โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 382

คำพูดของชิงหรง ทำให้หยางยานตกใจขึ้นมา

และในตอนนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไรดี

หรือจะบอกกับชิงหรงว่า เมื่อคนเราถึงวัยที่กำหนดแล้ว ผู้ชายและผู้หญิงจะเกิดความรู้สึกรักใคร่ชอบพอกัน จากนั้น ...

ไม่ได้ มันยุ่งยากซับซ้อนเกินไป

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าชิงหรงจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า แม้แต่หยางยานเองก็รู้สึกลำบากเกินไปที่ต้องเอ่ยอธิบายเช่นนั้น

ยิ่งไปกว่านั้นเด็กอายุน้อยเพียงนี้ หากพูดเรื่องเหล่านี้ให้เธอฟัง เธอจะโตก่อนวัยได้ง่าย

ดังนั้นเขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาคล้ายกับหมาป่าตัวใหญ่ที่กำลังปลอบโยนกระต่ายสีขาวตัวน้อย : "มานี่เร็วเสี่ยวหรงหรง เดี๋ยวลุงช่วยประกอบรถถังคันใหญ่นี้ให้เสร็จ"

ทั้งสองคนนั่งประกอบด้วยกันอยู่อย่างนั้น จนชิงหรงรู้สึกง่วงนอน เธอมองไปที่ห้องที่คุณแม่เดินเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับกำลังรอให้หยางหลิงรุ่ยออกมา

เธออ้าปากหาวอยู่หลายครั้ง เดิมทีที่สามารถประกอบได้อย่างแม่นยำ ก็เกิดมีปัญหาขึ้นมาไม่หยุด

หยางยานไม่สามารถทนมองได้อีกต่อไป เขาเอ่ยถามขึ้นราวกับกำลังอ้อนวอน : "หรงหรง ไปนอนก่อนดีไหม"

ชิงหรงส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ทันที แบบที่ไม่ต้องปรึกษาหารือใด ๆ

หยางยานถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขานั่งประกอบเจ้ารถถังมานานแล้ว รถถังรุ่นนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนซื้อมา ทำไมมันถึงได้มีความซับซ้อนมากขนาดนี้

หยางยานค่อนข้างสนใจในการทำเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจต่าง ๆ

เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ฝีปากในการเจรจา และยังมีสาวสวยคอยเป็นอาหารตาอีกด้วย แต่เจ้าเกมประกอบที่น่าเบื่ออันนี้ ทำให้เขารู้สึกง่วงเหงาหาวนอนมาหลายครั้งแล้ว

ทันใดนั้นเอง เสียงหมุนลูกบิดประตูก็ดังขึ้น

หลังจากเนิบนาบอยู่ครู่นึง หยางยานก็รีบยันตัวขึ้นจากพื้นและวิ่งไปที่หน้าประตูด้วยความรวดเร็ว

ส่วนชิงหรงมองไดูรถถังที่กำลังจะประกอบเสร็จในไม่ช้าด้วยสีหน้าท้อแท้

หยางยานลุกขึ้นในทันที และความฉับพลันนั้นทำให้ตัวประกอบของชิงหรงพังกระจายออกจากกันบางส่วน

นั่นหมายความว่าความพยายามกว่าหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เปล่าประโยชน์ไปแล้ว

ชิงหรงมองไปที่ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างโกรธเคือง​ คุณลุงคนนี้ สิ่งที่เขาถนัดมากที่สุดก็คือการเป็นตัวถ่วงดี ๆ นี่เอง

แต่ตอนนี้คุณเเม่ออกมาแล้ว และเธอก็ง่วงมาตั้งนานเเล้วด้วย ทั้งสองคนจึงเดินมาล้อมรอบหยางหลิงรุ่ยเอาไว้

หลังจากประตูถูกเปิดออก ทั้งสามคนก็จ้องกันไปมา หยางหลิงรุ่ยอ้ำอึ้งไปครู่นึงก่อนจะเอ่ย :"พี่สาม ดึกขนาดนี้แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ พี่ควรจะกลับไปพักผ่อนเเล้วไม่ใช่เหรอ"

หยางหลิงรุ่ยจำไม่ได้ว่าตอนที่ตัวเองเข้ามา เธอมองเห็นหยางยานกับชิงหรงด้วย สองคนนี้ปรากฏตัวตั้งเเต่ตอนไหนกันนะ

และตอนนี้หยางยานก็สังเกตเห็นสายตาของชิงหรง

เมื่อกี้เขาทำอะไรไป เขาก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง

ยิ่งช่วยกลับยิ่งยุ่งเช่นเขา กลัวว่าถ้าหากยังอยู่​ต่อ​ไป​ อาจจะถูกชิงหรงกักตัวไว้เพื่อระบายความโกรธแน่ ๆ

ดังนั้นเขาจึงลูบหัวชิงหรงเบา ๆ​ ก่อนจะอ้าปากเตรียมพูดขึ้นอย่างสุภาพอ่อนโยน

แต่มือที่เพิ่งวางลงไปนั้น กลับถูกชิงหรงปัดออกทันที :"คุณลุง​ยังไม่ได้ล้างมือเลยนะ! "

รอยยิ้มของหยางยาน กลับกลายเป็นความเก้อเขินทันที

หลานสาวผู้รักความสะอาดคนนี้ ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังจริง ๆ !

“ถ้าอย่างนั้นพวกเธอรีบไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว หรงหรง พรุ่งนี้ลุงจะมาประกอบรถถังกับหนูใหม่โอเคไหม”

หยางยานมองไปที่โมเดลรถถังที่เพิ่งถูกเขาทำลายเมื่อสักครู่ พรุ่งนี้มาประกอบอีก เกรงว่าน่าจะใช้เวลาสักสามชั่วโมงได้

ชิงหรงทำท่ามองบนใส่หยางยานอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะโบกมือขึ้น : "ไม่จำเป็นแล้ว! คุณลุงกลับบ้านดี ๆ ไม่ไปส่งนะ"

ในน้ำเสียงของเธอไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด

หยางยานยกยิ้มเจื่อน ท่าทางของชิงหรงเมื่อกี้ ราวกับต้องการให้เขารีบกลับไปซะตอนนี้

นี่มันไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เอาซะเลย ในละครทีวีปกติไม่ควรจะเป็นเช่นนี้นี่นา

"น้องสาว งั้นฉันไปก่อนนะ เธอกับชิงหรงก็รีบเข้านอนเร็ว ๆ ส่วนโมเดลตรงนั้นอย่าพึ่งขยับมันนะ รอพรุ่งนี้ฉันมาทำกับชิงหรง ... "

หยางยานยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกชิงหรงเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว : "คุณลุง ถ้ายังพูดต่อไปฟ้าจะสว่างแล้วนะ!"

หยางยานหยุดชะงัก ก่อนจะรีบเดินออกไปในทันที

หยางหลิงรุ่ยยืนส่งพี่สามอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเอื้อมมือออกไปเพื่อทำสิ่งเดียวกันกับหยางยานต่อชิงหรง

แต่ชิงหรงกลับวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับไม่ลืมที่จะตะโกนออกมาว่า : "คุณแม่ มือของคุณแม่มันเยิ้มมาก ต้องใช้สบู่ล้างมือล้างให้สะอาด แล้วก็ ตัวของคุณแม่มีกลิ่น ...

หยางหลิงรุ่ยมองลูกสาวที่กำลังจะลับตาไปอย่างรวดเร็วด้วยความมึนงง ผ่านไปสักพักเธอถึงได้สติกลับมา

ที่เจ้าปีศาจน้อยชิงหรงพูดเมื่อสักครู่ จะบอกว่าคุณแม่น่าเกียจอย่างงั้นหรือ

แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยอมทำตามที่ชิงหรงบอก ก่อนอื่นคือจัดการกับขยะทั้งหมด จากนั้นไปที่ห้องน้ำ อาบน้ำชำระร่างกายจนเสร็จสรรพ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงขึ้นไปชั้นบน

เธอเปิดประตูห้องนอนของชิงหรงอย่างเบามือ ประตูห้องน้ำกำลังปิดอยู่ และมีเสียงน้ำไหลดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

หยางหลิงรุ่ยยืนอยู่ข้างนอกและตะโกนว่า : "เด็กดี คุณแม่เข้ามาได้ไหมคะ"

ไม่นาน หลังจากข้างในเอ่ยตอบอนุญาติ เธอถึงเดินเข้าไปในห้อง

นี่เป็นความต้องการของชิงหรง ถ้าให้เธอพูดก็คงจะเป็นเพราะเธอโตแล้วและต้องการความเป็นส่วนตัว

หลังจากหยางหลิงรุ่ยเข้าไปแล้วก็เห็นชิงหรงเต็มไปด้วยกลุ่มฟองสบู่ทั้งตัว เธอหลับตาราวกับเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวเล็ก ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

หยางหลิงรุ่ยก้าวไปข้างหน้า และหยิบผ้าขนหนูจากราวแขวนผ้าที่อยู่อีกด้านหนึ่ง จากนั้นเดินมานั่งลงข้าง ๆ ชิงหรงแล้วพูดขึ้นเสียงเบา : “แม่ไม่ได้ถูหลังให้หนูมานานแล้ว"

"ค่ะ"

ชิงหรงตอบรับ เธอลืมตาขึ้น ดวงตาใสสะอาดไร้มลทินและสวยงามของเธอ ทำให้ผู้คนรู้สึกอับอาย

หลังจากเฝ้ามองดูชิงหรงเติบโตขึ้นทีละนิดแล้ว หยางหลิงรุ่ยก็เริ่มรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม

ว่าชิงหรงนั้นเป็นอีกเวอร์ชั่นของฮั่วเทียนหลัน

เธอตัวสูงมาก สูงกว่าเด็กผู้หญิงในวัยเดียวกันกว่าคืบนึง

ลักษณะใบหน้าที่มีมิติและสวยงาม หากนำรูปถ่ายของฮั่วเทียนหลันมาเปรียบเทียบดู อาจจะรู้ในทันทีว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบพ่อลูกกัน

บางที นี่อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอกใช่ไหม

หยางหลิงรุ่ยคิดในใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาชิงหรงก็คิดว่าตัวเองไม่มีคุณพ่อมาตลอด

แม้ว่าเธอจะไม่เคยพูดมันอย่างชัดเจน แต่หยางหลิงรุ่ยก็รู้ดีอยู่แก่ใจ

เด็กคนนี้หัวใจอ่อนไหวมาก มิฉะนั้นเธอคงจะไม่เถียงหรือว่าต่อสู้จนไม่คำนึงภาพลักษณ์ของตัวเองเมื่อถูกเด็กในวัยเดียวกันพูดไม่ดีใส่ตอนอยู่ที่โรงเรียน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกปวดหัวใจขึ้นมา เดิมทีมือที่คอยถูตามหลังให้ชิงหรงอยู่ ก็หยุดชะงักลงอย่างไม่รู้ตัว

อารมณ์และความรู้สึกของเธอ ถูกแสดงออกมาผ่านสีหน้าอย่างเก็บไม่มิด

เธออาจจะไม่ทันได้สังเกต แต่ชิงหรงนั้นสามารถสัมผัสถึงมันได้

ชิงหรงเป็นเด็กผู้หญิงที่เอาใจใส่มาก เธอพลิกตัวจากอ่างอาบน้ำอย่างกระฉับกระเฉง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูจากมือของหยางหลิงรุ่ยมา

เดิมทีหยางหลิงรุ่ยก็ถือมันด้วยความแผ่วเบา ดังนั้นชิงหรงจึงดึงมันออกไปได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะวางไว้ที่ด้านข้าง

เธอยื่นมือออกไปปัดที่จมูกของหยางหลิงรุ่ยเบา ๆ

"คุณแม่ร้องไห้จนถึงจมูกแล้ว!"

"หือ?" เสียงนุ่มนวลอ่อนโยนทำให้หยางหลิงรุ่ยผงะเล็กน้อย

เธอรีบเอื้อมมือไปแตะที่มุมตาของตัวเอง ก่อนจะพบว่าน้ำตาไม่ได้ไหลออกมาแต่อย่างใด แม้ว่าเมื่อสักครู่เธอจะรู้สึกปวดใจ จนรอบดวงตาเริ่มชื้นน้ำก็เถอะ

"ไม่ใช่สักหน่อย ลูกรัก คุณแม่กำลังถูหลังให้หนูอย่างตั้งใจอยู่นะ!"

หยางหลิงรุ่ยสูดจมูกและกระแอมในลำคอ ก่อนจะแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ความจริงแล้วเธอเองก็รู้สึกใจไม่ดีเหมือนกัน ตัวเองในช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องกังวลใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

ชิงหรงไม่ได้เอ่ยตอบในทันที แต่เธอมองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยสายตาสื่อความหมาย

ในคราแรกหยางหลิงรุ่ยยังคงสามารถจ้องมองเธอกลับ แต่ต่อมาเธอไม่สามารถทนต่อสายตาอันบริสุทธิ์ของชิงหรงได้

ดวงตาคู่นั้นสามารถสื่อได้อย่างชัดเจน ภายในนั้นแสดงประโยคเดียวซ้ำ ๆ

คุณแม่กำลังโกหกหนูอีกแล้วใช่ไหม

แม่และลูกสาวต่างตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หยางหลิงรุ่ยไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนชิงหรงก็ดูเหมือนกำลังอ่านหาข้อมูลอะไรบางอย่างผ่านใบหน้าของหยางหลิงรุ่ย

จนสุดท้ายเป็นหยางหลิงรุ่ยที่ทำลายความเงียบลง

“ลูกรัก หนูอาบเสร็จแล้วเหรอ”

“คุณแม่คะ ถ้าหนูยังแช่ต่อไปผิวหนังได้ลุ่ยออกแน่... ”

ไม่รู้ว่าชิงหรงเรียนรู้คำศัพท์นี้มาจากที่ไหน แต่นั่นทำให้หยางหลิงรุ่ยอึ้งไปชั่วขณะ

คำว่าลุ่ยออกสองพยางค์นี้ ฟังดูน่าขำดี

เธอหยิบผ้าเช็ดตัวจากด้านหนึ่งมา ก่อนจะนั่งยอง ๆ ลงและห่อตัวชิงหรงเอาไว้

พวกเธอมักจะทำเช่นนี้มาตลอดสองปีที่ผ่านมา เป็นเหมือนความร่วมมือระหว่างแม่ลูกอย่างหนึ่ง

พอชิงหรงลุกขึ้นยืน ตัวเธอก็เข้าไปอยู่ตรงกลางของผ้าเช็ดตัวพอดี

จากนั้นก็ห่อตัวเองให้แน่นและเดินออกจากอ่างอาบน้ำมา

หยางหลิงรุ่ยหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำจากอีกด้านหนึ่งที่วางไว้บนตู้กระจก และเดินออกไปก่อน

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ชิงหรงก็ออกมาจากห้องน้ำ

ผมยาวดกดำเงางามของเธอ มีหยดน้ำใสราวกับคริสตัลเกาะอยู่

ชิงหรงเดินไปหาอย่างหลิงรุ่ยอย่างคล่องแคล่วและนั่งลงข้าง ๆ หยางหลิงรุ่ยเปิดเครื่องเป่าผมและเป่าผมให้เธอจนแห้ง

เด็กวัยนี้เส้นผมควรจะเป็นอ่อนและค่อนข้างนุ่ม

แต่ชิงหรงนั้นแตกต่างออกไป ผมที่สวยงามของเธอเป็นสีดำและเงางามมาก ราวกับเป็นผลลัพธ์จากการใช้แชมพูสักยี่ห้อที่มักจะโฆษณาบ่อย ๆ ทางทีวี

ผมสีดำของเธอนี้ ทำให้ผู้ที่มีผมสีขาวและมักจะหลุดร่วงออกจากศีรษะบ่อย ๆ อย่างตงเหยียนรู้สึกทั้งรักทั้งอิจฉา

ขณะเป่าผม ชิงหรงมองตัวเองในกระจกและมองดูหยางหลิงรุ่ยที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างฉับพลัน : "คุณแม่คะ"

"หืม? มีอะไรคะลูกรัก"

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของชิงหรง หยางหลิงรุ่ยก็ใจสั่นขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก

ฟังจากน้ำเสียงของชิงหรง ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างแอยแฝงอยู่ เด็กคนนี้คิดจะถามคำถามยาก ๆ กับเธออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย

ดั่งคำพูดที่ว่าไม่มีใครเข้าใจลูกได้ดีไปกว่าแม่ ชิงหรงเข้าใจหยางหลิงรุ่ย แต่หยางหลิงรุ่ยนั้นเข้าใจชิงหรงมากกว่าหลายเท่า

เด็กคนนี้ขอเพียงได้ถามอะไรอย่างเป็นทางการขึ้นมา ก็มักจะเป็นคำถามที่ทำให้เธอต้องปวดหัวเป็นอย่างมาก

"ช่วงนี้คุณแม่ทำงานเป็นอย่างไรบ้างคะ"

แต่คำพูดของชิงหรงที่เอ่ยขึ้นมา กลับทำให้หยางหลิงรุ่ยตกตะลึง

เธอมองดูชิงหรงที่ใบหน้าไร้ความรู้สึกผ่านกระจกด้วยความประหลาดใจ ราวกับต้องการจับสังเกตผ่านใบหน้าของอีกฝ่ายว่ากำลังคิดอะไรอยู่

แต่ความคิดความรู้สึกของชิงหรงนั้น มักจะถูกฝังลงไปลึกมาก ๆ ซึ่งเธอไม่สามารถมองแวบเดียวแล้วสามารถรับรู้ได้เลย

ดังนั้น หยางหลิงรุ่ยจึงทำได้เพียงตอบอย่างตรงไปตรงมา : "อืม ก็ไม่เลวนะ มีทำไมเหรอ"

เธอรู้ว่าชิงหรงจะต้องซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในใจ หยางหลิงรุ่ยจึงเอ่ยถามอีกครั้ง

แต่คราวนี้ชิงหรงที่อยู่ในกระจกกลับหลุบตาลง

ความกังวลใจของเด็กผู้หญิงมักจะอ่อนไหวและเข้าใจยากที่สุด

ชิงหรงรู้สึกกลัว ตั้งแต่ที่ลุงฮั่วคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมา เธอก็รู้สึกตื่นตระหนกไม่น้อย

“คุณแม่ คุณลุงฮั่วคนนั้นยังตามติดคุณแม่อยู่ไหมคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง