ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 141

สรุปบท บทที่ 141 เจ้ายอมรับความแพ้ได้หรือ?: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก

สรุปเนื้อหา บทที่ 141 เจ้ายอมรับความแพ้ได้หรือ? – ภพนี้ตราบภิรมย์รัก โดย ท้อเยาเยา

บท บทที่ 141 เจ้ายอมรับความแพ้ได้หรือ? ของ ภพนี้ตราบภิรมย์รัก ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ท้อเยาเยา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“คุณหนูหนาน บังเอิญยิ่งนัก รอบแรกคือเราสองคนแข่งกัน!”

หลินเมิ่งหวันยิ้มขึ้นแล้วทักทายหนานมู่ชิงอย่างอบอุ่น

ก่อนหน้านี้นางยังกังวลว่าเตรียมท่องตำราหมากมามิมากพอ อาจอยู่มิถึงในกระดานสุดท้าย

ทว่าในวันนี้คู่ต่อสู้คนแรกที่นางพบคือหนานมู่ชิง หลินเมิ่งหวันจึงมิกลัวแม้แต่น้อย

แชมป์ในชาติก่อนก็คือหนานมู่ชิง ดังนั้นเพียงแค่นาง" กำจัด"หนานมู่ชิงทิ้งไปได้ในสนามแรก หลินเมิ่งหวันก็นับได้ว่าชนะอย่างราบรื่น

อีกอย่าง ต่อให้พบกับอุปสรรคใดในภายหลัง อย่างน้อยนางก็สามารถเอาชนะหนานมู่ชิงได้แล้ว เท่ากับกู้หน้าคืนมาได้สำเร็จ

หนานมู่ชิงมองไปทางหลินเมิ่งหวันด้ายสีหน้ามืดมน นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "หลินเมิ่งหวัน เจ้ากล้ามาจริงงั้นหรือ อย่าหวังว่าข้าจะออมมือให้เจ้า

หลินเมิ่งหวันยิ้มขึ้นอย่างมิแยแสว่า “การแข่งขันนั้นจะมีการออมมือได้อย่างไรเล่า? คุณหนูหนานกล่าวเช่นนี้ ข้าเองก็วางใจ ข้าจะได้แสดงความสามารถของตนออกมาได้อย่างเต็มที่”

“เพียงแต่ว่า……” หลินเมิ่งหวันมองไปทางหนานมู่ชิงอย่างมิวางใจนัก “คุณหนูหนาน เจ้าจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้หรือ? อย่าได้เป็นเหมือนพี่สาวคนโตของข้า เมื่อพบว่าตนกำลังเสียเปรียบ ก็คิดจะจัดการข้า”

“เจ้า!”

หนานมู่ชิงนำมือตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง นางโมโหเสียจนอกแทบระเบิด

หลินเมิ่งหวัน เหตุใดสตรีนางนี้จึงน่าสะอิดสะเอียนได้เพียงนี้!

เมื่อมองไปทางใบหน้าของนาง หนานมู่ชิงก็ยิ่งรู้สึกมิสบายไปทั้งกาย นางอยากจะเข้าไปตบหน้าหลินเมิ่งหวันเสียเหลือเกิน

หลินเมิ่งหวันรีบถอยหลังกลับ สายตาทอดมองไปทางหนานมู่ชิงด้วยความกลัว ก่อนจะแสร้งตะโกนขึ้นว่า “ยังมิทันได้เริ่มแข่งเสียด้วยซ้ำ เจ้าก็มิอาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้แล้วงั้นหรือ อืม……ย่อมได้ ข้าจะยอมอ่อนข้อให้แก่เจ้า โดยให้เจ้าเดินหมากก่อน ว่าอย่างไร?”

ระหว่างที่กล่าวนั้น หลินเมิ่งหวันก็ได้ผลักกล่องตัวหมากไปให้หนานมู่ชิง ทำท่าทางอ่อนข้อให้อีกฝ่าย

หนานมู่ชิงในบัดนี้โมโหแทบคลั่ง นางตะโกนออกมาสุดเสียง “ใครต้องการให้เจ้าอ่อนข้อแก่ข้า!”

นางจะมิอาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้อย่างไร?

เห็นได้ชัดว่าหลินเมิ่งหวันตั้งใจเอ่ยวาจาออกมาให้นางสะอิดสะเอียนใจ !

“มิจำเป็นงั้นหรือ?” หลินเมิ่งหวันเลิกคิ้วแล้วกะพริบตา นางพยักหน้าเร็วพลัน “เอาเถอะ หากเจ้ามิต้องการก็ตามแต่เจ้า หากเจ้ามิยินดีจะเดินหมากก่อน เช่นนั้นข้าเดินก่อนเป็นไร?”

หลินเมิ่งหวันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ทำท่าเหมือนกับว่านางเป็นคนว่าง่าย จากนั้นหยิบหมากสีดำขึ้นมาวางไว้บนกระดานหมาก

หนานมู่ชิง ชะงักลงทันใด นางมองไปทาง ที่ถูก ทั้งกระดานนั้นด้วยความเหม่อลอย

เหตุใดจึงกลายเป็นหลินเมิ่งหวันเดินหมากก่อนไปได้เล่า

แม้ว่าการเดินหมากรุกในตอนตัดสินแพ้ชนะ ผู้ที่เดินหมากก่อนจะต้องอ่อนข้อให้ก็ตาม ด้วยเหตุนี้การเดินหมากก่อนจึงมิได้นับว่าได้เปรียบนัก จะต้องดูที่วิธีการและการเดินหมากเป็นหลัก

แต่ว่า การที่ได้วางหมากก่อนย่อมได้เปรียบเป็นแน่แท้

อีกอย่าง บัดนี้เห็นได้ชัดว่าหลินเมิ่งหวันกำลังได้เปรียบ ทั้งยังทำท่าทีเหมือนถูกรังแก!

ช่างน่ารำคาญใจสิ้นดี!

“คุณหนูหนาน เหตุใดยังมิเดินหมากเล่า? จะยอมแพ้ข้าอย่างง่ายดายงั้นหรือ?” หลินเมิ่งหวันกะพริบตากลมโตของนาง จ้องไปทางหนานมู่ชิงด้วยความงุนงง

หนานมู่ชิงกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น “เจ้าอย่าได้เอ่ยวาจามากความไป! ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าพ่ายแพ้แก่ข้า หวังว่าเจ้าจะมิหลั่งน้ำตา!”

หลินเมิ่งหวันเดินหมากก่อนแล้วไรเล่า! ถึงอย่างไรนางก็สามารถกำจัดหลินเมิ่งหวันได้อย่างไร้ร่องรอยอยู่แล้ว!

อีกอย่าง การที่นางให้หลินเมิ่งหวันลงมือก่อน แล้วหลินเมิ่งหวันยังพ่ายแพ้แก่นาง เมื่อถึงเวลานั้นอีกฝ่ายคงขายหน้ากว่าเดิม

หนานมู่ชิงคิดได้ดังนั้น ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาทันใด นางหยิบตัวหมากตรงหน้าแล้ววางลงไปบนกระดาน

แววตาของหลินเมิ่งหวันเผยถึงความเจ้าเล่ห์

นางรู้ดีว่าหนานมู่ชิงจะมิยอมให้ตนอ่อนข้อต่อนางเป็นแน่แท้ การที่นางได้เดินหมากก่อน กระดานนี้ก็จะง่ายขึ้นสำหรับนาง

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั่วทิศ ชายคนหนึ่งแต่งตัวดูดีเดินตรงเข้ามาแล้ววางกล่องผ้าลงที่ด้านขวา “ข้าเดิมพันว่าหลินเมิ่งหวันชนะ”

ทุกคน ณ ที่นั้นจึงได้ตกตะลึงอีกครั้ง หมอยาหนานไห่เอวก็มองไปทางชายผู้นั้นด้วยความประหลาดใจ เมื่อมองออกว่าเขาคือเสวียนยี จึงได้ยิ้มขึ้น

เสวียนยี แม้แต่เสวียนยีก็ยังเดิมพันว่าหลินเมิ่งหวันชนะ เช่นนั้นเขาจะต้องชนะแน่!

การแข่งขันยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หนานมู่ชิงกำตัวหมากในมือแน่น เหงื่อเย็นไหลเป็นทาง

หลินเมิ่งหวันยกแก้วน้ำชาขึ้นมาจิบ ยิ้มขึ้นแล้วมองไปทางหนานมู่ชิง กล่าวว่า “คุณหนูหนาน เหตุใดยังมิเดินหมากเล่า? ธูปดอกนี้ใกล้มอดแล้ว”

หนานมู่ชิงเงยหน้าขึ้นมองดูหลินเมิ่งหวัน แล้วหันหลังกลับไปมองกระถางธูปที่อยู่ด้านข้าง

หัวใจของนางเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของนางขมวดเข้าหากัน เหงื่อเย็นไหลลงมามากกว่าเดิม

หนานมู่ชิงคาดมิถึงว่าหลินเมิ่งหวันจะเดินหมากเป็นจริงๆ

กระดานหมากนี้ นับแต่หมากตัวที่ 10 เริ่มเดิน หนานมู่ชิงเรียกได้ว่าถูกหลินเมิ่งหวันจูงจมูกเดิน

บัดนี้ กระดานหมากนี้เดินมาได้กว่าครึ่งแล้ว แต่หนานมู่ชิงกลับอยู่ในภาวะที่กลืนมิเข้าคายมิออก มิว่าตัวหมากรุกในมือของนางจะวางลงไปที่ใด ก็ไร้หนทางที่จะพลิกผันได้

หรือว่า นางจะต้องพ่ายแพ้งั้นหรือ?!

มิได้ มิได้แน่นอน นางจะยอมแพ้แก่หลินเมิ่งหวันมิได้เป็นอันขาด!

หนานมู่ชิงคิดอยู่ในใจแล้วยื่นมือออกมาวางหมาก

ทว่าวินาทีที่นางวางหมากลง กลับมีสายลมโชยพัดมา ทำให้ไฟอันริบหรี่ที่ก้านธูปดับลงไปตามสายลม

“หมดเวลา!”

บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างโต๊ะตะโกนออกมาเสียงดัง ภาพตรงหน้าของหนานมู่ชิงมืดมนพร่ามัว หมากตัวที่นางยื่นออกไปนั้นร่วงหล่นสู่พื้นเสียงดัง “ตุ้บ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก