โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 360

หยางหลิงรุ่ยตกตะลึง ทำไมเด็กคนนี้ถึงพูดจาแบบนี้ออกมา

แต่ฮั่วเทียนหลันที่ไหล่กำลังชนกับไหล่ของหยางหลิงรุ่ยอยู่ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เด็กคนนี้ไม่ทำให้เขาเมื่อยๆไปเปล่าๆจริงๆ

หยางหลิงรุ่ยไอออกมา เพื่อทำให้ลูกสาวของเธอตื่นอย่างเต็มตา

ตอนนี้ชิงหรงถึงรู้สึกตัว ว่าเมื่อสักครู่ตัวเธอเพิ่งเรียกผู้ชายคนนี้ว่าพ่อ

ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมา ลงจากรถในทันที แล้ววิ่งไปหาหยางหลิงรุ่ยจากนั้นก็ขึ้นรถ

“แม่จ๋า....”

น้ำเสียงออดอ้อนที่นุ่มนวลของเธอ ทำให้หยางหลิงรุ่ยิ้มออกมาด้วยความสุขในทันที

เธอนั่งลงและกอดชิงหรงเบาๆ

แต่เธอได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆของชิงหรง เธอขมวดคิ้วและในใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวด

เธอปล่อยชิงหรงออกไป จากนั้นก็เปิดแขนเสื้อของเธอขึ้นพบว่ามีรอยช้ำอยู่หลายรอย

เด็กที่ไม่รู้ประสีประสาที่เธอเลี้ยงมากับมือดันต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้ ใบหน้าของเธอซีดลงทันที

เธอไม่กล้าที่จะไปแตะต้องรอยช้ำเหล่านั้นของชิงหรง พูดออกมาด้วยเสียงเบาๆว่า “ลูกแม่เจ็บไหม?”

ชิงหรงพยักหน้า และก็สายหน้า เสียงอันอ่อนโยนดังอยู่ในหูของเธอ

“ตอนแรกหนูรู้สึกเจ็บ แต่มีคนแม่และคุณลุงอยู่ข้างๆหนูก็หายเจ็บแล้วคะ”

หยางหลิงรุ่ยขมวดคิดและคิดว่าลูกของเธอกำลังพูดอะไรออกมา

เธอสงสัยอยู่สักครู่ แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร

ฮั่วเทียนหลันลงมาจากรถ ในมือถือถุงกระดาษอยู่หนึ่งใบ เขาส่งมันให้หยางหลิงรุ่ยพร้อมพูดว่า “นี่ผมให้คุณไว้ มันเป็นยาไว้สำหรับทาภายนอก ทาให้ตรงเวลาเดี๋ยวอาการก็ดีขึ้นเอง”

หยางหลิงรุ่ยพยักหน้าและลุกขึ้นยืนพร้อมพูดว่า “ให้คุณต้องมาจ่ายให้แบบนี้ อะ ฉันให้.....”

“ไม่ต้อง ไม่เป็นไร!” ฮั่วเทียนหลันโบกมือ เพื่อเป็นหยุดการเคลื่อนไหวต่อไปของหยางหลิงรุ่ย

ผู้หญิงคนนี้จะเอาเงินคืนให้เขาและก็จากไปอีกแล้ว

คำที่เธอจะพูด เขาเข้าใจในความหมายของมัน

ดวงตาที่ดำกลมของชิงหรงทำให้จิตใจของผู้คนเปลี่ยนไป เธอยิ้มและพูดออกมาว่า “แม่จ๋า คุณลุงเขาเป็นคนดี เขาหน้ารักกับหนูมากๆเลย!”

“อ่า” หยางหลิงรุ่ยตอบกลับ จิตใจของเธอเริ่มสับสน

เรื่องที่เกิดขึ้นมาชิงหรงในครั้งนี้ ต้องขอบคุณฮั่วเทียนหลันมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นชิงหรงคงโดนรังแกไปมากกว่านี้

ในการเติบโตของชิงหรง ขาดบทบาทของพ่อมาโดยตลอด

ถึงแม้ว่าเธอไม่เคยพูดออกมา แต่ในใจของหยางหลิงรุ่ยก็รู้ว่านี้เป็นสิ่งที่เธอโหยหา

“ลูกแม่ หลังจากนี้ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นลูกต้องบอกกับแม่เป็นคนแรกเลยนะ เข้าใจไหม?” หยางหลิงรุ่ยลูบไปที่หัวของชิงหรงเบาๆ พร้อมพูดออกมา

เมื่อได้ยินคำที่แม่ของเธอพูด ชิงหรงก็รู้สึกไม่ดีแล้วถามกลับไปด้วยเสียงต่ำๆว่า “แม่จ๋า หนูทำให้แม่ลำบากอีกแล้วใช่ไหมคะ?”

ทำให้ลำบาก.....

ประโยคที่คุณเคยแบบนี้ หยางหลิงรุ่ยที่สูญเสียความทรงจำไม่ได้รู้สึกอะไร แต่สำหรับฮั่วเทียนหลันเขาถึงกับสั่น

เมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้พูดประโยคนี้กับเขาบ่อยๆ

เธอจะโทษตัวเองอยู่เสมอ และคิดว่าตัวเองคือตัวปัญหา

ดังนั้นเมื่อเขาแสดงท่าทีเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เธอรับผิดโดยทันที

ถึงแม่ว่าในหลายๆเรื่องเธอจะไม่ได้เป็นคนทำ......

“ใช่ที่ไหนหละ ลูกแค่ป้องกันตัวเอง มันเป็นเพราะแม่ไม่ดีเอง ที่ไม่สามารถปกป้องลูกได้” หัวใจของหยางหลิงรุ่ยเจ็บปวด เธอยื่นมือไปจับที่แก้มขาวๆของชิงหรง จากนั้นพูดออกมาด้วยเสียงที่เป็นทุกข์

“ไม่ใช่คะคุณม่ หนูไม่ควรจะไปทะเลาะกับพวกเขา หนูยังเป็นเด็ก ควรจะอ่อนโยน และเชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณแม่ หลังจากนี้หนูจะไม่ทำให้แม่ต้องเป็นห่วงอีกค่ะ”

ถึงแม้ว่าชิงหรงจะเป็นเด็ก แต่เธอก็มีความคิดเป็นของตัวเองอยู่แล้ว

และเธอก็ไม่ใช่คนที่ต่อสู้ไม่เป็น เธอเกิดมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ทางบ้านของเธอให้เธอเรียนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็ก

และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับ มันก็แน่นอนว่าท่าทางเหยาะแหยะที่มีแต่ช่องโหว่ของพวกเขาไม่สามารถสู้เธอได้

แต่เธอก็ไม่อยากจะไปทำร้ายคนพวกนั้นและทำให้ครอบครัวของเธอต้องมีปัญหา

ไม่รู้ว่าหยางหลิงรุ่ยสอนอะไรชิงหรงไป แต่สิ่งเดียวที่พลาดไปก็คือ

ตระกูลหยางไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา

หัวใจของหยางหลิงรุ่ยก็ใม่ได้คิดแบบนั้นเหมือนกัน เด็กคนนี้ทำเพื่อปกป้องตัวเอง คนที่เป็นแม่อย่างเธอจะไปโทษเธอได้อย่างไร?

ยังดีที่ตอนนั้นฮั่วเทียนหลันออกมาปกป้องชิงหรงไว้

เขายังไม่น่าจะรู้ว่า ชิงหรงเป็นลูกสาวของเขา

หยางหลิงรุ่ยกำลังคิด แววตาของเธอก็มองไปที่ฮั่วเทียนหลันโดยไม่รู้ตัวเป็นเวลานาน

มีสิ่งอื่นนอกเหนือจากความรักแอบแฝงอยู่ในดวงตาของเธอ

ฮั่วเทียนหลันจับไปที่หน้าของตัวเอง และพูดออกมาอย่างขำๆ “หน้าของผมมีอะไรติดอยู่งั้นหรอ?”

“ห๊ะ?”

“ไม่งั้นเธอจะมาจ้องหน้าฉันทำไม? หรือว่าฉันหล่อเกินไปจะไปกระแทกใจเธอ! ”

คำพูดที่ไม่มีความถ่อมตัวของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะเบะปาก

หลังจากนั้นเธอก็ถามตัวเองในใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน? ไม่ใช่ว่าเคยพูดไปแล้วหรอถึงความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างเขากับเธอ?

ทุกคนก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง เธอไม่อยากให้ฮั่วเทียนหลันรับรู้ได้ว่าเธอยังมีความรู้สึกดีๆให้เขาอยู่

ชิงหรงเห็นใบหน้าของแม่แดงขึ้น เธอก็มองไปที่รอยยิ้มที่มีความหมายของคุณลง และจู่ๆเธอก็ยิ้มออกมา

เธอเอามือข้างหนึ่งไปจับมือของหยางหลิงรุ่ย และอีกข้างหนึ่งไปจับมือของฮั่วเทียนหลัน

ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้พูดอะไร แต่ลักษณะแบบนี้ก็เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน

หยางหลิงรุ่ยสะบัดมือออกเพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด

แต่ชิงหรงก็จับไว้อย่างแน่นต่อให้ตายเธอก็ไม่ปล่อย หยางหลิงรุ่ยมองไปที่สายตาอ้อนวอนของชิงหรงจากนั้นใจของเธอก็อ่อนลงอย่างอธิบายไม่ถูก

แต่ความเข้าใจผิดนี้ เป็นเรื่องที่ฮั่วเทียนหลันอยากให้เกิดขึ้นจริง

“ครั้งนี้ต้องรบกวนคุณ คุณฮั่วไว้วันหน้าฉันจะเลี้ยงข้าวคุณเป็นการตอบแทน” เนื่องจากความคิดของชิงหรงทำให้บรรยากาศค่อนข้างเยือกเย็น หยางหลิงรุ่ยรู้สึกอึดอัดจึงพูดออกมาได้แค่นี้

ฮั่วเทียนหลันเม้มปาก เขายื่นมือออกมาปัดที่ผมของหยางหลิงรุ่ยเบาๆ พร้อมพูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันไม่รู้ว่าวันข้างหน้า จะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม?”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความอ่อนโยนของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า หยางหลิงรุ่ยรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว

แต่อย่างไรก็ตามเธอสามารถควบคุมสติกลับมาได้ไว จากนั้นจึงพูดไปเบาๆว่า “คุณฮั่วคิดว่าวันไหนดีหละ?”

เธอรู้ว่าฮั่วเทียนหลันเป็นคนที่เจรจาต่อรองเก่ง เธอจึงไม่ได้แปลกใจอะไร

แต่ก็คาดไม่ถึงว่าฮั่วเทียนหลันจะเอนตัวลงและกระซิบที่ข้างหูของชิงหรงเบาๆว่า “หรงหรง คุณลงพาหนูไปส่งที่บ้านดีไหม?”

ชิงหรงที่มีนิสัยแบบนี้ รู้สึกได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณลุงคนนี้มีความคิดแปลกกับแม่ของเธอ

ถึงว่าเธอจะไม่ได้รังเกียจคุณลงคนนี้

เธอถอยออกมาหนึ่งก้าว พิงที่ขาของหยางหลิงรุ่ยจากนั้นพูดว่า “หรงหรงจะกลับบ้านกับคุณแม่”

“อ่า...เด็กดี” เมื่อได้ยินคำพูดของชิงหรง หยางหลิงรุ่ยก็พูดพร้อมกับยิ้มขึ้นมา

แต่ก็นึกไม่ถึงว่า ฮั่วเทียนหลันจะใช้สายตามองไปที่ชิงหรงเพื่อบ่งบอกให้เธอพูดจาดีๆ

“หนูไม่ได้ยินที่แม่ของหนูคุยกับคุณลงเมื่อสักครู่หรอคะ?”

ชิงหรงเอนศรีษะ จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเธอจะคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้จึงพยักหน้าและพูดออกไปว่า “ได้ยินค่ะ!”

“ดังนั้นคุณลุงเลยอยากจะไปทานข้าวกับแม่ของหนู หนูเองก็จะไปด้วยไหม?” ฮั่วเทียนหลันเป็นเหมือนปีศาจร้ายที่ชักนำชิงหรงไป

ชิงหรงก็พอเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องระหว่างชายหญิงอยู่บ้าง

เธอเอียงศีรษะไปมาเพื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเธอไปด้วย เหมือนกับไปเป็นตัวปัญหามากกว่าไหม?

เธอเคยอ่านหนังสือมามีอยู่ประโยคหนึ่งที่ใช้กับเหตุการณ์นี้ได้ น่าจะพูดกันว่า ก้างขวางคอ?

“หนูไม่ไปค่ะ หนูขอตัวกลับบ้านก่อน”

พูดเสร็จชิงหรงก็ไม่รอช้าหันกลับไปหาบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลัง เธอตะโกนออกมาว่า “คุณลุงๆ พาหนูกลับบ้านที!”

บอดี้การ์ดตกใจ และมองมาที่หยางหลิงรุ่ยทันที

ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยมีอาการตกใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าลูกสาวของตัวเองจะเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนี้

หรือนี่คืออุบายหลอกแม่?

เธอพยักหน้าเบาๆ แสดงให้เห็นว่าตกลง

บอดี้การ์ดก็ขับรถพาชิงหรงกลับบ้าน

แต่ก่อนที่ชิงหรงจะไป เธอดึงมือของหยางหลิงรุ่ยลงมาพร้อมกับให้เธอก้มหัวลง เพื่อจะสามารถพูดข้างๆหูของเธอได้

หยางหลิงรุ่ยเอนตัวลง ฟังที่ลูกสาวของเธอพูด “คุณแม่คะ คุณลุงต้องคิดอะไรไม่ดีกับคุณแม่แน่ๆ แม่ต้องระวังตัวให้ดีนะ!”

พูดจบ ชิงหรงก็จงใจยกนิ้วทำเป็นว่า ok ให้ฮั่วเทียนหลัน หลังจากนั้นก็ขึ้นรถกลับบ้าน

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ฮั่วเทียนหลัน ฮั่วเทียนหลันก็มองมาที่หยางหลิงรุ่ย

หยางหลิงรุ่ยคิดถึงคำพูดที่ลูกสาวของตนพูดออกมาเมื่อกี้ เธอยังเด็กยังเล็ก ทำไมถึงเข้าใจเรื่องราวแบบนี้ได้?

แต่ฮั่วเทียนหลันกลับคิดว่า เด็กหญิงนั้นเข้าใจเขา และไม่ต้องการเป็นก้างขวางคอ

พอหันกลับมา ก็เห็นสายตาของเธอ ที่ดูเหมือนจะระวังตัวเอง

ดีที่เขาได้เรียนการอ่านริมฝีปากมาตอนอยู่ต่างประเทศ จึงรู้ว่าเด็กคนนั้นพูดอะไร

ตอนนี้มีแค่พวกเขาสองคน ฮั่วเทียนหลันจึงถามออกมาว่า “คุณหยางชอบที่แห่งนี้หรอครับ?”

หยางหลิงรุ่ยส่ายหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นก็ตอบสนองกับคำถามของเขาจึงถามกลับไปว่า “คุณฮั่วถามแบบนี้ทำไม?”

“ฉันเห็นว่าคุณนายหยางไม่อยากจากที่นี่ไงอย่างไงอย่างงั้น งั้นฉันสังอาหารแล้วมานั่งทานตรงนี้กันดีไหม?”

คำพูดท่าทางล้อเล่นของฮั่วเทียนหลันทำให้ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยแดงก่ำ

อย่าไรก็ตามเธอไม่ใช่คนที่จะหลงกลอะไรง่ายๆ เธอพูดออกมาด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยมั่นใจว่า “ฉันบอกว่าจะเลี้ยงข้าวคุณ แต่ไม่ได้บอกว่าจะเป็นวันนี้!”

“เอ๋?” เสียงแหลมๆของฮั่วเทียนหลันแสดงให้เห็นถึงกานไม่เข้าใจอารมณ์ที่สื่อออกมาของหยางหลิงรุ่ย เขาจึงพูดออกมาว่า “งั้นวันนี้ฉันจะเป็นคนเลี้ยงคุณนายหยางเอง แบบนี้ได้ไหม?”

“ได้...ไม่ใช่!” คำตอบที่หยางหลิงรุ่ยตอบไปตอบแรกถูกตัดไป เธอคิดว่าตอบไปแบบนั้นจะง่ายเกินไป

เธอมองมาที่ฮั่วเทียนหลัน และพูดออกหยอกล่อแบบเดียวกับที่ฮั่วเทียนหลันพูดเมื่อสักครู่ว่า “คุณฮั่ว นี่หรือว่าคุณจะช่วนฉันไปออกเดท?”

คำพูดที่เธอพูดออกไปทำให้ฮั่วเทียนหลันตกใจไม่น้อย

แต่มันก็เหนือความคาดหมายของเธอขึ้นไปอีก คือท่าทางตอบรับของฮั่วเทียนหลัน

เขาก็พยักหน้าพร้อมพูดออกมาว่า “ที่คุณนายหยางพูดออกมาฉันก็ไม่รู้ว่าเต็มใจหรือไม่ แต่ก็เชิญครับ”

พอพูดจบฮั่วเทียนหลันก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูรถ พร้อมกับทำท่าเชิญให้หยางหลิงรุ่ยขึ้นรถ

หยางหลิงรุ่ยมองเห็นท่าทางที่สุภาพของฮั่วเทียนหลัน พยักหน้า แล้วเดินขึ้นรถ

“เห็นแกว่าวันนี้คุณช่วยชิงหรงไว้มาก ฉันเลยตกลงมากับคุณหรอกนะ!”

แต่แทนที่เธอจะเข้าประตูที่ฮั่วเทียนหลันเป็นคนเปิด กลับกันเธอเดินไปเปิดประตูด้านหลังแล้วขึ้นรถ

สำหรับสาเหตุที่เธอไปนั่งด้านหลังนั่นเป็นเพราะเธอคิดว่ามันอาจจะปลอดภัยขึ้นบ้าง

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่ท่าทางดื้อรั้นของผู้หญิงคนนี้จึงอดไม่ได้ที่จะเม้มปากออกมา

ไม่มีปัญหา เขาทนได้ ถึงแม้เธอจะมีความเข้มแข็งในอารมณ์แค่ไหนเขาก็มันใจว่าจะทลายกำแพงนั้นของเธอได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง