เมื่อไม่นานมานี้เมือง Orton ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ผู้คนหลากหลายชนชาติต่างหลั่งไหลเข้ามา
ในฐานะเมืองหลวงของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศเปิด จึงไม่มีการปฏิเสธความร่วมมือทางการค้าใด ๆ
รวมถึงงานประมูลสินค้าของเครือข่ายมืดในครั้งนี้ด้วย
เครือข่ายมืดเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีใครรู้ถึงที่มาที่ไปของมันเลยสักคน
รวมถึงงานประมูลในครั้งนี้ ที่ชื่อเสียงของมันยังปรากฏอยู่ภายใต้ชื่อของบ้านประมูลบางเเห่งที่เป็นระดับชั้นนำของโลก
แน่นอนว่าตระกูลหยางก็ถูกรับเชิญให้ไปร่วมงานในครั้งนี้เช่นเดียวกัน แต่ตระกูลหยางนั้นไม่สนใจงานด้านมืดสักเท่าไหร่
เดิมทีหยางหลิงรุ่ยก็ไม่ได้อยากไปนัก แต่อีฟได้ยินมาว่าการประมูลในครั้งนี้จะมีเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลกถูกนำมาเป็นสินค้าประมูลอีกด้วย
ครอบครัวของอีฟไม่ได้รับคำเชิญ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถเข้าร่วมงานได้
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงขอร้องอ้อนวอนหยางหลิงรุ่ยทั้งน้ำหูน้ำตา หยางหลิงรุ่ยจึงทำได้เพียงแบกหน้าไปหาพี่ใหญ่
หลังจากได้ฟังดังนั้น หยางหยวนก็ดูลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
เขาได้ดูรายการสินค้าประมูลในครั้งนี้มาก่อนแล้ว และมีบางอย่างที่เขาไม่อยากให้หยางหลิงรุ่ยรู้
แต่เมื่อมองเห็นท่าทางที่ยืนหยัดของเธอ สุดท้ายจึงทำได้เพียงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
งานประมูลจัดขึ้นที่โรงแรม Orton หลังจากที่เศรษฐีมีอำนาจต่างพากันกินและดื่มจนอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้าแล้ว ก็มีเรือสำราญสุดหรูเข้ามาจอดเทียบฝั่งและนำพาพวกเขาทั้งหลายไปที่ทะเลหลวงเพื่อเข้าร่วมการประมูล
แต่ละครอบครัวสามารถพาไปได้เพียงหกคนเท่านั้น ดังนั้นหยางหยวนจึงพาหยางหลิงรุ่ยและอีฟ นอกจากนั้นยังมีหยางเทียนและบอดี้การ์ดอีกสองคนไปด้วย
หลังจากที่เรือสำราญหยุดที่ทะเลหลวงแล้ว หยางหยวนก็ถูกหยางเทียนพาขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือ
เมื่อมองไปยังสถานที่จัดงานประมูลซึ่งมีสะพานที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมไปยังจุดมุ่งหมายนั้น เขาผู้ที่สุขุมดั่งหินผามาตลอดก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่งขึ้นมา
เพื่อความปลอดภัยของงานประมูลในครั้งนี้ เครือข่ายมืดยังปฏิบัติการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาให้อีกหนึ่งลำ
พลังงานภายในนั้นไม่ได้อาศัยเพียงความมั่งคั่งอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินทั่วโลกมีเป็นจำนวนมาก และเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ถูกลบเครื่องหมายสัญลักษณ์ออกไปจนหมด ทำให้ง่ายต่อการถูกตรวจสอบ
และหากถูกตรวจสอบพบว่าเป็นของประเทศไหน ก็คงทราบได้ว่าประเทศนั้นเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนเครือข่ายมืดอีกด้วย
หลังจากส่งบัตรเชิญและถูกยึดอาวุธทั้งหมดที่มีแล้ว ผู้คนทั้งหมดก็ทยอยเข้าไปยังห้อง VIP
บ้านตระกูลหยางถูกจัดให้อยู่ในห้อง VIP ที่ชั้นสอง และห้อง VIP แบบเดียวกันนั้นยังมีอีกเก้าห้อง
เป็นเครื่องหมายว่า ห้อง VIP ทั้งหมดนั้นเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับตระกูลหยางนั่นเอง
แต่ที่ชั้นแรกนั้น เป็นของนักธุรกิจทางการทหารและการเมืองจากทั่วทุกมุมโลก
ไม่นานการประมูลก็เริ่มต้นขึ้น รายการประมูลชิ้นแรกนั้นเป็นภาพวาดหายากและมีชื่อเสียงที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงลอนดอน
ภาพวาดที่มีชื่อเสียงนี้สูญหายไปเมื่อ 15 ปีก่อน
เพื่อตามหามัน ตำรวจของประเทศ Y ได้เสนอรางวัลให้แก่ผู้พบเห็น แต่ใช้เวลาตรวจสอบสิบกว่าปีก็ยังคงหาไม่พบเสียที
แต่ภาพวาดนั้นกลับปรากฏขึ้นในการประมูลในวันนี้ และมันไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน
สามารถพูดได้ว่า ห่วงโซ่อุปทานของเครือข่ายมืดนั้นมีอยู่ทั่วทุกมุมโลกจริง ๆ
หยางหยวนเองก็ค่อนข้างที่จะสนใจภาพวาดที่มีชื่อเสียงนี้ สุดท้ายก็จ่ายเงินจำนวน 200 ล้านหยวนเพื่อให้ได้ของมาไว้ในมือ
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกงงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าภาพวาดที่มีชื่อเสียงนี้อาจทำให้เกิดข้อพิพาททางการเมืองได้อย่างชัดเจน แล้วทำไมพี่ใหญ่ถึงประมูลมันมา
หยางหยวนสังเกตเห็นท่าทางงุนงงของน้องสาวเล็ก จึงระบายยิ้มขึ้นมาพร้อมทั้งอธิบายว่า : "ตาของเธอชอบสะสมน่ะ"
หยางหลิงรุ่ยส่งเสียงโอ้กลับมาเป็นอันว่าเข้าใจ สำหรับคุณตานั้น เธอไม่ได้มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับเขาเลย
มีเพียงช่วงวันปีใหม่ที่ครอบครัวจะกลับมารวมตัวกัน
คุณตาอายุมากแล้ว เขาเดินไม่สะดวกจึงไม่ค่อยโผล่มาให้เห็นเท่าไหร่นัก
แต่ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว ก็มักจะจ้องมองไปที่หยางหลิงรุ่ยเป็นเวลานานสองนาน
ในดวงตาคู่นั้นราวกับมีความรู้สึกที่เรียกว่าความคิดถึงซ่อนเอาไว้ข้างใน
การประมูลดำเนินไปเรื่อย ๆ และขอเพียงแค่เป็นโบราณวัตถุ หยางหยวนก็มักจะประมูลมาเก็บไว้จนหมด
แต่เมื่อการประมูลดำเนินไปถึงสองในสามส่วนแล้ว เขากลับบอกให้หยางเทียนเตรียมพาเขาออกไปจากที่นี่
อีฟจึงร้อนรนใจขึ้นมาทันที เพราะชุดเครื่องประดับที่เธอต้องการประมูลนั้นยังไม่ปรากฏขึ้นมาเลย
เธอดึงเสื้อของหยางหลิงรุ่ยอย่างต้องการความช่วยเหลือ
หยางหลิงรุ่ยลังเลอยู่ครูนึง ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "พี่ใหญ่ รอดูอีกสักหน่อยเถอะค่ะ ต่อไปอาจมีสินค้าประมูลดี ๆ อีกก็ได้!"
“รู้ไหมว่าทำไมงานประมูลครั้งนี้ถึงได้โด่งดังนัก” จู่ ๆ หยางหยวนก็ถามประโยคนี้ขึ้นมา
หยางหลิงรุ่ยนิ่งไปชั่วขณะ งานประมูลไม่ใช่เพราะมีของหายากมากมายถึงได้มีชื่อเสียงหรอกเหรอ
แตถ้าพี่ใหญ่พูดขึ้นมาเช่นนั้น คำตอบคงไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน
"ไม่รู้ค่ะ" หยางหลิงรุ่ยเอ่ยตอบอย่างซื่อสัตย์
"หลังจากประมูลของตายเสร็จ ก็จะประมูลของเป็นต่อ"
คำพูดของหยางหยวนทำให้หยางหลิงรุ่ยเกิดความฉงนขึ้นมาในหัว
ไม่นานเธอก็เข้าใจความหมายที่พี่ชายใหญ่พูด สินค้าที่จะถูกนำมาประมูลต่อจากนั้นก็คือสินค้าที่มีชีวิตนั่นเอง
“แล้ว แล้ว...ชุดเครื่องประดับที่อีฟอยากได้ล่ะคะ”
เพราะไม่ว่าอย่างไรการที่เธอมาที่นี่ก็เพราะเพื่อนสาวของเธอ และหยางหลิงรุ่ยก็ไม่ต้องการกลับไปมือเปล่าอย่างแน่นอน
หยางหยวนถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ชุดเครื่องประดับชุดนั้นถูกวางไว้ในตอนจบ ฉันกลัวว่ากำลังเงินของครอบครัวอีฟนั้น อาจจะประมูลมาได้ยาก"
หยางหลิงรุ่ยเหลือบมองไปที่อีฟซึ่งพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนเธอจะเอ่ยขึ้น : "พี่ใหญ่ พวกเรารอจนงานประมูลจบเถอะนะ ยังไงก็มาถึงที่นี่แล้ว"
“ถ้าอย่างนั้นเธออย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน” หลังจากที่หยางหยวนเอ่ยประโยคแปลก ๆ ขึ้นมาเสร็จ พวกเขาก็นั่งดูการประมูลต่อไป
หยางหลิงรุ่ยเข้าใจแล้วว่าที่พี่ใหญ่พูดว่าอย่าเสียใจทีหลังนั้นมันหมายความว่าอะไร
เพราะรายการประมูลต่อไปนั้น สินค้าคือคนเป็น ๆ หนึ่งคน
ซึ่งเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก
เธอสวมเพียงชุดคล้ายบิกินี่เท่านั้น ที่มือและเท้าของเธอมีห่วงโซ่ล่ามเอาไว้ และถูกชายชุดดำสองคนพยุงไว้คนละข้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง