มู่หลานพาร์ท
“ที่นี้?ที่ไหน ทำไมถึงมืดแบบนี้”ผมมองไปรอบๆทุกด้านมีเพียงแค่ความมืดมันมืดมาก มากเสียจนน่ากลัวสิ่งที่พอจำได้มีแค่แหวนสองวงที่ปรากฏขึ้นหลังยากนั้นผมจำอะไรไม่ได้อีกเลย
“พี่มู่กลับมาหาหนูนะ”
“มู่กลับมาเถอะหลานน้า”เสียงนี้มันเสียงคุณน้ากับเหมยนิ!!
“คุณน้า!อาเหมย!อยู่ไหนกันครับ!”ผมได้แต่ร้องเรียกตอบกลับเสียงที่มาจากที่แสนไกลในความมืดแต่ไม่ว่าจะร้องเรียกแค่ไหน กลับได้ยินเพียงเสียงตอบกลับด้วยคำเดิมๆจนเวลาผ่านไป ผมได้แต่เดินตามเสียงมาในความมืดก็ต้องหยุดลง ในความมืดสะท้อนภาพของเด็กน้อยและคุณน้ากำลังกอดศพของใครสักคนอยู่ เสื้อผ้าที่เปื้อนไปด้วยรอยเลือดคราบน้ำตาที่ยังคงไหลลงมาเป็นสายมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บขึ้นมาในใจ ก่อนที่ภาพจะบรรยายต่อเนื่องมาจนถึงพิธีทำศพและชีวิตหลังจากนั้นแม้เงินและของที่ผมสร้างไว้มันจะมีมากพอสำหรับคุณน้าและเหมย แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมามันกลับยังคงอยู่เท่าเดิมอยู่ที่เดิมแม้ว่าจะลำบากจนขาดใจคุณน้ากับเหมยก็ไม่เคยหยิบใช้เลยแม้แต่น้อย. ใบหน้าของเหมยที่เดินผ่านห้องที่ผมนอนซ้ำๆน้ำตาที่ไหลลงไม่หยุดมันยิ่งทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าเอามีดมาแทง
ผมได้แต่มองดูสิ่งนั้นซ้ำๆแล้วหันกลับมาคิดกับตัวเองในขณะที่ผมมีความสุขในขณะที่ผมสบายคนที่ผมรักที่ดูแลผมมาตลอด28ปีต้องลำบากแค่ไหน ผมมันแย่ผมมันเห็นแก่ตัว
“มะม๊าไม่แย่หรอกครับ”
“ใช่ๆมะม๊าไม่แย่ๆอย่าโทษตัวเองนะ”
เสียงประหลาดดังขึ้นจากความมืดก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีแดงสลับดำและเด็กสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหรูสีขาว ดวงตาผมและทุกอย่างของทั้งสองเป็นสีขาวเผือกทั้งหน้าตาที่เหมือนกัน
“มะม๊ายินดีต้อนรับกลับ”
“ยินดีต้อนรับ”
“พวกเธอเป็นใคร แล้วมาที่นี้ได้ยังไงที่นี้ที่ไหนทำไมถึง”
“ถามเยอะแบบนั้นเร็นตอบไม่ทันหรอก เนอะรัน”
“ใช่ ใจเย็นสิครับพวกผมไม่หนีมะม๊าไปไหนหรอก”
“เร็น?รัน?”
“ครับมะม๊า/ครับบ”
“หรือว่าจะเป็นลูกงูขาว!!ตาเร็นตารัน”ผมได้แต่ยืนอึ่งไปพักนึงก่อนที่จะโดนฉุดกลับมาเพราะเด็กสอนคนตรงหน้าเดินมากอดผมแน่นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
“มะม๊าเร็นกับรันจะตอบทุกคำถามที่มะม๊าต้องการแต่มีข้อแม้อยู่อย่างนึงมะม๊าห้ามโต้แย้งหรือขัดต่อคำสัญญาแต่อย่างใด ไม่อย่างนั้นมะม๊าจะไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี้”
กลับมาอีกด้านนึงหลังจากที่อินสลบไป
ป๊าคริสพาร์ท
ตั้งแต่อ้วนสลบไปก็ผ่านมาชั่วโมงนึงแล้วตอนนี้ผมกำลังพาอ้วนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะหากยังมัวรีรออะไรอีกมันจะไม่เป็นผลดีต่ออ้วนเลย
แต่แล้วทุกอย่างกลับแปลกไปเมื่อมาถึงโรงพยาบาลหมอหลากหลายคนพากันตรวจแต่กลับไม่พบอะไรเลย อีกทั้งยังปกติแข็งแรงทุกอย่าง
“คุณคริสเดี๋ยวกันต์จะกลับไปนำชุดกับของส่วนตัวมาให้นะครับ”เป็นเฟยที่พูดขึ้นขัดขั้นช่วงเวลาแสนมืดมนภายในห้องvip
“อืม”ผมเพียงตอบไปแค่นั้นเพราะตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคืออ้วนเท่านั้น
“อืออ”แต่แล้วเสียงบนเตียงที่เงียบสงัดอยู่กลับกำลังค่อยๆลืมมาดูสิ่งรอบข้าง
“อ้วน!”ด้วยความดีใจรีบพุ่งตัวไปกอดรัดร่างนั้นไว้แน่น
“ป๊า..”แต่เพียงเสียงนั้นดังขึ้นผมก็ต้องรีบถอดถอนกอดมาจ้องที่ใบหน้าของอ้วนทันที หยาดน้ำตาสีใสไหลรินลงตามแก้มอีกทั้งยังม่งเสียงร้องไห้ไม่หยุด
“อ้วน..เป็นอะไรครับ..เจ็บตรงไหน..ร้องไห้ทำไมครับ”
“ฮึก..ฮือออ..ไม่ใช่..ฮืออ”
“ไม่ใช่อะไรครับอ้วน..ไหนหยุดร้องแล้วพูดกันดีๆนะ”
“ฮึก..อินเอง..ไม่ใช่พี่มฺู่..ฮืออ”
“....”
“ฮืออ..อินขอโทษ..แต่นี้..ฮึกเป็นข้อแลกเปลี่ยน”
“แปลว่า..เธอคืออินลูกชายตัวจริงของฉัน?”ผมไม่รู้ว่าควรพูดอะไรหรือคิดยังไงกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะมันไม่ควรเกิดขึ้นและไม่น่าเป็นไปได้ แต่กลับกันผมดันผ่านเรื่องราวของมู่มาทำให้ผมต้องยอมรับและเข้าใจว่าสิ่งแบบนี้มีและสามารถเกิดขึ้นได้
“ฮึก..ใช่..น้องอิน..กลับมาแล้วนะครับ”
“ลูก..น้องอินของป๊า”ผมกอดกระชับวงแขนนั่นอีกครั้ง นี้คงเป็นความรู้สึกระหว่างสายเลือดความรู้สึกที่แท้จริงของการมีลูก
“ฮืออ..น้องอินขอโทษ”
“ไม่เอา เป็นลูกป๊าต้องเข็มแข็งไม่ร้องนะครับ”ผมได้แต่ปรอบใจอินอยู่อย่างนั้นนานสองนานกว่าที่อินจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง
ผมจำใจความเรื่องราวได้ว่าตอนนี้มู่หลานไม่ได้จากพวกเราไปไหนแต่เพียงรอเวลาและรอสิ่งสุดท้ายที่มู่ต้องทำให้สำเร็จ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะผ่านจุดนั้นมาอินเล่าให้ผมฟังว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดพลาดและทุกอย่างกำลังแก้ไขไปตามสัญญาที่อินเคยร้องขอไว้นั้นก็คือ การที่อินจะได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งในร่างเดิมกายเดิม ส่วนมู่หลานมีโอกาสที่จะได้กลับมาใช่ชีวิตแต่หากร่างกายนั้นไม่ใช่กายเดิมและไม่ใช่ร่างของอินอีก
อย่างที่บอกไปข้างต้นมันไม่ง่ายเลยที่จะได้สิทธิ์แบบนี้มามู่จะเกิดใหม่หรือหาร่างสถิตใหม่มั้ยนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเค้าว่าสามารถผ่านบททดสอบต่างๆได้รึเปล่า อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมู่หลานด้วยสิ่งเดียวที่ผมจะทำได้ตอนนี้มีเพียงการรอและดูแลอินให้ดีเท่านั้น ความสัมพันธ์ใหม่ของผมและอืนหลังจากนี้คงพูดได้ว่าเริ่มจากศูนย์ใหม่ตั้งแต่แรก
“ป๊า..ไม่ต้องห่วงนะ อิน เชื่อว่าพี่มู่จะสามารถกลับมาหาพวกเราได้เร็วๆนี้แน่”
“ได้แบบนั้นก็ดีสิ” ตอนนี้เป็นวันที่อินจะต้องออกจากโรงพยาบาลและกลับมายังบ้าน เรื่องราวของอินถูกถ่ายทอดคำสั่งใหม่ทั้งหมดเฟย กันต์และทุกคนล้วนรู้และเข้าใจสถานะการณ์ทั้งหมดแล้ว
“กันต์ เฟยจัดเตรียมห้องไว้ยัง”
“เตรียมไว้แล้วครับคุณคริส”
“อือ”
“ป๊า ไม่ต้องไปส่งอินหรอกเดี๋ยวอินไปกับพี่กันต์เอง ป๊าไม่ได้เข้าไปดูงานหลายวันคงมีอะไรที่ต้องจัดการเยอะ เพราะงั้นไปทำงานเถอะครับ”
“ทั้งๆที่พึ่งกลับมา ก็ทำตัวเป็นผู้ให้เชียวนะครับคุณหนู เหมือนคุณคริสสมัยเด็กมากครับ”
“หึ ลูกกูสะอย่าง”ใช่ผมสังเกตท่าทีทุกอย่างของอินทุกรายละเอียดของลูกชายคนนี้ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าอิน เหมือนผมตอนเป็นเด็กแค่ไหน อินคงพูดได้ว่าดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามู่หลายเท่า
“โถ่..พี่กันต์อินเป็นลูกป๊าแค่นี้สบาย อีกอย่างอินอยากเจอคนๆนั้นที่อินเห็นผ่านพี่มู่บ่อยๆ”ผมหันไปมองอินด้วยปลายตาแก้มสีแดงอมชมพูกำลังแต่งแต้มสีสันเพิ่มขึ้น
“ใคร?”ผมหันไปถามทันที
“พี่ค..คินทร์..ครับ”
“คินทร์? อยากเจอทำไม?”
“เอ่อ..คือว่า..แค่อยากเจอครับไม่มีไรหรอกครับๆ”
“กันต์”
“ครับคุณคริส”
“โทรหาไอเรียวบอกให้พาคินทร์กลับมาที่บ้านฉันก่อนที่อินจะไปถึง”
“ได้ครับ”
อินพาร์ท
จะแปลกๆมั้ยเนี้ยอยู่ดีๆไปบอกป๊าว่าอยากเจอแบบนั้น..ให้ตายสิทำไมไม่รู้จักคิดก่อนพูดเนี้ย แล้วแบบนี้ถ้าเกิดป๊าสงสัยขึ้นมาละจะทำไง
“คุณหนูเดินวนทำไมครับ เฟยปวดหัวหมดแล้ว”
“อ้ะ..ขอโทษครับพี่เฟย อินแค่คิดไรนิดหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปะป๊าของผมเป็นมาเฟียครับ!!!