ไร้สาระ!
นี่หรอคือสิ่งที่พี่รองคิดออกมา?
ครอบครัวทะเลาะกันอยู่พักหนึ่งและสุดท้ายก็ปล่อยให้หยางหลิงรุ่ยแต่งหน้าก่อน พวกเขาจึงออกไปรอด้านนอก
เมื่อเห็นพี่สามเดินออกไป ดวงตาของหยางหลิงรุ่ยก็แดงขึ้น
ถ้าบอกว่าไม่คิดอะไร นั่นก็คือโกหก
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเธอจะอยู่กับพี่น้องของเธอมาแค่สองปี แต่เธอก็มีความผูกพันธ์กับพวกเขามาก
พี่ชายทั้งสามของตระกูลหยางเดินลงไปที่ชั้นล่าง ฮั่วเทียนหลันที่กำลังเดินรับแขกในงานอยู่ก็เดินผ่านมา
ทั้งสองคนมองหน้ากัน สุดท้ายหยางยานก็เป็นคนพูดออกมา “คุยกันหน่อยไหม?”
ฮั่วเทียนหลันยิ้มออกมาที่มุมปาก วันนี้เขาเป็นเจ้าบ่าว ต้องแสดงเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุด
“ได้!”
หยางหลินได้ยินคำพูดอยู่ด้านหลัง เขากำลังพยุงพี่ชายคนโตขึ้นรถเข็น
ตอนที่กำลังหันหลังกลับ หยางหยวนก็ยื่นมือออกมาดึงเขาไว้
“พี่ใหญ่!” หยางหลินรู้สึกสับสนเล็กน้อย และก็กังวลในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามตอนนี้อาการของหยางยานน่าจะน่าเป็นห่วงที่สุด
“นั่นเป็นเรื่องของเจ้าสามมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย” หยางหยวนพูดออกมาแบบเฉยชา แต่ในคำพูดของเขาไม่มีอะไรแฝงอยู่
หยางหลินเม้มปากจากนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมพูดออกมาว่า “ผมกังวล กลัวว่าฮั่วเทียนหลันจะทำอะไรกับเจ้าสาม!”
“แต่เขาก็เป็นน้องเคยของนาย นายจะคิดอะไรมากมาย?”
สำหรับเรื่องนี้หยางหยวนใจเย็นมาก
หยางหลินอ้าปากพยายามจะเถียงออกมา
แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าที่พี่ใหญ่พูดออกมานั้นก็มีเหตุผล
“ร่างกายฟื้นตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ก็ดีนะ”
“นี่เป็นการทำธุรกิจร่วมกัน ตอนนี้ก็จบสิ้นกันแล้ว!” ฮั่วเทียนหลันพูดออกมา
มีอะไรบางอย่างแขวงอยู่ในน้ำเสียง
“ไม่นิ” หยางยานพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา
“หมายความว่าอย่างไง?” ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วขึ้นมา
เขาทำตามข้อตกลงดังนั้นเขาจึงหวังว่าตระกูลหยางจะไม่ผิดคำสัญญากับเขา
“นายต้องดูแลหยางหลิงรุ่ยไปทั้งชีวิต นั่นถึงจะจบสิ้น”
คำพูดของหยางยานทำให้ฮั่วเทียนหลันตกใจ
หลังจากนั้นมีรอยยิ้มที่มุมปากของเขา แต่เขาก็ยังฝืนเก็บมันไว้
“นี้เป็นผู้หญิงของฉัน ฉันไม่มีวันที่จะให้ใครมาแย่งไป!”
หยางยานมองมาที่ฮั่วเทียนหลันอย่างลึกซึ้ง ไม่นานก็มีรอยยิ้มออกมาที่มุมปาก
“นายทำแบบนี้ แน่นอนมันดีอยู่แล้ว”
เมื่อถึงเวลาสองทุ่มตรง งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากเป็นการจัดเลี้ยงแบบครอบครัวจึงมีโต๊ะไม่มากนัก
ทั้งหมดมี 8 โต๊ะ เพื่อทำให้ครื้นเครงมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการคุกคามของสื่อมวลชน เขาจึงจัดงานเลี้ยงในคฤหาสน์
นี่เป็นเรื่องที่มีความสุขมากๆ ที่ผู้ชายจะนั่งจิบไวน์ด้วยกัน และผู้หญิงก็คุยกันเรื่องสิ่งของเครื่องใช้
หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยเดินตามฮั่วเทียนหลันออกมา เธอก็มานั่งลงที่ข้างๆเหลียวซิรงและคนอื่นๆ
ฮั่วเทียนหลันก็ไปนั่งอยู่ตรงกลุ่มเพื่อน
ถึงแม้ว่าหยางหลิงรุ่ยจะนั่งคุยอยู่กับเหลียวซิรงและคนอื่นๆ
แต่สายตาของเธอไม่เคยละจากฮั่วเทียนหลันเลยแม้แต่น้อย
ฮั่วเทียนหลันยิ้มเธอก็ยิ้ม
ฮั่วเทียนหลันดื่มไวน์เธอก็ขมวดคิ้ว
วันนี้เขาดื่มไปเยอะแค่ไหนแล้ว ทำไมไม่รู้จักพอบ้าง
สุดท้ายเหลียวซิรงที่นั่งอยู่ข้างๆก็ทนไม่ไหว
“เฮ่ หลิงรุ่ย เธอไปนั่งกับเขาเลยไหมหละ?”
“เอ๋!” หยางหลิงรุ่ยดึงสติกลับมาและเห็นรอยยิ้มที่ขี้เล่นของเหลียวซิรง
ใบหน้าของเธอแดง เธอพูดออกมาด้วยเสียงต่ำๆ “ซิรง เธอพูดอะไรของเธอ? ฉันก็แค่ ก็แค่.....”
“ก็แค่เป็นห่วงสามีของฉัน ฉันเข้าใจแหละ!”
ดูเหมือนเหลียวซิรงจะรู้ทุกอย่าง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ทำให้คำอธิบายที่หยางหลิงรุ่ยเตรียมไว้ไม่มีประโยชน์เลย
“สามีอะไร!” หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาด้วยเสียงที่มีความโกรธ
“ไอ๊ยา ดูสิเขินเป็นเด็กเลยนะ!”
หลี่เฉียนที่นั่งอยู่ข้างๆแซวออกมา
เธอเป็นคนที่ปกติจะไม่ค่อยพูด แต่พอพูดออกมาแล้วก็จะเป็นแบบนี้
ตอนนี้หยางหลิงรุ่ยพูดอะไรไม่ออก
สุดท้ายเธอก็ทำเป็นไม่สนใจสองคนนี้ พูดอะไรก็พูดไปสิ มองอะไรก็มองไป สุดท้ายนั่นก็เป็นสามีของเธออยู่ดี
แต่ไม่นานหยางหลิงรุ่ยก็สังเกตเห็นว่าตัวเด่นของงานในคืนนี้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
ฮัวเส้าซู่จะกลายเป็นตัวเอกไปแล้ว
เขาห้ามไม่ให้ฮั่วเทียนหลันดื่ม แต่กลับกันเขาป็นคนที่อยากดื่มเองเสียมากกว่า
ในตอนที่หยางหลิงรุ่ยสังเกตเห็น ฮัวเส้าซู่ก็ดื่มไปหลายสิบแก้วแล้ว
ในฐานะของเพื่อนที่ดี เธอจึงต้องเอาสิ่งนี้ไปบอกกับเพื่อนของเธอให้รับรู้
หยางหลิงรุ่ยส่งข้อความไปหาทันเหว่ย
“แฟนของเธอดื่มเหล้าเยอะมาก เธอไปเตือนเขาสักหน่อยสิ ถ้าดื่มมากไปก็ให้ไปนอนที่โซฟา”
เมื่อได้ยินหยางหลิงรุ่ยพูดออกมาแบบนี้ ทันเหว่ย ที่วันนี้หัวใจยุ่งเหยิงอยู่แล้วเธอก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง