หยางหลิงรุ่ยชะงักไปชั่วครู่ แม้ว่าเธออยากจะปฏิเสธเขาว่าไม่ต้อง
แต่เธอก็รู้อยู่ในใจว่าถ้าเขาตัดสินใจแล้วมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นเธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น...ก็ขอบคุณคุณฮั่วแล้วกัน!"
เวลาของหนึ่งวันสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อหยางหลิงรุ่ยไปรับชิงหรงในตอนเย็น เธอก็พบลั่นลานอีกครั้ง
ชิงหรงจับมือของลั่นลาน ทั้งสองกระซิบกระซาบกันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องอะไร
แต่ทว่าเมื่อมองไปที่ท่าทางที่มีความสุขของชิงหรงก็เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพูดถึงโมเดล
ทั้งสองคนมีความสนใจและงานอดิเรกร่วมกัน จนถึงตอนนี้ในชีวิตของชิงหรงมีเพียงลั่นลานเท่านั้นที่เป็นเพื่อนรู้ใจ
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ท่าทางมีความสุขของชิงหรงและก็รู้ว่าทำไมลูกสาวสุดฉลาดของเธอจึงไม่มีกำแพงกับลั่นลาน
หยางหลิงรุ่ยมองไปรอบๆและพบว่าหลังจากที่ฮั่วเทียนหลันไม่อยู่แล้ว เธอก็ราวกับลักพาตัวชิงหรงกับลั่นลานกลับมาด้วยกัน
แต่เธอทำข้อตกลงกับลั่นลานอยู่บนรถ
ลั่นลานวันนี้กินข้าวเย็นที่นี่ แต่สี่ทุ่มคืนนี้เธอจะให้คนไปส่งเธอที่บ้าน
แม้ว่าลั่นลานจะยังมีความคิดบางอย่างที่เห็นด้วยกับฮั่วเทียนหลันอยู่ในใจ แต่ในที่สุดลั่นลานก็ตกลง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่หยางหิงรุ่ยกลับถึงบ้านแล้ว ตอนสิงทุ่มเธอก็ได้รับรายงานจากบอดี้การ์ดว่าฮั่วเทียนหลันมาถึงแล้ว
หยางหลิงรุ่ยปวดหัวและออกไปต้อนรับฮั่วเทียนหลัน
ฮั่วเทียนหลันเข้ามาจากทางเข้าด้านหน้า พอหลายครั้งเข้าทั้งตระกูลหยางก็รู้เรื่องนี้กันหมด
แม้แต่หยางหลิงรุ่ยก็คิดได้ว่าเดี๋ยวต่อไปปู่กับย่าจะเรียกเธอไปคุย
"ฮั่วเทียนหลัน ฉันบอกคุณแล้วนี่ว่าคราวนี้ถึงเวลาแล้วคุณต้องพาลั่นลานออกไปให้ตรงเวลา!"
หยางหลิงรุ่ยขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเตือน แต่คำเตือนของเธอดูเหมือนจะไม่ทำให้ฮั่วเทียนหลันใส่ใจได้
ฮั่วเทียนหลันเพียงแค่มองไปที่หยางหลิงรุ่ยอย่างนิ่งๆและโค้งมุมปากเล็กน้อยเผยยิ้มหล่อ
หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะตะลึงไป แต่เธอก็ได้สติอย่างรวดเร็ว
"อย่าใช้กลยุทธหนุ่มหล่อ มันไม่ได้ผลหรอก!"
หยางหลิงรุ่ยเตรียมป้องกันมาทั้งคืนเพื่อรอจนถึงสิบโมงเพื่อเตือนให้ฮั่วเทียนหลันกลับไป
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือตอนอีกสิบนาทีถึงสี่ทุ่ม ฮั่วเทียนหลันก็บอกลั่นลานว่าเขาจะกลับบ้านแล้ว
การรู้ตัวของเขาทำให้หยางหลิงรุ่ยนึกว่าฮั่วเทียนหลันที่เธอเคยรู้จักมาก่อนหน้านี้นั้นเป็นตัวปลอม?
ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ลั่นลานยังกลับไปกับเขาอย่างเชื่อฟัง
ตอนสี่ทุ่มคู่สามีภรรยานายท่านใหญ่ทั้งสองของตระกูลหยางอาจจะยังเดินเล่นอยู่ข้างนอก
เพื่อความปลอดภัย หยางหลิงรุ่ยจึงพาฮั่วเทียนหลันและลั่นลานออกไปทางประตูหลัง
หลีกเลี่ยงการพบปะกับสมาชิกในครอบครัวเพราะทั้งสองฝ่ายจะอึดอัดใจ
หยางหลิงรุ่ยรู้รางๆว่าตอนแรกมีเรื่องอะไรบางอย่างระหว่างตระกูลหยางกับตระกูลฮั่ว
เดิมทีทั้งสองครอบครัวที่ควรจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพวกเขาแทบจะตัดความสัมพันธ์และกลายเป็นศัตรูกัน
มีหลายสิ่งหลายอย่างซ่อนอยู่ในนั้นที่หยางหลิงรุ่ยคิดแล้วก็ยังไม่เข้าใจ
แต่เมื่อเห็นคำเตือนที่เด็ดเดี่ยวของตงเหยียนกับเธอก่อนหน้านี้และท่าทีของปู่กับย่าของเธอที่มีต่อฮั่วเทียนหลัน หลางหลิงรุ่ยก็สังเกตเห็นความขัดแย้งที่ไม่สามารถประนีประนอมกันได้อยู่ในนั้น
หลังจากแอบย่องไปทางประตูหลังหยางหลิงรุ่ยก็โล่งใจ
โชคดีที่ไม่เจอปู่และย่า
รถของตระกูลฮั่วมาถึงอยู่นานแล้ว
คนขับรถเปิดประตูด้านหลัง ลั่นลานขึ้นไปก่อนและสายตาเสียดายไม่อยากจากไปทำให้หัวใจของหยางหลิงรุ่ยสั่นสะท้าน
แต่เธอก็ยังคงทำใจแข็งและไม่ได้บอกลั่นลานให้มาเล่นที่นี่บ่อยๆ
จากนั้นฮั่วเทียนหลันก็เข้าไปในรถและปิดประตู
หยางหลิงรุ่ยคิดว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ทำให้เธรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ
แต่เมื่อรถสตาร์ทและกำลังจะออกรถ จู่ๆกระจกหลังก็ถูดเปิดลง
หยางหิลงรุ่ยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็แสดงสีหน้าผิดหวังต่อหน้าฮั่วเทียนหลัน
ฮั่วเทียนหลันยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า "พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับคุณ!"
หลังจากพูดจบก่อนที่หยางหลิงรุ่ยจะทันเห็นด้วยหรือคัดค้าน ฮั่วเทียนหลันก็ปิดหน้าต่างขึ้นและคนขับก็เหยียบคันเร่งจากไป
หยางหลิงรุ่ยมองตามทิศทางที่ฮั่วเทียนหลันจากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปสักพักจึงได้สติขึ้นและตะโกนกลับไปว่า "ฮั่ยวเทียนหลัน นายโง่ ไม่ได้บอกฉันว่าที่ประตูหน้าหรือประตูหลัง"
วันรุ่งขึ้นตอนเช้า ชิงหรงก็ถูกหยางหลินพาไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล
ในช่วงเวลานี้หยางหลินอยู่ที่บ้านตระกูลหยางเสมอดังนั้นเขาจึงเป็นคนไปรับส่งชิงหรง
ตอนหยางหลิงรุ่ยออกจากบ้าน เดิมทีเธอต้องไปที่หน้าบ้านเพราะรถของเธอจอดอยู่ที่นั่น ดังนั้นจึงสะดวกในการขับรถไปที่ บริษัท
แต่เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเธอก็ยังหยุด
เนื่องจากฮั่วเทียนหลันบอกว่าเขาจะมารับเธอ บางทีเขาอาจจะรอเธออยู่ที่ประตูหลัง
เธอจึงหันกลับไปและไปที่ประตูหลัง
ก่อนถึงที่ประตูหลังหลายสิบเมตร หยางหลิงรุ่ยก็เห็นไมบัคสีดำ
เธอก้าวไปข้างหน้า ประตูหลังก็ถูกเปิดออก ฮั่วเทียนหลันลงจากรถและแสดงท่าทางสุภาพบุรุษเชิญหยางหลิงรุ่ย
หยางหลิงรุ่ยอึ้งไปชั่วครู่ หลังจากทักทายฮั่วเทียนหลันไม่กี่คำก็ขึ้นรถ
ผู้ชายคนนี้ไว้หน้าเธอจริงๆ!
หลังจากเธอขึ้นรถแล้ว ฮั่วเทียนหลันก็ขึ้นรถจากอีกทางหนึ่ง
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจางๆ และบรรยากาศฮั่วเทียนหลันกระจายอยู่เต็มรถ
หยางหลิงรุ่ยเหลือบมองฮั่วเทียนหลันจากมุมหางตา วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำและชุดสูทที่ดูเป็นทางการซึ่งตอนนี้แขวนอยู่บนราวเสื้อผ้าที่กั้นอยู่ระหว่างเบาะหน้า
ท่าทางของนักธุรกิจนี้ดูเหมือนจะว่าเขาจะไปร่วมงานที่เป็นทางการอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ประเด็นสำคัญก็คือผู้ชายเวลาจริงจังแล้วมักจะดูเท่มาก
และฮั่วเทียนหลันก็ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น
ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถและไม่มีใครเริ่มที่จะพูดก่อน
หลังจากผ่านไปสักครู่ เมื่อไปได้ครึ่งทางการจราจรก็เริ่มติดขัด หยางหลิงรุ่ยจึงเริ่มเปิดบทสนทนา
“คุณฮั่ว คุณสามารถพูดถึงอดีตของเราสองคนได้ไหม?”
หยางหลิงรุ่ยต้องการที่จะรื้อฟื้นความทรงจำก่อนหน้านี้เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในความว่างเปล่า
ฮั่วเทียนหลันอึ้งไป เขามองไปที่หยางหลิงรุ่ยอย่างลึกซึ้งและก็พูดว่า "คุณอยากรู้เหรอ?"
"อืม" หยางหลิงรุ่ยพยักหน้าอย่างแน่วแน่
จากคำพูดของหยางหยวนและจากข้อมูลของฮั่วเทียนหลัน เธอรู้แค่เพียงเรื่องราวคร่าวๆเล็กน้อย
เรื่องที่เธอได้พบกับฮั่วเทียนหลัน จากนั้นเธอก็อุ้มท้องลูกของเขาจากนั้นก็ออกจากบ้านและกลับมาอีกครั้ง คราวนั้นฮั่วเทียนหลันเข้าใจผิดและมีอีกคนอยู่ในใจ เธอถูกบังคับให้จากไปอีกครั้งและแสร้งเสียชีวิตปลอมๆในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ...
ทุกอย่างเป็นคำบอกเล่าและตัวอักษรที่เย็นชา ทำให้หยางหลิงรุ่ยไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขที่อาจมีอยู่ในนั้น
และฮั่วเทียนหลัน ชายที่พัวพันกับเธอมาหลายปีจะต้องตอบคำถามของเธอได้อย่างแน่นอน!
สีหน้าของฮั่วเทียนหลันวูบไหวเล็กน้อยราวกับว่าเขาคาดไม่ถึงกับความแน่วแน่ของหยางหลิงรุ่ย
เรื่องในปีนั้นที่จริงเขาไม่อยากพูดถึงมันอีก
เพราะอย่างไรสิ่งที่เขาทำไว้กับเธอก็ไม่ใช่เรื่องที่จะน่ายินดีนัก
แต่ว่าในเมื่อผู้หญิงคนนี้ต้องการจะรู้ ดังนั้นโดยธรรมชาติเขาจึงต้องตอบคำถาม
เขาคิดว่าเขาควรจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี
เขาเบนสายตาออกไปจากหยางหลิงรุ่ยและมองออกไปนอกหน้าต่าง
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ฮั่วเทียนหลันอย่างครุ่นคิดและรอให้ฮั่วเทียนหลันเอ่ยปากพูด
แต่หลังจากที่รอมาหนึ่งนาทีก็แล้วสามนาทีก็แล้วห้านาทีก็แล้ว ระยะทางก็ผ่านไปถึงสองในสามแล้ว ฮั่วเทียนหลันก็ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นนี้และไม่มีท่าทีที่จะพูดเลย ทำให้หยางหลิงรุ่ยขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
เธอมองตามสายตาของฮั่วเทียนหลันและมองออกไปข้างนอก แต่นอกจากการจราจรที่ติดขัดด้านนอกแล้วก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่กำลังไปทำงานอย่างเร่งรีบ เธอก็มองไม่เห็นอย่างอื่นอีก
หลังจากรอมาแปดนาที หยางหลิงรุ่ยก็ดูเวลาและในที่สุดก็อดเตือนเขาไม่ได้ "คุณฮั่ว คุณหลับไปแล้วหรือ?"
"อ๊ะ?" ฮั่วเทียนหลันจึงได้สติกลับมาอย่างช้าๆและเหลือบมองหยางหลิงรุ่ย
เมื่อครู่เขาตกอยู่ในภวังค์อย่างแท้จริงเมื่อนึกถึงการพบกันของทั้งคู่
แม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปและคนจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่มันก็ไร้ความรู้สึกจนถึงขนาดไม่มีการไว้หน้ากัน
ฮั่วเทียนหลันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แม้กระทั่งมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มของเขาก็ยังไม่สามารถปกปิดอารมณ์เศร้าๆของเขาได้
เขาหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า "ครั้งแรกที่พวกเราพบกันคือตอนที่คุณขายตัวเพื่อช่วยน้องชายของคุณ จากนั้นฉันให้เงินคุณแต่ฉันไม่ได้ทำอะไรกับคุณ"
"ห๊ะ?" หยางหลิงรุ่ยเคยอ่านข้อมูลส่วนนี้แล้วและเธอก็จำได้อย่างชัดเจน
แต่คำถามที่เย็นชาและการพูดออกมาช้าๆจากปากของฮั่วเทียนหลันก็ทำให้รู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
"ตอนนั้น คุณมองฉันด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาน่าสงสารขอร้องให้ฉันช่วย ท้ายที่สุดฉันก็ใจอ่อน ... " ฮั่วเทียนหลันไม่สนใจน้ำเสียงประหลาดใจของหยางหลิงรุ่ยและพูดเรื่องนี้ต่อไป
หยางหลิงรุ่ยหน้าแดงขึ้นและเธออดที่จะเถียงไม่ได้ว่า "ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ฉันดูต่ำขนาดนี้ก็ได้มั้ง!"
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่หยางหลิงรุ่ย ครั้งแรกในตอนนั้นที่พบกันจนถึงตอนนี้รู้สึกเหมือนราวกับเป็นเพียงเหตุการณ์ของเมื่อวานที่ยังคงเล่นซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจของเขา
“คุณคิดว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและไม่มีทางไปจะสภาพเป็นอย่างไร?”
ประโยคนี้ของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยชะงักไป
เหมือนว่าเมื่อคนๆหนึ่งหมดหนทางจริงๆ ถ้าเขาไม่ยอมสละชีวิตเพื่อมันก็มีแต่จะต้องยอมก้มหัวต่ำเพื่อให้อยู่รอด
เธอสูญเสียความทรงจำไปแล้ว แต่ด้วยจินตนาการอันลึกล้ำของสมองของเธอจึงสามารถเดาได้
ในเวลานั้นเธอยอมขอร้องให้ฮั่วเทียนหลันช่วยเธอ
"เดิมทีฉันคิดว่าชะตากรรมระหว่างคุณกับฉันจะจบลงที่นี่" ฮั่วเทียนหลันพูดต่อ หลังจากที่เขาช่วยเธอในเวลานั้นและเมื่อเธอมีเงิน ในใจเขาก็รู้อยู่แล้วถึงผลที่จะตามมา
ในโลกนี้อาจไม่ได้มีคนดีมากมาย แต่คนเลวก็ยังมีอยู่เสมอ
"แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าในวันที่ฉันถูกวางยาโดยผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อความปรารถนาสูงสุดพุ่งเข้าสู่สมองและต้องการใครสักคนอย่างเร่งด่วน เธอที่เดินทางผิดมา ก็... "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง