ฉีหลานเหลือบมองไปที่ต้นฉบับของหยางหลิงรุ่ย เธอก็ยื่นมาให้ทันที
เธอคลี่ทั้งสองภาพออกมาพร้อมกัน จากนั้นความรู้สึกประหลาดใจและชื่นชมก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วบนใบหน้าของเธอ
ฉีหลานต้องยอมรับว่าหยางหลิงรุ่ยเป็นอัจฉริยะด้านการวาดภาพที่แอบซ่อนอยู่
ผลงานที่เพิ่งทำออกใหม่ของเธอดีไม่แพ้ภาพต้นฉบับเลย
สิ่งนี้ได้พิสูจน์อะไร? นี่เป็นการพิสูจน์ว่าในเวลาสั้นแค่นี้หยางหลิงรุ่ยกลับสามารถสร้างผลงานออกมาได้อย่างสมบูรณ์
ฉีหลานวางกระดาษวาดเขียนในมือลงของ เธอหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพูดว่า "หลิงรุ่ย เธอนี่เทพจริงๆ!"
นี้แม้ว่าคำชมจะดูแปลกไปสักหน่อย
แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยก็ปรากฏขึ้นทันที
เพราะเธอรู้ว่านี่คือการที่ฉีหลานยอมรับเธอ
อะไรคือสิ่งที่มีความสุขที่สุดในการทำงานออกแบบ?
ไม่ใช่ว่าคุณทำเงินได้เท่าไหร่หรือเข้าร่วมการแข่งขันกี่ครั้ง แต่เป็นการผลงานของคุณได้รับการยอมรับจากคนจำนวนมากต่างหาก
หรือบางทีอาจไม่ต้องมีคนมากนัก มีเพียงคนหนึ่งคนยอมรับคุณก็จะรู้สึกประสบความสำเร็จแล้ว
เช่นเดียวกับตอนนี้หยางหลิงรุ่ยที่ได้รับการยอมรับจากฉีหลาน ในใจเธอก็มีความสุขมากเช่นกัน
หยางหลิงรุ่ยสามารถวาดภาพร่างที่สองได้ดีกว่าเดิม ยิ่งฝึกฝนก็ยิ่งทำได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพราะฝีมือของเธอนั้นดีมาก
อย่างไรแล้วในทางปฏิบัติ ทุกคนก็ต่างมีระดับพอๆกันและเป็นไปไม่ได้ที่จะวาดออกมาได้ต่างกันราวฟ้ากับเหว
แต่เพียงเพราะเมื่อครู่หยางหลิงรุ่ยได้ค้นพบตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางภายนอกที่สงบของฉีหลานโดยไม่รู้ตัว
เธอสวยมากและมีรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ ท่าทางของเธอสง่างาม สงบเสงี่ยมและดีงาม
อาจกล่าวได้ว่าทุกคำยกย่องสาวงามในโลกนี้สามารถใช้กับฉีหลานได้
ก็ยังไม่พอพรรณาถึงความงามและท่าทางอันสวยงามของฉีหลานได้
หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยค้นพบนิสัยและตัวตนของฉีหลานแล้ว เมื่อเธอวาดเขียนก็ทำได้อย่างราบรื่น
กล่าวได้ว่าทุกเส้นที่เธอวาดสะท้องถึงบุลิกสงบนิ่งของฉีหลานได้อย่างเป็นธรรมชาติว่าควรใช้เส้นแบบไหน
ดังนั้นภาพสเก็ตช์ของเธอจึงประสบความสำเร็จ
"พี่หลานยังมีคำแนะนำอื่นๆอีกไหม?"
หยางหลิงรุ่ยต้องการใช้ประโยชน์เวลาที่เธอมีไอเดียสร้างชุดที่ประสบความสำเร็จให้ได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าผลงานของเธอสมบูรณ์แบบ แต่เธอก็ยังอยากถามฉีหลานให้แน่ใจ
หลังจากได้ยินคำพูดของหยางหลิงรุ่ย ฉีหลานก็ส่ายหัวอย่างเงียบๆ
"ไม่มีแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก ถ้าเธอสามารถวาดภาพท่าทางอื่นๆได้อีกสักสองสามภาพ ฉันคิดว่าฉันจะรวบรวมมันไว้ทั้งหมด"
"ไม่มีปัญหา แต่ขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนนะ"
หยางหลิงรุ่ยหยิบภาพร่างที่สองขึ้นมาและเริ่มคิดชุดแต่งงาน
มีออร่าแบบไหนก็ต้องใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับเสื้อผ้าแบบนั้น
ฉีหลานมีท่าทางเป็นคนเงียบๆและงามสง่า ดังนั้นเมื่อเลือกชุดแต่งงานจึงต้องแต่งเป็นชุดยาว แต่หากลากพื้นก็ต้องดูไม่ยุ่งเหยิง ขอบๆเพิ่มไข่มุกกลมและจีบดอกไม้อีกสักหน่อย
ไข่มุกสีขาวเสริมความสง่างามและดูมีรสนิยม
หยางหลิงรุ่ยมั่นใจในความคิดนี้ทันทีที่มันออกมา
เธอหยิบกระดาษวาดเขียนแล้วรีบออกแบบชุดแต่งงาน
จากนั้นชุดพิธีการและชุดแต่งงานสำหรับญาติ
หยางหลิงรุ่ยใช้บุคลิกที่สง่างามและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนของฉีหลานนำทาง
ดังนั้นเธอจึงออกแบบชุดกี่เพ้าสีม่วงออกมาอย่างเรียบง่าย
ต้องรู้ว่าสีม่วงเป็นสีที่มีดูแพงและคุมยาก
เมื่อแต่งงานกันตามประเพณีจีนมักจะใช้สีแดงสดมากกว่า
หยางหลิงรุ่ยเคยพิจารณาสีแดงสด แต่เธอทิ้งมันไปทันทีแพลนใหม่นี้ปรากฏขึ้นเป็นรูปเป็นร่างในใจของเธอ
เธอรู้สึกว่าตามความงามและท่าทางอันสูงส่งของฉีหลาน หากเธอใช้สีแดงสดแม้ว่ามันจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ไม่มีความน่าสนใจสำหรับสาธารณชนและไม่มีความคิดสร้างสรรค์เอาเสียเลย
ดังนั้นเธอจึงใช้องค์ประกอบสีม่วงอย่างกล้าหาญและประดับประดาตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งด้วยเพชรสีชมพู
บนกี่เพ้าสีม่วงมีองค์ประกอบของดอกไม้กระจัดกระจายอยู่บางส่วน
เมื่อเห็นว่าแต่ละส่วนมีโครงสร้างที่ค่อนข้างธรรมดา แต่เมื่อประกอบออกมาแล้วกลับดูหรูหราสง่างามเป็นพิเศษ
ชุดที่สองสำเร็จแล้ว
หยางหลิงรุ่ยทำชุดที่สามต่อไปตามความคิดนี้
เมื่อเธอส่งผลงานทั้งหมดให้ฉีหลานดูในครั้งเดียว ฉีหลานก็ทึ่งไป
คราวนี้เธอประหลาดใจจนอ้าปากค้าง
เธอเคยคิดมาก่อนอยู่แล้วว่าหยางหลิงรุ่ยจะทำแผนออกแบบของเธอเสร็จอย่างรวดเร็ว
แต่เธอคิดไม่ถึงว่าหยางหลิงรุ่ยจะเร็วขนาดนี้
และเพียงแค่เหลือบดูโดยไม่ต้องให้หยางหลิงรุ่ยอธิบาย เพียงใช้การวิเคราะห์จากประสบการณ์หลายปีของฉีหลานเธอก็ยอมรับจำผลงานของหยางหลิงรุ่ยอย่างหมดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง