โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 358

“คุณนายหยางคนที่โทรมาเมื่อสักครู่คือ?” เมื่อได้ยินที่หยางหลิงรุ่ยพูดโทรศัพท์ ผอ.หลิวก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

ถ้าหากคนของตระกูลหยางคนอื่นมาหละก็ พวกเขาคนไม่ได้ใจดีเหมือนกับหยางหลิงรุ่ย

“เป็นคนในครอบครัวฉัน ผอ.หลิว ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากคุยกับคุณเรื่องใครถูกหรือใครผิด แต่ที่อยากรู้คือลูกของฉันอยู่ไหน?”

ตั้งแต่เธอมาที่นี่เธอยังไม่ได้เห็นหน้าของชิงหรงเลย นั่นทำให้เธอรู้สึกร้อนใจ

ผอ.หลิวตะกุกตะกัน พูดออกมาว่า “คือว่า คือ....”

“คืออะไร! คุณรีบพูดออกมา!” เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่มีความลังเลใจของผอ.หลิว หยางหลิงรุ่ยจึงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที

ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชิงหรงหรอกนะ? ถ้าไม่มีลูกสาวคนนี้แล้วเธอไม่อยากจะคิดเลยว่า อนาคตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป

ผอ.หลิวส่ายหน้าและอธิบายออกมาว่า “คุณนายหยางคือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ ตอนที่เรื่องนี้เกิดขึ้นคุณฮั่วเขาอยู่ในสถานการณ์ด้วย”

พอผอ.หลิวพูดถึงตรงนี้เขาก็เริ่มติดอ่างขึ้นมาอีกครั้ง

ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยก็ซีดลง จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ผอ.หลิว คุณกำลังคิดจะถ่วงเวลา หรือต้องการทดสอบความอดทนของฉันหรอ? คุณก็ควรจะรู้ ว่าคนของตระกูลหยางชอบพูดมากหรือไม่?”

ผอ.หลิวรีบพยักหน้า พูดออกมาด้วยความรู้สึกลำบากใจว่า “ที่จริงมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร มันเป็นคำพูดของคุณฮั่ว ผมแค่เกรงว่าถ้าคุณนายได้ยินแล้วอาจจะทำให้ไม่มีความสุข”

หยางหลิงรุ่ยยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น เธอใช้สายตาเพื่อบ่งบอกให้ผอ.หลิวรีบพูดมันออกมา

ผอ.หลิวก้มศีรษะแล้วพูดออกมาเสียงทุ้มๆว่า “คุณฮั่วบอกว่า ชิงหรงคือลูกสาวของเขา”

ลูกสาวของเขา?

หยางหลิงรุ่ยใจสั่น สิ่งแรกที่เธอคิดถึงก็คือฮั่วเทียนหลันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วหรอ?

ไม่น่าจะใช่แบบนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้น พี่ใหญ่หน้าจะจัดการอย่างเรียบร้อย ฮั่วเทียนหลันไม่น่าจะสืบอะไรได้

คำพูดของผอ.หลิวสามารถไขข้อสงสัยของหยางหลิงรุ่ยได้

เขามองไปที่ใบหน้าที่สงสัยของหยางหลิงรุ่ย และเกรงว่าเธอจะระเบิดขึ้นมาอีกครั้งจึงรีบพูดออกไปว่า “คำพูดนี้ พวกเราที่ได้ยินก็ไม่อยากจะเชื่อ คงเป็นเพราะเขาโกรธที่เห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโรงเรียน จึงพูดออกมาเพื่อแก้ปมด้วยให้เด็กคนนั้น”

ตอนนั้นหยางหลิงรุ่ยจิตตกมาก แต่จู่ๆก็คืนสติขึ้นมา

เธอมองไปที่ผอ.หลิวด้วยสายตาที่จริงจังแล้วพูดว่า “ผอ.หลิว ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คุณรู้ใช่ไหมว่าคุณควรจะทำอะไรต่อไป?”

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว” ผอ.หลิวรีบพยักหน้าและโค้งรับ

เพราะเขารู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะอะไร

หยางหลิงรุ่ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เลื่อนไปที่เบอร์โทรศัพท์ของฮั่วเทียนหลัน จากนั้นก็โทรไปหาเขา

ตื๊ด ตื๊ด! ดังขึ้นสองสามครั้ง ก็มีคนรับโทรศัพท์

“ว่า!”

เรียบง่ายและตรงไปตรงมาตามสไตล์ของเขา

หยางหลิงรุ่ยขมวดคิ้ว ผู้ชายคนนี้ลักพาตัวลูกสาวของเธอไป พอเธอโทรไปหายังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก ในใจเขาเคยรู้สึกผิดอะไรบ้างไหม?

“คุณฮั่ว ลูกสาวฉันอยู่กับคุณไหม?” หยางหลิงรุ่ยถามด้วยความอดทน

“อ่า” ฮั่วเทียนหลันตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นทำให้หยางหลิงรุ่ยลืมคำพูดทั้งหมดที่เธออยากจะพูดออกมา

“งั้น คุณสะดวกจะให้เธอคุยกับฉันไหม?” หยางหลิงรุ่ยถามต่อไป

“ไม่สะดวก”

ท่าทีที่ไม่มีความรู้สึกผิดของฮั่วเทียนหลัน ทำให้หยางหลิงรุ่ยที่อดทนอดกลั้นอยู่ตั้งนาน ได้ระเบิดความโกรธออกมา

แต่ตอนนี้ข้างๆเธอมีคนอยู่

ดังนั้นเธอจึงกำโทรศัพท์และเดินผ่านมาดามหลิวไปที่มุมบันได

“ทำไมไม่ได้? ฉันจะคุยกับลูกสาวสักนิดไม่ได้เลยหรืออย่างไร? ฮั่วเทียนหลัน คุณหมายความว่าอย่างไร หรือว่าเป็นเพราะคุณทำอะไรฉันไม่ได้ คุณจึงไปลงกับเด็กแทน?”

เมื่อไม่มีคนอยู่ข้างกายเธอ เธอก็ไม่จำเป็นต้องรักษาภาพพจน์อะไรอีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงตะคอกออกไปอย่างสุดเสียง

ฮั่วเทียนหลันที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับเธอนั้นได้ยินเสียงที่หยางหลิงรุ่ยพูดออกมา หูของเขาแทบจะระเบิด

ตอนนี้ชิงหรงกำลังทานอะไรสักอย่างอยู่ด้านหน้าเขาด้วยท่าทางที่ร่าเริงและแจ่มใส

หยางหลิงรุ่ยไม่รู้ว่าทำไมฮั่วเทียนหลันถึงไม่ยอมให้เธอคุยกับชิงหรง แต่ชิงหรงกำลังทานอาหารด้วยท่าทางที่เอร็ดอร่อย และนั้นคือเหตุผลของฮั่วเทียนหลัน

“คุณนายหยางพูดจบแล้วหรอ?”

ใช้เวลากว่าสองนาทีเต็มรอหยางหลิงรุ่ยระบายความโกรธของเธอ

ฮั่วเทียนหลันเงียบไปประมาณ 15 วินาที กว่าจะถามออกมา

“ใช่ คุณฮั่ว เมื่อกี้ฉันอาจจะหุนหันพลันแล่นไปหน่อย แต่ฉันก็ไม่ได้เอาตัวเองเป็น......”

เมื่อเธอพูดถึงตรงนี้ ก็ได้ยินเสียงของชิงหรงพูดขึ้นมาว่า “แม่จ๋า”

“อ่า ลูกสาว ลูกอยู่ไหน? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? มีคนชั่วทำร้ายหนูไหม?” หยางหลิงรุ่ยถามต่อ

เมื่อได้ยินคำว่าคนชั่ว ชิงหรงส่ายหน้า มองมาที่ลุงฮั่วที่ยื่นกระดาษให้เธอมาเช็ดปากเลอะๆ พร้อมพูดออกไปว่า “ไม่มีค่ะ แม่จ๋า ตอนนี้หนูสบายดี ลุงฮั่วซื้อของให้หนูกินเยอะแยะเลย”

“อ่า งั้นก็ดีแล้ว ลูกเอาโทรศัพท์คืนให้ลุงฮั่วที!”

หยางหลิงรุ่ยบอกกับชิงหรง ชิงหรงจึงยื่นโทรศัพท์ส่งกลับมาให้ฮั่วเทียนหลัน

“ยังมีธุระอะไรอีกไหม?” ฮั่วเทียนหลันถามออกไปด้วยเสียงที่ไร้อารมณ์

หยางหลิงลุ่ยอดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก ผู้ชายคนนี้หลอกลูกสาวของคนอื่นไปแล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกหรอ?

“คุณฮั่ว ขอบคุณมากที่พาชิงหรงไปหาอะไรทาน แต่ตอนนี้มันก็จะบ่ายแล้ว ชิงหรงยังต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆในโรงเรียน และก็ยังมีเรื่องราวมากมายที่ยังไม่ได้สะสาง ตอนนี้ฉันรออยู่ที่โรงเรียน และอีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาเรียนแล้ว เป็นไปได้ไหมที่หลังจากชิงหรงทานอาหารเสร็จแล้ว ให้รีบกลับ.......”

“ไม่ได้” คำพูดของหยางหลิงรุ่ยทั้งหมด ถูกฮั่วเทียนหลันปฏิเสธ

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง นิ้วมีทั้งห้าจับไปที่ราวบันไดด้วยความโกรธราวกับจะบีบบันไดให้พังทลาย เธอพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มๆว่า “คุณฮั่ว คุณฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดหรอ?”

“ชิงหรงถูกเพื่อนที่โรงเรียนรังแก ในฐานะของคนเป็นแม่ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ คุณมองไม่เห็นความผิดปกติของเด็กหรือไง?”

คำพูดของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยพูดอะไรไม่ออก

เธอพยายามโต้ตอบอยู่ในใจ ชิงหรงเป็นลูกสาวของตัวเอง เป็นเด็กที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือ เวลาที่เธอมีอะไรผิดปกติไปเธอจะไม่รู้ได้อย่างไร?

แต่ในตอนที่คำพูดเหล่านั้นจะออกไปจากปาก เธอก็รู้สึกละอายใจ

เนื่องจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับชิงหรง และช่วงนี้สมองของเธอก็แปรปรวน จึงทำให้เธอไม่ได้เอะใจอะไรเลย

ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจละลายความโกรธที่มีต่อฮั่วเทียนหลันทันที

เธอหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดออกมาเบาๆว่า “คุณฮั่ว คุณพูดถูกแล้ว คนที่เป็นแม่อย่างฉันดูแลเธอได้ไม่ดีพอ”

เมื่อได้ยินเสียงที่รู้สึกผิดของหยางหลิงรุ่ย ฮั่วเทียนหลันก็ไม่ได้ถืออะไร

เขาจึงตอบกลับไปว่า “หลังจากที่ชิงหรงทานอะไรเสร็จแล้ว ฉันจะพาเธอไปเดินเล่นแถวนี้สักหน่อย เพื่อคลายความเครียดที่อยู่ในใจเธอ เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียน คุณไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวฉันจัดการเอง และเรื่องคาบเรียนในช่วงบ่ายของวันนี้ เธอก็จะไม่ไป และเมื่อไรที่ชิงหรงรู้สึกผ่อนคายแล้ว เล่นจนเหนื่อยแล้ว ฉันจะพาเธอไปส่งเอง”

หยางหลิงรุ่ยอยากจะอ้าปากเพื่อพูดออกไรออกมา แต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรที่เธอคิดว่าจะตอบกลับไปได้

ถึงแม้จะบอกว่าเรื่องการเรียนของชิงหรงนั้นสำคัญ

แต่หลังจากที่เธอได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ใจของเธอก็เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้จิตใจของชิงหรงตกต่ำและเป็นปมด้อยในใจเธอ

ถ้าต้องการกำจัดด้านมือของจิตใจ มันก็ต้องใช้เวลาสักนิด

"ได้ งั้นต้องรบกวนคุณฮั่วด้วย” เธอพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ลง

ตอนที่เธอเดินกลับมาที่ทางเดิน ก็เห็นมาดามหลิวจูงมือลูกของเขาไปยืนร้องไห้อยู่ด้านหน้าของผอ.หลิว

เธอเดินเข้าไปอย่างช้าๆ และเมื่อมาดามหลิวเห็นหยางหลิงรุ่ย ไฟในใจของเธอก็เริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

แต่เมื่อสักครู่เธอเพิ่งจะได้ยินข้อมูลมาจากปากของผอ.หลิว นั้นก็คือเธอรู้ว่าตัวตนของหยางหลิงรุ่ยไม่สามารถเอื้อมถึง

ถึงแม้เธอจะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอทำอะไรผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ แต่เธอก็อยากที่จะได้ความยุติธรรม

ตระกูลหยางแล้วไง? ตระกูลหยางไม่ต้องใช้เหตุผลหรอ!

เรื่องที่ตระกูลหยางเป็นใหญ่ที่สุดในเมืองsแห่งนี้ ผู้ชายทุกคนล้วนรู้ดี แต่สำหรับผู้หญิงนั้นไม่จำเป็น

ตอนนี้ผอ.หลิวก็คิดคำพูดที่สมควรจะพูดที่สุดออกมา

“คุณหยาง เรื่องนี้ผมจะให้ลูกสาวของผมและเพื่อนๆของเธอมาขอโทษชิงหรง คุณคิดว่าอย่างไร?”

โทรศัพท์เมื่อสักครู่ ทำให้ผอ.หลิวรู้แล้วว่าเขาควรทำอะไร

คนของตระกูลหยางจะมาแล้ว! ถ้าพวกเขามาถึง คำแก้ตัวคงใช้จบเรื่องนี้ไม่ได้

“ขอโทษ? ขอโทษอะไร? ไร้สาระ คุณดูว่าลูกสาวของเธอทำให้ลูกเราต้องเจ็บถึงขนาดนี้ และยัง.....”

พอได้แล้ว!”

มองเห็นหยางหลิงรุ่ยไม่ขยับ เธอยืนอยู่พิงราวบันไดอยู่ตรงที่เดิม

ผอ.หลิวใจแป้ว ตะโกนออกมา มีความคิดที่จะหลบหนีอยู่ในใจ

แต่เรื่องมันก็มาถึงขั้นจนมุมแล้ว หลังจากนั้นก็มีรถสองสามคันขับตรงจากประตูเข้ามาจอดหน้าตึกเรียน

ตงเหยียนและหยางหลินลงมาจากรถพร้อมด้วยบอดี้การ์ดหลายคน

เนื่องจากพวกเขาขับรถชนประตูเข้ามา รปภ หลายสิบคนของโรงเรียนแห่งนี้จึงออกมาพร้อมอาวุธครบมือจ้องมองมาที่กลุ่มของหยางหลิน

การรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนแห่งนี้ ถ้าสำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้วถือว่าสูงมาก

บางคนก็เคยเป็นทหารมาก่อน บางคนก็เป็นเด็กวัยรุ่นที่มีร่างกายแข็งแรง

แต่ถ้าหากใช้ความเข้าใจในการมองสักหน่อยก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่า กลุ่มคนที่อยู่ด้วนหลังของหยางหลินนั้นไม่ใช่คนดี

หยางหลินมองไปที่กลุ่ม รปภ แล้วพูดเบาๆว่า “พี่สะใภ้ รปภ พวกนี้ไม่เลวเลย ปฏิกิริยาตอบสนองไวมาก มองดูแล้วคงไม่ได้มีไว้เพื่อตกแต่งจริงๆ”

ตงเหยียนตอบ อ่า ออกมา และส่งสัญญาณสายตาไปที่หน้าบอดี้การ์ดคนหนึ่งของเธอ

บอดี้การ์ดคนนี้เป็นหัวหน้าของบอดี้การ์ด

เขาจึงเดินออกมาด้านหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเราเป็นคนของผู้ปกครองของเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ มาที่นี่เพราะได้ยินข่าวว่าคุณหนูของพวกเราได้รับบาดเจ็บ ได้โปรดหลีกทางให้พวกเราด้วย”

เหล่า รปภ มองหน้ากัน และหัวหน้าของ รปภ กลุ่มนั้นก็เคยเป็นทหารมาก่อน

แน่นอนว่าเขารู้ว่าลูกน้องที่เขามีอยู่ไม่สามารถเอาไปเทียบกับบอดี้การ์ดกลุ่มนั้นได้

เขาเดินเข้ามา ถามด้วยความสุภาพว่า “ขออนุญาตถามครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นผู้ปกครองของเด็กคนไหน?”

“หยางชิงหรง”

คำว่าหยางคำนี้ ทำให้หัวหน้า รปภ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ในเมืองsแห่งนี้ คนของตระกูลอยางไม่สามารถแตะต้องได้

และรวมกับสายตาที่มองไปเห็นเหล่าบอดี้การ์ดที่ส่วมชุดดำ แน่นอนว่าอาจจะมาจากตระกูลหยางจริงๆ

“รอสักครู่ครับ” เขาโบกมือเพื่อเรียก รปภ อีกคนให้มารับคสั่ง

ในตอนที่ รปภ คนนั้นเดินออกไป ก็มีเสียงดังมาจากตึกเรียน

“พวกนายไปไหนก็ไปเถอะ ฉันรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ให้ผู้ปกครองของหยางชิงหรงขึ้นตึกไปจัดการเถอะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง