อันที่จริงแล้วเขาก็สงสัยในคำพูดของลูกสาวอยู่เหมือนกัน เพราะตอนนี้ลูกสาวของเขาได้ลืมพงศกรไปแล้ว โดยปกติ ก็น่าจะฟังเสียงของพงศกรไม่ออกมันถึงจะถูก
ดังนั้น เธอจะยืนยันได้ยังไงว่าปลายสายที่โทรมานั้นเป็นพงศกร?
หรือต่อให้ปลายสายจะบอกว่าตัวเองคือพงศกร ก็ไม่แน่ว่าอาจจะกำลังโกหกเธออยู่
เมื่อคุณแม่ปารวีได้ยินคำถามของคุณพ่อประสิทธิ์ ก็พยักหน้าเห็นด้วยแล้วมองไปยังปาจรีย์“ใช่ปาจรีย์ ใช่เขาจริงๆเหรอ ? ลูกฟังผิดหรือเปล่า ?”
ตอนนี้เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกสาวของเธอจะฟังผิดไป คนที่โทรมาไม่ใช่พงศกร
หากเป็นแบบนี้ เรื่องนี้ ก็จะเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิด พวกเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งวิตกกังวล
แต่แล้วดวงตาของปาจรีย์ก็แดงก่ำแล้วส่ายหัวให้ “ไม่มีทาง หนูฟังไม่ผิดแน่ เขาคือพงศกร ถึงหนูจะลืมเขาแล้ว และจำเสียงเขาไม่ได้ แต่ใจของหนูกลับรู้สึกหวาดกลัวกับเสียงของเขา แค่ได้ยินเสียงของเขาก็ทำหนูกลัวมาก และเขาก็พูดเองว่าเขาคือพงศกร”
“นี่มัน......”
หลังจากที่คุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีได้ยินคำตอบของลูกสาว ก็พูดอะไรไม่ออก ความหวังที่จุดประกายในใจ ก็พลันหายกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
คุณแม่ปารวีหันมองไปยังคุณพ่อประสิทธิ์อย่างร้อนรน“นี่ตาแก่ ตอนนี้เราควรทำยังไงกันดี ?”
เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ตื่นตระหนกอย่างมาก ไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไง ทำได้เพียงฝากความหวังทุกอย่างไว้กับสามีเท่านั้น
คุณพ่อประสิทธิ์มองมาที่เธอ แล้วหันมองไปที่ลูกสาว จากนั้นก็กำหมัดแน่นและทอดถอนใจ“ในเมื่อพงศกรหาเราเจอแล้ว งั้นเขาก็ต้องมาหาเราแน่ ตอนนี้หากเราจะมานั่งคิดว่าเขาได้ข้อมูลการติดต่อของปาจรีย์ได้ยังไง ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้สิ่งที่เราควรทำ คือรีบติดต่อไปหาวารุณี บอกเรื่องนี้ให้เธอได้รู้ ดูว่าประธานนัทธีมีวิธีเตรียมการรับมืออะไรหรือเปล่า”
“ใช่ๆๆ ต้องบอกวารุณีกับประธานนัทธีให้รู้ ”คุณแม่ปารวีพยักหน้าซ้ำๆ
คุณพ่อประสิทธิ์ก็พูดอีกว่า “ฉันจะโทรไปเอง คุณอยู่กับปาจรีย์นะ ให้อารมณ์เธอสงบลงก่อน ดูเธอตกใจมาก ”
เขามองไปที่ลูกสาว แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
จะไม่เจ็บปวดได้ยังไง ?
ต่อให้ลูกสาวจะลืมพงศกรไปแล้ว แต่พอได้ยินเสียงของพงศกร ก็ยังเกิดความรู้สึกกลัวอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ต้องบอกก็รู้ ตอนที่รับสายของพงศกรในตอนนั้น ลูกสาวต้องเจอกับความหวาดกลัวและความกดดันแค่ไหน
“ได้ ฉันจะอยู่กับปาจรีย์ คุณรีบไปโทรเลย เราต้องไปจากที่นี่ ก่อนที่พงศกรจะตามมาเจอ”คุณแม่ปารวีรับคำอย่างรวดเร็ว
คุณพ่อประสิทธิ์ตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง หันหลังแล้วไปยังห้องนั่งเล่น เพื่อใช้โทรศัพท์บ้าน จากนั้นก็กดโทรหาวารุณี
วารุณีในตอนนี้เพิ่งจะรับประทานอาหารเช้ากับลีน่าเสร็จ เตรียมตัวจะเดินทางไปยังสนามแข่ง เริ่มงานของวันนี้
ทันทีที่เดินออกจากคฤหาสน์ ยังไม่ทันได้ขึ้นรถ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น
วารุณีหยุดเดิน หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วมองดู เห็นเป็นเบอร์บ้านของตระกูลจิรดำรงค์ แววตาก็มีประกายความประหลาดใจผาดผ่าน
เมื่อลีน่าเห็น จึงถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไรไป?”
วารุณีส่ายหัวให้อย่างสงสัย “ไม่เป็นไร แค่ปาจรีย์โทรมา”
“ปาจรีย์?”ลีน่ามองไปที่โทรศัพท์ของเธออย่างไม่เข้าใจ“ ที่โน่นในตอนนี้ ก็น่าจะดึกมากแล้ว เธอไม่หลับไม่นอนโทรมาทำไมกัน อีกอย่าง ทำไมเธอไม่ใช้มือถือของตัวเอง แต่ใช้เบอร์บ้านโทรมา ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน โทรศัพท์มีปัญหาอะไรหรือเปล่า บวกกับมีเรื่องจะคุยกับฉัน เอาเถอะ ไม่ว่ายังไง รับสายก่อนค่อยถามดีกว่า” วารุณียิ้มให้เธอ จากนั้นก็เลื่อนนิ้วโป้งที่หน้าจอ และรับสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...