โซ่รักใยพิศวาส นิยาย บท 12

ตกเย็น

เวลาที่เพชรหอมไม่ต้องการให้มาถึงก็มาถึงจนได้ ด้วยหน้าที่และรายได้ที่ตนได้รับ ทำให้หล่อนเลี่ยงการเผชิญหน้ากับราซิเอลโล่ ชายหนุ่มที่ยังคงอยู่ในใจหล่อนเสมอ แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาเจ็ดปี แม้ว่าเขาจะเคยทำให้ตนเจ็บช้ำหัวใจ ทว่าความรักที่มอบให้เขาไม่เคยหลุดออกหัวใจดวงนี้เลย

ค่ำนี้นานโอมีนัดกับมิสเตอร์ฉาง นักธุรกิจชาวจีนที่เดินทางมาติดต่อธุรกิจตัวใหม่ นานโอจึงมาร่วมงานเปิดตัวธุรกิจพันล้านของฉาง พร้อมกันนี้ยังได้พูดคุยเรื่องธุรกิจที่เขาทั้งคู่จะร่วมลงทุนด้วยกัน ความที่ฉางพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง นานโอเองก็พูดภาษาจีนไม่ได้ ล่ามจึงมีหน้าที่แปลภาษาให้สองคนเข้าใจ ความที่เพชรหอมเก่งทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ส่งผลให้การเจรจาธุรกิจของทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

ทว่าจะสะดุดก็เพราะสายตาของราซิเอลโล่ เขามองหล่อนชนิดที่ว่า แทบจะกลืนกินตัว เพชรหอมรู้สึกวูบวาบในตัวตลอดเวลา ทำให้หล่อนรู้สึกประหม่าและเขิน เพชรหอมต้องใช้พลังมาก รวบรวมสมาธิให้อยู่กับงานมากกว่าอยู่กับราซิเอลโล่

“คุณทำหน้าที่ได้ดีมาก” นานโอเอ่ยชมเพชรหอม หลังจากการติดต่อธุรกิจเสร็จสิ้น

“ขอบคุณค่ะ”

“วันนี้งานคุณมีแค่นี้ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ”

นานโอเอ่ยเสียงสุภาพ รอยยิ้มแห่งความเป็นมิตรระบายเต็มดวงหน้า แววตาที่เคยมองเพชรหอมแบบชู้สาว ตอนนี้ไม่หลงเหลือ เขามองหล่อนด้วยประกายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสมือนอามองหลานสาวในไส้

“ค่ะ”

“นี่ก็ดึกมาแล้ว เวลาไทยกี่ทุ่มแล้วเพ้นท์”

นานโอแกล้งถาม เขารู้เรื่องเวลาในประเทศไทย อาจเป็นเพราะเคยมาเมืองสยามแล้วหลายครั้ง เลยรู้เรื่องเวลาของที่นี่

“สี่ทุ่มครึ่งพอดีค่ะ”

“ให้ผมไปส่งเพ้นท์ที่บ้านนะ ดึกแล้วเพ้นท์กลับบ้านคนเดียวผมเป็นห่วง” เรื่องเป็นห่วงเพชรหอมก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ทว่ายังมีอีกเหตุผลกับการไปส่งหล่อนที่บ้าน

“ขอบคุณมากค่ะสำหรับความเป็นห่วง เพ้นท์กลับเองได้ค่ะ คุณนานโอจะได้กลับไปพักผ่อน”

“ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะพักผ่อนไม่เพียงพอหรอก ฉันเดินทางไปประเทศนั้นประเทศนี้บ่อยๆ เรื่องปรับสภาพร่างกายและเวลาเป็นเรื่องสบายมาก ถือว่าการไปส่งเพ้นท์ที่บ้าน คือคำสั่งของเจ้านายคนนี้ก็แล้วกัน เพราะตลอดเวลาที่ผมอยู่เมืองไทย ผมคือเจ้านายของคุณ”

“ก็ได้ค่ะ” เพชรหอมจนมุม หล่อนหาคำค้านไม่ได้

ราซิเอลโล่ที่ได้ยินการสนทนาของทั้งคู่เต็มสองรูหูนิ่งเงียบ ไม่แสดงอาการให้เห็นถึงความไม่พอใจทั้งสีหน้าและน้ำเสียง ท่าในอกเขารุ่มร้อนเป็นที่สุด เมื่อเห็นนานโอรุกเพชรหอม

นานโอกับราซิเอลโล่ เพชรหอมและเหล่าลูกน้องเดินมาถึงลานจอดรถของโรงแรม ลูกน้องของนานโอขึ้นรถยนต์สองในสามคันที่เช่ามาใช้ระหว่างนานโออยู่เมืองไทย ส่วนคันที่สามเป็นรถยนต์ที่สองอาหลานนั่งมา

“เชิญครับเพ้นท์” นานโอผายมือให้เพชรหอมเข้าไปนั่งในรถ หล่อนยิ้มบางก่อนสอดตัวเข้าไปนั่งริมสุด “เข้าไปสิ ยืนบื้ออยู่ได้”

นานโอหันมาพูดกับหลานชายที่ยืนทำหนาบอกบุญไม่รับ แถมคนพูดยังยักคิ้วให้และพยักเพยิดหน้าไปทางที่นั่งตอนหลังของรถ ความที่อาหลานสนิทกันมาก ราซิเอลโล่จึงเข้าใจแล้วว่า นานโอทำเช่นนี้ทำไม เขาจึงรีบเข้าไปนั่งในรถ เบียดชิดร่างนุ่มนิ่มที่ทำหน้าตกใจ ไม่คิดว่าคนที่นั่งข้างตนจะเป็นราซิเอลโล่ เขาไม่ได้นั่งปกติ นั่งเบียดเสียจนร่างสองร่างแทบหลอมเป็นร่างเดียว ก่อนที่นานโอจะสอดตัวเข้ามานั่งข้างหลานชาย

“เอ่อ...ช่วยเถิบไปหน่อยได้ไหมคะ” เพชรหอมกลั้นใจพูด เพราะเริ่มทนกับความอึดอัดทางด้านจิตใจไม่ไหว

“ไม่เห็นเหรอว่าคุณอาฉันตัวใหญ่ ฉันอยากให้คุณอานั่งสบายๆ ฉันเลยต้องมานั่งเบียดเธอไงล่ะ”

ราซิเอลโล่พูดหน้าตาย เบาะหลังไม่ได้แคบจนนั่งสามคนไม่ได้ รถคันนี้เป็นรถเบนซ์ราคาหลายล้าน ที่นั่งตอนหลังกว้างขวาง นั่งได้สบายๆ สามคนโดยไม่เบียดกัน แต่พ่อเจ้าประคุณอยากเบียดร่างแน่งน้อย จึงยกเหตุผลนี้มากล่าวอ้าง นานโอได้ยินคำพูดของหลานชายแล้วอมยิ้ม

“รถคันนี้เบาะหลังกว้างจะตายไป ที่สำคัญมันเหลือที่อีกตั้งเยอะ คุณอาคุณนั่งสบายอยู่แล้ว แต่ฉันนี่สินั่งไม่สบาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส