ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา ซัวรุ่ยที่เหิมเกริมเมื่อสักครู่ก็เงียบลงทันใด
ใบหน้าของเขาซีดเผือดขึ้นมา ในใจตอนนี้แทบอยากจะฉีกหยางหลิงรุ่ยออกเป็นชิ้น ๆ
กล้องวงจร? พูดเป็นเล่น ถ้าหากมีกล้องวงจรจริง ๆ เขาจะมากล่าวหาหยางหลิงรุ่ยอยู่แบบนี้เหรอ แน่นอนว่าต้องนำเอาหลักฐานออกมาหาตัวคนร้ายตั้งนานแล้วล่ะ
เดิมทีเขาแค่พูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร แค่ต้องการขู่หยางหลิงรุ่ยสักหน่อย ให้เธอยอมตกเป็นแพะรับบาปเสียดี ๆ
ส่วนใครเป็นคนทำจริง ๆ นั้น ซัวรุ่ยสืบไม่พบและไม่ได้คิดจะสนใจ เพราะเขาต้องการเพียงผู้รับผิดชอบเท่านั้น
แต่คาดไม่ถึงว่าหยางหลิงรุ่ยจะรับมือยากขนาดนี้ และนั่นทำให้ซัวรุ่ยไม่อาจหยุดกลางคันได้
“หยางหลิงรุ่ย เธอจะดื้อด้านจนถึงที่สุดให้ได้เลยใช่ไหม”
เมื่อเห็นใบหน้าของซัวรุ่ย หลี่ชานชานก็รู้ทันทีว่าซัวรุ่ยกำลังลำบากใจแล้ว
เธอได้ตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้วว่าที่กองถ่ายไม่มีกล้องวงจร ถ้าหากมีกล้องวงจร เธอก็คงไม่กล้าเข้ามาแน่นอน
เดิมทีเธอแค่อยากจะแก้แค้นเชลลีย์ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหยางหลิงรุ่ยจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นนี้
นี่มันเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอย่างแท้จริง ดังนั้นตอนนี้เธอจึงรู้สึกมีความสุขในใจเป็นอย่างมาก
"เหอะ ฉันดื้อด้านอย่างงั้นเหรอ หลี่ชานชานเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเธอด้วยหรือ"
หยางหลิงรุ่ยพูดขึ้นมาอย่างตรงประเด็น ทำให้คนที่มุ่งเน้นมาที่เธอในตอนแรก มองไปที่หลี่ชานชานอย่างรู้สึกสงสัยทันที
เพราะหลี่ชานชานค่อนข้างแปลกหน้า จึงทำให้ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเธอยืนอยุ่ด้านข้างซัวรุ่ย
"ฉัน ฉันก็แค่ไม่อาจทนดูได้ ผู้อำนวยการหยาง เธออย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ ผู้กำกับซัวได้ให้โอกาสเธอแล้ว เธอแน่ใจหรือว่าจะดื้อดึงไม่ยอมรับผิดต่อไปเช่นนี้"
คำพูดของหลี่ชานชานความแข็งนอกแต่ข้างในกลับเริ่มหวาดหวั่น และสิ่งที่ได้กลับมาจากหยางหลิงรุ่ยนั้นมีเพียงแค่เสียงหัวเราะอย่างแผ่วเบา
"โอ้ เป็นฉันที่เปลี่ยนเรื่องยังงั้นเหรอ ดูเหมือนว่าบนโลกนี้มีคนที่ชอบอ้างตนว่าเป็นคนชอบธรรมไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างน้อย ก็มีคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้"
ประโยคนี้เป็นการพูดเสียดสีความจอมปลอมของหลี่ชานชานโดยตรง
เมื่อได้ยินหยางหลิงรุ่ยพูดเช่นนี้ หลี่ชานชานก็สะดุ้งขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นสายตาของหยางหลิงรุ่ยก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาฉับพลัน สายตาเฉียบคมของเธอทำให้หลี่ชานชานเริ่มเกิดความลุกลี้ลุกลน
"หลี่ชานชาน ที่เธอรีบตัดสินคนทำผิดเช่นนี้ เพราะอะไรเหรอ มีความคิดชั่วร้ายในใจ?"
"เหลวไหล ฉันก็แค่ ... "
หลี่ชานชานยังกล่าวไม่จบประโยค ก็ถูกหยางหลิงรุ่ยพูดแทรกขึ้นมาทันที
“เธอก็แค่แอบเข้าไปในกองถ่ายและจงใจทำลายชุดเพื่อไม่ให้คุณเชลลีย์ปรากฏตัวบนเวทีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คุณเชลลีย์ต้องรู้สึกกลัดกลุ้มใจ?”
คำพูดของหยางหลิงรุ่ยเริ่มใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากแล้ว
แต่น่าเสียดายที่หลี่ชานชานถูกหยางหลิงรุ่ยทำให้เขวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอก่อนเรื่องมามากมายนับไม่ถ้วน ทำให้จิตใจของเธอด้านชาโดยธรรมชาติ
และไม่ถูกหยางหลิงรุ่ยยั่วโมโหได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนั้น ดังนั้นเธอจึงสงบลงอย่างรวดเร็ว
“การคาดเดาของคุณหยาง ทำให้ฉันอยากจะปรบมือให้จริง ๆ!”
พวกเขาสองคนต่อปากต่อคำกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ เมื่อเห็นว่าพวกเธอเริ่มจะเถียงกันอีกระลอก ซัวรุ่ยที่ยืนเงียบมานานก็กระแอมไอขึ้นมาฉับพลัน
"พอได้แล้ว นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเธอทั้งสองจะปะทะฝีปากกัน"
"หยางหลิงรุ่ย ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้ายว่าเป็นเพราะเธอกังวลว่าพวกเราจะไปแย่งความดีความชอบของ Yang's Entertainment ดังนั้นเธอจึงจงใจทำลายชุดของเชลลีย์ ทำให้การแสดงนี้ไม่ขึ้นโชว์ได้ เพื่อที่ Yang's Entertainment ของพวกเธอจะได้นั่งครองตำแหน่งอย่างมั่นคงใช่ไหม"
ซัวรุ่ยค่อนข้างเชี่ยวชาญด้านภาษาจีน เขาจึงพูดได้คล่องแคล่ว ถึงขนาดที่สามารถพูดชักเรื่องราวได้เป็นฉาก ๆ
หยางหลิงรุ่ยส่ายหัวปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นลูกตาหรือสายตาของเธอต่างก็ดูใสสะอาดไร้มลทิน
“ผู้กำกับซัว คุณบอกว่าฉันทำลายชุดของเชลลีย์เพื่อต้องการทำลายตอนจบของการแสดง ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามอะไรหน่อย เดิมทีงานนี้ก็จัดขึ้นโดย Yang's Entertainment และ Fahrenheit Entertainment ในฐานะเจ้าภาพ Yang's Entertainment ก็คาดคาดหวังให้งานออกมาดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วฉันมีเหตุผลอะไรที่ต้องก่อเรื่องด้วยล่ะ”
หยางหลิงรุ่ยบอกกับซัวรุ่นอย่างตรงไปตรงมา
ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพคนหนึ่ง การที่คุณมากล่าวหาว่าฉันก่อเรื่องนั้น ต้องการจะบอกว่าฉันสมองไม่ดีหรือคุณกำลังหลับหูหลับตาคาดเดาและยัดความผิดไปมั่วกันแน่
ซัวรุ่ยตกตะลึงไปชั่วขณะ ผ่านไปสักพักถึงเอ่ยขึ้น : "เธอ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ใจของเธอรู้ดีที่สุด"
ท่าทางของซัวรุ่ยในตอนนี้ ไม่หลงเหลือความเย่อหยิ่งเมื่อสักครู่เลยสักนิด
หลี่ชานชานที่อยู่ด้านข้างจึงรีบช่วยพูดเสริมขึ้นมา
"ผู้กำกับซัวคะ มีบางเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่เข้าใจ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้คุณฟังเอง"
ในขณะนั้นเอง ใครสักคนในกลุ่มคนนั้นก็เอ่ยเตือนขึ้นว่าใกล้จะถึงเวลาขึ้นแสดงแล้ว
ซัวรุ่ยมองผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะกระซิบออกคำสั่ง : "นายไปจัดรายการเล็ก ๆ เพื่ออุ่นเครื่องรอและถ่วงเวลาออกไปก่อน"
จากนั้นเขาก็จ้องลึกไปที่หลี่ชานชาน
แววตาของเขา มีสิ่งที่มีเพียงคนอย่างเขาและหลี่ชานชานเท่านั้นที่สามารถมองออก
"พูดตรงประเด็นมาเลย เธอมีเวลาแค่สิบนาที"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง