ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว นิยาย บท 9

ถังซินเหยาดื่มนมเข้าไปเพื่อให้ชุ่มคอ ยิ้มแล้วยิ้มอีก ปรากฏให้เห็นลักยิ้มที่น่ารัก“ไม่ได้หรอก เธอเองก็ชินกับการอยู่คนเดียวไปแล้ว ถ้าหากพวกเราย้ายเข้าไปก็จะยิ่งเป็นภาระให้เธอ ยิ่งกว่านั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน มาอยู่กับเธอที่นี่มันไม่ดี ยังไงก็ช่างมันเถอะ”

มือใหม่สินะ!ฮ่าฮ่า......ตอนนี้คงต้องให้เธอมาขอร้องอ้อนวอนคุณย่าเพื่ออยู่ที่นี่ต่อ!

“ไม่ได้รบกวนอะไร”หลัวเหยียนฉีพยายามทำให้ดวงตาที่สวยหวานของเธอนั้นให้เต็มไปด้วยความจริงใจ“ใครพูดว่าพวกเธอไม่เกี่ยวข้องกัน เธอเป็นน้องสาวแท้ๆของฉัน ฉันเป็นแม่เลี้ยงของลั่วหลิงและเค่อหลาน ฉันต้องดูแลพวกเธอมันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว บ้านใหญ่ขนาดนี้ ฉันอยู่คนเดียวมันก็เงียบเหงาอยู่นะ พวกเธออยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลย”

ถังซินเหยาหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า“แต่ว่าฉันนัดกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากว่าฉันไม่ไป ฉันก็จะเสียชื่อ ถ้าหลังจากนี้พวกเราทะเลาะกัน อยากให้พวกเราย้ายออกไป ก็กลัวแค่ว่าจะหาบ้านอยู่ไม่ได้แล้ว”

หลัวเหยียนฉีจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในใจของถังซินเหยาคิดอะไรอยู่ แอบด่าเธอในใจแน่ แต่ปากกลับพูดอย่างซื่อสัตย์จริงใจ“เธอวางใจเถอะ ฉันยังมีบ้านอีกหลายหลังในเมืองบี พวกเธออยากจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ก็ได้ ฉันไม่ยอมให้เธอย้ายออกไปหรอก”

“งั้นก็ได้”ถังซินเหยาตอบกลับออกไปอย่างไม่เต็มใจ“เห็นแก่ความเป็นพี่น้องของพวกเรา ไหนจะที่เธอเป็นแม่เลี้ยงของลูกสุดที่รักอีก พวกเราไม่ย้ายไปแล้วก็ได้ อยู่เป็นเพื่อนเธอนี่แหละ”

มารอดูกัน ถ้าหากเป็นหลัวเหยียนฉีขอร้องให้เธออยู่ต่อ เธอคงจะไม่อยู่ต่อหรอก!วันนี้ลั่วหลิงและเค่อหลานเป็นตัวช่วยหลัก ทั้งสองคนได้รับจูบของหม่ามี้เป็นรางวัล

ดูลั่วหลิและเค่อหลานที่น่ารักน่าชังขนาดนี้ หลัวเหยียนฉีรู้สึกว่าให้ถังซินเหยาอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับไม่ได้

“ตอนเย็นเธอล้างจานนะ”หลังจากที่วางจานเสร็จแล้ว ถังซินเหยาพูดและมองไปที่หลัวเหยียนฉี

หลัวเหยียนฉีและเพื่อนตัวน้อยของเธอก็ตกใจไป “ทำไมกันล่ะ?”

ถังซินเหยาทำหน้าอย่างจริงจังพูดว่า“เพราะอาหารเย็นลั่วหลิงและเค่อหลานก็เป็นคนทำ หรือว่าเธอล้างจานนี่ไม่ควรทำเหรอ?”

“งั้นเธอล่ะ?เธอต้องทำอะไร?”

“ฉันเป็นคนคลอดลั่วหลิงกับเค่อหลาน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว