โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 373

หลังจากนั่งดื่มชาที่ห้องทำงานของหลี่ซือหยวนได้สักพัก และเหลืออีกครึ่งชั่วโมงจะเลิกงานหยางหลิงรุ่ยก็เดินกลับมา

ทันทีที่เธอมาถึงทางเดิน เธอก็เห็นพนักงานส่งของถือดอกไม้สดช่อใหญ่ ในมือมีกล่องขนมหวานอยู่หนึ่งกล่อง เธอจึงรีบเดินเข้าไปทันที

ดอกไม้คือดอกกุหลายสีม่วงแสนโรแมนติก ขนมหวานคือแบรนด์ที่หยางหลิงรุ่ยชอบเป็นอย่างมาก

หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาขึ้นมาในใจเล็กน้อย นี่ไม่รู้ว่าหญิงสาวในบริษัทคนไหน กำลังถูกแฟนหนุ่มนำสิ่งของมาให้เพื่อแสดงความรัก

เธอจงใจก้าวให้ช้าลง เพื่อที่ว่าเพื่อนร่วมงานในบริษัทจะได้มีความสุขโดยไม่ถูกขัดจังหวะด้วยการปรากฏตัวของเธอ

หลังจากรอมาห้านาที พนักงานส่งของก็เดินออกมา หยางหลิงรุ่ยถึงเดินกลับเข้าไปที่สำนักงาน

ทันทีที่เดินเข้าไปในห้อง กลิ่นหอมของดอกไม้ก็ลอยเข้ามาแตะจมูก

ในตอนนี้ เย่ตงกำลังยืนอยู่ตรงหน้าช่อดอกกุหลายสีม่วง มือของเธอกำลังกดโทรศัพท์มือถือเพื่อถ่ายรูป

"ใครส่งดอกไม้มาให้เธอเหรอ โรแมนติกจังเลย" หยางหลิงรุ่ยถาม

เธออยู่กับเย่ตงมาก็นาน แต่กลับจำไม่ได้ว่าเย่ตงมีแฟนด้วย

ดูเหมือนว่าเธอจะโสดไม่ใช่เหรอ

เช่นเดียวกับตัวเอง...

พอ ออกนอกเรื่องแล้ว

เย่ถงรีบลุกขึ้น รูปก็ยังถ่ายไม่เสร็จ

เธออุ้มช่อดอกไม้ขึ้นมา ก่อนจะนำไปส่งให้หยางหลิงรุ่ย : "ผู้อำนวยการหยางคะ มีคนนำมาส่งให้คุณค่ะ"

"ส่งมาให้ฉันเหรอ"

"ค่ะ"

ความประหลาดใจของหยางหลิงรุ่ยและคำยืนยันจากเย่ตง ทำให้เกิดการนิ่งงันไปชั่วขณะ

หยางหลิงรุ่ยรับช่อดอกไม้มา จากนั้นมองเห็นการ์ดอวยพรที่ถูกแนบมาด้วย เธอหยิบมันออกมาและเปิดดู ข้างในมีตัวหนังสือที่สวยงามและดูทรงพลัง : ส่งให้ผู้หญิงที่ผมรักที่สุด

ตัวหนังสือแบบนี้ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นจังเลยนะ

เหมือนกับ เหมือนกับ.....ในหัวของหยางหลิงรุ่ยปรากฏภาพของฮั่วเทียนหลันขึ้นมาฉับพลัน

เงาของเขาติดอยู่ในหัวของหยางหลิงรุ่ยเป็นเวลาหนึ่งนาที ก่อนที่หยางหลิงรุ่ยจะโยนมันออกจากความคิดของเธอในที่สุด

เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ของฮั่วเทียนหลันแน่นอน เขาโรแมนติกขนาดนี้ที่ไหนล่ะ เธอรีบปฏิเสธความคิดของตัวเองในใจทันที

“เขาได้บอกไหมว่าใครเป็นคนส่งมา” หยางหลิงรุ่ยถาม

เย่ตงส่ายหัวตอบ ก่อนจะถามขึ้น : "แล้วไม่ใช่แฟนของผู้อำนวยการหยางหรอกเหรอคะ"

"แฟน ... " หยางหลิงรุ่ยพูดไม่ออกไปชั่วขณะ สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดชนิดนี้ไม่มีอยู่ในชีวิตของหยางหลิงรุ่ยเลย

เมื่อก่อนเคยมีก็จริง แต่เป็นจางรันที่รับบทแสดงฐานะแฟน แต่จางรันนั้นทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกถึงความเป็นญาติพี่น้องกันเสียมากกว่า

ต่อมาก็เกิดเรื่องราวมากมาย ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงปฏิเสธอดีตและปฏิเสธปัจจุบันไปทั้งหมด ผันตัวเป็นสาวโสดเต็มรูปแบบ

เธอมองไปที่กุหลาบสีม่วงตรงหน้า กลีบดอกสีม่วงนั้นได้ผ่านกรรมวิธีพิเศษ บนพื้นผิวของมันมีประกายวิบวับราวกับคริสตัล

นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้จาง ๆ ที่ไม่ใช่กลิ่นที่ถูกแต่งแต้มขึ้นมา แต่เป็นกลิ่นจากธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับความชื่นชอบของหยางหลิงรุ่ยเป็นอย่างมาก

กุหลาบม่วงแสนโรแมนติกนี้ ถ้าพูดตามหลักแล้วไม่มีดอกไม้ชนิดนี้ในสายพันธุ์ของดอกไม้เลยดวยซ้ำ

แต่มันถูกแปรรูปมาจากดอกกุหลาบอีกที

หยางหลิงรุ่ยมีความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ไม่เยอะนัก แต่เธอก็รู้สึกชอบดอกกุหลาบสีม่วงนี้ไม่น้อยเลยล่ะ

หรือว่าก่อนที่เธอจะสูญเสียความทรงจำนั้น เธอเคยชอบดอกไม้ชนิดนี้มาก ๆ

เธอวางช่อดอกไม้ลง ก่อนจะเปิดกล่องขนมหวานที่วางอยู่ด้านข้าง

เป็นไปตามที่คิด ขนมหวานหลากหลายชนิดที่อยู่ด้านใน ล้วนแต่เป็นชิ้นที่เธอโปรดปรานทั้งนั้น

หยางหลิงรุ่ยหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะแบ่งชิ้นที่ชอบสองสามอย่างให้กับเย่ตงด้วย

นี่เป็นของที่ส่งให้หยางหลิงรุ่ย แน่นอนว่าเย่ตงไม่อาจรับมันมาได้ แต่ภายใต้การขอร้องแกมบังคับของหยางหลิงรุ่ย ทำให้เธอต้องรับมาอย่างไม่กล้าปฏิเสธ

หลังจากนั้นขนมหวานกล่องนี้ก็ถูกนำมาทานคู่กับน้ำชาในตอนบ่ายที่ห้องทำงานของพวกเธอ

อีกสักพักก็จะถึงเวลาเลิกงาน เย่ตงที่อยู่อีกด้านกำลังนั่งนับจำนวนดอกกุหลาบสีม่วงว่ามีทั้งหมดกี่ดอก

หลังจากใช้เวลาไปสักพัก เธอก็ได้รู้คำตอบว่าข้างในช่อนั้นมีทั้งหมด 100 ดอก

"ผู้อำนวยการหยางคะ ดอกไม้จำนวน 100 ดอกมันสื่อว่ายังไงนะคะ"

เย่ตงไม่รู้ เธอจึงเอ่ยถามหยางหลิงรุ่ยอย่างลืมตัว

หยางหลิงรุ่ยที่ไม่มีความรู้ด้านภาษาสื่อของดอกไม้เลยจึงไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย : "เหมือนว่าจะเป็น เป็น... "

"ฉันค้นหาเจอแล้ว" เย่ตงพิมพ์ค้นหาใน Baidu ก่อนจะเอ่ยขึ้น

ดอกไม้ 100 ดอกสื่อถึง "จิตวิญญาณแห่งความรัก 2 ดวงที่จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปจนถึง 100 ปี หรือจนกว่าจะถึงวันตาย"

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ หยางหลิงรุ่ยก็ตกตะลึงในทันที

ในหัวของเธอฉายภาพคนที่เธอรู้ว่าเขายังอยู่ที่เมือง S และดูเหมือนว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ตรงตามความคิดนี้ นั่นก็คือฮั่วเทียนหลัน

หรือว่าจะเป็นเขาที่ส่งมาจริง ๆ ผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้รู้จักความโรแมนติกด้วยจริง ๆ เหรอ

ขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของหยางหลิงรุ่ยก็ดังขึ้น

เธอเหลือบมองดูแวบนึง เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากฮั่วเทียนหลัน จึงกดปิดหน้าจอและวางมันลงบนโต๊ะทันที

เย่ตงสังเกตเห็นท่าทางของหยางหลิงรุ่ย เธอคิดว่าตัวเองอาจจะกำลังทำให้อีกฝ่ายไม่สะดวกรับสาย ดังนั้นจึงวางช่อดอกไม้ลงก่อนจะเอ่ย : "ผู้อำนวยการหยางคะ อีกเดี๋ยวจะเลิกงานแล้ว ฉันไปตอกบัตรก่อนนะคะ"

จากนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าที่เก็บเรียบร้อยแล้วขึ้นมา เตรียมจะเดินออกไปนอกห้อง

หยางหลิงรุ่ยรู้สึกแปลก ๆ ก่อนจะคิดขึ้นได้เมื่อเย่ตงกำลังจะเดินออกไป

ปกติเย่ตงไม่ได้รีบร้อนจะเลิกงานเลยนี่นา!

“เหลืออีกตั้งสองนาทีนะ... ”

"ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวฉันรออยู่ข้างนอกก็ได้ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคุณ"

คำพูดของเย่ตงดังผ่านประตูหน้าห้องเข้ามา ทำให้ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยแดงก่ำขึ้นมาทันที

ทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือก็หยุดสั่นและไม่มีเสียง เนื่องจากไม่มีคนกดรับสายฝั่งนั้นจึงกดวางไป

แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

หยางหลิงรุ่ยมองดูชื่อฮั่วเทียนหลันที่ปรากฏบนจอ เธอลังเลอยู่ครู่นึง แต่ก็ยังเลือกที่จะกดรับสาย

“คุณฮั่วมีธุระอะไรเหรอคะ”

“ไม่มีธุระอะไรโทรหาไม่ได้เหรอครับ”

"ไม่ได้ค่ะ!" หยางหลิงรุ่ยเอ่ยตอบกลับไปทั้งที่ใจของเธอไม่ได้คิดเช่นนั้น

“แล้วผมมีสิทธิ์จะโทรหาคุณหรือเปล่า”

"มี"

"อืม ผมคิดถึงคุณแล้วก็เลยโทรไปหา แบบนี้ได้ไหมครับ"

ฮั่วเทียนหลันพูดตอบกลับมาอย่างไม่ให้โอกาสหยางหลิงรุ่ยได้ตั้งตัว

หยางหลิงรุ่ยอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ ขึ้น

ผู้ชายคนนี้มีเหตุผลแต่ก็ไม่มีเหตุผล แต่กระนั้นคำพูดที่บอกว่าคิดถึงเธอของเขา ก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวไม่น้อย

“วันนี้คุณส่งดอกไม้มาให้ฉันเหรอคะ”

หยางหลิงรุ่ยเฝ้ารอความอ่อนโยนจากฮั่วเทียนหลัน แต่เธอก็รู้สึกกลัวความอ่อนโยนนั้นของเขา

ฉะนั้นเธอจึงคิดหาหัวข้อสนทนาใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่ดูคลุมเครือนี้

“หรือว่าลมมันพัดส่งไปให้ได้ล่ะ” ฮั่วเทียนหลันดูเหมือนจะยังไม่ยอมอ่อนข้อให้กับหยางหลิงรุ่ยเมื่อสักครู่

ปากกระจับเล็ก ๆ น่ารักของหยางหลิงรุ่ยมุ่ยขึ้นมาทันที ผู้ชายคนนี้เจ้าคิดเจ้าแค้นเสียจริง ยังคงใจแคบเหมือนเดิมไม่มีผิด

“คุณฮั่ว!”

เสียงตะคอกของเธอไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด และสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงเสียงหัวเราะของฮั่วเทียนหลันเท่านั้น

"ชอบไหม"

"ชอบ...ไหมนะ" หยางหลิงรุ่ยกำลังจะเอ่ยตอบตามความรู้สึกอย่างลืมตัว แต่เธอคิดได้ว่าไม่ควรยอมง่ายขนาดนี้ ดังนั้นเธอจึงเอ่ยตอบอย่างเล่นแง่

ฮั่วเทียนหลันหัวเราะขึ้นมา ก่อนจะเอ่ย : "ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องหาคนไปรับมันกลับแล้วล่ะ"

“หือ ทำไมล่ะ” หยางหลิงรุ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เธอรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย ก็ผู้ชายคนนี้มอบดอกไม้ช่อนี้ให้เธอแล้วไม่ใช่เหรอ

"เพราะคุณหยางไม่ชอบไงครับ! ถ้าหากไม่ชอบมัน วางไว้ตรงหน้าก็ยิ่งจะรู้สึกขวางหูขวางตา"

หยางหลิงรุ่ยสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงขี้เล่นของฮั่วเทียนหลัน

แต่ถึงกระนั้น เธอก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยว่าผู้ชายคนนี้จะมาเอาดอกไม้ที่เขามอบให้เธอคืนไปจริง ๆ

ดังนั้นเธอจึงรีบพูดขึ้นว่า : "ก็ ก็ไม่ได้ ไม่รู้สึกขวางตาสักหน่อย... "

หยางหลิงรุ่ยไม่ได้สังเกตตัวเองเลยด้วยซ้ำ ว่าน้ำเสียงของเธอนั้นแฝงไปด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย

เธอมองไปที่ช่อดอกไม้ตรงหน้า พลันนึกถึงความหมายแฝงของสีในใจ

สีม่วงแสดงถึงความรักยิ่งใหญ่ งดงาม และความคิดถึง

และความหมายแฝงของดอกไม้ก็ยังลึกซึ้งมากเช่นเดียวกัน

บางทีผู้ชายคนนี้อาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าดอกไม้ 100 ดอกนั้นหมายถึงอะไร

แต่เธอรู้ แม้ว่าจะรู้ภายหลังหลังจากที่เย่ตงพูดให้ฟังก็เถอะ

มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ เมื่อมีความรักจะพบว่ามันยากที่ต้องเลือก และไม่ว่าทางไหนก็เจ็บไปด้วยกันหมดทั้งนั้น

แต่หลังจากที่สูญเสียความรักไป หลังจากที่ได้การผ่อนคลายมาสักระยะ ก็คิดอยากจะมีความรักอีกสักครั้ง

แม้ว่าหยางหลิงรุ่ยไม่อยากจะยอมรับตัวเองว่าเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ความจริงที่ปรากฏขึ้นมาทุกอย่างนั้นทำให้เธอปฏิเสธไม่ออก

"เพราะฉะนั้นหมายความว่าคุณก็ชอบมันน่ะสิ แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ คุณชอบก็ดีแล้วล่ะ"

ฮั่วเทียนหลันพูดขึ้นมา น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยอารมณ์ความรู้สึกเต็มไปหมด จนทำให้หยางหลิงรุ่ยอ่านเขาไม่ออก

แต่เธอรู้สึกได้ว่าเขาดูผิดหวังเล็กน้อย

หรือบางทีความรู้สึกของเธออาจจะผิดไป แต่ว่าอารมณ์ของฮั่วเทียนหลันนั้น เธอสังเกตได้ เขากำลังไม่มีความสุข

“คุณฮั่วส่งดอกไม้มาให้ฉัน มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าคะ” หยางหลิงรุ่ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยประโยคที่ฟังดู EQ ต่ำ

ฮั่วเทียนหลันมุมปากยกขึ้นมาเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้บทจะโง่ก็โง่ขึ้นมาจนเกินเยี่ยวยา

“ไม่มีอะไรแอบแฝง”

พูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็กดวางสายทันที

เมื่อถูกวางสายใส่ หยางหลิงรุ่ยก็ตะลึงงันขึ้นมาทันที

ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้อารมณ์แปรปรวนนัก

เมื่อกี้ เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่หรือไง

เป็นอะไรไป หรือเขาไปเรียนเปลี่ยนสีหน้าเหรอ หยางหลิงรุ่ยครุ่นคิดถึงสิ่งที่คุยกับฮั่วเทียนหลันเมื่อสักครู่ ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไปนี่นา

เธอรู้สึกไม่เข้าใจนิดหน่อย ก่อนจะรู้สึกโมโหขึ้นมาในใจ

ผู้ชายคนนี้เห็นเธอเป็นคนแบบไหนกัน ยามชอบก็โอบอุ้มขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ยามไม่ชอบก็จะโยนทิ้งไปอย่างนี้ก็ได้เหรอ

เธอโยนช่อดอกไม้ลงพื้นด้วยความคับแค้นใจ ดอกไม้ช่อนั้นกลิ้งไปกับพื้นอย่างน่าสงสาร จากนั้นเธอชำเลืองดูมันเพียงแวบเดียวก่อนจะหยิบกระเป๋าและเตรียมจะเดินออกจากที่ทำงานไป

แต่ตอนที่จะปิดไฟในห้อง เธอก็รู้สึกลังเลขึ้นมา ก่อนจะก้มลงไปเก็บช่อดอกไม้ขึ้นมาอีกครั้งและวางมันลงบนโซฟา

ที่ Fahrenheit Group สาขาเมือง S ภายในห้องทำงานของท่านประธาน

ฮั่วเทียนหลันยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจนถึงเพดาน เขามองดูรถราที่คับแน่นเต็มท้องถนนยามคนเลิกงาน

โทรศัพท์มือถือของเขายังไม่ได้กดปิดหน้าจอ ประวัติการโทรออกไปหาผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงแสดงอยู่

เหอะ ไม่ชอบงั้นเหรอ

เธอบอกว่าเธอไม่ชอบดอกไม้ของเขา แต่เพื่อรักษาความรู้สึกของเขา เธอจึงเปลี่ยนคำพูดเป็นไม่ขวางตาแทน

คำพูดนี้ทำให้หัวใจของฮั่วเทียนหลันรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

การที่ส่งดอกไม้ไปให้ผู้หญิงที่ตนรัก แต่กลับถูกเธอฝืนรับอย่างไม่เต็มใจ เป็นใครก็คงรู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้ว

และการที่เขากดวางสายก่อน ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองเผลอแสดงอารมณ์ที่ไม่ดีออกมา จนทำให้ผู้หญิงคนนั้นสัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธของเขา

หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยกลับมาถึงบ้าน เธอก็เจอกับตงเหยียนที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกพอดี

เมื่อชิงหรงมองเห็นแม่ของตน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาพร้อมทั้งเอ่ยเรียกคุณแม่น้ำเสียงหวาน

หยางหลิงรุ่ยกอดชิงหรงเอาไว้และจุ๊บไปที่แก้มน่ารักของเธอ ก่อนจะส่งชิงหรงให้กับพี่เลี้ยงที่อยู่ด้านข้าง ให้พี่เลี้ยงพาชิงหรงกลับไปที่ห้องของตน

“พี่สะใภ้คะ เรื่องที่โรงเรียนจัดการเรียบร้อยหรือยังคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง