โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 355

ในห้องของผอ.

ผอ.หลิวมึนงง เขาไม่คิดว่าคณะกรรมการบริหารโรงเรียนจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว

สุยเฉวียนสุ่ยผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโรงเรียนคนที่ 2 เขาทำสีหน้าทำอะไรไม่ถูก เขาเคยดำรงตำแหน่งผอ.โรงเรียนเหมือนกัน

เขาเป็นผู้สนับสนุนผอ.หลิว แต่ถึงอย่างนั้นสุยเฉวียนสุ่ยก็ไม่สามารถปกป้องเขาในครั้งนี้ได้

“ประธานสุย คุณต้องช่วยผมนะครับ ผมจะพูดยังไงดี ตลอดหลายปีที่ผมทุ่มเทให้กับโรงเรียน แต่มาวันนี้ลูกสาวผมก็เรื่อง ไปทะเลาะกับเด็กหญิงคนนั้น นี่มันแค่เป็นเรื่องของเด็กนะครับ จะว่าเรื่องใหญ่ก็ไม่เชิง แค่คุณออกมาช่วยผมในฐานะประธาน ผมก็จะสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้อย่างแน่นอน "

สุยเฉวียนสุ่ยเป็นญาติห่าง ๆ ของผอ.หลิว เดิมทีผอ.หลิวก็เป็นแค่ครูธรรมดา ทั้งสองรู้จักกันตอนประชุมใหญ่

หลังจากพูดคุยกันก็พบว่าบรรพบุรุษทั้งคู่คือคนเดียวกัน ซึ่งพวกเขาก็เป็นญาติกันนั่นเอง

สุยเฉวียนสุ่ยยังไม่ได้เป็นประธานคณะกรรมการโรงเรียน แต่เขาชอบช่วยเหลือคนสนิท

ดังนั้นการเลื่อนต่ำแหน่งของผอ.หลิว ที่มานั่งอยู่ในตำแหน่งผอ.โรงเรียนนี้ได้ ก็เพราะบารมีของสุยเฉวียนสุ่ย จึ

แต่เดิมชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น ผอ.หลิวกำลังรอที่จะเลื่อนตำแหน่งไปอีกขั้น ถ้าหากมีหนึ่งในคณะกรรมการโรงเรียนเกษียณอายุ และสุยเฉวียนสุ่ยอาจจะแนะนำตัวเขาเพื่อไปดำรงตำแหน่ง

แต่ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เมื่อสุยเฉซียนสุ่ยเข้ามาในตอนเที่ยง ผอ.หลิวก็มีสัญชาตญาณว่าวันดีๆของเขาอาจกำลังจะจบลง

สุยเฉวียนสุ่ยดูทำอะไรไม่ถูก เขาถอนหายใจ “ คุณอยู่กับผมมาหลายปีแล้ว ฉันปฏิบัติต่อคุณอย่างไร ไม่ใช่คุณไม่รู้ ผมยังปกป้องคุณ ถึงได้มาแจ้งคุณในฐานะญาติคนหนึ่ง คณะกรรมการโรงเรียนแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ และเหตุการณ์นี้ก็เลวร้ายเกินไป ในฐานะผอ.คุณไม่สามารถหลีกหนีความผิดได้ ... "

"แต่เรื่องนี้มันก็แค่เด็กทะเลาะกันนะครับ!" ผอ.หลิวตะโกนอย่างหมดหวัง

ฉันรู้ว่ามันเป็นเด็กต่อสู้ถ้าเป็นเด็กน้อยต่อสู้กันก็คงไม่เป็นไรเด็กชายตัวเล็ก ๆ มีนิสัยก้าวร้าวและบางครั้งก็เข้าใจความขัดแย้งได้ แต่นี่เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ หรือลูกสาวของคุณเป็นคนที่นำตระกูลหยาง สาว. คุณไม่รู้ภูมิหลังของตระกูลหยางเหรอเป็นของที่เราจ่ายได้?”

เมื่อพูดถึงตระกูลหยาง สุยเฉวียนสุ่ยก็รู้สึกร้อนและที่หลังเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

เขาอายุมากกว่าผอ.หลิวยี่สิบปี เขาผ่านอะไรมานักต่อนัก และก็เห็นตั้งแต่หยางหยวนยังเป็นเสือที่ยังไม่ถอดเขี้ยวเล็บ จนกระทั่งตอนนี้ที่มีแต่คนเรียกว่าคุณปู่หยาง

และหยางหลิงรุ่ยคนนี้ ก็เป็นทายาทตระกูลหยางรุ่นที่สี่ และเป็นที่รักของทุกคนในตระกูลหยาง

เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบมากเพียงใด หากมันไปถึงหูของหยางหยวน

โรงเรียนสำหรับไฮโซแห่งนี้ ดูเหมือนจะเป็นโรงเรียนแรกของเมือง S แต่ยังไงมันก็เป็นเพียงโรงเรียน หรือโรงเรียนสาขาของเมือง S

ตระกูลหยางกับกลุ่มของฟาเรนไฮต์ต่างก็อยู่ในจุดสูงสุด นั่นยังเพียงพออีกเหรอที่จะออกมาแค่กระดิกนิ้ว

ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่หลิวซีดทันที และเขารู้ว่าตัวเองกำลังจะซวย

แต่หลิวหลานซินลูกสาวของเขา กลับดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

เธอรู้ว่าสุยเฉวียนสุ่ยรักเธอมาก เธอปีนขึ้นลงโซฟาเหวี่ยงตัวเข้าไปในอ้อมแขนของสุยเฉวียนสุ่ยและพูดออกมาว่า “คุณปู่สุยต้องช่วยหนูจัดการนะคะ ยัยเด็กคนนั้นพาคนมารังแกหนู แล้วก็ยังมีผู้ชายคนนั้น ที่บอกจะมาสั่งสอนหนู เรื่องนี้ฉันไม่ได้รับความเป็นธรรม! ถ้าเธอไม่ไปฟ้อง เรื่องก็คงไม่ใหญ่โตขนาดนี้? "

สุยเฉวียนสุ่ยมองไปที่หลิวหลานซินที่เอาแต่ใจ ก็ได้แต่ถอนหายใจยาวและพูดว่า "หลานซิน ไม่ใช่ว่าปู่จะไม่ช่วยหนู แต่ครั้งนี้หนูกำลังมีปัญหาใหญ่ และปู่ไม่สามารถปกป้องหนูได้"

"อะไรนะคะ" หลิวหลานซินกระโดดขึ้นเมื่อรู้ว่าสุยเฉวียสุ่ยไม่ช่วยเธอ

"คุณปู่ เป็นพวกเดียวกันกับยัยนั่น หนูโกรธแล้ว หนูอยากจะร้องไห้......" หลิวหลานซินพูดพลางนั่งลงบนพื้น เตรียมตัวนอนร้องไห้กลิ้งกับพื้นถ้าสุยเฉวียนสุ่ยยังไม่ช่วยเธอ

แต่ก่อนมันเป็นหมัดเด็ดสำหรับเธอ

แม้ว่ามันจะดูเกินไป แต่สุยเฉวียนสุ่ยก็ไม่ได้คิดว่าหลิวหลานซินไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ สุดท้านเขาก็ยอมเธอทุกครั้ง

แต่วันนี้ กลับไม่ได้ผล

สุยเฉวียนสุ่ยไม่ห้ามเธอ แต่มองดูเธอนั่งอยู่บนพื้นรอดูเธอกลิ้งไปมา สายตาก็จ้องมามองที่เธอ

สุยเฉวียนสุ่ยเป็นคนรักเด็ก แต่ทุกครั้งมันก็มักจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ

แม้ว่าหลิวหลานซินจะพูดจาไพเราะอ่อนหวานอย่างไรกับคุณปู่สุย แต่เธอก็ไม่ใช่ลูกสาวของเขา

มันไม่คุ้มค่ากับเรื่องแบบนี้

เขาได้แต่ยิ้ม เรื่องนี้ จะมาให้เขารับหน้าให้ มันจะมีประโยชน์เหรอ?

ผอ.หลิวมองไปที่ลูกสาวของเขาที่กำลังกลิ้งไปมาบนพื้น ใบหน้าก็รู้สึกชา

สุยเฉวียนสุ่ยไม่สามารถช่วยเขาได้เพราะคงกลัวว่าจะถูกไล่ออกเหมือนกัน

เขาย่อตัวลงพยุงลูกสาวของเขาที่อยู่ที่พื้น และพูดว่า " หลานซิน ลุกขึ้นมาคุยกันดีๆ"

เขายื่นมือออกไปจับรอยช้ำที่แขนของหลิวหลานซิน

เนื่องจากตอนที่เธอทำร้ายชิงหรง ชิงหรงก็ปกป้องตัวเอง

หลิวหลานซินร้องเสียงดังเธอตะโกนออกมาด้วยความโกรฑ "พ่อปล่อย หนูเจ็บ!"

ผอ.หลิวรีบปล่อย สีหน้าของเขาดูทุกข์ใจ

ชิงหรงได้รับบาดเจ็บ ลูกสาวของเธอก็รับบาดเจ็บเช่นกัน

ทำไมต้องโดนลงโทษ

การต่อสู้ครั้งนี้ต้องดูให้ดี?

เมื่อนึกถึงภูมิหลังของชิงหรง ตัวเขาก็สั่นสะท้านทันที

ตระกูลหยางเป็นสัตว์ร้ายในเมืองS

มีประโยคในเมืองSที่ทุกคนต่างพูดกันคือ หมาของตระกูลหยาง ไม่อาหารคนแปลกหน้า

ซึ่งก็หมายถึง คนธรรมดาในตระกูลหยาง สามารถไปไหนในเมืองSก็ได้

ข้าราชการมักจะเกรงอกเกรงใจคนในตระกูลหยาง

หลิวหลานซินไม่ยอมลุก ส่วนเขาไม่ได้บังคับ

จู่ๆประตูห้องผอ.ก็ถูกเปิดออกอย่างแรง

ภรรยาของผอ.หลิว ปรากฏตัวขึ้นและใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความทุกข์ใจเมื่อเห็นลูกสาวของเธอกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น

"เฮ้ ลูกรัก หนูไปทำอะไรที่พื้นสกปกๆ ลุกขึ้นมาค่ะ!"

มาดามหลิวก้าวไปข้างหน้าและดึงหลิวหลานซินขึ้น

เมื่อเจอแม่ของเธอ หลิวหลานซินก็เหมือนเจอที่พึ่ง

ดวงตาของเธอแดงก่ำทันที เธอพิงไปที่แขนของมาดามหลิว ร้องไห้และพูดว่า "แม่ หนูถูกรังแก แต่พ่อของฉันไม่ยอมช่วยหนู หนูกำลังไม่ได้รับความเป็นธรรม!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นมาดามหลิว ก็โกรธทันที และจ้องมองไปที่ผอ.หลิว แล้วพูดว่า "หลิวเต๋อเวย เกิดอะไรขึ้น เป็นถึงผอ.แต่กลับปกป้องลูกสาวตัวเองไม่ได้"

เมื่อฟังคำพูดของหลิวหลานซิน ผอ.หลิวก็รู้เลยว่า มาดามหลิวต้องคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ

แต่เธอจะรู้ไหม ว่าเรื่องนี้ ตำแหน่งขนาดเขาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

เขาถอนหายใจ ส่ายหัว ได้แต่คิดว่าถ้าเขาถูกไล่ออก จะไปสมัครงานที่ไหน

จู่ๆเขาก็นึกถึงเรื่องน่ากลัวที่มันจะเกิดขึ้น

ซึ่งก็คือ ถ้าเขาถูกไล่ออกจริงๆ ถ้าทำอะไรไม่ดีกับตระกูลหยางไว้ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็คงไม่มีใครต้อนรับ

นั่นหมายความว่า หากเขาไม่ออกจากเมืองS อนาคตเข้าจะกลายเป็นคนเร่ร่อน

ท่าทางของเขา ทำให้สายตาของมาดามหลิวมองเขาด้วยความดูแคลน

ที่จริง ผอ.หลิวที่อยู่ที่โรงเรียน พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน กลับต้องฟังมาดามหลิว

"หลิวเต๋อเวย ! คุณไม่ได้ยินเหรอ ..."

มาดามหลิวยังไม่ทันจะพูดอะไร สุยเฉวียนสุ่ยก็กระแอมในลำคอแล้วพูดว่า : "โอเค พอแล้ว ที่นี่มันโรงเรียน จะมาทะเลาะอะไรกัน !"

มาดามหลิวตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อสังเกตเห็นว่าสุยเฉวียนสุ่ยอยู่ด้านหลังโต๊ะ

“ ลุงสุย คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่! คุณป้าสบายดีไหมคะ คุณลุงดูเต๋อเวยสิคะ ... ”

มาดามหลิวเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย

มิฉะนั้นในเวลานั้นตอนที่เธอมารับตำแหน่งเป็นครูฝึกสอน ก็คงไม่สามารถเกาะขาของหลิวเต๋อเวย จนได้เป็นเมียของผอ.

เธอมีความสามารถอย่างยิ่งในการพูดคุยกับผู้คน

สุยเฉวียนสุ่ยโบกมือ และพูดอย่างเหนื่อยหน่าย "โอเค ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พวกเธอสามคนออกไปก่อน ฉันคิดเรื่องนี้เอง"

หลิวเต๋อเวยพาภรรยาและลูกสาวของเขาออกจากห้องผอ.

สุยเฉวียนสุ่ยหยิบข้อมูลบนโต๊ะ ดูข้อมูลของหยางชิงหรง ก็รู้สึกปวดหัว

หยางชิงหรง เรื่องนี้แก้ปัญหาลำบาก แต่ตอนนี้ ดันมาเจอกับกรรมการโรงเรียนอีกคนที่ชื่อฮั่วเทียนหลันเพิ่มเข้ามาอีกคน

ที่จริง ตระกูลฮั่วถือหุ้นของโรงเรียนอยู่กว่า80% เพียงแค่เขาพูดอะไรออกไป ตัวเขาเองก็คงต้องถูกกำจัดให้พ้นทาง

หุ้น 10%ที่สุยเฉวียนสุ่ยถืออยู่ ก็เป็นหุ้นช่วงที่หลี่รูยาเรืองอำนาจ สุยเฉวียนสุ่ยเคยสนับสนุนเธอ เขาจึงเข้าตาเธอ

เธอคอยสนับสนุนสุยเฉซียนสุ่ย เขาจึงได้รับการถือหุ้นของโรงเรียนนี้จำนวน10%

เงินปันผลปีนี้หลายสิบล้าน ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งสูงนี้นำเขามาสู่ความสะดวกสบาย

แต่ตอนนี้ทั้งหมดนี้อยู่ในขั้นวิกฤต

เมื่อกี้ หลิวเต๋อเวยบอกเขาว่าฮั่วเทียนหลันเป็นพ่อของหยางชิงหรง

จะเป็นอย่างงั้นได้อย่างไร?

ในข้อมูลนักเรียนของหยางชิงหรง ตรงช่องข้อมูลพ่อของเธอถูกกากบาท ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอไม่มีพ่อ

ในบรรทัดนั้นมีเพียงชื่อของแม่คือหยางหลิงรุ่ย

แน่นอน เธอต้องมีพ่อ และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดโดยไม่มีพ่อ

หรือว่า ฮั่วเทียนหลันกับหยางหลิงรุ่ย มีความสัมพันธ์บางอย่าง?

หรืออาจจะพูดได้ว่า ฮั่วเทียนหลันพยายามหาเหตุผล เพราะเขาอาจไม่ชอบใจเมื่อเขาเห็นโรงเรียนนี้

ครั้งนี้เมื่อเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็เลยจะใช้เพื่อจะกำจัด และเตรียมพร้อมที่จะแก้ไขมัน

ข้ออ้างว่าเป็นพ่อคงเป็นเพียงเหตุผล ในการแก้ปัญหาของผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียน

เมื่อนึกได้ดังนั้น สุยเฉวียนสุ่ยก็รู้สึกว่าเขาคงต้องหากุญแจเพื่อหาปัญหานี้

จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูห้องผอ.

สุยเฉวียนสุ่ยเมื่อความคิดถูกขัดจังหวะ เขาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและพูดถามไปว่า "ใคร!"

ครูประจำชั้นเดินเข้ามาดูในห้องทำงานของผอ.ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่รู้จักสุยเฉวียนสุ่ย แต่ถ้าเขานั่งโต๊ะของผอ.ได้

นั่นก็คงหมายความว่าชายชราคนนี้จะต้องอยู่ในระดับเดียวกับผอ.

"สวัสดีค่ะท่าน ผอ.อยู่ไหมคะ" ครูประจำชั้นถามด้วยความเคารพ

สุยเฉวียนสุ่ยมองไปที่ครูผู้หญิงตรงหน้าเธอ ดูเหมือนเธออายุยี่สิบกว่าๆ ด้วยใบหน้าธรรมดา แต่หุ่นดี เมื่อมองไปที่หน้าอกของเธอ เธอต้องคัพDแน่ ๆ ขาเธอยาวเรียวมาก ผู้หญิงแบบนี้ช่างดูมีเสน่ห์เสียจริง

ครูประจำชั้นรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของสุยเฉวียนสุ่ย เธอจึงพยายามระมัดระวัง

แต่เธอสอนหนังสือที่โรงเรียนแห่งนี้ เธอก็มักจะพบเห็นคนแบบนี้เสมอ

ผู้ปกครองพวกนี้มักมีอายุราวๆห้าหกสิบปี แต่ลูกๆของพวกเขามีอายุเพียงเจ็ดหรือแปดขวบเท่านั้น

เกิดจากเมียคนแรกจริงหรือ?

คำตอบก็ไม่ คนที่ร่ำรวยและมีอำนาจ มักจะเดินเกมส์เป็น จึงไม่รู้ว่าเป็นภรรยาคนไหนกันแน่

“ท่านคะ ... ” ครูประจำชั้นส่งเสียงเรียกอีกครั้ง

สุยเฉวียนสุ่ยออกมาจากจินตนาการของเขา แล้วพูดว่า " อ่ะ คุณหาผอ.เหรอ เขามีธุระหน่ะ ปิดประตูห้อง แล้วก็รายงานให้ฉันทราบได้เลย!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง