : "เมื่อก่อนภรรยาของผมก็ชอบพูดแบบนี้เหมือนกัน"

เขายื่นกระดาษทิชชู่ส่งให้หยางหลิงรุ่ยหนึ่งแผ่น เธอผงะไปชั่วครู่ จนเขาทำท่าบอกให้เธอเช็ดที่ปากเธอถึงได้ตอบสนองกลับมา

เธอหยิบทิชชู่เช็ดที่ปาก พลันคิดในใจว่าเมื่อก่อนตนเองก็เคยพูดเช่นนี้เหมือนกันเหรอ

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แปลว่าตอนที่เธออยู่กับผู้ชายคนนี้ เขาจะต้องเข้าครัวทำอาหารบ่อยแน่เลย

เธอยังคงแสร้งทำเป็นเลอะเลือนและเอ่ยขึ้น : "อิจฉาภรรยาของคุณจริง ๆ ที่ได้ทานอาหารอร่อยมากมายเช่นนี้ทุกวัน"

ฮั่วเทียนหลันโบกมือขึ้นบอกให้คนใช้เข้ามาเก็บโต๊ะอาหาร

เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น เขาก็ให้ความร่วมมือในการแสดง แววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย

“ไม่หรอก ผมทำไม่ดีกับเธอเลย... ”

เมื่อหยางหลิงรุ่ยได้ยินน้ำเสียงที่กำลังตำหนิตัวเองของเขา เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างปลอบใจ : "คุณฮั่วคะ คนที่อยู่ในสถานการณ์มักจะมองไม่ค่อยออกหรอก แต่คนนอกจะมองเห็นได้ชัดกว่านะ ในมุมมองของฉัน ฉันคิดว่าคุณดีกับภรรยามากเลยล่ะ"

ท่าทางสามารถเสแสร้งแกล้งทำได้ แต่แววตานั้นไม่มีวันที่จะโกหกได้เลย

ในตอนที่ฮั่วเทียนหลันพูดถึงภรรยาของเขานั้น เธอมองเห็นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ไม่อาจซ้อนเอาไว้ได้

"เหอะ จริงเหรอครับ แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เป็นเพราะผมที่ทำให้เธอเสียใจ เธอถึงได้จากผมไป"

มือของหยางหลิงรุ่ยที่วางอยู่ด้านล่างโต๊ะอาหารกำเข้าหากันแน่น

แต่ใบหน้าของเธอยังคงเรียบนิ่ง : "เธอไปแล้ว แต่คุณฮั่วก็สามารถไปตามกลับมาได้หนิคะ!"

"อืม ผมตามถึงตัวเธอแล้วล่ะ"

หยางหลิงรุ่ยอ้าปากขึ้น แต่ก็ไม่รู้จะต่อบทสนทนาของเขาอย่างไร

พวกเขาสองคนดูเหมือนกำลังพูดคุยกันเรื่องธรรมดา แต่ความจริงแล้วกลับมีความหมายแฝงซ่อนเอาไว้อยู่

เธอเป็นอดีตภรรยาของเขา และเขาก็เป็นอดีตสามีของเธอ

เวลาเพียงสามวันก็สามารถเปลี่ยนคน ๆ หนึ่งได้แล้ว นับประสาอะไรกับสองปี

หยางหลิงรุ่ยคิดไม่ตกจริง ๆ ว่ามันต้องเป็นเรื่องโหดร้ายมากแค่ไหนถึงทำให้เธอยอมทิ้งความหวังและความรัก แล้วเดินจากไปอย่างหมดอาลัยตายอยากในตอนนั้น

เธอมีชีวิตใหม่แล้วและลืมความทรงจำในอดีตไปหมดแล้ว

แต่ตอนนี้ความรักนี้กลับมาปรากฏต่อหน้าเธออีกครั้ง

พวกเขาสองคนเงียบไปสักพัก ก่อนโทรศัพท์มือถือของหยางหลิงรุ่ยจะดังขึ้น

เป็นหยางเทียนที่โทรเข้ามาเพื่อตามเธอกลับบ้าน

“คุณฮั่วคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันไม่รบกวนคุณต่อแล้ว”

"อืม" ฮั่วเทียนหลันลุกขึ้นและเดินไปส่งหยางหลิงรุ่ยจนถึงหน้าประตูคฤหาสน์

หยางเทียนลงมาจากรถเพื่อเปิดประตูให้เธอขึ้นไป

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว หยางหลิงรุ่ยก็ชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับไป ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของคุณในวันนี้ด้วย ฉันหวังว่าคุณจะตามหาภรรยาของคุณพบและพาเธอกลับไปที่ประเทศจีนได้ในเร็ววันนะคะ"

ถ้าไม่มีเขา จางรันจะต้องตายอย่างแน่นอน

มื้ออาหารในวันนี้ ก็ทำให้เธอหวนนึกถึงความทรงจำมากมายในอดีต

แต่ประโยคสุดท้ายนั้น หยางหลิงรุ่ยเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงพูดออกไปเช่นนั้นเหมือนกัน

ราวกับเป็นการคาดหวังและเฝ้ารอ

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่หยางหลิงรุ่ยอย่างไม่ละสายตา แววตาของเขาเฉียบคมจนทิ่มแทงเข้าไปในใจของหยางหลิงรุ่ย

“คุณหยางจะไม่กลับไปที่จีนกับผมเหรอ”

หยางหลิงรุ่ยตัวสั่นขึ้นมา เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นในใจ

เธอสูญเสียความทรงจำทั้งหมดและจำอะไรไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นราวกับเป็นฝันร้ายที่มาปิดกั้นความทรงจำในสมองของเธอไปโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้เธอมีลูกสาว มีญาติ และแม้กระทั่งมีแฟนหนุ่มแล้ว

และรอบตัวเขาเองก็ไม่เคยขาดแคลนสาวสวยด้วยเช่นกัน

ชอบเขาหรือเปล่า

หยางหลิงรุ่ยถามตัวเองอยู่เสมอ แต่คำตอบที่ได้ก็คงเป็นแค่ความรู้สึกดี ๆ เท่านั้น

ถ้าจะให้เธอยอมทิ้งทุกอย่างไปเพียงเพราะเขากับความรักครั้งก่อนในอดีตนั้น

ก็คงต้องขออภัย เพราะคนเรามักจะเห็นแก่ตัวเสมอและเธอก็ทำแบบนั้นไม่ได้จริง ๆ

ในฐานะที่เป็นลูกผู้หญิงคนเดียวของตระกูลหยาง เธอถูกพี่ชายทั้งสองคนดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี และปู่ย่าของเธอก็รักเธอมากเช่นเดียวกัน

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เธอหวงแหนและไม่สามารถยอมทิ้งไปได้

“คุณฮั่วคะ มีประโยคหนึ่งพูดไว้ว่าการบังคับฝืนใจนั้นมักได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี ฉันจำอดีตของตนเองไม่ได้และไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนเดียวกันกับที่คุณพูดถึงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกแค่ว่าชีวิตของฉันมีความสุขดีแล้ว มีญาติ ๆ ที่คอยเป็นห่วง มีลูกสาวที่ฉันรักมาก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับฉัน... "

หัวใจของฮั่วเทียนหลันค่อยๆบีบรัดขึ้นและสีหน้าของเขาก็เริ่มนิ่งสงบลง

"ผมเหมือนจะเข้าใจความหมายของคุณหยางแล้วล่ะ"

"ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องกลับไปสู่จุดกำเนิดของมัน คุณจะละทิ้งอดีตทั้งหมดแล้วใช่ไหม"

หยางหลิงรุ่ยยิ้มขึ้นเล็กน้อย ลักยิ้มน่ารักทั้งสองข้างของเธอทำให้ฮั่วเทียนหลันตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ

เมื่อก่อนรอยยิ้มของเธอก็งดงามเช่นนี้เหมือนกัน

“คุณฮั่ว คนเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันนะคะ!”

ราวกับมีอะไรบางอย่างแตกสลายภายในใจของหยางหลิงรุ่ยและฮั่วเทียนหลันพร้อม ๆ กัน

หยางหลิงรุ่ยยกมือขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งทำเป็นตบที่หน้าอกราวกับรู้สึกไม่สบาย

ความมืดมิดในช่วงเวลากลางคืนได้ช่วยปกปิดดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำสีใสของเธอเอาไว้

"ฉันรู้สึกได้ว่าคุณฮั่วรักภรรยาของตนเองมาก และฉันเองก็รักแฟนของฉันมากเหมือนกัน ที่ฉันมาวันนี้ก็เพราะอยากขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตจางรันไว้ แต่การบังเอิญเจอกันบ่อย ๆ ของพวกเรานั้น คงเป็นเพราะหัวใจที่ผูกพันธ์กัน คุณฮั่วคะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมาที่นี่ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของคุณนะคะ”

ฮั่วเทียนหลันยิ้มเยาะกับคำพูดที่เธอพูดออกมามากมายขนาดนั้ เขาเข้าใจความหมายที่เธอพูดหมดแล้ว

“แบบนี้หมายความว่าคุณหยางจะไม่มาเจอกับผมอีกต่อไปเหรอครับ”

หยางหลิงรุ่ยอ้าปาก แต่กลับไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้

เธอไม่กล้าพูดออกไป เพราะกลัวว่าเขาจะสังเกตเห็นว่าเธอกำลังสะอื้น

เธอถามตัวเองในใจ เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับฮั่วเทียนหลันไม่ใช่หรือ

แต่ทำไมคำพูดเพียงไม่กี่คำนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกปวดใจจนแทบจะหายใจไม่ออกเช่นนี้

เธอหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น : "เมื่อถึงเวลาตัดก็ต้องตัด ถ้าหากเรายังคงยุ่งวุ่นวายกันอยู่เช่นนี้ มันยิ่งจะเป็นการทำร้ายกันและกัน"

สิ่งที่เธอพูดกลับแลกมาเพียงเสียงหัวเราะเยาะของฮั่วเทียนหลัน

"คุณหยางนี่ยังคงใจร้ายเหมือนเดิมเลยนะครับ คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป เห็นที่นี่เป็นโรงแรมหรือไงกัน"

หยางหลิงรุ่ยก้มหน้าลง น้ำตาที่เอ่อล้นรอบดวงตาของเธอใกล้จะไหลออกมาอยู่เต็มทน แต่เธอไม่อยากให้ฮั่วเทียนหลันเห็น

หลังจากรู้ความจริง ชีวิตของเธอก็ตกอยู่ในห้วงของการตัดสินใจ

แต่เดิมชีวิตของเธอนั้นช่างว่างเปล่า และเป็นฮั่วเทียนหลันที่เข้ามาเติมเต็มความทรงจำทั้งหมดที่หายไปก่อนหน้านี้

ทันทีที่เธอเห็นหน้าของผู้ชายคนนี้ เธอรู้สึกทันทีว่าเขาช่างคุ้นเคยเป็นอย่างมาก

และหลังจากที่ไปมาหาสู่กันเป็นเวลานานเข้า ถึงแม้เธอจะถูกเขาแกล้งจนทำให้รู้สึกอับอายมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยโกรธเขาอย่างจริงจังเลยสักครั้ง

ความขัดแย้งครั้งแล้วครั้งเล่านั้นราวกับเป็นตัวเชื่อมของความรู้สึกของคนสองคนเข้าหากัน

พี่ชายใหญ่ไม่มีทางโกหกเธอเด็ดขาด และเธอเองก็เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเมื่อก่อนนั้น เป็นความสัมพันธ์ดั่งสามีภรรยาจริง ๆ

แต่แล้วยังไงล่ะ

เธอสามารถทิ้งทุกอย่างตอนนี้ไปได้เหรอ สามารถทำร้ายคนรอบข้างและหนีตามเขาไปได้ด้วยเหรอ

ถ้าหากเธอเป็นคนอย่างที่พูดจริง ๆ ในตอนนั้นเธอคงจะไม่หนีฮั่วเทียนหลันไปไหนหรอก ยิ่งไปกว่านั้นคงไม่มีทางเกิดเรื่องพวกนั้นขึ้นมาได้

ในตอนนั้นเธอไม่ควรหนีไป แต่เธอกลับหนีไป

และในตอนนี้เขาไม่ควรกลับมา แต่เขากลับกลับมาแล้ว

มันเหมือนกับความรู้สึกที่ต้องเฝ้ารำพึงถึงทั้งเช้าทั้งเย็น

เพราะฉะนั้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนควรจะจบลงแค่นี้สักที!

หยางหลิงรุ่ยหมุนตัวเดินเข้าไปบนรถ

น้ำตาที่กำลังไหลอาบสองแก้มนั้นเปล่งประกายวิบวับท่ามกลางความมืดมิด

ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังของเธอยังคงนิ่งเงียบ จนเธอยกขาทั้งสองข้างเข้ามาในรถแล้วเขาถึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็น

“คุณหยาง ผมน่าจะเคยบอกเรื่องการตัดสินใจของผมกับคุณไปแล้ว”

"แต่ถ้าคุณลืมไปแล้วก็ไม่เป็นไร ผมจะทวนให้ฟังอีกรอบ"

"ถ้าคุณกล้าที่จะคบกับจางรันต่อไป ผมจะทำลายตระกูลจางให้หายไปจากโลกนี้เอง"

นี่เป็นการพูดข่มขู่อย่างโจ้งแจ้ง หยางหลิงรุ่ยเก็บความเศร้าที่มีในใจเอาไว้ มือของเธอจับที่ประตูรถแน่นก่อนจะหันหน้ากลับไปมองเขาอย่างรวดเร็ว

"ฮั่วเทียนหลัน นี่คุณกำลังขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ!"

ในฐานะหญิงสาวแห่งตระกูลหยางที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจ ซึ่งอาจพูดได้ว่ามีอำนาจมากกว่าตระกูลฮั่วเลยด้วยซ้ำ

เธอรู้ดีถึงความสามารถของจางรันในตอนนี้ที่ดูเหมือนกำลังจะกลายเป็นดาวรุ่งในโลกธุรกิจ

แต่ในสายตาของฮั่วเทียนหลันกลับมองว่าเป็นเพียงมดตัวน้อยที่เพียงแค่ขยี้นิดหน่อยก็สามารถทำให้ตายได้

และเมื่อผู้ชายคนนี้ประกาศออกมาขนาดนี้แล้ว เธอเองก็ไม่กล้าเสี่ยงเท่าไหร่

ถ้าหากเขาลงมือทำจริงล่ะ

ภายใต้ความมืดมิด หยางหลิงรุ่ยมองเห็นใบหน้าเรียบนิ่งที่อยู่ใต้แสงไฟสลัวของเขา

สายตาน่ากลัวถูกส่งออกมาจากใบหน้าเรียบตึง ท่าทีที่บ่งบอกว่าจะไม่ยอมหยุดง่าย ๆ จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการของเขานั้น ทำให้ใจของเธอสั่นผวาขึ้นมา

เธอจับประตูรถเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เสียหลักและล้มลงกับพื้น

จากนั้นรวบรวมพลังงานทั้งหมดที่มีร้องตะโกนขึ้นอย่างรู้สึกเหลือทน : "ฮั่วเทียนหลัน คุณต้องให้ฉันเป็นแบบไหนกันแน่ คุณถึงจะพอใจ!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง