โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 359

คนที่ออกมาก็คือสุยเฉวียนสุ่ย เขาแอบอยู่ในห้อง ผอ. แอบมองอยู่อย่างระมัดระวังพบว่าไม่ได้เกิดการปะทะระหว่างหยางหลิงรุ่ยกับผอ.หลิวขึ้นเขาโล่งใจ

ได้ยินเสียงวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากด้านล่าง เขามองไปแค่แวบเดียวก็รู้ว่านั่นคือคนของ ตงเหยียน

ในฐานะที่เป็นลูกสะใภ้คนแรกของตระกูลหยาง ทำให้ตงเหยียนเป็นที่รู้จักในแวดวงการเมืองและธุรกิจ

หัวหน้ารปภ. รู้จักสุยเฉวียนสุ่ย แต่ก็ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจจึงพูดออกมาว่า “สุยเฉวียนสุ่ย คนพวกนี้.....”

“เอ๋? คำพูดของฉันไม่มีความหมายแล้วหรอ?” คำพูดนี้ของสุยเฉวียนสุ่ย ทำให้หัวหน้า รภป มีความมั่นใจมากขึ้น

เขารีบหุบปากและพาลูกน้องถอยไป

สุยเฉวียนสุ่ยนำทางคนพวกนี้เดินมายังห้องของ ผอ.

แต่เนื่องด้วยเสียงที่ดังมาจากด้านล่าง กลุ่มคนที่อยู่กับผอ.หลิว ก็เท่ากับว่าถูกสุยเฉวียนสุ่ยเรียกมาตั้งแต่แรกแล้ว

เมื่อเห็นหยางหลิน ผอ.หลิวไม่ได้แสดงท่าทางอะไร เพราะเขาไม่รู้จักหยางหลิน

แต่หลังจากที่เห็นตงเหยียน เขาก็รีบทำตัวประจบเหมือนสุนัข

“คุณนายหยาง คุณจะมาที่นี่ก็ไม่บอกผมสักคำ ผมจะได้ไปรอต้อนรับคุณที่หน้าประตู.....”

แต่ตงเหยียนคำพูดประจบประแจงของเขา ถูกทำให้เงียบลงด้วยท่าทีที่เมินเฉยของตงเหยียน

ตงเหยียนเดินมาหาหยางหลิงรุ่ยที่เพิ่งจะลุกขึ้นจากโซฟ่า ลูบไปเบาๆที่หลังของเธอ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “หลิงรุ่ย เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ผอ.หลิวกลัวว่าหยางหลิงรุ่ยจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อกี้เล่าออกมา เขาจึงรีบพูดออกมาว่า “เข้าใจผิด คุณนายหยาง ทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด.....”

ตงเหยียนใช้สายตามองไปที่ผอ.หลิว พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ใครใช้ให้นายพูด?”

“เข้าใจผิด? หลานรักของฉันมาเรียนที่นี่และถูกรังแกมานานขนาดนี้แล้ว ไม่เห็นมีการแก้ไขใดๆ แถมยังมาอ้างว่าเป็นการเข้าใขผิด!”

หลานรัก.....

หัวใจของผอ.หลิวตกไปถึงตาตุ่ม

แค่ฟังคำเรียกนี้ก็รู้แล้วว่าชิงหรงอยู่ในสถานะที่สำคัญแค่ไหนสำหรับเธอ

เหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผาก ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกร้อน

เขาควรทำอย่างไรดี หรือควรจะให้ภรรยาของเขาออกไปรับหน้าแทน?

มาดามหลิวไม่รู้จักคนพวกนี้ แต่เธอก็พอดูออก จากบอดี้การ์ดมากมายที่คนพวกนี้พามาด้วย สถานะของเขาคงไม่ธรรมดาแน่ๆ

สุยเฉวียนสุ่ยแค่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อมาถึงจุดนี้ ผอ.หลิวทำได้แค่ถอยออกไป และรอจนกว่าคนของตระกูลหยางต้องการให้เขาออกมาพูด

ถ้าคนของตระกูลหยางไม่มีทีท่าแบบที่กล่าวมาละก็ เขาก็จะไม่พูดอะไร

“พี่สะใภ้ หลิงรุ่ย พวกเธอคิดว่า....”

“เห็นว่าฉันเชื่อหรอ?”

หยางหลินพิงไปที่โซฟา และใช้สายตามองไปที่ผอ.หลิว ทำให้เขากลัวจนตัวสั่น

จู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเหมือนกับเคยเห็นผู้ชายคนนี้ในหนังสือพิมพ์

ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลหยาง

ซวยแล้ว ลูกสะใภ้คนแรกของตระกูลหยาง นายน้อยคนที่สองและน้องสาวของเขามาอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว

ตอนแรกนี่ก็เป็นแค่เรื่องทะเลาะกันของเด็กๆที่สามารถจัดการได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องระหว่างครอบครัว

และที่สำคัญที่สุด ถ้าตระกูลหยางต้องการที่จะจัดการผอ.หลิวกับครอบครัวมันก็ง่ายกว่าการกระดิกนิ้วเสียอีก

เขาทำได้เพียงส่งสายตาไปที่สุยเฉวียนสุ่ยเพื่อขอความช่วยเหลือ

หวังว่าญาติห่างๆของเขาคนนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง

แต่สุยเฉวียนสุ่ยก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นและมองออกไปนอกหน้าต่าง

ดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านนอกมันแยงตานิดหน่อย แต่ก็สวยงามมากเมื่อมองจากทิวทัศน์นี้

หยางหลินไม่ได้แกล้งผู้ที่อ่อนแอกว่าเป็นงานอดิเรก จะบอกว่าเป็นเพราะชิงหรงโดนรังแกเขาถึงมาที่โรงเรียนแห่งนี้

“หลิงรุ่ย ชิงหรงอยู่ไหน?”

“พี่รอง ตอนนี้ชิงหรงอยู่กับฮั่วเทียนหลัน พวกพี่ๆก็มากันแล้ว งั้นฉันฝากให้พี่จัดการเรื่องนี้ด้วย ฉันจะไปหาฮั่วเทียนหลันก่อนเพื่อจะรับชิงหรงกลับมา”

หยางหลิงรุ่ยพูดจบ หยางหลินก็พยักหน้าจากนั้นเธอเดินทางออกไป

แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอ หยางหลินโบกมือเพื่อบอกให้บอดี้การ์ดของคนตามเธอไปด้วย

คนเดียวที่จะพูดว่าชิงหรงถูกรังแกก็ได้เดินจากไปแล้ว

ผอ.หลิวที่ดูสิ้นหวังก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

หลิวหลานซินถึงแม้จะอายุน้อยแต่ความสามารถในการอ่านสถานการณ์ของเธอนั้นเป็นที่หนึ่ง

ดวงตาของเธอแดงขึ้น แกล้งทำเป็นน่าสงสารและร้องไห้ออกมา

“คุณลุงคะ หนูกับชิงหรงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ครั้งนี้หนูแค่ไปหยอกล้อเธอนิดเดียวไม่คิดว่าจะเป็นแบบ........”

นี่มันเป็นเรื่องปกติ หยางหลินที่เห็นเด็กสาวที่ดูน่ารักและเป็นเด็กดี จึงทำให้เขาหลงเชื่อได้ไม่ยาก

แต่ตงเหยียนที่ดูคลิปวิดีโอมาหลายครั้ง และทุกครั้งก็จะมีหน้าของเด็กคนนี้อยู่ เธอเป็นคนบอกให้เพื่อนๆรังแกชิงหรง

เธอขำออกมาแบบเยือกเย็น “นี่เธอกำลังแกล้งทำตัวน่าสงสารอยู่หรอ? เด็กน้อย ตอนที่ฉันเห็นเธอรังแกชิงหรงในคลิปวิดีโอมันไม่ใช่แบบนี่หน่า!”

เมื่อความหวังสุดท้ายพังทลายลง ร่างกายของผอ.หลิวก็หมดเรี่ยวแรง และเอนกายไปที่มาดามหลิว

มาดามหลิวประคองผอ.หลิวเอาไว้ แต่เดิมที่เธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้ว ตอนนี้เธอจะเผชิญหน้าต่อไปอย่างไร

“คุณรีบลุกขึ้นมาเถอะ ทับจนฉันจะตายอยู่แล้ว รีบลุกขึ้นมาเร็ว” มาดามหลิวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย

ผอ.หลิวได้ยินเสียงที่เคยได้ยินเป็นปกติอยู่ทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไม่วันนี้เขาถึงคิดว่ามันเป็นเสียงที่น่ารักเกียจที่สุดในโลก เขาพูดด้วยอารมณ์ชั่ววูบ “หยุดได้และยายงี่เง่า ถ้าครั้งนี้ฉันไม่ตายหละก็ ฉันจะไปหย่ากับเธอ!”

“อะไรนะ?” มาดามหลิวตกใจขึ้นมา

“โถ๋ ไอ้คนอย่างคุณ ที่แท้ก็อยากจะหย่ากับฉันนี่เอง! หย่าก็หย่าสิ คิดว่าฉันรักคุณตายแหละ! สามวันครั้ง แต่ละครั้งก็ไม่เกินสิบวินาที นิ้วทั้งนั้นที่ทำให้ฉันเสร็จ วันนี้ฉันจะบอกกับคุณไว้ว่าฉันหละเบื่อกับวันวานเหล่านี้มามากเกินพอแล้ว.....”

ผอ.หลิวคิดไม่ถึงว่ามาดามหลิวจะพูดเรื่องในครอบครัวออกมา ใบหน้าของเขาแดงขึ้นมาทันที นี่มันคือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ทำไม่ถึงเอาออกมาพูดแบบนี้?

เขาตบไปที่หน้าของมาดามหลิวเต็มๆ

รอยนิ้วมือทั้งห้าของเขาฝากไว้บนใบหน้าของมาดามหลิว ทำให้มาดามหลิวรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นบ้าแต่ก็ตอบโต้กลับไป

คนที่นั่งดูอยู่อย่างหยางหลินก็รู้สึกสนุก เหมือนกับว่ากำลังมีคนมาแสดงละครให้ดู จากนั้นเขาก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบหนึ่งมวนตามปกติ

เมื่อเขาหยิบบุหรี่มวนที่สองขึ้นมา ก็มีมือมาฉกออกไป

“สูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ” ตงเหยียนพูดออกมาพร้อมกับหยิบบุหรี่ทิ้งไปยังที่เขี่ยบุหรี่

เธอมองไปที่การแสดงตลกที่อยู่ด้านหน้าของเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “พอได้แล้ว พวกคุณเลิกทะเลาะกันได้แล้ว ทำผิดแล้วก็ต้องแก้ ตระกูลหยางของพวกเราไม่ใช่จู่จะมารังแกกันง่ายๆ พวกคุณจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรก็พูดมา!”

หยางหลิงรุ่ยลงมาถึงด้านล่าง ตอนแรกเธอคิดจะขับรถไปเอง

แต่เนื่องด้วยมีบอดี้การ์ดคอยติดตามมาดูแลความปลอดภัยของเธอ พวกเขาลงมาสตาร์ทรถรอเธอแล้ว

หยางหลิงรุ่ยโทรศัพท์ไปหาฮั่วเทียนหลัน หลังจากที่รอสายอยู่สักพักถึงจะมีคนรับ

เสียงเพลงที่ออกมาจากทางนั้น ฟังดูแล้วพวกเขาน่าจะอยู่บนรถ

“คุณฮั่ว คุณอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหาคุณ” หยางหลิงรุ่ยพูด

“เธอมาคนเดียวหรอ?”

คำถามของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไร

ผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็มีความแปลกในคำพูดของเขา

“ไม่ ไม่ใช่ ตอนนี้ฉันกำลังไปรับชิงหรง” หยางหลิงรุ่ยบอกฮั่วเทียนหลันถึงจุดประสงค์ของตัวเอง

“อ่า ได้ ตอนนี้ฉันจอดรถรอเธออยู่ ฉันเพิ่งจะขับรถเข้าในถนนซูโจว”

ถนนซูโจว นั่นมันก็เข้าใกล้คฤหาสน์ของตระกูลหยางมากแล้ว

ฮั่วเทียนหลันหันไปมองชิงหรงที่กำลังหลับอยู่บนเบาะหลังรถ คิ้วของเธอขมวดราวกับว่าเธอกำลังฝันร้ายอยู่

เขาอดไม่ได้ที่จะทุกข์ใจออกมา จากนั้นยื่นมือออกไปลูบคิ้วของชิงหรง

วินาทีต่อมา มือของเขาก็ถือจับไว้

ชิงหรงดึงมือของฮั่วเทียนหลันเข้าไป พยายามใช้แรงดึงเข้าไปในอ้อมกอดของเธอ จากนั้นก็พึมพำออกมา “พ่อจ๋า พ่อจ๋า มีคนรังแกหรงหรง”

“พ่อจ๋า เมื่อไหร่พ่อจะกลับมา? หรงหรงคิดถึงพ่อมากเลยนะ! แต่ชิงหรงไม่กล้าบอกกับแม่แบบนี้”

“พ่อจ๋า พ่ออยู่ไหน.....”

เมื่อได้ยินที่ชิงหรงพูด หัวใจของฮั่วเทียนหลันก็รู้สึกขมขื่น

ชิงหรงเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง แต่ต้องมารับกับสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในวัยนี้

เขาถอนหายใจออกมา ปลดเข็มขัดนิรภัยออก และเอามือของเขาเข้าไปใกล้อีกหน่อย

ชิงหรงที่กำลังฝันอยู่ รู้สึกว่าในที่สุดเธอก็ได้กอดกับคุณพ่อ เธอมีความสุขขึ้นมาทันทีจากนั้นก็มีลักยิ้มเล็กๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเธอ

แม้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกอึดอัด

แต่ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่ฮั่วเทียนหลันเห็นชิงหรงมีความสุข หัวใจของฮั่วเทียนหลันก็รู้สึกสดชื่นขึ้น

ในตอนนั้นเขาเอาเงาของชิงหรงมาเทียบกับเงาของลั่นลาน

หลังจากนั้นเขาก็พบว่ามันเหมือนกันจนเขาไม่อยากจะเชื่อ

ไม่ว่าจะส่วนสูง รูปร่าง หรือหน้าตาของชิงหรงทุกอย่างมีความคล้ายคลึงกับลั่นลานเป็นอย่างมาก

ฮั่วเทียนหลันตะลึง หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่าสิ่งที่สามีภรรยาสืบทอดมาให้ลูกๆของตัวเอง?

ระหว่างทางที่หยางหลิงรุ่ยนั่งรถมา เธอพบเจอกับอุบัติเหตุห้าครั้งติดต่อ และแต่ละครั้งก็น่าสะพรึงกลัวมาก

และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รถติด

ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้ามายังถนนซูโจว

มองเห็นรถหรูที่จอดอยู่ข้างทาง หยางหลิงรุ่ยกดผลักไปยังเบาะด้านหน้าพร้อมพูดว่า “นั่นไงๆ จอดด้านหลังรถคันนั้น”

หลังจากที่รถจอดแล้ว เธอก็ลงมาจากรถ หน้าต่างรถคันข้างหน้าปิดสนิท กระจกติดฟิมล์ดำเพื่อความเป็นส่วนตัว นั่นทำให้เธอมองไม่เห็นอะไรด้านในเลย

ในตอนที่เธอจะเคาะกระจกรถเพื่อเรียกฮั่วเทียนหลัน กระจกรถก็เลื่อนลงมา

ฮั่วเทียนหลันยังคงรักษาท่าทางที่แปลกประหลาดของเขา และทำท่าทางให้หยางหลิงรุ่ยใช้เสียงเบาๆด้วยนิ้วมือของเขา

“ชูวๆๆๆ!”

ในตอนนั้นหยางหลิงรุ่ยเพิ่งจะสังเกตเห็น ชิงหรงกำลังนอนกอดแขนของฮั่วเทียนหลันหลับอยู่บนเบาะหลังรถ

ท่าทางแบบนี้ มันต้องเมื่อยมากๆ หยางหลิงรุ่ยมองมาที่ฮั่วเทียนหลัน เธอไม่รู้ว่าเขาทำท่านี้มานานแค่ไหนแล้ว ดังนั้นจึงพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง “คุณฮั่ว คุณปลุกชิงหรงให้ลุกขึ้นมาเถอะ แบบนี้คุณคงเหนื่อยแย่เลยใช่ไหม?”

ฮั่วเทียนหลันส่ายหน้า มองไปที่ชิงหรงด้วยสายตาที่อ่อนโยนพร้อมพูดว่า “กว่าเธอจะลับลึกได้ขนาดนี้ใช้เวลานานน่าดู ให้เธอได้นอนอีกสักพักเถอะ!”

เสียงของทั้งสองคนเบามาก แต่หยางหลิงรุ่ยก็ลืมนึกไปเลยว่าปกติลูกสาวของเธอเป็นคนที่ตื่นง่ายมาก แต่เรื่องนี้ฮั่วเทียนหลันต้องไม่รู้อยู่แล้ว

ดังนั้น ชิงหรงจึงค่อยลืมตาขึ้นและมองไปที่เพดานรถ

หลังจากที่เธอสับสนว่าความรู้สึกอบอุ่นที่หน้าอกของเธอมันคืออะไร เธอลุกขึ้นมานั่งและกอดแขนของฮั่วเทียนหลันแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

มองเห็นฮั่วเทียนหลันและหยางหลิงรุ่ยที่อยู่ตรงหน้า คนที่นอนหลับเพิ่งตื่นอย่างเธอจึงพูดออกมาแบบไม่รู้ตัว “พ่อจ๋า แม่จ๋า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง