ขณะที่เซบาสเตียนพยายามควบคุมอารมณ์ อเล็กซ์ก็สุขใจกับความทุกข์ทรมานของเพื่อนตนและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขารู้จักเซบาสเตียนดีกว่าใคร ๆ สำหรับเขา เซบาสเตียนไม่เพียงแต่หาทางเอาตัวรอดมาได้ แต่ยังโต้กลับทุกการกดขี่จากตระกูลฟอร์ดทุกคนได้ด้วย เซบาสเตียนเป็นคนที่หาได้ยากในแง่ของความสามารถและความมุ่งมั่นเสมอมา ทั้งสี่คนอาจไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนสามารถผ่านความทุกข์ยากโดยมีเซบาสเตียนเป็นผู้นำ ตลอดระยะเวลาหกปี ใครจะคิดว่าในที่สุดเซบาสเตียน ฟอร์ดผู้โหดเหี้ยมจะพบหญิงสาวสักคนที่สามารถสะกดเขาให้อยู่อานัติได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ
อเล็กซ์บอกได้ว่าคำเหล่านั้นที่ซาบริน่าพูดออกมาแม้ว่าจะไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับส่งผลกระทบกับเซบาสเตียนมากเสียจนเขาหาคำที่จะโต้กลับไม่ได้
“งั้น คุณสก๊อตต์ครับ” อเล็กซ์แซว “สำหรับค่าตัวที่เซบาสเตียนพาคุณมาที่นี่ ต้องแพงมากแน่ ๆ เลยสิครับ”
"อืม... ขอบคุณที่ถามนะคะ ฉันก็คิดว่างั้นเหมือนกัน" ซาบริน่าตอบ
“ฟู่ว...” อีกครั้งที่อเล็กซ์สูญเสียการควบคุมตนเองไปและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“แม่หนูนี่ใครแน่?” เคลวินเหลือบมองอเล็กซ์และถาม
“ใครงั้นเหรอ? ก็ปวงทองคำที่มีไว้คล้องคอพ่อเสืออย่างเซบาสเตียน ฟอร์ดไง ประมาณนั้นแหละ” อเล็กซ์พ่นลมหายใจ
ทั้งสองยังคงพูดคุยกันพร้อมแก้วไวน์ไว้ในมือ ขณะที่สังเกตปฏิกิริยาของเซบาสเตียน ทั้งคู่ตื่นเต้นจนนั่งไม่ติดเพราะอย่างรู้ว่าเรื่องมันจะดำเนินไปทางไหนกันแน่ เคลวินกังวลเล็กน้อยว่าเซบาสเตียนไม่ยอมผูกมิตรกับตนอีกครั้ง แต่ด้วยทั้งอเล็กซ์และมาร์ตินก็แสดงตัวเป็นกองหนุน เขาแทบทนรอให้พ่อเซบาสเตียนคนนี้แสดงท่าทีงี่เง่าต่อหน้าพวกเขาไม่ไหวแล้ว ในเมืองเซ้าท์ ซิตี้แห่งนี้ เซบาสเตียน ฟอร์ดเป็นสัญลักษณ์ของอิทธิพลและอำนาจที่เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่น แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ก็คือเขาค่อนข้างขี้เล่นเมื่ออยู่ร่วมกับพี่น้องร่วมสาบาน
ขณะที่พวกเขากลั้นหายใจด้วยความหวังว่าจะได้เห็นช่วงเวลาที่เซบาสเตียนทำให้ตัวเองอับอาย โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาก็รู้ว่าเป็นสายจากแม่เลี้ยงของเขา
ตามจริงแล้ว แม่เลี้ยงของเซบาสเตียนไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย เธอเป็นคนที่ชักใยทั้งหมดจนทำให้เกรซ แม่ของเขาต้องพบกับโชคชะตาอันโหดร้ายและถูกมองว่าเป็นภรรยาน้อยของฌอน ถ้าถามว่าเซบาสเตียนรู้สึกเช่นไรกับผู้หญิงคนนี้ คงตอบได้เลยว่ามีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น แต่เธออายุมากแล้ว และลูกชายทั้งสามของเธอก็เสียชีวิตตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งเธอก็เหลืออยู่คนเดียวในโลกเพื่อเผชิญกับความเจ็บปวด การทำลายชีวิตของผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เป็นสิ่งที่เซบาสเตียนไม่ค่อยอยากทำมากเท่าใด เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงของเขา เขายังคงต้องรักษาระดับความเคารพต่อผู้หญิงคนนั้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรับสาย
"ครับ?"
“เซบาสเตียน!” แม่เลี้ยงอุทาน น้ำเสียงของเธอคุ้นเคยราวกับว่าเธอกำลังพูดกับลูกชายคนหนึ่งของเธอเอง
"มีอะไรครับ?" เซบาสเตียนตอบอย่างเยือกเย็น
“ใช่เวลามาพูดแบบนี้ไหม?” เธอชะงักงัน
เซบาสเตียนมองไปรอบ ๆ ตัวเขาก่อนลุกขึ้นจากที่นั่งและก้าวเท้าไป ทิ้งให้ซาบริน่าอยู่ตามลำพัง
แม้ซาบริน่าจะมีท่าทางสงบเสงี่ยม แต่เธอก็แอบตื่นตระหนกอยู่บ้าง เมื่อเซบาสเตียนจากไป เธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะต้องออกไปกับใคร เธอมีประสบการณ์ในเรือนจำมาก่อน ทั้งวิ่งหนีจากการลอบสังหาร และถูกเรียกว่านางโสเภณีสกปรกที่ก่อปัญหาให้กับหมู่คนชนชั้นสูงในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แต่ความจริงแล้ว เธอไม่เคยทำงานเป็นแม่หนูเสี่ยเลี้ยงหรือแม้แต่ทำอะไรในทำนองนั้นเลย ฝ่ามือของซาบริน่าเปียกโชกไปด้วยเหงื่อขณะที่ความคิดต่าง ๆ ผุดขึ้นในใจเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทัณฑ์พิพาทใจ