“ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องขอโทษด้วย”
เมื่อหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยพูดจบ เขาก็โชว์กระบองของเขาขึ้นทันที
กระบองนี้เป็นของแท้ราคาสมน้ำสมเนื้อที่ได้รับการเสริมแรงเพิ่มเข้าไป โดยมีฟันหมาป่าแหลมคมเสริมอยู่ตรงด้านหน้า
โจวหยวนยิ้มหัวเราะขึ้นมาทันที รอยยิ้มของเขาเป็นรอยยิ้มที่ดูสูงส่ง สายตาเหยียดหยามของเขานั้น ทำให้หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยแทบจะพุ่งกระโจนเข้าไปตบหน้าเขาสักฉาด
ยิ้มหัวเราะได้อย่างเย่อหยิ่งขนาดนี้ ใครกันที่มอบความมั่นใจให้แก่เขานัก!
"ฉันรับประกันว่าภายในสิบนาที นายจะต้องยอมหลีกทางให้ฉันอย่างแน่นอน"
พูดจบ โจวหยวนก็หันกลับไปและเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าผู้กระทำความผิด
เมื่อเห็นผู้กระทำความผิดดูเหมือนจะมีเค้าลางได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว เขาจึงกดโทรออกทันที : "ลงมาเถอะ"
หลังจากเอ่ยพูดสั้น ๆ ออกไปแล้ว เขาก็กดวางสายทันที
หนึ่งนาทีผ่านไป สองนาทีผ่านไป แต่ยังไม่ถึงสามนาที...
ก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็มีเสียงคนพูดที่ค่อนข้างสุภาพและประจบสอพลอดังขึ้นมา
"โอ้ ประธานโจว คุณก็มาที่นี่ด้วยเหรอครับ มาก็ไม่บอกผมสักคำเลยนะ ผมจะได้ลงมาต้อนรับ!"
หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยหันหน้าไปตามเสียง ก่อนจะตกตะลึงไปทันที
เพราะคนที่มาใหม่นั้นเป็นผู้จัดการอาวุโสของซูเปอร์มาร์เก็ตที่เขาทำงาน
เขาไม่ใช่ผู้จัดการทั่วไป แต่เป็นถึงผู้จัดการที่ควบตำแหน่งท่านประธานเลยทีเดียว
เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของอีกฝ่ายกำลังเอ่ยทักทาย โจวหยวนก็ทำท่าเฉยเมย อย่างไม่มีความเสแสร้งใด ๆ เลยสักนิด
"ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อตีสนิทกับคุณ เมื่อสักครู่เกิดเหตุขึ้นเล็กน้อยจนท่านประธานฮั่วได้รับบาดเจ็บ และผมต้องการพาคนกลับไปด้วย"
ท่าทีเฉยเมยของโจวหยวน ทำให้ผู้จัดการอาวุโสคนนี้ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แต่สีหน้าเช่นนี้ฉายอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะถูกกำจัดออกไป
เนื่องจากตัวตนของโจวหยวน จึงทำให้เขาสามารถแสดงท่าทีเย่อหยิ่งได้เช่นนั้น
ผู้จัดการอาวุโสรีบพูดอย่างกระตือรือร้น : "ถ้าอย่างนั้น ประธานโจว ครั้งหน้าถ้าคุณมาต้องบอกผมล่วงหน้าก่อนนะครับ ผมจะได้ลงมาต้อบรับคุณและไปดื่มน้ำชาด้วยกัน!"
ผู้จัดการอาวุโสคนนี้แทบจะวางตัวอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว
ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีฝูงชนอยู่กันเยอะขนาดนี้ หยางหลิงรุ่ยคิดว่าแม้โจวหยวนจะให้อีกฝ่ายคุกเข่าลงและเลียแข้งเลียขาเขา อีกฝ่ายก็จะยอมทำตามอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
โจวหยวนอืมตอบ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเรียบเฉย
หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยไม่ได้เต็มใจที่จะหลีกทางให้มากนัก แต่เมื่อเห็นว่าคนคนนี้แม้แต่เจ้านายของเขาเองยังไม่อาจมีปัญหาด้วยได้
ดังนั้นเขาจึงต้องยอมถอยให้ แต่เพราะศักดิ์ศรีของตนที่มีอยู่เขาจึงเดินถอยออกอย่างช้า ๆ
ถอยไปได้ไม่กี่ก้าว พอมีช่องว่างให้คนเดินออกไปได้ เขาก็ชะงักฝีเท้าลง
โจวหยวนหยุดเคลื่อนไหว เขามองดูช่องแคบที่สามารถเดินออกไปได้ทีละคนเท่านั้น ก่อนสายตาเย็นชาของเขาจะเหลือบมองไปที่ผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ตทันที
ผู้จัดการคนดังกล่าวใจสั่นระรัวขึ้นมาทันที เขากำลังคิดในใจว่าจะทำอย่างไรให้โจวหยวนพอใจและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากขึ้น
หากสามารถกลายเป็นซัพพลายเออร์ของฟาเรนไฮต์ได้ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้าบริษัทจะไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่คาดคิดว่า ขณะที่ตัวเองกำลังยุ่งอยู่กับการพยายามหาทางสร้างความสัมพันธ์กับฟาเรนไฮต์ คนที่อยู่ใต้คำบัญชาของตนกลับกำลังถ่วงแข้งถ่วงขาเสีย
เขาจึงระเบิดโมโหขึ้นมาทันที จากนั้นตบที่ไหล่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะตะคอกขึ้น : "พวกแกตาบอดกันหมดหรือไง มายืนขวางทางอยู่แบบนี้ทำไม ไม่เห็นเหรอว่าประธานโจวมีเรื่องต้องรีบไปจัดการ"
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยอมถอยออกโดยไม่เต็มใจนัก จากนั้นเฝ้ามองดูโจวหยวนเดินออกไปจากฝูงชน
โจวหยวนกำลังจะเดินไปทางหยางหลิงรุ่ย เมื่อเขาเดินมาถึงด้านข้างของเธอ เขาก็หยุดชะงักฝีเท้าลง
"คุณผู้หญิงครับ คุณจะกลับบ้านไปพร้อมพวกผมเลยหรือเปล่า ท่านประธานฮั่วได้รับบาดเจ็บสาหัส... "
ประโยคหลังเขาพูดว่าอย่างไรบ้างนั้น หยางหลิงรุ่ยเองเริ่มฟังไม่ค่อยชัดแล้ว
สิ่งเดียวที่เธอจำได้ก็คือ ประโยคที่เขาเรียกเธอว่าคุณผู้หญิงของฮั่วเทียนหลัน
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเผชิญหน้ากับสายตาประหลาดใจของคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ที่กำลังมองมา พร้อมทั้งเก็บกดความต้องการที่อยากจะตบโจวหยวนให้ตายเอาไว้
"โอเค" เธอเอ่ยตอบอย่างเร่งรีบและเดินตามโจวหยวนออกไปในทันที
ในใจของเธอพร่ำบอกกับตัวเองว่า ต้องอดทน ต้องอดทน ผู้หญิงคิดจะแก้แค้น สิบวันก็ยังไม่สายเกินไปหรอก
เมื่อสักครู่มีหลายคนกำลังจับตาดู ถ้าหากหยางหลิงรุ่ยคลุ้มคลั่งทำอะไรขาดสติ แค่คิดก็รู้แล้วว่าอาจจะมีคนจงใจก่อเรื่องโดยการปล่อยข่าวอื้อฉาวออกมา
เมื่อก่อนเธอไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ดังนั้นจึงไม่คิดจะใส่ใจมากนัก
แต่ตอนนี้เธออยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ของ Yang's Entertainment ดังนั้นเธอจึงควรที่จะรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองสักหน่อย
โจวหยวนเดินนำทางหยางหลิงรุ่ยไปที่รถ Mercedes Benz Motorhome ที่จอดอยู่ห่างออกไปร้อยเมตร
หลังจากขึ้นมาบนรถแล้ว หยางหลิงรุ่ยก็ต้องประหลาดใจทันที
รถคันนี้มีความยาวมากกว่าหกเมตรและไม่สามารถขับได้ด้วยใบขับขี่ธรรมดา ภายในตัวรถยังประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่มากมาย
หนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ เมื่อตอนฮั่วเทียนหลันประสบอุบัติเหตุ อุปกรณ์สกายอายที่อยู่ด้านข้างไฟส่องทางนี้
ราวกับเป็นห้องตรวจสอบ ที่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของฮั่วเทียนหลันได้ตลอดเวลา
พลังงานของห้องตรวจสอบนี้มีมากมายมหาศาล
และอุปกรณ์สกายอายเครื่องนี้ก็ยังสามารถถ่ายข้อมูลภาพวิดีทัศน์ออกมาได้อีกด้วย
หลังจากที่โจวหยวนออกคำสั่ง คนขับรถก็รีบขับออกไปยังจุดหมายในทันที
โจวหยวนและหยางหลิงรุ่ยนั่งอยู่ที่ห้องพักทางด้านหลัง เขากำลังหลับตาบำรุงเซิน ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยลอบมองสังเกตอย่างประหลาดใจอยู่ครู่นึง ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนข้อความทางโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
เสียงนี้ทำให้เธอหยุดชะงักนิ่งไปชั่วขณะ
แน่นอนว่าเธอรู้ว่าเสียงนี้คืออะไร
มันคือเสียงแจ้งเตือนจาก WeChat ของลูกสาวเธอ ที่เธอตั้งเสียงเตือนขึ้นมาเป็นพิเศษ
หลังจากเปิดดู WeChat หยางหลิงรุ่ยก็เห็นข้อความที่ชิงหรงส่งมาหาเธอ : "คุณแม่ขี้โกหก ไหนบอกว่าจะทำอาหารให้หนูไง"
ด้านล่างยังมีอีโมติคอนอีกชุดใหญ่ที่ถูกส่งมาอีกด้วย
ทะนงตัว โมโห ตีคน...
หยางหลิงรุ่ยยิ้มหน้าเจื่อนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เธอเหลือบมองโจวหยวนที่อยู่ข้าง ๆ อย่างไม่รู้ว่าจะอธิบายกับลูกสาวของเธอว่าอย่างไรดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง