หยางหลิงรุ่ยเดินไปเรื่อย ๆ เหลืออีกเพียง 500 เมตรก็จะถึงบ้านหยางแล้ว
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้รู้สึกอึดอัดแปลก ๆ
ราวกับมีอะไรบางอย่างติดตามเธออยู่ตลอดเวลา
ถนนสายนี้มีไฟส่องสว่างจำนวนมาก ระยะห่างระหว่างเสาไฟก็ค่อนข้างชิดกัน ทำให้ถนนสว่างมากจนแทบจะไม่มีเงามืดให้เห็น
แต่หยางหลิงรุ่ยไม่กล้าหันกลับไปมอง เธอจำได้ว่ามีคนเคยบอกเธอว่า ร่างกายของคนเรามีธาตุไฟอยู่สามจุด หากเธอหันกลับไปมองธาตุไฟในตัวเธอนั้นจะต้องดับลงอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงประตูบ้านหยางแล้ว หยางหลิงรุ่ยก็ปลุกความกล้าภายในตัวขึ้นมา ก่อนจะหันหลังกลับไปมองในที่สุด
เบื้องหลังของเธอไม่ใช่ถนนว่างเปล่าอย่างที่คิด
แต่ฉากด้านหลังนั้นทำให้ดวงตาของเธอชุ่มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ข้างหลังเธอไม่ได้มีภูติผีปีศาจแต่อย่างใด
แต่กลับเป็นรถคันหนึ่ง รถของฮั่วเทียนหลัน ที่ขับอยู่บนถนนอย่างเชื่องช้าตามหลังเธอมา
ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่ด้านข้าง ดวงตาคมของเขาเฝ้ามองหยางหลิงรุ่ยไม่ละสายตา
ร่างกายของหยางหลิงรุ่ยแข็งทื่อ เธอบอกไม่ถูกว่าหัวใจของเธอรู้สึกอย่างไรในขณะนี้
แต่ถึงกระนั้น เธอก็รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก
เธอรู้ดีว่าตัวเองเดินมาตามถนนเส้นนี้นานเท่าไหร่
ไม่ใช่ครึ่งชั่วโมง ก็ยี่สิบนาที
ผู้ชายคนนี้ติดตามเธอมาอย่างนั้นเรื่อย ๆ เพียงเพราะคำพูดของเธอที่บอกว่าไม่ให้เขามาส่ง ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีของตัวเองเพื่อติดตามเธอมาตลอดทางกลับบ้าน
ในตอนนั้นเอง หยางหลิงรุ่ยมีคำพูดเป็นพัน ๆ คำที่ถูกกดเก็บเอาไว้ในลำคอ ก่อนจะผสมรวมกันออกมาเป็นประโยคเดียว
“คุณฮั่ว ฉันถึงบ้านแล้วค่ะ”
รถหยุดลง ฮั่วเทียนหลันมองหยางหลิงรุ่ยอย่างเรียบนิ่ง ริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะอืมรับเพียงสั้น ๆ
หยางหลิงรุ่ยอยากจะเอ่ยอีกสักสองสามคำ แต่กลับรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ กลับรู้สึกจมูกอักเสบขึ้นมา!
เธอพยายามต่อต้านกับความรู้สึกแสบนั้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ขอบคุณนะคะ คุณกลับได้แล้วนะ!"
ฮั่วเทียนหลันพยักหน้ารับภายใต้ความมืดภายในรถ
หลังจากนั้นคนขับก็กลับรถ รถเริ่มเร่งความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จากใหญ่กลายเป็นเล็ก จากใกล้ก็ไกลห่างออกไป จนสุดท้ายหายลับจากสายตาของหยางหลิงรุ่ยไปอย่างสิ้นเชิง
หยางหลิงรุ่ยลูบจมูกแสบของเธอ ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทีหลัง
วันนี้จริง ๆ แล้วเธอควรไปดูหนังกับฮั่วเทียนหลัน เพราะถึงอย่างไรฮั่วเทียนหลันก็ได้ซื้อตั๋วหนังไว้แล้ว!
เมื่อหยางหลิงรุ่ยเดินเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์ บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็ถูกกลิ่นหอมพิเศษจากอาหารในมือเธอเตะเข้าที่จมูก จนอดไม่ได้ที่จะส่งสายตามามองตรงจุดเดียวกัน
ราวกับทุกคนคาดไม่ถึงว่าคุณหญิงแห่งตระกูลหยางผู้สูงส่งคนนี้ จะกินของติดดินขนาดนี้ได้
เมื่อถูกหลายสายตาจับจ้องมองมา แม้ว่าทุกคนจะมีท่าทีเคารพเธอมาก
แต่ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยก็ยังแดงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เธอพยักหน้าบอกใบ้เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน
หลังจากมาถึงบ้าน เธอก็เดินเข้าไปนั่งที่ห้องรับแขกชั้นหนึ่ง ก่อนจะหยิบอาหารทั้งหมดภายในถุงออกมา
ระหว่างทางที่เดินมาถึงบ้าน ทำให้อาหารเริ่มเย็นหมด
และในตอนนี้เข็มชี้บนนาฬิกาแขวนได้ชี้ไปที่เลขสิบแล้ว
ในเวลานี้ถ้าอิงตามวิถีชีวิตสุขภาพดีของหยางหลิงรุ่ยล่ะก็ เธอจะไม่กินอะไรเข้าไปเด็ดขาด
แต่วันนี้ราวกับเธอได้รับการสนับสนุนและอนุมัติ เธอกัดเข้าไปหนึ่งคำ สองคำ สามคำ และต้องการจะกินทุกอย่างที่ฮั่วเทียนหลันซื้อมาให้ลงไปอย่างไม่รู้จักพอ
แม้ว่าจะรู้สึกอิ่มแล้ว แต่เธอก็ยังคงกินต่อไป
เพราะนี่คือน้ำใจของผู้ชายคนนั้นที่มีให้ตัวเอง
ระหว่างทางกลับบ้าน ฮั่วเทียนหลันได้เปิดหน้าต่างรถลง ปล่อยให้ลมแรงพัดผ่านเข้ามาจนทำให้เส้นผมของเขายุ่งเหยิง
เมื่อสักครู เขาเกิดแรงกระตุ้นหลายต่อหลายครั้ง
อยากจะลงจากรถไป แล้วกอดร่างที่ดูโดดเดี่ยวของผู้หญิงคนนั้นแน่น ๆ
ทั้งที่พวกเขาสองคนอยู่ใกล้กันมากถึงเพียงนั้น และสายตาต่างก็มีกันและกันอยู่ในนั้น
แต่แล้ว กลับพ่ายแพ้ให้กับความขี้ขาด
เขาจุดบุหรี่ จากนั้นยกขึ้นดูดเข้าลึก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่นานบุหรี่หนึ่งมวนก็หมดลง ก่อนจะต่อด้วยมวนที่สองทันที
ว่ากันว่าควันบุหรี่สามารถบรรเทาความโศกเศร้าได้ แต่ในขณะนี้วัตถุที่มักจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับเขา กลับช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด
ระยะห่างจากบ้านเหลือเพียงครึ่งทางเท่านั้น ในขณะที่รอไฟจราจรบอดี้การ์ดข้างหน้าก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา : "ท่านประธานฮั่วครับ สูบต่อไปอีกไม่ได้อีกแล้วนะครับ"
"หือ?" ฮั่วเทียนหลันรู้สึกงงเล็กน้อย แต่ใช้เวลาคิดเพียงครู่เดียวก็สามารถเข้าใจความหมายของบอดี้การ์ดคนดังกล่าว
ที่เขาไม่สามารถสูบบุหรี่ต่อไปได้อีก ก็เพราะว่าอีกไม่นานเขาจะถึงบ้านแล้ว และลูกสาวตัวเล็กของเขาเกลียดกลิ่นบุหรี่ที่อยู่บนตัวเขามากที่สุด
เธอยังเด็ก จึงไม่ควรได้รับสิ่งอันตรายใด ๆ เข้าไปในร่างกาย
ฮั่วเทียนหลันดับบุหรี่ลง และมองไปที่ไฟสีแดงตรงหน้าที่ค่อย ๆ ลดน้อยลงเรื่อย ๆ
หากชีวิตเป็นเหมือนไฟแดง ที่เพียงแค่เฝ้ารอคอยก็จะได้รับผลลัพธ์เสมอนั้น เขาก็ยินดีที่จะรอ รอจนกว่าหยางหลิงรุ่ยจะตื่นขึ้นมา รอจนกว่าเธอและเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
หยางหลิงรุ่ยอยู่ในห้องรับแขก และกินอาหารที่มีอยู่จนหมดในที่สุด
เธอมองดูปากตัวเองที่มันเยิ้ม และมื้อที่เต็มไปด้วยน้ำมัน ก่อนใบหน้าจะปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา นานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายขนาดนี้มาก่อน
นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับฮั่วเทียนหลันที่ออสเตรเลีย ชีวิตของเธอก็ราวกับจมดิ่งลงไปในความไม่แน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง