โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 336

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่จางรันอย่างไม่วางตา ความรู้สึกในดวงตาของเขา แทบจะหลอมละลายความมุ่งมั่นในหัวใจของเธอไปหมด

เธอห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก พร้อมทั้งขบฟันแน่นเพื่อฝืนไม่ให้ตัวเองมองจางรันอีกต่อไป และในขณะเดียวกันก็ปล่อยมือของจางรันออก

จางรันกลับไปนั่งที่โซฟาดังเดิม ถึงแม้เขาจะนั่งตัวตรงเหมือนอย่างเคย แต่กลับให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีก10 กว่าปี

หลายครั้ง ความหวังที่ดับสลาย ก็สามารถทำลายจิตใจของคนได้

เขาไม่ได้ยินยอม แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธ

ที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่ต้องการให้หยางหลิงรุ่ยกลับไปทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว

“หลิงรุ่ย เรื่องของฮั่วเทียนหลัน เธอ......”

เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหยางหลิงรุ่ยเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาก่อน

เธอดูเหมือนรีบร้อนจะอธิบาย :“อารัน ที่ฉันพูดแบบนี้กับนายไม่ใช่เพราะฮั่วเทียนหลันนะ”

จางรันส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ :"ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ว่าฉันอยากเตือนเธอสักหน่อย หวังว่าเธอจะฟังกัน”

“เธอจะอยู่กับใครก็ได้ ยกเว้นฮั่วเทียนหลันเพียงคนเดียว เขาเป็นเหมือนเหวลึก ที่สามารถทำให้เธอตกลงไปจนร่างกายและกระดูกแตกละเอียด”

ตอนที่ฮั่วเทียนหลันมาออสเตรเลีย จางรันได้วางแผนที่ชั่วร้ายที่สุดไว้เรียบร้อยแล้ว

การติดต่อระหว่างเขากับหยางหลิงรุ่ย หรือผ่านคนรอบข้างของเขา ก็ทำให้เขารู้มาตั้งนานแล้ว

แต่เขากลับทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่เห็นมาโดยตลอด

เขาไม่ต้องการให้เธอลำบาก สิ่งที่เขามอบให้เธอก็คืออิสรภาพ ไม่ใช่การใช้อำนาจของฮั่วเทียนหลัน

แม้กระนั้น เมื่อกี้เขาก็ยังมีความคิดว่า ที่หยางหลิงรุ่ยปฏิเสธที่จะคบกับเขาต่อ เป็นเพราะการบีบบังคับของฮั่วเทียนหลันด้วยหรือเปล่า

เธอช่างไร้เดียงสา ฮั่วเทียนหลันแค่ใช้กลเม็ดง่ายๆ ก็สามารถเล่นงานเธอได้

สำหรับจางรันแล้ว ผู้ชายคนนั้นจัดอยู่ในประเภทคนชั่วร้ายมาตลอด

ในปีนั้นเขาแต่งงานกับหยางหลิงรุ่ย แต่กลับปฏิบัติต่อเธอไม่ดีเลยสักนิด กลับกับเขายังทรมานและดูถูกเธอต่าง ๆ นานา ถ้าหากเธอไม่ถูกบีบบังคับจนถึงที่สุด แล้วเธอจะหนีไปทำไม

นอกจากนี้เขายังตรวจสอบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปีนั้นอีกด้วย

คนขับรถคนนั้น ได้รับเงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินที่คนของมู่เหว่ยโอนไปให้

หลังจากนั้น มู่เหว่ยก็ถูกฮั่วเทียนหลันปิดปากและเก็บเธอไว้ในเว็บมืด

หากไม่มีคำบ่งการของฮั่วเทียนหลัน มู่เหว่ยจะกล้าลงมือทำอะไรกับคนข้างตัวของเขาเช่นนั้นจริง ๆ เหรอ

ในขณะเดียวกัน ในใจของเขาก็รู้สึกเกลียดตัวเองมาตลอด

เพราะเขารู้ ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน 5 แสนในปีนั้น หยางหลิงรุ่ยก็คงไม่มีทางรู้จักกับฮั่วเทียนหลันอย่างแน่นอน

ถ้าเป็นแบบนั้น ก็คงจะไม่มีเรื่องราวต่าง ๆ ต่อจากนั้น

แต่โชคยังดีที่หยางหลิงรุ่ยยังมีชีวิตรอด และกลายเป็นหญิงสาวของบ้านตระกูลหยาง ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั้นอย่างมีความสุข

จริง ๆ แล้วในใจของจางรันเกลียดฮั่วเทียนหลันเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีความสามารถพอที่จะสู้กับฮั่วเทียนหลันได้

หยางหลิงรุ่ยตกตะลึงไปครู่นึง ปกติจางรันไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย และสิ่งที่เขาพูดมันก็มีเหตุผล

“นายเกลียดเขามากใช่ไหม” หยางหลิงรุ่ยถามขึ้นเสียงเบา

จางหรันพยักหน้าเป็นคำตอบ

“ทำไมเหรอ” แม้ว่าหยางหลิงรุ่ยจะไม่แน่ใจตัวเองว่ารักหรือว่าเกลียดฮั่วเทียนหลัน

แต่เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมจางรันถึงได้รังเกียจฮั่วเทียนหลันนัก ทั้งที่เขาไม่ค่อยได้คบค้าสมาคมกับฮั่วเทียนหลันสักเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ

“เพราะว่าเขาทำไม่ดีกับเธอไง”

“หือ? นายรู้ได้ยังไง หรือพวกเราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอ”

“อืม”

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จางรันก็ไม่มีอะไรที่จะปิดบังอีกต่อไป

เรื่องที่หยางหลิงรุ่ยเข้าใจ แต่พอได้มาฟังจากปากของคนอื่นแล้ว มันกลับเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง

“นายช่วยเล่าถึงความสัมพันธ์ครั้งอดีตของฉันกับเขาให้ฟังหน่อยได้ไหม”

ถามแบบนี้ดูเหมือนจะมากเกินไป หยางหลิงรุ่ยจึงรีบเอ่ยขึ้น :“ไม่อยากเล่า ก็ไม่เป็นไร”

“เหอะ มันก็ไม่มีอะไร”

จางรันราวกับกำลังจมอยู่กับเรื่องราวในอดีต ผ่านไปสักพักเขาถึงเอ่ยขึ้น :“เธอเคยถูกเขาข่มขืน จนมีลูกกับเขา หลังจากนั้นก็หนีออกไปจากบ้านของเขา แต่เพราะถูกครอบครัวบีบบังคับเธอจึงต้องกลับมาแต่งงานกับเขา เขาไม่ได้รักเธอเลยสักนิด แต่เธอกลับรักเขาสุดหัวใจ เขาไม่เคยทะนุถนอมเธอ เอาแต่ทำไม่ดีกับเธอ หลังจากนั้นเธอก็หนีไปอย่างท้อแท้และสิ้นหวัง ก่อนจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์......”

ในส่วนที่เหลือต่อจากนั้นจางรันไม่ได้เล่าต่อ แต่หยางหลิงรุ่ยก็พอรู้อยู่แล้ว

เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครเคยบอกกับเธอเรื่องที่เธอถูกข่มขืมและถูกบังคับ

มิน่าล่ะ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา ถึงได้รู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดเช่นนั้น

ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนที่หยางหลิงรุ่ยจะหรี่ตาลงและเอ่ยขึ้นเสียงเบา:“นายยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ฉันไม่รบกวนนายแล้ว”

พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นทันที

อาจจะเป็นเพราะนั่งนานไปหน่อย ร่างกายของเธอจึงโยกไปโยกมาจนเกือบจะล้ม โชคดีที่ยังจับโซฟาไว้ได้

จางรันลุกขึ้นเพื่อจะช่วยประคองเธอ แต่เธอกลับยกมือขึ้นห้าม จากนั้นจึงเดินออกไป

หลังจากที่เดินออกมาจากห้องทำงานของเขาแล้ว เธอก็ออกจากบริษัทไปในทันที

เธอไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ถ้าหากยังอยู่ต่อเธอคงรู้สึกละอายใจต่อจางรันเป็นอย่างมาก

จางรันยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เขาดูเหมือนจะมองเห็นรถของหยางหลิงรุ่ยที่ขับออกมาจากลานจอดรถใต้ดิน

นั่นน่าจะเป็นรถของเธอหรือเปล่า

หลังจากนี้ เธอคงไม่มาที่นี่อีกแล้วใช่ไหม

จริง ๆ แล้วการใช้ชีวิตตลอดสองปีที่ผ่านมานั้น สำหรับเขาราวกับเป็นเพียงความฝัน

ตอนนี้ถึงเวลาตื่นจากความฝันแล้ว และเขาก็ควรจะรู้ตัวเองสักที

เขาและหยางหลิงรุ่ย เดิมทีก็เป็นได้เพียงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องเท่านั้น

เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรที่จะโลภมาก ยิ่งคาดหวังต้องการอยากจะได้มันมีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้สูญเสียไปมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อนึกถึงคำพูดของหยางหลิงรุ่ยเมื่อกี้ เขาจึงพูดขึ้นเสียงเบา :“พี่ พี่รู้ไหม ในสายตาของผม บนโลกใบนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนดีไปกว่าพี่ทั้งนั้น!”

ระยะทางเหลืออีก 2 กิโลเมตร หยางหลิงรุ่ยก็จะกลับไปถึงคฤหาสน์หยางแล้ว

แต่ข้างหน้ากลับมีรถกระบะฟอร์ด Raptor จอดขวางอยู่

ความยาวของกระบะราว ๆ ห้าเมตร ที่จอดขวางถนนเอาไว้ ทำให้ปิดกั้นเส้นทางกลับบ้านของหยางหลิงรุ่ย

หยางหลิงรุ่ยจอดรถ เธอมองเห็นผู้หญิงคนที่นั่งตรงตำแหน่งคนขับบนรถฟอร์ด Raptor

เธอจำได้ลาง ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เธอเจอที่บ้านของฮั่วเทียนหลันในวันนั้น ชื่อของเธอน่าจะเรียกว่า Auch

Auch เปิดประตูรถ ก่อนจะกระโดดลงมาจากกระบะฟอร์ด Raptor คันสูงใหญ่

เธอสวมแจ็คเก็ตและกางเกงหนังรัดรูป เผยให้เห็นถึงรูปร่างที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอ

แต่น่าเสียดายที่หยางหลิงรุ่ยเองก็เป็นผู้หญิงเช่นเดียวกัน เธอจึงไม่ได้รู้สึกสนใจอะไร หรือไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะหันไปมองอีก

Auch ยืนอยู่ที่หน้ารถของหยางหลิงรุ่ย เธอตบฝากระโปรงรถแล้วพูดขึ้น :“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณหยาง ยังไงฉันก็เป็นแขก นี่คือวิธีรับแขกของบ้านหยางหรอกเหรอ”

ไม่กี่วันมานี้ Auch ได้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหยางหลิงรุ่ยทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

แต่เธอก็ค้นพบเพียงแค่ข้อมูลผิวเผินเท่านั้น แต่ข้อมูลที่ลึกกว่านั้นได้ถูกปิดผนึกไปตั้งนานแล้ว

แต่สำหรับการเปลี่ยนแปลงตัวตนของหยางหลิงรุ่ยนั้น เธอเองก็ยังหาจุดจับไม่ได้

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่อันหรันจริง ๆ เหรอ

หยางหลิงรุ่ยดับเครื่องยนต์แล้วลงมาจากรถ ที่นี่ห่างจากบ้านหยางเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น

หน่วยลาดตระเวนของบอดี้การ์ดตระกูลหยาง ก็ครอบคลุมมาจนถึงที่นี่

แม้จะให้ Auch เต็มสิบเรื่องความกล้าหาญ แต่เธอก็คงไม่กล้าทำอะไรตัวเองอย่างแน่นอน

“ไม่รู้ว่าการที่คุณผู้หญิงท่านนี้มาขวางทางฉัน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

Auch ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปที่ตัวเองด้วยความงงงัน :“อันหรัน ไม่ ไม่ใช่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกเธอว่าหยางหลิงรุ่ย เธอ ไม่รู้จักฉันเหรอ”

หยางหลิงรุ่ยเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมาในใจ เธอไม่คิดเลยว่าคนที่เจอที่บ้านของฮั่วเทียนหลันเพียงครั้งเดียวนั้น จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นคนรู้จัก

เธอส่ายหัวและพูดขึ้น :“ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่อันหรัน และฉันก็ไม่รู้จักคุณด้วย ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว กรุณาหลีกทางให้ฉันด้วย!”

พูดเสร็จ หยางหลิงรุ่ยก็เตรียมจะขึ้นรถ

แต่ Auch ก็รีบเดินเข้ามาเบียดหยางหลิงรุ่ยและพิงไปกับประตูรถเพื่อไม่ให้เธอเปิดประตูได้

Auch มองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ :“แปลกจริง ๆ นี่เธอเธอโง่จริง ๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ เธอลืมไปแล้วเหรอว่าเคยถูกทุบหัวจนเลือดไหลและสลบไปในบ้านของฉัน และยังถูกโยนเข้าไปในห้องใต้ดินอีกด้วย อีกนิดเกือบจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเสียแล้ว”

ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยยังเรียบเฉย แต่ในใจของเธอกลับเริ่มทนไม่ไหวอยากจะร้องคำรามออกไปเต็มทน

ชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง มันน่าเวทนาขนาดไหนนะ

ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ ถ้าหากไปที่บ้าน Auch ฮั่วเทียนหลันต้องเป็นคนที่พาเธอไปด้วยแน่

แต่ฮั่วเทียนหลันไม่ได้ปกป้องเธออย่างดี หรือแม้กระทั่งสามารถพูดได้ว่าฮั่วเทียนหลันเป็นคนแนะนำให้ครอบครัวของเธอกระทำเช่นนี้?

หยางหลิงรุ่ยไม่รู้ว่าเธอเข้าใจฮั่วเทียนหลันผิด แต่ความเข้าใจผิดเช่นนี้หากให้ Auch รู้เข้า เธอคงจะดีใจจนกระโดนโลดเต้น และบอกกับหยางหลิ่งรุ่ยว่าควรจะคิดเช่นนี้แหละถูกแล้ว เพราะฮั่วเทียนหลันนั้นเป็นคนที่ชั่วร้ายและน่าขยะแขยงมาก

“ขอโทษทีนะ คุณจำผิดคนแล้วล่ะ”

แม้ว่าทั้งสองคนคุยกันได้สักพักแล้ว แต่พอนับเวลาดูกลับไม่ถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ

และทันใดนั้น หน่วยลาดตะเวนของบ้านหยางก็มาถึง

“คนที่อยู่ข้างหน้า ขยับรถออกไปเดี๋ยวนี้ นี่เป็นที่ส่วนบุคคลของบ้านหยาง รีบออกไปให้เร็วที่สุด!”

Auch มองไปที่บอกดี้การ์ดด้าหลัง แต่ก็ไม่ได้อะไรด้วย

ก็แค่รถคันเดียวเท่านั้น โดนชนพังแล้วเธอก็สามารถซื้อใหม่ได้อีกเป็นร้อยเป็นพันคัน

ประเด็นสำคัญของ Auch ในวันนี้ก็คือการมาดูผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายคลึงกับอันหรันให้แน่ชัด ว่าแท้จริงแล้วใช่เธอหรือไม่

“เธอจำไม่ได้เหรอว่าตัวเองมีลูกสาวชื่อลั่นลาน น้องเขยของเธอชื่อฮัวเส้าซู่ เพื่อนสนิทของเธอชื่อทันเหว่ย และศัตรูหัวใจของเธอก็คือมู่เหว่ย”

ในตอนที่เธอกล่าวถึงตัวละครแต่ละคนขึ้นมา เธอก็จะมองสังเกตที่ดวงตาของหยางหลิงรุ่ยไปด้วย

แต่หยางหลิงรุ่ยกลับยังคงเมินเฉย เธอทำเพียงแค่ส่ายหัว ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน :“พอเถอะ คุณ Auch ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด กรุณาอย่าได้คืบจะเอาศอก แล้วก็คุณสบายใจได้เลย ฉันไม่ไปแย่งคุณฮั่วของคุณหรอกนะ!”

Auch มีความสุขในใจ ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มอย่างผู้ชนะขึ้น

หึ ที่เธอมาในครั้งนี้ก็ต้องการเพียงประโยคนี้จากหยางหลิงรุ่ยแค่นั้น

เธอขึ้นรถ จากนั้นเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์จะดังขึ้น ตอนที่กำลังจะขับผ่านหยางหลิงรุ่ยไปเธอก็ก้มหน้าลงก่อนจะเอ่ยขึ้น : “คุณหยาง จำสิ่งที่พูดในวันนี้ด้วย!”

หยางหลิงรุ่ยเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวเลือดผสมตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ :“คุณ Auch กังวลเรื่องของตัวเองเถอะ ดูเหมือนว่าคุณฮั่วจะไม่ได้สนใจคุณเลยนะ!”

“เธอ......”

ทันทีที่น้ำเสียงโมโหของ Auch ดังขึ้น หยางหลิงรุ่ยก็รีบขึ้นไปบนรถ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไปทันที

หลังจากผ่านการปะทะกับ Auch ทำให้หยางหลิงรุ่ยที่มีเรื่องไม่สบายใจก่อนหน้านี้ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา

เธอเข้าไปในคฤหาสน์ ตอนที่เดินผ่านทะเลสาบสายตาก็เหลือบไปเห็นพี่ใหญ่

ในมือของหยางหยวนกำคันเบ็ดแน่น เขากำลังฉุดดึงกับปลาตัวใหญ่อยู่

เขาสู้กับปลาตัวใหญ่ตัวนี้มาสิบนาทีแล้ว จนเจ้าปลาดูเหมือนจะเริ่มเหนื่อย รอแค่ให้เขาดึงสายเบ็ดขึ้นมาเท่านั้น

หยางหลิงรุ่ยเดินไปหาพี่ใหญ่ หลังจากเฝ้าดูอยู่ไม่กี่นาที ปลาคาร์พน้ำหนักกว่าสิบกิโลกรัมก็ถูกลากขึ้นมา

หลังจากหยางหยวนถ่ายรูปมันเสร็จ เขาก็ปล่อยมันลงน้ำไปดังเดิม

“พี่ใหญ่ นี่เป็นครั้งที่ห้าที่พี่จับมันได้ในเดือนนี้ใช่ไหม”

“อืม โง่จริง ๆ ปากเกือบจะหลุดเพราะเบ็ดเกี่ยวอยู่แล้ว ยังไม่รู้จักเข็ดอีก!”

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่หยางหยวนอย่างไม่มีอะไรจะพูด ว่ากันว่าความจำของปลามีแค่ 7 วินาทีเท่านั้น มันจะจำได้ที่ไหนกันล่ะ

“มาหาฉันมีอะไรหรือเปล่า” หยางหยวนรู้ดีว่าน้องสาวของเขานั้น หากไม่มีเรื่องอะไรจะไม่มาหาเขาถึงที่นี่แน่

หยางหลิงรุ่ยเม้มปาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา :“ฉันพูดกับฮั่วเทียนหลันรู้เรื่องแล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง