ทว่าสุดท้ายในตอนนี้ก็ยังเอ่ยกับพี่ชายของตนว่า “เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะท่านพี่ไม่ใช่หรือ? หากท่านพี่ไม่ลดให้พี่สะใภ้เป็นอนุ นางจะเปลี่ยนไปเช่นนี้หรือ?”
สีหน้าของฉีจื่อฟู่คล้ำดำเขียวระลอกหนึ่งซีดเผือดระลอกหนึ่ง
ทว่าฉีอวี่เยียนเอ่ยต่ออีก “แต่ก็ดี ตั้งแต่ท่านพี่ลดให้นางเป็นอนุ นางก็ใจกว้างขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ก่อนหน้านี้ข้าเคยไปขอนางหนึ่งร้อยตำลึง นางก็ให้ตั้งสองร้อยตำลึง”
“ตอนนี้เราต้องการเยอะสุดเพียงสามสิบหาบ แต่นางดันเป็นฝ่ายออกปากให้สินเดิมข้าตั้งเยอะแยะเช่นนี้ ก็แปลว่าอย่างไรแล้วสตรีจะให้เคยตัวไม่ได้ ท่านพี่ท่านทำถูกต้องแล้ว!”
ครั้นฉีจื่อฟู่นึกขึ้นได้ว่าอย่างไรหรงจือจือก็ยอมชักสินเดิมออกมามากมายขนาดนั้น เขาก็ค่อย ๆ ใจเย็นลงเช่นกัน ในใจของจือจือมีตนอยู่แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นนางจะไม่ให้ก็ย่อมได้
ที่นางโกรธคงเป็นเพราะเรื่องลดเป็นอนุ รอผ่านไปอีกสองสามวันเรื่องทุกอย่างลงตัวแล้ว นางค่อย ๆ ยอมรับความจริงได้แล้ว ก็จะกลับไปเป็นอย่างแต่ก่อนแน่นอน
เขาเอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้เจ้าพูดถูก ท่านแม่ถูกเจ้าทำให้โกรธจนเป็นลมไป เราสองพี่น้องคอยดูแลปรนนิบัติอยู่ที่นี่กันเถอะ!”
ฉีอวี่เยียนเบะปาก ยังไม่ยอมเถียงคอเป็นเอ็น “ถูกข้าทำให้โกรธจนเป็นลมเสียที่ไหน? ท่านแม่ละอายแก่ใจตัวเองต่างหาก เพราะรู้ว่าทำผิดต่อข้า!”
หากนางถานฟื้นขึ้นมาได้ยินประโยคนี้ เกรงว่าจะต้องเดือดดาลจนเป็นลมไปอีกครั้งแน่
...
หรงจือจือกลับไปยังเรือนของตน
เจาซีปลื้มปีติเป็นอย่างมาก นางหัวเราะเริงร่าเป็นอย่างมาก “คุณหนู คิดว่าพวกนางคงคิดว่าคุณหนูจะให้สินเดิมหนึ่งร้อยหาบจริง ๆ เห็นพวกนางทะเลาะกันเอง ข้าละมีความสุขยิ่งนัก”
หรงจือจือมองนางพร้อมฉีกยิ้ม “วันนี้เจ้าก็ก้าวหน้าขึ้นแล้วนะ ไม่มีรีบร้อนพูดแทรกเลย”
เจาซีผู้นี้ดีไปหมดทุกอย่าง จริงใจเอาใจใส่ คิดถึงหรงจือจือในทุกเรื่อง เกรงว่าหากวันหนึ่งใช้ให้นางไปตายแทนหรงจือจือ นางก็ยอม ทว่าข้อด้อยเพียงอย่างเดียวก็คืออดกลั้นอารมณ์ไม่ได้
ฉะนั้นหรงจือจือจึงชอบมอบหมายให้นางทำงานสำคัญ สนิทสนมกับนาง ทว่าก็มักต้องปวดหัว
เจาซีเอ่ยตอบทั้งหน้าแดงก่ำ “ข้าน้อยทำดีตรงไหนหรือ มักจะเตะถ่วงแม่นางอยู่ร่ำไป แต่แม่นางวางใจ ข้าน้อยจะสุขุมให้ได้ขึ้นทุกวัน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น