พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 220

ลู่จื่อเซียนหยุดชะงัก เขายืนอยู่บนบันไดและมองลงมาที่เซี่ยเหยียนเหยียนอย่างดูถูก จากนั้นก็พูดว่า “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?”

เซี่ยเหยียนเหยียนยิ้ม และพูดว่า “นักวิชาการลู่ คุณตกหลุมรักเซี่ยซีหว่านไม่ใช่เหรอคะ คุณไม่อยากให้เซี่ยซีหว่านและลู่หานถิงหย่ากันเหรอคะ เรามีจุดประสงค์เดียวกัน ดังนั้นเรามาร่วมมือกันเถอะค่ะ อย่าแสร้งทำตัวสูงส่งไปหน่อยเลย โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ควรพลาดเด็ดขาด อันที่จริงแล้วเราทั่งคู่ก็เป็นคนประเภทเดียวกันนั่นแหละค่ะ”

นี่เป็นครั้งที่สองที่เซี่ยเหยียนเหยียนเสนอความร่วมมือกับเขา

ใบหน้าหล่อเหลาของลู่จื่อเซียนไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ เขาเหลือบมองเซี่ยเหยียนเหยียนและไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปชั้นบนทันที

...

ลู่จื่อเซียนเปิดประตูห้องและเดินเข้าไป ตอนนี้เซี่ยซีหว่านกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ที่ดูอ่อนนุ่ม ผมยาวสีดำขลับของเธอแผ่กระจายอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาว ใบหน้าเรียวเล็กขณะที่กำลังหลับใหลของเธอนั้นดูอ่อนโยนและไร้เดียงสา

เมื่อเห็นเธอปลอดภัย สีหน้าของลู่จื่อเซียนก็ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าจากนั้นก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียง และจ้องมองใบหน้าเรียวเล็กขนาดเท่าฝามือของเธออย่างเงียบ ๆ

เนื่องจากเธอสวมผ้าคลุมหน้าอยู่ เขาจึงมองไม่เห็นใบหน้าอันงดงามของเธอ ตั้งแต่วันนั้นที่เขายกผ้าคลุมหน้าของเธอขึ้น เขาจำลักษณะใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน เธอสวยราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด

ลู่จื่อเซียนค่อย ๆ เอื้อมมือออกมาและใช้นิ้วเรียวยาวลูบไล้ใบหน้าเรียวเล็กของเธออย่างแผ่วเบา ผิวของเธอเนียนละเอียดอ่อนมาก

ผิวของเธอนวลเนียนและละเอียดอ่อนราวกับผิวของทารกแรกเกิด

ทันใดนั้นหญิงสาวที่เขากำลังสัมผัสอยู่ก็ขยับตัวเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้นมา

เซี่ยซีหว่านตื่นแล้ว จังหวะที่บอดี้การ์ดชุดดำโจมตีเธอ เธอกลั้นหายใจและพยายามเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงจุดสำคัญอย่างลับ ๆ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดบริเวณต้นคอเป็นอย่างมาก ดวงตาสดใส และเป็นประกายของเธอฉายแววเขินอายเล็กน้อย

“ซีหว่าน คุณตื่นแล้วเหรอครับ?”

เซี่ยซีหว่านเงยหน้าขึ้นมองลู่จื่อเซียนโดยไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตระหนกตกใจใด ๆ เธอพูดว่า “คุณมาแล้วเหรอคะ? เซี่ยเหยียนเหยียนเป็นคนบอกให้คุณมาที่นี่ใช่ไหมคะ?”

“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้ว่าผมจะต้องมาที่นี่เลยนะครับ”

เซี่ยซีหว่านลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ใช้มือเล็ก ๆ ของเธอนวดบริเวณต้นคอของตนเอง และพูดว่า “ฉันแค่อยากจะดูว่าไพ่ใบเด็ดของเซี่ยเหยียนเหยียนคืออะไรก็เท่านั้นเองค่ะ อีกอย่างฉันก็อยากจะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างนักวิชาการลู่และเซี่ยเหยียนเหยียนเป็นแบบไหนกันแน่?”

ลู่จื่อเซียนมองเซี่ยซีหว่าน และพูดว่า “คุณสงสัยผมมานานแล้วเหรอครับ?”

เซี่ยซีหว่านพยักหน้าตอบรับและพูดว่า “ฉันแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ทุกครั้งที่ฉันอยู่กับคุณ เซี่ยเหยียนเหยียนมักจะอยู่ที่นั่นด้วยเสมอ จากนั้นคุณชายลู่ก็จะตามมาด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าคุณและเซี่ยเหยียนเหยียนจะต้องมีการติดต่อกันเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน แต่ฉันไม่แน่ใจว่าพวกคุณได้ร่วมมือกันหรือเปล่า”

ดวงตาสีดำขลับอันเยือกเย็นของลู่จื่อเซียนเต็มไปด้วยรอยยิ้มฉายแววขบขัน อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ประหลาดใจเลยสักนิด เขารู้ว่าเธอจะต้องตื่นขึ้นอย่างแน่นอน หญิงสาวในความทรงจำของเขานั้นเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก เขาจึงพูดขึ้นว่า “แล้วตอนนี้ล่ะ คุณคิดว่าพวกเราร่วมมือกันไหมครับ?”

ดวงตาสดใสของเซี่ยซีหว่านมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา และพูดว่า “นักวิชาการลู่คะ ฉันเชื่อว่าคุณและเซี่ยเหยียนเหยียนไม่ใช่คนประเภทเดียวกันค่ะ”

หลังจากเซี่ยซีหว่านพูดจบ เธอก็เตรียมตัวจะเดินออกไป

“ซีหว่าน” จู่ ๆ ลู่จื่อเซียนก็ก้าวมาข้างหน้าและเอื้อมมือออกมาจับข้อมือเรียวของเธอไว้อย่างถือวิสาสะ และพูดว่า “เซี่ยเหยียนเหยียนพูดถูก วันนี้เป็นโอกาสที่ดีของผม คุณถูกวางไว้บนเตียงของผมแล้ว อย่าคิดว่าแค่คำหวานไม่กี่คำจะทำให้ผมปล่อยคุณไปได้ สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่ความไว้วางใจของคุณ แต่เป็นตัวคุณต่างหาก”

เซี่ยซีหว่านตัวแข็งทื่อ เธอมองไปที่เขาและพูดว่า “นักวิชาการลู่คะ ฉันเป็นพี่สะใภ้ของคุณนะคะ”

“อ๋อครับ” ลู่จื่อเซียนอุทานและหัวเราะออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ และพูดว่า “พี่สะใภ้ปลอม ๆ นะเหรอครับ?”

เซี่ยซีหว่านเบิกตากว้าง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เธอและลู่หานถิงก็ยังไม่ได้มีอะไรกัน เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ แล้วเขารู้ได้อย่างไร?

“หว่านหว่าน ผมยังคงยืนยันคำเดิม หย่ากับเขาเถอะครับ แล้วไปมหานครอิมพีเรียลกับผม ผมชอบคุณจริง ๆ 2 ปีที่แล้วตอนที่ผมเห็นคุณบนถนนกลางมหานครเอมพีเรียล ผมก็รู้ได้ในทันทีว่า... คุณคือคนที่ผมตามหามาทั้งชีวิต ดูเหมือนว่าผมจะตามหาคนแบบคุณมานานหลายปีแล้ว”

เซี่ยซีหว่านตัวสั่นเทาเล็กน้อย เธอมองลู่จื่อเซียนและพูดว่า “ฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิมค่ะว่าอย่ามาเสียเวลากับฉันเลยค่ะ มันไม่คุ้มค่าหรอกค่ะ ฉันจะไปมหานครเอมพีเรียลอย่างแน่นอน แต่ฉันจะไม่ไปที่นั่นกับคุณ ฉันจะไปที่นั่นด้วยตัวของฉันเอง ฉันคุ้นเคยกับมหานครเอมพีเรียลเป็นอย่างดี และฉันไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องให้คุณมาปกป้องค่ะ”

ลู่จื่อเซียนมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาสดใสและเปล่งประกายของเธอฉายแววเย็นชา เธอมีท่าทีที่นิ่งสงบ สง่างาม และยังแพรวพราวระยิบระยับราวกับดวงดาว เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์จนทำให้ผู้คนที่พบเห็นเธอต่างพากันรู้สึกใจเต้นแรง

เธอบอกว่าเธอจะไปที่มหานครเอมพีเรียลด้วยตัวของเธอเอง และเธอไม่ต้องการให้เขามาปกป้อง

“ถ้าคนที่อยู่ข้างหน้าคุณคือลู่หานถิง คุณก็ไม่ต้องการให้เขามาปกป้องคุณด้วยอย่างนั้นเหรอ?” ลู่จื่อเซียนเอ่ยถาม

เมื่อพูดถึงลู่หานถิง หัวใจของเซี่ยซีหว่านก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง เธอต้องใช้เวลาหลายปีในการเรียนรู้ที่จะกล้าหาญและอยู่ได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขา เธอก็อยากจะพึ่งพาเขาและใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา

“ถ้าเป็นคุณชายลู่ ฉันก็อยากให้เขาไปที่มหานครเอมพีเรียลกับฉันด้วยค่ะ”

ลู่จื่อเซียนกำมือเข้าหากันแน่น เธอให้คำตอบกับเขาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการได้รับการปกป้อง เธอแค่ต้องการได้รับการปกป้องจากลู่หานถิงเท่านั้นเอง

“นักวิชาการลู่คะ ฉันคิดกับคุณแค่เพื่อนมาโดยตลอด คุณกลับไปเถอะค่ะ กลับไปที่มหานครเอมพีเรียล ไม่อย่างนั้นแม้แต่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนฉันก็ให้คุณไม่ได้ อันที่จริงแล้วฉันและคุณชายลู่เราไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบปลอม ๆ กันหรอกค่ะ ทั้งหมดคือเรื่องจริงค่ะ”

ร่างสูงโปร่งสง่างามของลู่จื่อเซียนหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เขาเพิ่งรู้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นเป็นหญิงสาวที่เด็ดขาดและชัดเจนถึงเพียงไหน สำหรับคนที่เธอไม่ชอบ เธอก็ไม่มีวันที่จะให้โอกาสคน ๆ นั้นเลย

ขณะเดียวกันเซี่ยซีหว่านก็ดึงข้อมือเรียวยาวของเธอกลับอย่างแรง จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินออกไปในทันที

“คุณออกไปข้างนอกตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ตอนนี้ลู่หานถิงอยู่ที่นี่แล้ว”

อะไรนะ?

เซี่ยซีหว่านหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทันใดนั้นเธอก็คิดได้ว่า ที่แท้ไพ่ใบเด็ดของเซี่ยเหยียนเหยียนในการเจรจาต่อรองก็คือลู่หานถิง

ลู่จื่อเซียนมองเซี่ยซีหว่านและพูดว่า “ลู่หานถิงคนนั้นไม่มีใครบังคับเขาได้หรอก ถ้าเขาไม่เปิดโอกาสให้ เซี่ยเหยียนเหยียนไม่มีวันปีนขึ้นไปบนเตียงของเขาได้ แต่ถ้าเขาให้โอกาสเธอก็ไม่แน่เหมือนกัน...ผมได้ยินมาว่าเซี่ยเหยียนเหยียนดีกับลู่หานถิงมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าภายในใจของลู่หานถิงจะมีที่ว่างให้กับเซี่ยเหยียนเหยียนหรือเปล่า”

เซี่ยซีหว่านยังฟังไม่ทันจบ เธอก็รีบเปิดประตูและวิ่งออกไป

เมื่อเธอวิ่งออกมาก็ชนเข้ากับเซี่ยเจิ้งกั๋วในทันที เนื่องจากคำสั่งเสียของคุณปู่เซี่ยทำให้ตอนนี้เซี่ยเจิ้งกั๋วไม่อยากจะพบหน้าเซี่ยซีหว่านสักเท่าไหร่ เขายิ้มด้วยสีหน้าอึดอัดใจ และพูดว่า “ซี...ซีหว่านลูกมาแล้วเหรอ?”

เซี่ยซีหว่านมองเซี่ยเจิ้งกั๋วด้วยดวงตาที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และพูดว่า “เซี่ยเหยียนเหยียน อยู่ที่ไหนคะ?”

“ดูเหมือนว่าเหยียนเหยียนจะเข้าไปในห้องแล้ว…”

ขณะเดียวกันสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เซี่ยเจิ้งกั๋วก็พยักหน้าตอบรับ และพูดว่า “ใช่ค่ะคุณท่าน คุณหนูใหญ่เข้าห้องไปแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่นานประธานลู่มาที่นี่ค่ะ จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในห้องด้วยกัน นี่มันก็สักพักแล้วนะคะ แต่พวกเขาก็ยังไม่ออกมากันเลยค่ะ” สาวใช้พูดด้วยความเคารพ

“ลู่หานถิงอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ?” เซี่ยเจิ้งกั๋วเพิ่งกลับมาถึงบ้าน เขาจึงไม่รู้เรื่องนี้

เซี่ยซีหว่านผลักเขาออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็เดินตรงไปที่ห้องของเซี่ยเหยียนเหยียนในทันทีซึ่งตอนนี้ประตูห้องของเซี่ยเหยียนเหยียนถูกล็อคอย่างแน่นหนา

“ปัง ปัง ปัง” เซี่ยซีหว่านยกมือขึ้นตบประตูอย่างแรง แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู เธอจึงยกเท้าขึ้นเตะประตู และพูดว่า “เซี่ยเหยียนเหยียน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ! คุณชายลู่คะ คุณอยู่ข้างในไหมคะ? รีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ !”

เซี่ยเจิ้งกั๋วตกตะลึง เขาเพิ่งเคยเห็นเซี่ยซีหว่านมีอารมณ์หึงหวง เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งเห็นหลี่ยู่หลานมีอารมณ์หึงหวงตอนจับชู้ ท่าทางของเซี่ยซีหว่านนั้นเหมือนกับกำลังจับชู้ของสามีไม่มีผิด รังสีอำมหิตของเธอนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่ยู่หลานเลยสักนิด

เซี่ยเจิ้งกั๋วจึงรู้สึกว่าผู้หญิงนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี