โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 395

ในคำพูดของหลี่ชานชานต้องมีส่วนจริงอยู่บ้าง

แต่มันจะจริงแค่ไหน ใจของซัวรุ่ยก็ไม่รู้

แต่เขาก็มีลางสังหรณ์ว่าคำพูดของหลี่ชานชานมีความจริงอยู่ในนั้นครึ่งหนึ่งแน่ๆ

ด้านหนึ่งหัวหน้าแห่งวงการบันเทิง อีกด้านหนึ่งเป็นแค่คนที่ต้องการความช่วยเหลือ

ซัวรุ่ยคิดถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หยางหลิงรุ่ยอีกครั้ง

ผู้หญิงคนนี้ตอนที่ยังไม่รู้ตัวตนของเธอ ก็คิดว่ารูปร่างท่าทางของเธอมองแล้วทำให้สบายใจมาก ความรู้สึกที่ฟุ้งซ่านเหล่านั้นเข้ามาในใจของเขาตลอด

แต่หลังจากที่รู้ตัวตนของเธอแล้ว ใจของซัวรุ่ยก็รู้สึกถดถอยเล็กน้อย

เขาไม่รู้ว่าในสมองของผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่ดูจากคำพูดของเธอเมื่อสักครู่แล้ว เธอน่าจะเข้าใจในสิ่งที่เขาอธิบายออกไปเมื่อสักครู่

งั้นซัวรุ่ยก็ต้องคิดสักหน่อยแล้วว่าหยางหลิงรุ่ยจะเอาคำพูดที่เขาพูดเมื่อสักครู่ไปบอกกับหลี่ซือหยวนหรือเปล่า

ถ้าหากบอกหลี่ซือหยวนไปแล้ว หลี่ซือหยวนจะโกรธหรือไม่ และจะแก้แค้นซัวรุ่ยหรือเปล่า?

ราวกับว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ซือหยวนไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไปแล้วหรอ?

ซัวรุ่ยแอบคิดอยู่ในใจ ปากของเขาก็พูดออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ

“หยางหลิงรุ่ย คุณยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

“ฉันควรจะพูดอะไร?”

หยางหลิงลุ่ยทำในสิ่งที่เธอต้องการ พูดกลับไปอย่างตรงไปตรงมา

เธอรู้ว่าเธอพูดไปอย่างไรก็มีแต่คนมองว่าเธอเป็นคนดื้อรั้น ดังนั้นเธอจึงปล่อยให้หลี่ชานชานและซัวรุ่ยพูดอะไรออกมาก่อน และรอจังหวะที่ดี

กดดันกันเหรอ?

เหอะ นี่มันเมืองS ตระกูลหยางยังไงก็เป็นใหญ่

ถ้าหากเธอถูกแกล้ง ตระกูลหยางมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ยังไงก็กวาดล้างได้

สายตาของเขามองไปที่หยางหลิงรุ่ย แต่ไม่ได้ตอบกลับในทันที

เขายังคงไม่ยอมตัดสินใจ เพราะการที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะเขาต้องการเว้นระยะสักเล็กน้อย

แต่งานนี้ หากมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น ก็ต้องมีคนเข้าไปจัดการดูแล

ถ้าหยางหลิงรุ่ยไม่รับเคราะห์นี้ คนที่รับเคราะห์ก็คงจะเป็นซัวรุ่ย

และแม้ว่าซัวรุ่ยจะทำให้หยางหลิงรุ่ยต้องแบกรับมัน แต่เขาก็ยังต้องแบกรับภาระอะไรอีกหลายอย่าง

หรือว่า เขาจะหาคนใหม่มารับเคราะห์นี้แทน?

ซัวรุ่ยไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปที่หลี่ชานชาน แม้ว่าจะไม่อยากทำ แต่พอมองไปที่สายตาของหลี่ชานชานเพียงแวบเดียว เขาก็อ่านสายตาของเธอออก

ผู้หญิงคนนี้ทำงานกับที่นี่มานาน เนื่องจากเธอรู้กฎการทำงานของที่นี่ดีดังนั้นความสัมพันธ์ของเธอและซัวรุ่ยจึงมากกว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิททั่วไป

ซัวรุ่ยมองไปที่หลี่ชานชานเพียงแวบแรกก็คิดว่าใบหน้าของเธอคุ้ยเคยเหลือเกิน

แต่พอเขาคิดไปคิดมาก็ไม่ได้มีเธออยู่ในความทรงจำและตอนนั้นเขาก็มีธุระจึงไม่ได้มองอย่างละเอียด

แต่ตอนนี้เขาคิดออกแล้ว ทำไมเขาถึงคุ้นเคยกับหลี่ชานชาน

ตอนที่ซัวรุ่ยยังไม่ได้เข้ามาในวงการ เขาเคยเห็นหลี่ชานชานในงานเทศกาลภาพยนตร์

หลี่ชานชานในตอนนั้นเธอเป็นผู้ช่วยหญิงที่สง่างามที่สุด

เห็นแค่แวบเดียวก็ทำให้ซัวรุ่ยรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เก็บรูปร่างและชื่อของเธอไว้ในความทรงจำลึกๆ และคิดต่อไปว่าถ้าหากมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในสายงานนี้ เขาจะต้องจีบเธอ

แต่ตอนนี้โชคชะตาได้เล่นตลกกับซัวรุ่ย

ในคืนนั้นเขาไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ จากนั้นก็เลิกรา

หลังจากแยกย้าย เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขาก็จำได้ไม่ค่อยชัดเจน แค่จำได้ลางๆว่าเคยเจอผู้หญิงที่ทำให้เขาตกตะลึงที่งานเทศกาลภาพยนตร์

หลังจากที่ซัวรุ่ยเข้ามาในสายอาชีพ และเปลี่ยนจากผู้กำกับเล็กๆกลายมาเป็นสุดยอดผู้กำกับ ข้างกายของเขาก็มีผู้หญิงเข้ามามากมายจนทำให้ค่อยๆลืมเรื่องราวเหล่านั้นไป

ดังนั้นตอนนี้เขาจำเธอได้แล้ว ถึงแม้ใจของเขาจะร้อนรนเล็กน้อยแต่ก็ยังพยายามที่จะทำในสิ่งที่เคยคิดไว้ในอดีตต่อไป

ซัวรุ่ยใจหลี่ชานชานบ้างแล้ว นั่นเป็นเพราะเชลลีย์เคยบอกกับเขาไว้

หลี่ชานชานคนนี้คือคนที่มีความเป็นไปได้สูงสุดในการจะมาเป็นผู้อำนวยการของ Yang's Entertainment แต่เนื่องจากการมาของหยางหลิงรุ่ย จึงทำให้เธอถูดโยนทิ้งน้ำ

ดังนั้นหลี่ชานชานจึงต้องการทวงความยุติธรรม หรือจะพูดว่าเธอพยายามหาโอกาสที่จะเหยียบหยางหลิงรุ่ยให้จมดิน เรื่องนี้ใครไม่ใช่เธอก็คงไม่เข้าใจ

และถ้าเป็นความหมายของประโยคหลัง ซัวรุ่ยก็เปรียบเสมือนอาวุธของหลี่ชานชาน

นี่เป็นสิ่งที่คนโอ้อวดอย่างซัวรุ่ยไม่มีทางรับได้และไม่มีทางที่จะทำแบบนั้น

แต่นอกเหนือจากคนที่ถูกเรียกเข้ามาเป็นพยานแล้ว รอบๆก็มีแต่พนักงานของเขา

สำหรับพยานเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่สำหรับคนรอบตัวแล้วถ้าเขาทำแบบนั้นไปความยุติธรรมที่เขาเคยมีมามันก็หมดสิ้นไป

นี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับคนในทีม ถ้าทำแบบนั้นหลังจากนี้ก็คงจบสิ้น

จู่ๆโทรศัพท์ของซัวรุ่ยก็ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาดูจากนั้นก็ตัดสายทิ้ง ไม่นานก็มีข้อความส่งมา

คนที่โทรมาก็คือเถ้าแกของบริษัทที่ซัวรุ่ยทำงานอยู่ เขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับเชิญ เขาเห็นว่าตอนจบของหนังยังจัดการไม่เสร็จ ใจของเขาจึงรู้สึกกังวล เขาออกมาเข้าห้องน้ำเพื่อโทรไปหาซัวรุ่ย

แต่สื่งที่น่าแปลกใจคือซัวรุ่ยตัดสายเขาทิ้ง

สักพักข้อความที่ส่งมาทำให้เขาตะลึงมาก

“จอห์น ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อย ผมกำลังจะจัดการมันอยู่”

“ซัวรุ่ย ผมไม่สนใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น วันนี้มันต้องไม่มีเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น!”

มองเห็นข้อความที่ส่งกลับมา ใจของซัวรุ่ยก็ตกต่ำลง

เขามองไปที่หยางหลิงรุ่ย และก็มองไปที่หลี่ชานชาน ทันใดก็เกิดทางเลือกที่ยุ่งเหยิงขึ้นมา

“ผู้กำกับซัว ทุกคนก็ยืนรอมาตั้งนานแล้ว ก็ยังไม่มีการชี้แจงอะไร หรือจะให้พวกเราพูดกันเอง?”

หยางหลิงรุ่ยมองความลังเลที่อยู่ในสายตาของซัวรุ่ยเมื่อสักครู่ ความสัมพันธ์ระหว่างซัวรุ่ยกับหลี่ชานชานคงจะไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่

หรือจะพูดอีกอย่างว่าทั้งสองคนเพิ่งจะมาร่วมมือกันเมื่อสักครู่เท่านั้น

เธอไม่จำเป็นต้องต่อต้านซัวรุ่ยในตอนนี้ แต่สามารถไปคุยกับเขาเพียงลำพังได้

ตัวอย่างเช่น บอกซัวรุ่ยว่าเธอเห็นเงาสีแดงๆไม่ค่อย? และ หลี่ชานชานและจอห์นมีเรื่องอะไรดีต่อกัน?

เธอมองออกว่า คนที่ฉลาดอย่างซัวรุ่ยคงไม่ทำเรื่องโง่ๆในเวลาที่สำคัญแบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่หลี่ชานชานพูดเกี่ยวกับสถานะของหยางหลิงรุ่ย ทุกค้นล้วนสงสัยว่าเธอพูดเพื่ออยากให้ซัวรุ่ยลงโทษกับคนที่อยู่เบื้องหลังของหยางหลิงรุ่ยหรือเปล่า

สิ่งที่หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาทำให้ผู้กำกับและพยานหลายๆคนหาเหตุผลที่จะออกไปจากห้องนี้

“ซัวรุ่ย ฉันมีเรื่องที่ยังสะสางไม่เสร็จ ฉันต้องไปก่อนแล้ว พวกนายค่อยๆคุยกันไปนะ”

“ผู้กำกับซัว ผมยังไม่บทที่ยังอ่านไม่จบต้องใช้เวลาอีกสิบกว่านาที ผมไปก่อน.....”

ซัวรุ่ยพยักหน้า อนุญาตให้ทุกคนออกไป

ที่จริงทุกคนก็เข้าใจ มีธุระจริงไหม นานแค่ไหน กลับหรือไม่กลับมา ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่ข้ออ้าง

เรื่องก็ดำเนินมาถึงตรงนี้แล้ว ซัวรุ่ยเข้าใจว่าหยางหลิงรุ่ยมีสถานะเท่าเทียบกับตัวเอง

เขาทำท่าทางเชื้อเชิญหยางหลิงรุ่ยโดยการผายมือ เพื่อให้หยางหลิงรุ่ยเดินตามเขาเข้ามาในห้อง

ผู้รับผิดชอบของ Yang's Entertainment คิดอยากจะตามมาแต่หยางหลิงรุ่ยโบกมือให้เขารออยู่ด้านนอกเงียบๆ

และหลี่ชานชานที่หน้าด้าน แน่นอนว่าเธอต้องเดินตามเข้ามา

แต่ก็ต้องหยุดอยู่ที่หน้าประตูเพราะถูกเชลลีย์ขวางทางเอาไว้

“นายหมายความว่าอย่างไร?” หลี่ชานชานพูดด้วยความโกรธ

เธอคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซัวรุ่ยในตอนนี้กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เชลลีย์ยังจะกล้ามันขัดขวางเธอ?

ตอนแรกที่พวกเขายังร่วมมือกันหลี่ชานชานก็ยังมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้กับเชลลีย์

แต่ตอนนี้ถ้ามีโอกาสหลี่ชานชานก็คงจะเหยียบเชลลีย์ให้จมดินเหมือนกับสิ่งที่เธอคิดจะทำกับหยางหลิงรุ่ย

เชลลีย์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร และซัวรุ่ยก็ถูกเสียงที่ดังมาจากด้านหลังเรียกให้หยุด เขาหันหลังมามองที่หลี่ชานชาน พูดออกมานิ่งๆว่า “เธออยู่รอด้านนอกไปก่อนเถอะ!”

ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีโซฟาและเก้าอี้นั่งเพียงไม่กี่ตัว หยางหลิงรุ่ยและซัวรุ่ยนั่งตรงข้ามกัน สุดท้ายเธอก็เป็นคนพูดออกมาก่อน

“ผู้กำกับซัว เรื่องชุดการแสดงนั้นคุณไม่ต้องเป็นกังลว ฉันจะให้ผู้ช่วยของฉันเป็นคนจัดการให้ จะเหมือนกับที่ชุดของคุณเชลลีย์ใส่เปี๊ยบเลย!”

ซัวรุ่ยตกใจ เขามองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอสามารถแก้ปัญหาเรื่องเครื่องแต่งกายได้

“คุณจะทำอย่างไร?”

“คุณคิดว่าไง?”

หยางหลิงรุ่ยไม่ได้พูดไปตรงๆว่าเครื่องแต่กายที่เชลลีย์ใส่ในตอนแรกยังมีสิ่งที่เธอไม่พอใจอยู่หลายจุด ดังนั้นในตอนที่เธอรู้สึกเบื่อจึงนั่งทำชุดแบบนั้นขึ้นมาใหม่

แต่ชุดที่เธอเพิ่งทำออกมาใหม่นั้นเธอยังไม่เคยนำออกมาให้เห็น นั่นเป็นเพราะเธออยากจะเก็ยไว้เป็นที่ละลึก

เมื่อสักครู่ที่เธอส่งข้อความออกไป เป็นข้อความที่ส่งไปถึงเย่ตง บอกให้เธอไปบ้านของตระกูลหยางเพื่อไปนำชุดนั้นมาส่งให้

ในตาของซัวรุ่ยยังเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไม่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตัดสินใจที่จะเชื่อหยางหลิงรุ่ย

ถ้าสมองของหยางหลิงรุ่ยยังไม่พังไปหละก็ เวลาที่สำคัญขนาดนี้เธอยังจะกล้าโกหกเขาอีกหรอ

“ทำความรู้จักกันอีกสักครั้ง ฉันชื่อหยางหลิงรุ่ย เป็นผู้อำนวยการแผนกภาพยนตร์ของ Yang's Entertainment”

หยางหลิงรุ่ยยื่นมือออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและท่าทางที่เป็นมิตร ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกสนิทชิดเชื้อ

ซัวรุ่ยชะงัก แต่ก็ยื่นมือออกไปจับมือของหยางหลิงรุ่ย

การจับมือในครั้งนี้ทำให้เข้าใจได้หลายอย่างแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ลบมันทิ้งไปให้หมด

ซัวรุ่ยมองมาที่หยางหลิงรุ่ย และเริ่มประเมินผู้หญิงคนนี้ใหม่ในใจ

เมื่อสักครู่เขายังคิดว่าคำพูดของหลี่ชานชานมีความเป็นจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ดูจากตอนนี้แล้วมันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงเลย

หยางหลิงรุ่ยคนนี้สร้างความประทับใจแรกให้กับคนอื่นได้ดีมาก ทั้งสวยและสง่างาม มองไปสองสามครั้งก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่สงบและดูน่าเชื่อถือ

แค่การแสดงออกเหล่านี้ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าคำพูดที่หลี่ชานชานพูดออกมาเมื่อสักครู่มันคือคำโกหก

หยางหลิงรุ่ยคนนี้ถ้าซัวรุ่ยมองไม่ผิด เธอต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ

ถ้าจะบอกว่าเธอเป็นมือที่สาม ก็คงไม่ดูมั่นใจขนาดนี้

“คุณนายหยางผมต้องขอโทษจริงๆเกี่ยวกับพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของผม”

สำหรับซัวรุ่ยแล้วถ้าจะอยู่ในวงการนี้ไปนานๆ ก็ต้องรู้จักหนักเบา

ดวงตาของหยางหลิงรุ่ยก็มีความประหลาดใจเกิดขึ้นมาทันที แต่แค่แวบเดียวมันก็จางหายไป สำหรับความทรงจำที่เธอมีกับซัวรุ่ยมันก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย

“ผู้กำกับซัว คุณคิดจริงๆหรอว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ฉันเป็นคนทำ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง